Summoning the Holy Sword - ตอนที่ 107
107 – การเข้าร่วมประชุมทหารรับจ้าง
แน่นอนโรดส์ล้อเล่น ไม่มีทางที่เธอจะลบตัวละครของเธอได้ เนื่องจากโลกใบนี้ไม่ใช่เกม
โรดส์และมาร์ลีนรู้สึกสงสารเธอ เธอมีพรสวรรค์ แต่เธอไม่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับเส้นทางของนักเล่นแร่แปรธาตุ บางทีถ้าเธอได้รับ เธออาจจะกลายเป็นหนึ่งในอัลเคมิสต์อัจฉริยะคนถัดไปในทวีป
แต่โรดส์ไม่ได้วางแผนจะให้เธอยอมแพ้ เนื่องจากลาปิสได้เข้าร่วมกับสตาร์ไลท์แล้ว เขาจะพยายามและช่วยเหลือเธอให้ได้มากที่สุดเท่าที่ทำได้ แม้ว่าลาปิสทำในสิ่งที่ผู้เล่นไม่สามารถทำได้ แต่มันอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับ NPC ที่มีบุคคลิกแตกต่างไปจากผู้เล่น โรดส์จึงหันไปหามาร์ลีนซึ่งมองมาทางเขา เหมือนกับจอมเวทย์อัจฉริยะที่อยู่ข้างเขาซึ่งเรียกได้ว่าชำนาญ ‘เวทมนตร์ทุกรูปแบบ’
“มันเป็นไปไม่ได้หรอก คุณโรดส์”
มาร์ลีนพูดขึ้นราวกับว่าอ่านความคิดของโรดส์ได้
“ขณะที่ฉันเรียนวิธีการปรุงโพชั่น ฉันไม่มั่นใจเกี่ยวกับอีก 2 วิชาเลย แม้ว่าคุณจะให้ฉันสอนเธอ ฉันก็สอนสิ่งที่ฉันไม่รู้ไม่ได้หรอกนะ”
นั่นแสดงให้เห็นว่าการเป็นอัจฉริยะไม่ได้หมายความว่าเธอจะทำได้ทุกอย่าง
“แค่ลองเอง”
โรดส์เข้าใจความยากของมาร์ลีนเหมือนกับคลาสของเขาที่มีปัญหาคล้ายๆกัน หนึ่งในสกิลที่จำเป็นสำหรับคลาสนักดาบอัญเชิญคือศาสตร์การรังสรรค์ลึกลับเหมือนกัน
มาร์ลีนมองด้วยความสับสนบนหน้าตัวเอง ความมั่นใจที่มีเป็นปกติของเธอไม่สามารถมองเห็นได้แล้ว โรดส์รู้ดีว่าเขาไม่ควรฝืนเร่งสิ่งต่างๆให้เร็วขึ้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ขอร้องให้เธอทำหน้าที่นี้ ถ้าเธอไม่สามารถทำได้ แต่เขาไม่มีใครที่มีความรู้เวทมนตร์ไปมากกว่าเธอ ดังนั้นเขาจึงอยากให้เธอลอง
หลังจากที่จ้างทั้งสี่คนมา โรดส์บอกชายชราวอร์คเกอร์ให้หยุดรับสมัครคน
ด้วยการเพิ่มเข้ามาของชอว์น่า แรนดอฟ ลาปิสและคนอื่นๆ สตาร์ไลท์ได้มีจำนวนสมาชิกขั้นต่ำ 12 คนแล้ว ถึงมันจะใช้เวลา แต่โรดส์ก็ทำได้
แม้ว่าจะไม่มีอัจฉริยะในบรรดาคนที่รับเข้ามาใหม่ แต่โรดส์ก็ไม่ได้กังวล ทหารรับจ้างเหล่านี้ยังเด็กและมีเวลาฝึกเพียงพอ โรดส์ครั้งหนึ่งเคยเป็นหัวหน้ากิลด์ขนาดใหญ่ ดังนั้นเขาจึงมีประสบการณ์มากมายเกี่ยวกับการพัฒนามือใหม่ ตราบเท่าที่เขามีเวลามากพอ เขามั่นใจว่าเขาสามารถพาพวกเขามาถึงมาตราฐานทั่วไปของผู้เล่นทั่วไปได้ ขณะเดียวกันเขาไม่สามารถรับประกันได้ว่าเขาสามารถฝึกพวกเขาจนไปถึงระดับเดียวกับมาร์ลีนได้ อย่างน้อยพวกเขาก็พึ่งพาตัวเองได้ในการทำภารกิจ
ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มลงตัวแล้ว โรดส์มีอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องทำ
การเข้าร่วมประชุมของสมาคมทหารรับจ้าง
เมื่อโรดส์มาถึงสมาคมทหารรับจ้าง มันเริ่มมืดแล้ว
“สวัสดีครับ คุณโรดส์”
ทหารรับจ้างคนหนึ่งที่มีต้อนรับแขกได้ออกมาทำความเคารพโรดส์ด้วยความสุภาพและเชิญเขาเข้าไปด้านใน เมื่อเขาเข้ามาในห้องโถง เขาพบกับสมาคมทหารรับจ้างที่ดูแตกต่างไปจากปกติ
โต๊ะและเก้าอี้สำหรับทหารรับจ้างได้หายไปหมด เหลือเพียงเฟอร์นิเจอร์เพียงอย่างเดียวคือเก้าอี้ 32 ตัวหันเข้ามากับเป็นวงกลมมาในทิศทางของศูนย์กลางห้องโถง ผู้คนมากมายได้มาถึงแล้ว ทำให้ห้องโถงขนาดใหญ่ดูหนาแน่นมาก
บางส่วนกำลังโต้เถียงกันอย่างเงียบๆ ในขณะที่คนอื่นๆทะเลาะกันอย่างเปิดเผย และในบรรดาพวกเขามีบางคนไม่มีความสุข และอีกฝ่ายหนึ่งจ้องมองที่ฝ่ายหนึ่งด้วยสายตาเย็นชา
คนพวกนี้เป็นหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างทั้ง 32 คนในเขตภาฟิวด์ ในขณะนี้ พวกเขาทั้งหมดได้มารวมตัวกัน
การมาถึงของโรดส์ได้ส่งผลให้ผู้คนมากมายหยุดคุยและให้ความสนใจไปยังร่างของดาวรุ่งคนใหม่ สตาร์ไลท์ได้ก่อตั้งขึ้นมาอย่างไม่มีความอายจากการเกือบล่มสลายของกลุ่มก่อนหน้านี้ อีกทั้งฐานบัญชาการของกลุ่มยังเป็นรางวัลที่น่าสนใจมาจากภารกิจที่พวกเขาทำ ยิ่งไปกว่านั้น ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นระหว่างสตาร์ไลท์และเจดเทียร์เป็นตัวจุดประกายความแตกแยกท่ามกลางบรรดากลุ่มทหารรับจ้าง เหตุการณ์นี้ดึงสตาร์ไลท์ลงมาเป็นเชื้อเพลิง และหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างเหล่านี้สงสัยว่าเด็กหนุ่มลึกลับคนนี้เป็นใคร
ภายใต้การนำของพนักงาน ในที่สุดโรดส์ก็มาถึงที่นั่งและนั่งลง เก้าอี้ได้ถูกเตรียมไว้ตามลำดับของกลุ่มทหารรับจ้างและที่นั่งของกลุ่มสตาร์ไลท์อยู่ถัดจากที่นั่งอันดับที่ 2 นั่นก็คือที่นั่งอันดับที่ 3
บางส่วนไม่พอใจที่โรดส์ได้อันดับที่ 3 แต่ก่อนหน้าที่พวกเขาจะแสดงสีหน้าไม่พอใจออกมา ประธานชราก็ฟาดค้อนลงมาและทำให้ทั้งหมดเงียบลง
“พอแล้ว! เนื่องจากพวกเจ้าทุกคนมาอยู่ที่นี่แล้ว ข้าขอประกาศเริ่มวาระการประชุมทหารรับจ้างได้”
หัวหน้าทั้งหมดหยุดพูดและมองไปยังประธานชราด้วยความคาดหวัง
ตาแก่นั่นสูงส่งขนาดนี้เลยรึ? ไม่คิดเลยแหะ
โรดส์นั่งอยู่บนเก้าอี้และกอดอก ขณะที่มองไปยังชายชราอย่างสนุกสนาน เขาไม่ได้มองนานมากนัก ก่อนจะหันไปมองหัวหน้าคนอื่นๆที่อยู่รอบๆ เนื่องจากในอนาคตคนพวกนี้อาจจะเป็นพันธมิตรหรือศัตรู
โรดส์คุ้นเคยกับ 3 คนในหมู่พวกเขา คนแรกเป็นคนที่กำลังนั่งอยู่บนที่นั่งอับดับที่ 1 คือนักดาบที่ใช้ดาบสองมือ ‘เฟลม’ ฮิลเลอร์ เขาใช้เวลา 20 ปีในการพากลุ่มทหารรับจ้างของเขาขึ้นไปเป็นอันดับหนึ่ง เขาได้รับ ‘พรจากดวงวิญญาณแห่งไฟ’ ซึ่งสร้างความอิจฉาให้กับผู้เล่นมากมาย
ถัดเป็นฮิลเลอร์เป็น ‘ชาโดว’ ชอน หัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้างอันดับที่ 2 ‘ดาร์คแฟงก์’ เขาสวมชุดหน้ากากสีขาวและชุดคลุมสีดำปกคลุมไปทั้งร่าง มีข่าวลือว่าเขาเคยเป็นโจรในอยู่หนึ่งในประเทศทางตอนเหนือ แต่ด้วยความผิดพลาด เขาได้หลบหนีมาที่เมืองดีพสโตนและมาตั้งหลักที่นี่ เมื่อเทียบกับกลุ่มทหารรับจ้างดั้งเดิมอย่างเบิร์นนิ่งเบลด ดาร์คแฟงก์เต็มไปด้วยสังคมโจรและนักฆ่า วิธีที่พวกเขาฝึกเน้นไปทางการทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้และการใช้อาวุธลับ นี่ทำให้กลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มนี้เต็มไปด้วยบรรดาคลาสที่มีความคล่องตัวสูงอย่าง เรนเจอร์และโจร
อย่างไรก็ตาม ชอนไม่ได้ดูเหมือนจะสนใจการเลื่อนขั้นของกลุ่มทหารรับจ้างของเขาขึ้นเป็นกิลด์ เขานำดาร์คแฟงก์มาเป็นเวลาหลายปี และแต่ละปีเขาจะได้อับดับที่ 2 และไม่เคยได้ที่ 1 ด้วยเหตุนี้ ดาร์คแฟงก์จึงได้ถูกเรียกว่า ‘ที่สองตลอดกาล’ อย่างเปิดเผย แต่ไม่นานหลังจากนี้ ชื่อเรียกนี้ก็หายไปตามกาลเวลา
ถัดต่อจากโรดส์เป็นหัวหน้าของกลุ่มทหารรับจ้างเก่าของแอน มาร์คไวท์ เขามองไปยังโรดส์ด้วยความเกลียดชัง เพราะว่าสตาร์ไลท์ได้ยึดครองตำแหน่งที่ 3 ของพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้น โรดส์ได้ ‘รับ’ สมาชิกเก่าบางส่วนของมาร์คไวท์ไป แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องปกติ แต่การคงอยู่ของสมาชิกเก่าของพวกเขาทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบายใจ
เมื่อโรดส์หยุดตรวจสอบรูปร่างของหัวหน้าทุกคน ประธานชราได้กล่าวบทความเปิดเสร็จ หลังจากนั้นเขาไอและเคาะค้อนในมือของเขา
“ทั้งหมดที่พวกเจ้าควรรู้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้สร้างความเสียหายให้กับกลุ่มทหารรับจ้างทั้งหมดในเขตภาฟิวด์ การประชุมครั้งนี้คือการตัดสินใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป ตอนนี้ข้ากำลังจะประกาศการตัดสินใจครั้งล่าสุดที่ทางสมาคมได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้”
กลุ่มทหารรับจ้างมากมายประหลาดใจ แม้ว่าหัวหน้าของเบริ์นนิ่งเบลดเองก็ขมวดคิ้ว ถ้าสมาคมทหารรับจ้างตัดสินใจไปแล้ว กลุ่มทหารรับจ้างก็ไม่สามารถต่อต้านมันได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ยอมรับ
“สมาคมทหารรับจ้างได้ตัดสินใจเนื่องจากความวุ่นวายจากเหตุการณ์นี้ พวกเราจะขอเลื่อนการประเมินออกไปเพื่อให้มั่นใจว่าทุกกลุ่มมีเวลาเพียงพอในการตั้งตัว ในช่วงเวลานี้ ทางสมาคมจะไม่ปล่อยภารกิจใดๆและห้ามไม่ให้กลุ่มทหารรับจ้างใดๆรับภารกิจเป็นการส่วนตัว ถ้าใครฝ่าฝืนกฎนี้และรับภารกิจ ทางสมาคมทหารรับจ้างจะไม่มีส่วนรับผิดชอบในการสูญเสียและจะไม่จ่ายค่าตอบแทนไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม”
เมื่อประธานชราพูดจบ ทั้งห้องโถงตกอยู่ในความเงียบทันที จากนั้นชายคนหนึ่งเด้งตัวขึ้นมาจากเก้าอี้และตะโกนออกไป
“ผมขอคัดค้าน!!!”