ซิ่งทะลุมิติ - ตอนที่ 101.2
SD:บทที่ 101.2 ปกป้องประเทศจีน
สถานการณ์โดยรวมในบ้านพักกลายเป็นบรรยากาศเยือกเย็นทันทีเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเหล่าจักรพรรดิ
แต่ ซูฉิวไป่ รู้สึกอบอุ่นเมื่อเห็นท่าทีของพวกเขา
เมื่อตอนที่เขากลับมาบ้านพักคนเดียวเขารู้สึกตื่นตระหนกโดยเฉพาะเมื่อนึกถึงความลับที่เขาต้องเก็บงำเอาไว้
เซี่ยเทียน ตายแล้ว ดังนั้นจึงมี ซูฉิวไป่ คนเดียวที่รู้ความลับนี้
เมื่อนึกถึงสิ่งที่ เซี่ยเทียน พูด ซูฉิวไป่ รู้สึกเป็นกังวล
ทั้งหมดนี้ก็เพราะว่า เขาเป็นเพียงคนขับรถแท็กซี่ธรรมดาคนหนึ่ง และถ้าเขามีอนาคตที่สดใสเขาหวังว่าเขาจะได้แต่งงานและมีภรรยาสวยๆสักวันพร้อมกับซื้อบ้านหลังใหญ่ แต่สถานการณ์ก่อนหน้านี้ทำให้เขาถูกผลักเข้ามาในตำแหน่งที่เขาไม่คิดว่าเขาจะได้เข้ามายืนอยู่ตรงนี้
ดังนั้นเขาจึงรู้สึกหดหู่เล็กน้อย หากบุคคลนั้นต้องการที่จะจัดการกับเขาจริงๆเขาคงไม่สามารถมองเห็นแสงตะวันของวันพรุ่งนี้
อย่างไรก็ตามคำพูดของเหล่าจักรพรรดิกลับทำให้วิญญาณแห่งการต่อสู้ของ ซูฉิวไป่ ลุกขึ้น
นี่.. คุณคิดว่าคุณมีอำนาจแค่ไหน!
คุณรู้จักจักรพรรดิฉินไหม รู้จักจักรพรรดิไทจง จักรพรรดิหลิวเช่อ จักรพรรดิเฉียนหลงแม้กระทั่งเจ่งกิสข่านหรือเปล่า?
คุณทำไม่ได้ใช่ไหม แต่ฉันทำได้!
เมื่อคิดได้ดังนั้น ซูฉิวไป่ รู้สึกเหมือนกับได้รับศักดิ์ศรีของเขาคืนทันที หากมีอันตรายเกิดขึ้นเขาสามารถใช้รถยนต์ของเขานำพาเพื่อนและญาติของเขาไปหาบรรดาจักรพรรดิเหล่านี้เพื่อความปลอดภัย
ฉันยังมีพี่น้องจากภูเขาเหลียงซาน!
แล้วยังรู้จักใครอีกมากมาย!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ซูฉิวไป่ รู้สึกโล่งอก ในขณะที่เขาบอกกับเหล่าจักรพรรดิว่าเขาไม่เป็นอะไรและขอให้คนเหล่านั้นนั่งลงสงบจิตใจก่อน หลังจากที่ลังเลมานาน ซูฉิวไป่ ก็บอกพวกเขาเกี่ยวกับความลับของ เซี่ยเทียน
สำหรับ เซี่ยเทียน นี่เป็นความลับที่ไม่ควรบอกใครแต่ในความคิดของ ซูฉิวไป่ มีหลายคนที่เขาสามารถพูดคุยด้วยเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เช่นจักรพรรดิเหล่านี้!
พวกเขาทุกคนมีความกล้าที่จะเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือ ซูฉิวไป่ เผชิญหน้ากับสถานการณ์เลวร้าย แน่นอนว่าบรรพบุรุษเหล่านี้เริ่มคิดแผนการหลังจากที่ ซูฉิวไป่ อธิบายให้พวกเขาฟัง
ในที่สุดจักรพรรดิฉินก็มีความคิดริเริ่มที่จะพูดก่อน
“ถ้าความลับนี้เป็นความจริงและคนที่ทรยศนั้นมีอำนาจแบบที่พูดมา ในเวลานี้เจ้าควรที่จะออกจากที่นี่โดยเร็วที่สุด หลังจากเก็บตัวเงียบสักระยะหนึ่งแล้วเจ้าค่อยตัดสินใจว่าจะทำอะไรต่อไป!”
เมื่อจักรพรรดิฉินพูดบรรพบุรุษคนอื่นๆก็พูดขึ้นตามมา
“ข้าเห็นด้วย พวกเราไม่สามารถช่วยเจ้าได้มากในเรื่องนี้ เรื่องขุมกำลังนั้นจะต้องใช้เวลาในการรวบรวม แม้ว่าจะสร้างกองทัพก็ต้องใช้เวลาดำเนินการ…ดังนั้นเจ้าเองไม่สามารถที่จะต่อกรกับเขาได้ในตอนนี้!”
จักรพรรดิไทจงมองไปที่ ซูฉิวไป่ และพูดด้วยความจริงใจ
“แต่เจ้าไม่สามารถที่จะทำตัวอ่อนแอได้ เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วและมีโอกาสที่ข่าวนี้จะรั่วไหลดังนั้นเราจะต้องสร้างความเข้มแข็งให้กับตัวเองโดยเร็วที่สุด จากนั้นถึงแม้ว่าเขาจะพบเจ้าในเวลาต่อมาก็ไม่สามารถที่จะแตะต้องเจ้าได้”
คำพูดของจักรพรรดิเฉียนหลงให้ความรู้แจ้งแก่ ซูฉิวไป่ ทำให้เขารู้ถึงทิศทางที่เขาควรจะทำ เหล่าจักรพรรดินั้นพูดถูกต้อง มันเป็นไปไม่ได้จริงๆสำหรับเขาที่จะต่อสู้กับบุคคลนั้นในตอนนี้ มันจะไม่เกิดผลใดๆถึงแม้ว่าเขาจะสามารถนำผู้กล้าจากเขาเหลียงซานมาได้!
เขาจะต้องมีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นอย่างน้อยมันก็จะทำให้เขาทรงอำนาจมากยิ่งขึ้น!
เมื่อถึงตอนนั้นหากคนคนนั้นมาหาฉัน ฉันจะต่อสู้กับเหล่าร้ายคนที่ฆ่า เซี่ยเทียน!
ด้วยความคิดนี้ ซูฉิวไป่ รู้สึกมีพลัง
ใช่แล้ว…ฉันมีระบบนำทางที่ทรงพลังฉันยังต้องกลัวอะไรอีก!
รอจนกว่าฉันจะผ่านการทดสอบใบขับขี่จากนั้นฉันจะจัดการลบล้างผู้ทรยศคนนั้นซะ!
ความแข็งแกร่งของ ซูฉิวไป่ จะเพิ่มขึ้นเมื่อเขาสามารถอัพเกรดใบขับขี่
ยกตัวอย่างเช่นทักษะของ ซูฉิวไป่ นั้นมีจำกัดเขามีค่าเติบโตเพียง 50 คะแนนพร้อมใบอนุญาตระดับ E แต่เขาจะสามารถมีคะแนนความเติบโต 100 คะแนนได้ด้วยใบอนุญาตระดับD!
ด้วยสิ่งนี้ซูฉิวไป่รู้สึกมีความมั่นใจที่จะจัดการคนทรยศในตอนนั้น
ด้วยระบบนำทางที่ทรงพลังหากเขาไม่มีแผนการใดๆก็ไร้ประโยชน์ ดังนั้น ซูฉิวไป่ และจักรพรรดิจึงวางแผนภายใต้แสงเทียนในคืนนั้นและยังได้เรียนรู้เทคนิคเล็กน้อยจาก ไป๋ฉี
ตราบใดที่เขาคิดจะเผชิญหน้ากับศัตรูที่น่ากลัวในวันหนึ่ง เขาคงเป็นกังวลว่าเขาจะต้องตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
ดังนั้นในแง่ของวิกฤตในครั้งนี้จึงเป็นสิ่งดีๆที่จะเป็นตัวชี้นำให้ ซูฉิวไป่ พัฒนาจุดแข็งของเขา
เช้าวันรุ่งขึ้น ซูฉิวไป่ พบกับ โจวซือเหล่ย จากนั้นได้ชำระค่าเสียหายเรื่องรถออดี้ของเขา จากนั้นยังกำชับอีกว่าไม่ควรให้ใครรู้เกี่ยวกับรถ Audi คันนี้ไม่เช่นนั้นเขาจะตกอยู่ในอันตราย!
ชายอ้วนดูเหมือนจะกลัวในคำเตือนของ ซูฉิวไป่ ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าอย่างรุนแรงลราวกับไก่จิกข้าวสาร
หลังจากเรื่องนี้ได้รับการจัดการแล้วเขามุ่งหน้าไปยังบ้านครอบครัวเซี่ย
วันนี้เป็นงานศพระลึกถึง เซี่ยเทียน ดังนั้นซูฉิวไป่รู้สึกว่าเขาควรที่จะไปเข้าร่วม สุดท้ายแล้วสาเหตุการเสียชีวิตของ เซี่ยเทียน ถูกระบุว่าเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ แต่ ซูฉิวไป่ รู้ดีว่าเขาตายได้อย่างไรเพราะเขาอยู่เคียงข้างกับ เซี่ยเทียน ในตอนที่เขาเสียชีวิต
แต่ ซูฉิวไป่ ไม่สามารถบอกเรื่องนี้ให้กับใครฟังได้เพราะเมื่อเปิดเผยความจริงมันจะเป็นอันตรายต่อครอบครัวเซี่ยและ ซูฉิวไป่เอง
ในช่วงพิธีรำลึกของ เซี่ยเทียน เซี่ยเซี่ยวโม่ ดูราวกับรูปปั้นน้ำแข็ง ซูฉิวไป่ รู้สึกเป็นทุกข์เมื่อเห็นความโศกเศร้าในดวงตาของเธอ
ลูกสาวของ เซี่ยเทียน ซินเอ๋อ นั่งคุกเข่าอยู่ข้างโรงศพพ่อของเธอและร้องไห้ไปพร้อมกับแม่
“ทำไมพ่อถึงไม่กลับมาล่ะคะ”
ซูฉิวไป่ รู้สึกทนไม่ได้ที่จะดูฉากนี้ดังนั้นเขาจึงเดินออกไป สายตาของ เซี่ยเทียน ก่อนเสียชีวิตยังคงปรากฏอยู่ในใจของ ซูฉิวไป่
มั่นใจได้เลยว่าผมจะดูแลครอบครัวของคุณให้ดีและผมจะแก้แค้นให้กับคุณในอนาคต!
ปกป้องประเทศจีน!
เขาได้สัญญากับ เซี่ยเทียน ก่อนที่ เซี่ยเทียน จะเสียชีวิต จากนั้นเขาหันหลังกลับและเดินเข้าไปอีกครั้ง
เขาได้ยื่นซองให้กับภรรยาของ เซี่ยเทียน แต่เขาไม่ได้บอกให้เธอรู้ว่าด้านในมีเงินอยู่เท่าไหร่ เขาพูดกับเธอต่อหน้า เซี่ยเซี่ยวโม่ และพ่อแม่ของเธอ
“หากมีปัญหาอะไรให้โทรหาผม ตราบใดที่ผมยังมีชีวิตอยู่ผมจะไม่ปล่อยให้ใครทำร้ายคุณ!”
จากนั้น ซูฉิวไป่ ก็เดินจากไป
ครอบครัวเซี่ยไม่เข้าใจความหมายของเขาแต่ เซี่ยเซี่ยวโม่ กำลังคิดบางอย่างในขณะที่จ้องมองแผ่นหลังของ ซูฉิวไป่
หลังจากที่กลับมายังบ้านพัก ซูฉิวไป่ วางแผนที่จะกลับไปที่ตงไห่
คำเตือนของจักรพรรดินั้นถูกต้องมันไม่ปลอดภัยที่เขาจะอยู่ที่นี่ และในตอนนี้เขาไม่ควรอยู่ในสายตาของสาธารณชน หากคนเหล่านั้นสังเกตเห็นเขาบางทีอาจจะเกิดอันตรายต่อทุกคน
นอกจากนี้ ซูเซี่ยวเซี่ยว กำลังจะปิดเทอมและสุขภาพของเธอก็ดีขึ้นมากดังนั้นเขาจึงไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเธอ
สำหรับงานของเขาในการส่งจักรพรรดิกลับบ้านเขาได้วางแผนที่จะทำเมื่อเขากลับไปยังเมืองชิงเหอ
เมื่อ ซูเซี่ยวเซี่ยว รู้ว่าบรรดาลุงเหล่านี้กำลังจะจากไปเธอร้องไห้เสียใจ เหล่าบรรดาลุงยืนอยู่รอบตัวของเธอแทบพูดไม่ออกพวกเขาไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
ในที่สุด ซูฉิวไป่ ก็ถ่ายรูปของทุกคนในบ้านพักและส่งให้พวกเขาแต่ละภาพ
รูปนี้เป็นรูปแห่งความทรงจำของบรรพบุรุษเหล่านี้ หลังจากจัดการทุกอย่าง ซูฉิวไป่ ก็แจ้งให้ เฉาตั้วเฟย รู้ถึงแผนการของเขาและ ซูฉิวไป่ ก็กำลังที่จะจากไป
อย่างไรก็ตามในขณะที่เขากำลังจะกลับเขาก็ได้รับโทรศัพท์จาก กู่เฉิงหยา
พูดอย่างตรงไปตรงมา ซูฉิวไป่ค่อนข้างรู้สึกเป็นกังวลเกี่ยวกับเรื่องของ กู่เฉิงหยา เขาเป็นห่วงว่าเธอจะชอบเขาแม้ว่าเป็นความคิดที่แปลกประหลาดเล็กน้อย
เมื่อ กู่เฉิงหยา ได้ยินว่า ซูฉิวไป่ กำลังจะจากไปน้ำเสียงของเธอปนไปด้วยความผิดหวังเล็กน้อย จากนั้นเธอก็ฟื้นอารมณ์อย่างรวดเร็วและพูดว่า
“เดี๋ยวก่อน อาจารย์ของฉันมีบางอย่างที่จะคุยกับคุณ”
จากนั้น กู่เฉิงหยา ก็ได้มอบโทรศัพท์ให้กับตงฟางที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ
ซูฉิวไป่ รู้สึกตกตะลึงเมื่อได้ยินว่าอาจารย์ผู้น่านับถือมีบางสิ่งบางอย่างที่จะบอกกับเขา เพราะสุดท้ายแล้วอาจารย์ตงฟางก็มีตำแหน่งที่มีอำนาจในประเทศ เขามีชื่อเสียงที่ดีที่สุดในด้านโบราณวัตถุและการประดิษฐ์อักษรรวมทั้งงานศิลปะทั่วประเทศ
“เฮ้ น้องชาย จริงๆแล้วมันไม่ได้มีเรื่องสำคัญอะไรฉันแค่อยากจะถามคุณว่า คุณพอที่จะเปิดเผยงานศิลปะที่เหลือกับผมได้ไหม”
อาจารย์ตงฟางพูดด้วยน้ำเสียงเคารพ ทันทีที่เขาคิดว่า ซูฉิวไป่ นั้นตัดงานศิลปะเหล่านั้นมาจากสมบัติประจำชาติหัวใจของเขาเองก็รู้สึกเจ็บปวด
“อืม..เอ่อ..ผมขอโทษด้วยครับอาจารย์ตงฟาง ของเหล่านั้นทั้งหมดอยู่ที่บ้านของผมที่เมืองชิงเหอ ผมคิดว่าตอนนี้ผมไม่สามารถที่จะนำพวกมันออกมาแสดงให้คุณเห็นได้”
ซูฉิวไป่ เช็ดเหงื่อบนหน้าผากเขารู้สึกภาคภูมิใจในความคิดอย่างรวดเร็วในการตอบสนองของเขา
อย่างไรก็ตามความจริงแล้วไม่มีสิ่งใดเหลืออยู่เลยตั้งแต่ที่เขาปะติดคำที่บรรพบุรุษเขียนเอาไว้
ซูฉิวไป่ กำลังคิดข้ออ้างที่จะหยุดอาจารย์ตงฟางก่อนที่เขาจะพูดอะไรออกมา
อย่างไรก็ตามเสียงของ กู่เฉิงหยา ก็ดังขึ้นจากปลายสาย
“เมืองชิงเหออย่างนั้นหรอ ไม่มีปัญหา อาจารย์ของฉันและฉันสามารถไปเมืองจิงเหอกับคุณได้”
———————————————