ซิ่งทะลุมิติ - ตอนที่ 114
SD:บทที่ 114 ความหลงใหล
ซูฉิวไป่ ขับรถไปที่สำนักงานความปลอดภัยสาธารณะ หลังจากที่จอดรถเขาก็เข้าไปด้านในและสอบถามทันที ในที่สุดเขาก็ได้เห็นหนิ่วไป๋หวาน โชคดีที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขา เขาดูหดหู่ ก่อนที่ ซูฉิวไป่ จะทันถามว่าเกิดอะไรขึ้น หนิ่วไป๋หวาน ก็ถามว่าเขามีเงินหรือเปล่า ซูฉิวไป่ รู้สึกประหลาดใจกับคำถามนี้
“เท่าไหร่”
ทันทีเขาถามสิ่งนี้ตำรวจที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นทันที
“เขาเป็นหนี้คนอื่น 500,000หยวน หากเขาไม่สามารถชดใช้คืนได้เขาจะถูกฟ้องร้อง..”
หลังจากได้ยินเสียงนี้ ซูฉิวไป่ เข้าใจทันทีเขารู้สึกผ่อนคลายและรู้สึกแปลกๆไปพร้อมกัน ธุรกิจของหนิ่วไป๋หวาน นั้นเป็นไปได้ด้วยดีเขาเป็นหนี้ 500,000 หยวน ได้อย่างไรนอกจากนี้เขาไม่ใช่คนที่จะเป็นหนี้คนอื่น!
ในขณะที่ ซูฉิวไป่ กำลังคิดเกี่ยวกับสิ่งนี้หนิ่วไป๋หวาน เพียงแค่เงียบ
“นายพอจะมีให้ยืมซัก 10,000หยวน ไหม ฉันจะหาวิธีคืนมันทีหลัง ตอนนี้ฉันไม่มีตัวเลือกอื่น”
ในความคิดเห็นของหนิ่วไป๋หวาน ซูฉิวไป่ นั้นมีเงินเพียงไม่กี่หยวนเท่านั้นเนื่องจากเขาเป็นคนขับรถแท็กซี่ เหตุผลที่เขาขอร้องให้ตำรวจโทรหา ซูฉิวไป่ เนื่องมาจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างหนิ่วไป๋หวาน และ ซูฉิวไป่
หนิ่วไป๋หวาน คิดว่า ซูฉิวไป่ ไม่สามารถจ่ายให้ได้ ฉันแค่อยากจะออกไปจากที่นี่
ซูฉิวไป่ จ้องมองหนิ่วไป๋หวาน และกันไปบอกกับตำรวจว่า
“เขาจะพ้นข้อหาหลังจากจ่ายเงิน 500,000 หยวน ใช่ไหมครับ”
เมื่อได้ฟังสิ่งนี้ตำรวจและหนิ่วไป๋หวาน ตกตะลึงทั้งคู่ เหตุผลก็เพราะหนิ่วไป๋หวาน รู้สถานะของเพื่อนเขาอย่างชัดเจน ในขณะที่ตำรวจไม่คิดว่า ซูฉิวไป่ จะสามารถจ่ายได้ มันเป็นไปได้ยังไงที่คนยัง ซูฉิวไป่ จะสามารถจ่าย 500,000 หยวน ภายในครั้งเดียว แต่ตำรวจก็ยังคงพยักหน้า
“ตกลงผมจะจ่ายให้เขา”
….
สิบนาทีต่อมาหนิ่วไป๋หวาน ยังคงจ้องมอง ซูฉิวไป่ เขารู้สึกราวกับว่าเขาไม่รู้จักชายคนนี้มาก่อน เขาจ้องมอง ซูฉิวไป่ อย่างระมัดระวัง
“พูดมาเถอะ นายกำลังถูกเลี้ยงโดยแม่หม้ายสาวที่ร่ำรวยอะไรแบบนี้ใช่ไหม?”
หลังจากเงียบไปนานหนิ่วไป๋หวาน ก็ถามขึ้นในที่สุด
“อย่าไร้สาระ ไหนบอกฉันมาซิมันเกิดอะไรขึ้น”
ซูฉิวไป่ ไม่มีเวลาพูดเล่นกับชายคนนี้ เขาค่อนข้างวิตกกังวลก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเพื่อนของเขากำลังมีปัญหาร้ายแรงเช่นถูกหลอกแล้วถูกส่งตัวเข้าคุก
แต่เขาเป็นหนี้ 500,000 หยวน ได้อย่างไร
“โอ้..เรื่องมันยาวเราไปหาของกินกันก่อนเถอะ”
ในขณะที่พูดสิ่งนี้ดวงตาของหนิ่วไป๋หวาน ดูแปลกๆจากนั้นเขาก็เข้าไปในแท็กซี่ของ ซูฉิวไป่ ซูฉิวไป่ สตาร์ทรถอย่างไม่ลังเลจากนั้นไม่นานเขาก็คาดเดาบางอย่างในใจ เขาหยุดรถแล้วหันไปมองหนิ่วไป๋หวาน
“ อย่าบอกฉันนะว่าเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นอีกแล้ว?”
ด้วยเหตุนี้หนิ่วไป๋หวาน จ้องมองเขาอย่างเงียบๆ ซูฉิวไป่ โกรธขึ้นมาทันที
“ไอ้โง่เอ๊ย…เอาสมองนิ่มๆของแกไสหัวออกไปจากรถของฉัน!ทำไมแกถึงลืมเรื่องนี้ เธออยู่ไหนตอนนี้?ผู้หญิงคนนั้นให้นายชดใช้หนี้ให้เธอใช่ไหม?บอกที่อยู่เธอมา ฉันจะไปหาเธอ”
ซูฉิวไป่ ไม่เคยรู้สึกโกรธแบบนี้มาก่อนแต่ใครก็ตามที่รู้เกี่ยวกับหนิ่วไป๋หวาน และเรื่องราวของ หวังเซียนจะต้องรู้สึกโกรธอย่างแน่นอน
พวกเขาเป็นร่วมชั้นมหาวิทยาลัยเดียวกัน หวังเซียน เป็นสาวประเภทที่ทุกคนต้องการและหนิ่วไป๋หวาน ก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เขาชอบเธอตั้งแต่ปีแรกอย่างไรก็ตามหลังจากที่พยายามตามตื๊อมาตลอด 4 ปี หวังเซียน ก็ยังคงปฏิเสธเนื่องจากภูมิหลังครอบครัวของเขานั้นยากจน
เรื่องราวความรักของเขานั้นคล้ายกับ ซูฉิวไป่ และหลิวโม่ ซูฉิวไป่ นั้นดีกว่าหนิ่วไป๋หวาน เนื่องจากพวกเขายังได้คบกันในช่วงศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย และเลิกกันหลังจากจบการศึกษา อย่างน้อยพวกเขาก็ได้อยู่ด้วยกันช่วงหนึ่ง
อย่างไรก็ตามหนิ่วไป๋หวาน ไม่เคยมีโอกาสนั้นกับ หวังเซียน ตั้งแต่เริ่มต้น
หลังจากจบการศึกษา หวังเซียนได้แต่งงานกับคนรวยในมหาวิทยาลัย และหนิ่วไป๋หวาน ผู้ที่เข้ามาในชีวิตการทำงานต้องทนทุกข์ทรมานเพื่อที่จะอยู่รอดจากแรงกดดันชีวิตทำให้เขาค่อยๆลืมผู้หญิงคนนั้น
ไม่กี่เดือนต่อมา หวังเซียน ก็โทรหาหนิ่วไป๋หวาน เธอร้องไห้ฟูมฟายและพูดว่าผู้ชายของเธอไม่เคยปฏิบัติเธออย่างดีและเธออยากจะอยู่กับหนิ่วไป๋หวาน
ในเวลานั้นหนิ่วไป๋หวาน อยู่ที่หยุนหยาง เขาไม่สนใจเกี่ยวกับอดีตของเธอแม้กระทั่งยืมรถมารับเธออย่างตั้งใจ
ซูฉิวไป่ รู้อย่างชัดเจนว่าหนิ่วไป๋หวาน นั้นชอบ หวังเซียน เป็นอย่างมาก แม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่สบายใจหลังจากรู้เรื่องนี้แต่เขาก็ยังคงเงียบ
อย่างไรก็ตามพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันเป็นเวลา 2 เดือน หลังจากนั้น หวังเซียน ก็ตัดสินใจทิ้งเข้าไปและไปหานักธุรกิจที่ร่ำรวย เธอยังกล่าวอีกว่าหนิ่วไป๋หวาน ไม่สามารถให้ชีวิตที่เธอต้องการได้
หลังจากเลิกกันครั้งนั้นก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตของหนิ่วไป๋หวาน เขาลาออกจากงานและเริ่มต้นธุรกิจขายส่งสินค้าอุปกรณ์การแพทย์ และเขาก็ได้ผลกำไรค่อนข้างที่คาดไม่ถึง
แต่ หวังเซียน ก็ไม่เคยกลับมา เดิมที ซูฉิวไป่ คิดว่า หนิ่วไป๋หวานจะจดจำและเรียนรู้เหตุการณ์ที่ทุกข์ทรมานจากผู้หญิงคนนี้ได้เขาไม่คิดว่าหนิ่วไป๋หวาน จะตกหลุมพรางของเธออีกครั้ง
“เอาละมาหาอะไรกินกันก่อนเถอะแล้วฉันจะเล่าให้นายฟังว่าเกิดอะไรขึ้น”
เมื่อเห็นว่า ซูฉิวไป่ โมโหหนิ่วไป๋หวาน ทำได้แค่พูดปลอบใจเพื่อให้เขาสงบ
ซูฉิวไป่ ต้องการจะด่าเพื่อนของเขามากกว่านี้ แต่เขาคิดว่าเนื่องจากเพื่อนของเขาเพิ่งออกมาจากสถานีตำรวจ ย่อมรู้สึกไม่ดี ดังนั้นเขาจึงพยายามระงับความโกรธของเขาและขับรถไปที่ร้านอาหารใกล้เคียง
“พูดมา!”
ซูฉิวไป่ เทไวน์ลงไปในแก้วของตัวเองเขายังคงโกรธอยู่
“นายกำลังกล่าวหาเธอ เธอเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ เธอสูญเสียเงินเพราะธุรกิจของเธอดังนั้นฉันจึงต้องการช่วยเธอ”
หนิ่วไป๋หวาน รินไวน์ใส่แก้วตัวเองจากนั้นก็เริ่มอธิบาย
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ ซูฉิวไป่ แทบอยากจะแทงนิ้วเข้าไปในหัวของหนิ่วไป๋หวาน แบบนี้นายก็ตกหลุมพรางของเธออีกครั้งยังไงล่ะ!
“แล้วยังไง เธอหายไปพร้อมกับเงินของนายใช่ไหม?”
“ไม่ใช่…เธอใช้มันเพื่อชำระหนี้ของเธอเธอบอกว่าเธอจะกลับมาหาฉันหลังจากจ่าย เสร็จ..ฉันสาบานได้นี่คือสิ่งที่เธอพูด!”
เมื่อได้ยินคำพูดของหนิ่วไป๋หวาน ซูฉิวไป่ ไม่รู้ว่าควรพูดยังไงดี
“และนายก็เชื่อว่าเธอจะกลับมาอย่างนั้นหรอ?” ซูฉิวไป่ ถามอย่างจริงจัง
“ฉันเชื่อ!เธอแตกต่างจากเมื่อก่อน.. .โอ้ใช่แล้วนายมีเงิน 500,000หยวน ได้ยังไง?ฉันจะคืนเงินให้นาย”
หนิ่วไป๋หวาน กล่าวในขณะที่ยิ้ม
“ค่อยพูดถึงเรื่องนี้ทีหลังเถอะ ตอนนี้ หวังเซียน อยู่ที่ไหน” ซูฉิวไป่ บอกไปที่หนิ่วไป๋หวาน และถามขึ้น
หนิ่วไป๋หวาน ส่ายหัวเขาก็ไม่รู้ว่าเธออยู่ที่ไหน
เมื่อมองเห็นท่าทีของเพื่อน ซูฉิวไป่ นึกไม่ออกว่าควรจะพูดยังไง ถ้ารวมเวลา 4 ปีในช่วงมหาวิทยาลัย หนิ่วไป๋หวาน ชอบ หวังเซียน มาเกือบ 8 ปีแล้ว
ตลอด 8 ปีที่ผ่านมาเขาไม่ได้ถูกโกงเพียงแค่ครั้งเดียว ซูฉิวไป่ ไม่คิดว่าเพื่อนของเขาจะโง่ขนาดนี้ ซูฉิวไป่ คิดว่า หวังเซียน เป็นผู้หญิงที่โชคดี เธอสามารถมีผู้ชายที่หลงรักเธอมาตลอด 8 ปีได้
ในเวลาเดียวกันเขาก็หวังว่า หวังเซียน จะไม่โกหกหนิ่วไป๋หวาน ในครั้งนี้ เธอจะกลับมาจริงๆหลังจากชำระหนี้แล้ว หากเป็นเรื่องจริงสิ่งเลวร้ายที่เธอเคยทำทั้งหมดจะถูกลืมเลือนแล้วเขาจะอวยพรให้กับทั้งคู่ด้วยความจริงใจ
แต่…ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้หลอกลวงหนิ่วไป๋หวาน จริงๆหรอ?
ซูฉิวไป่ เข้าใจอย่างชัดเจนเกี่ยวกับทัศนคติของเพื่อนชายและรู้ว่าไม่ว่า ซูฉิวไป่ จะพูดยังไงเขาก็ไม่เชื่อ หลังจากรับประทานอาหารเสร็จแล้วซูฉิวไป่กลับไปที่เมือง ชิงเหอ
เซียหรงหรง โทรหา ซูฉิวไป่ หลังจากรู้ว่าเขากลับมาแล้ว ซูฉิวไป่ บอกกับเธอว่าทุกอย่างไม่มีอะไรและเขาตัดสินใจที่จะเชิญอาจารย์ตงฟางพร้อมกับเพื่อนๆรับประทานอาหารค่ำ พวกเขาเคยคุยเรื่องนี้กันแล้วในตอนบ่ายดังนั้นเขาจึงขับรถของเขาไปรับเซียหรงหรงในขณะที่อาจารย์ตงฟางและเพื่อนของเขาไปกับรถบริษัท
หลังจากที่ ซูฉิวไป่ และ เซี่ยหรงหรง มาถึงร้านอาหาร ลั่วชิง ก็โทรแจ้ง เซียหรงหรง ว่าได้จองห้องไว้แล้ว
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาเข้าไปในโรงแรมและกำลังขึ้นไปชั้นบนเขาก็พบผู้หญิงคนนึงออกมาจากลิฟท์ เธอดูค่อนข้างสวยรูปร่างของเธอไม่เลว เสื้อผ้าของเธอนั้นเปิดเผยให้เห็นเนื้อหนัง ในขณะเดียวกันเธอกำลังกอดแขนผู้ชายและกระซิบข้างหูในขณะที่ถูไถร่างกายแนบไปกับชายคนนั้น
หวังเซียน!
พูดตามตรงถ้า ซูฉิวไป่ ไม่ได้พบกับหนิ่วไป๋หวาน และพูดคุยเกี่ยวกับ หวังเซียน ในวันนี้เขาคงไม่นึกถึงเธอหรือจดจำเธอได้ แต่เมื่อเขาพบเธอในตอนนี้เขาก็จดจำได้ทันทีว่าหนิ่วไป๋หวาน ถูกควบคุมไปยังสถานีตำรวจเพราะเธอ
เขาเห็นว่าดวงตาของหนิ่วไป๋หวาน เปล่งประกายด้วยความไว้วางใจและเชื่อรวมทั้งมีความหวังในตัว หวังเซียน เมื่อพวกเขากินอาหารเมื่อตอนกลางวัน
ซูฉิวไป่ รู้สึกความโกรธของเขาเพิ่มขึ้นทันที ในขณะเดียวกัน หวังเซียน ก็หันมาเจอ ซูฉิวไป่ ที่จ้องเธออยู่…
——————————————