ซิ่งทะลุมิติ - ตอนที่ 23

SD:บทที่ 23 คนขับแท็กซี่เป็นสิ่งที่น่ากลัวจริงๆ

เมื่อ ซู ฉิวไป่ มาถึงเมืองจิงหยาง อู่ซง รู้สึกแปลกใจที่เห็น ซู ฉิวไป่ มาหา อู่ซง เพิ่งทำงานเสร็จแล้ววางแผนที่จะกลับบ้านแต่เมื่อได้ยินว่า ซู ฉิวไป่ ต้องการความช่วยเหลือเขากระโดดขึ้นรถมาทันที
อู่ซง ค่อนข้างคุ้นเคยกับแท็กซี่คันนี้อยู่แล้วดังนั้นการเคลื่อนไหวของเขาจึงรวดเร็ว หลังจากที่ อู่ซงขึ้นไปนั่งบนรถแท็กซี่ ซู ฉิวไป่ คาดเข็มขัดนิรภัยแล้วเหยียบคันเร่งทันทีพวกเขาพุ่งทะลุผ่านอุโมงค์มิติ
…
เสียงเครื่องยนต์ดังก้องถนนคังจวง
วันนี้เป็นการแข่งขันรถยนต์รายเดือนของแก๊งรถซิ่ง ดังนั้นจึงมีรถยนต์หรูหรามากมายกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป
สถานที่จัดการแข่งขันนี้เป็นชานเมืองที่มักถูกทิ้งไว้รกร้างผู้คนนอกจากนี้ถนนยังเต็มไปด้วยความอันตราย ดังนั้นจึงเป็นสถานที่ที่เด็กๆมักมาแข่งขันกัน
อันที่จริงวันนี้เป็นวันพิเศษ เด็กที่ร่ำรวยจากเมืองตงไห่บางคนตั้งใจที่จะนำนักแข่งที่มีชื่อเสียงหลายคนมาร่วมแข่งขันในวันนี้
แถวหน้าของฝูงชนมีชายหนุ่มคนหนึ่งที่เต็มไปด้วยสีหน้าบูดบึ้ง ผมสีเหลืองของเขาตัดกับ เฟอรารี่ สีแดงข้างหลัง เขาเป็นหัวหน้าแก๊งรถซิ่งบนถนนแห่งนี้เขามีชื่อเล่นว่า เฉา ตั้วเฟย!
ในขณะนี้ดวงตาของเขากำลังจดจ่ออยู่กับกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ใกล้เคียง เด็กวัยรุ่นเหล่านั้นไม่ได้มาจากแก๊งเดียวกับ เฉา ตั้วเฟย มีชาย 3 คนและเด็กผู้หญิงอีกสองคนยืนอยู่ในที่โล่ง
ข้างหลังของพวกเขามีคนประมาณ 5-6 คน สองคนสวมชุดนักแข่งมืออาชีพอันหลังของพวกเขามีรถแฮมเมอร์ 2 คันกับมาเซราติสีดำ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในบรรดาคนเหล่านั้นไม่ใช่นักแข่ง แต่เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ตรงหน้าของพวกเขา เธอเป็นเหมือนม้าตัวน้อยๆในสายลม เธอมีรูปร่างสูง ผมยาวและใบหน้าสวยงาม ไม่เพียงแค่วัยรุ่นหนุ่มจากแก๊งของ เฉา ตั้วเฟย เท่านั้นแต่ยังถึงรวมวัยรุ่นผู้ชายที่อยู่ข้างๆเธอก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเธออยู่บ่อยๆ
“พี่เฟยคุณแน่ใจหรอว่าต้องการแข่งขันกับพวกเขา?ผมได้ยินมาว่าเด็กพวกนี้ไม่ใช่พวกที่จะจัดการได้ง่ายในเมืองตงไห่แห่งนี้”เด็กผู้ชายหัวล้านคนหนึ่งยืนอยู่ข้าง เฉา ตั้วเฟย ก้าวออกมา 2 ก้าว และกระซิบบอก
“แน่นอน เราจะไม่ให้เขาดูถูกกลุ่มนักแข่งของเราได้” เฉา ตั้วเฟย ตอบด้วยรอยยิ้มจากนั้นเขาเดินไปหาหญิงสาว
ด้วยการที่เขาเดินไปนั้นทำให้รถหลายสิบคันที่อยู่ด้านหลังของเขาขยับตัว เนื่องจากตอนนี้มีบุคคลภายนอกอยู่ในเขตแดนของพวกเขาดังนั้นพวกเขาไม่ยอมให้ตัวเองถูกดูถูกอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามการกระทำของพวกเขาทำให้ผู้หญิงคนนั้นและคนรอบข้างของเธอหัวเราะเยาะ
“ฉันไม่เคยเห็นพวกบ้านนอกและไร้เดียงสาแบบนี้มาก่อน คุณคิดว่ามันจะทำให้พวกเรากลัวอย่างนั้นหรอ?”
วัยรุ่นคนหนึ่งเต็มไปด้วยกล้ามเขายืนอยู่ข้างๆหญิงสาวและหัวเราะ เฉา ตั้วเฟย จากนั้นหันกลับไปมองเธออีกครั้ง
“เฉิงหยา ผมคิดว่าเราควรกลับกันเถอะ ไม่สนุกเลยที่จะมาแข่งกับพวกเขา”
ชื่อของสาวที่งดงามนั้นชื่อ กู่ เฉิงหยา คนที่ยืนอยู่ด้านหลังของเธอเป็นพวกพ้องของเธอพวกเขาทั้งหมดมาที่นี่ก็เพราะเธอ
“ฉันมาที่นี่อย่างตั้งใจเพราะฉันได้ยินว่า เฉา ตั้วเฟย เป็นนักแข่งรถที่เก่ง ฉันหวังว่ามันจะมีเรื่องน่าสนใจ” กู่ เฉิงหยา เปิดเผยรอยยิ้มที่น่ารักและไร้เดียงสาของเธอ
“หากคุณต้องการการแข่งขันที่สวยงามเพียงแต่ระบุเกมของคุณมา พวกเราจะให้คุณได้ลิ้มรสความสามารถของแก๊งรถซิ่ง” เฉา ตั้วเฟย ผู้มีผมสีเหลืองเดินออกมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าฮ่าฺฮา น่าสนใจ เฉิงหยา..ฉันจะแข่งกับเขาเอง!”ชายหนุ่มที่เต็มไปกล้ามเนื้อหัวเราะเสียงดังและประกาศทันที
“ไม่…ปล่อยให้เสี่ยวเตาเป็นคนทำ ฉันจะรู้สึกสบายใจมากกว่านี้”
ขณะที่ กู่ เฉิงหยา พูดเธอเหลือบมองไปที่เด็กกลุ่มที่อยู่ในชุดแข่งด้านหลังของเธอชื่อของเขาคือ จุนเสี่ยวเตานักแข่งมืออาชีพ
เมื่อได้ยินว่า กู่ เฉิงหยา ขอให้เขาเข้าร่วมการแข่งขันเป็นพิเศษ จุน เสี่ยวเตา ตื่นเต้นเล็กน้อย
นี่เป็นโอกาสของฉันที่จะแสดงสุดฝีมือบางที กู่ เฉิงหยา อาจตกหลุมรักฉัน…
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นฉันต้องแสดงอย่างยอดเยี่ยมและทิ้งความประทับใจที่สมบูรณ์แบบให้กับ กู่ เฉิงหยา!
“ โอเคเริ่มกันเลย…ถ้าหากคุณแพ้…คุณต้องไปดื่มกับผม” เฉา ตั้วเฟย จ้องมอง กู่ เฉิงหยา และพนัน เขาหัวเราะจนสุดคำพูดของเขา เขาไม่ได้สังเกตเห็นการจ้องมองจากชายวัยกลางคนซึ่งยืนอยู่ข้างหลังอย่างเงียบๆของ กู่ เฉิงหยา สายตาของเขาเย็นชาทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของ เฉา ตั้วเฟย แต่ชายคนนั้นต้องสงบลงอย่างช้าๆด้วยคำสั่งของ กู่ เฉิงหยา
“ ไม่มีปัญหา…หากคุณแพ้…พวกคุณทุกคนต้องปฏิบัติต่อฉันในฐานะพี่ใหญ่ของพวกคุณ!” กู่ เฉิงหยา หัวเราะด้วยความภาคภูมิใจและจ้องมองยังตื่นเต้นไปที่ เฉา ตั้วเฟย
หลังจากที่ เฉา ตั้วเฟย ตกใจชั่วครู่ เขาก็ได้ยินเสียงพี่น้องที่อยู่ด้านหลังของเขาว่าความคิดเห็นนี้เป็นเอกฉันท์ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเห็นด้วย
ตอนนี้อารมณ์ของทั้งสองฝ่ายมาถึงจุดสูงสุดแล้ว หลังจากทำข้อตกลงเสร็จ เฉา ตั้วเฟย มุ่งหน้าไปที่ เฟอรารี่ สีแดงของเขาในขณะที่ จุน เสี่ยวเตา สวมหมวกนิรภัยและเข้าไปในมาเซราติสีดำของเขา
แม้ว่า เฉา ตั้วเฟย นั้นจะก้าวร้าวแต่สำหรับ จุน เสี่ยวเตา เขาเป็นนักแข่งที่ดุร้ายโดยผ่านการฝึกฝนอย่างมืออาชีพ ชัยชนะในครั้งนี้ดูเหมือนมันจะเรียบง่ายเกินไป
รถแข่งทั้ง 2 คันค่อยๆเคลื่อนที่ไปยังจุดเริ่มต้น เสียงเครื่องยนต์คำรามในขณะที่วัยรุ่นคนอื่นๆโหร้องให้กำลังใจ คนต่างตื่นเต้นกับการแข่งขันที่จะเริ่มต้นขึ้น เช่นเดียวกันกับผู้ตัดสินกำลังยกธง
ในขณะนั้นเอง ทุกคนต่างตกตะลึงด้วยความสับสน มีรถคันหนึ่งปรากฏขึ้นบนฝั่งตรงข้ามของเส้นออกตัว มันคือ…รถแท็กซี่!
มันคือรถแท็กซี่จริงๆ นักแข่งเองก็รู้สึกแปลกใจ ฝูงชนค่อยๆเคลื่อนตัวออก กลุ่มวัยรุ่นที่ร้องตะโกนต่างเงียบสงบ พวกเขากำลังสงสัยว่าพวกเขาอยู่ในความฝันหรือเปล่า
ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุดแข่งขันอย่างกะทันหัน เฉา ตั้วเฟย กระแทกประตูรถของเขาออกมาและจ้องเขม่งไปที่แท็กซี่ที่กำลังขับใกล้เข้ามา
ในทางกลับกัน กู่ เฉิงหยา กำลังปลื้มปิติเธอไม่เคยสัมผัสฉากที่น่าตื่นเต้นมานานแล้ว
ใช่แล้วคนขับคือ ซู ฉิวไป่ ที่พึ่งโผล่มาออกจากช่องทางมิติ
เมื่อเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะขับรถแท็กซี่ไปข้างหน้าอีกต่อไปเขาจึงเปิดหน้าต่างและโผล่หัวออกมาตะโกน
เขาไม่ควรที่จะถูกตำหนิเพราะเขาไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้มันคือที่ไหน ระบบนำทางไม่ได้บอกเขาว่าเขาได้มาถึงถนนคังจวง เขาไม่เคยมาที่นี่มาก่อน และมันเป็นจุดสิ้นสุดของมิติ
“พวกคุณ หูหนวกอย่างนั้นหรอ?คุณไม่ได้ยินเสียงแตรรถใช่ไหม มันอาจจะทำให้คุณตายได้ ควรจะปล่อยให้ผมผ่านไป โอ้..นี่คือถนนคังจวงใช่หรือเปล่า”
เฉา ตั้วเฟย พยายามที่จะอดกลั้นอารมณ์ความโกรธของตัวเองไว้ภายในอก อย่างไรก็ตามเมื่อเขาได้ยินคำพูดของ ซู ฉิวไป่ เขารู้สึกเหมือนเลือดจะพุ่งออกมาจากปากของเขา
กำลังเล่นตลกอยู่หรือไง?กล้าที่จะด่าพวกเราอย่างนั้นหรอ?
“ผมจะให้เวลาคุณ 1 นาที รีบออกไปจากที่นี่ มิฉะนั้นคุณจะต้องจ่ายเงินตามผลที่เกิดขึ้น!”
เฉา ตั้วเฟย พยายามระงับอารมณ์เพื่อที่จะไม่ชกคนขับรถแท็กซี่ เขาส่งสัญญาณเตือนอย่างรวดเร็ว
ซู ฉิวไป่ ไม่ตอบสนองกับสัญญาณเตือน แต่ อู่ซง ที่นั่งอยู่ข้างๆไม่ค่อยมีความสุขนักของเขากำมือแน่นเตรียมที่จะลงจากรถมันทำให้ ซู ฉิวไป่ รู้สึกตกใจกลัว
เหตุผลที่เขานำ อู่ซง มาที่นี่เพื่อใช้ข่มขู่ผู้อื่น
หาก อู่ซง ลงจากรถจะมีผู้คนจำนวนมากต้องตกตายเพียงเวลาไม่กี่วินาที
“น้องชายใจเย็นๆก่อน ผมจะจัดการกับเขาเอง วางมือของคุณลงผมขอให้คุณจำไว้ว่า คุณจะต้องไม่ทำร้ายใครแค่ทำให้พวกเขาสำนึกเล็กน้อยก็พอแล้ว”
ระหว่างที่ ซู ฉิวไป่ กำลังเตือน อู่ซง ซ้ำๆ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาพยายามเกลี้ยกล่อม อู่ซง ไปกี่ครั้งแล้ว อู่ซง เพียงนั่งอยู่นิ่งๆและมองเขาอย่างเงียบๆ แม้ว่าเขาจะไม่ได้เคลื่อนไหวแต่เขายังคงบ่นว่า ซู ฉิวไป่ ทำตัวเหมือนคนขี้ขลาดแทนที่จะทำตัวเหมือนเขา
หลังจากได้รับความมั่นใจจาก อู่ซง ซู ฉิวไป่ ก็เปิดประตูรถและก้าวลงมา
“นี่คือถนนคังจวงใช่ไหม?คนไหนคือ เฉา ตั้วเฟย?”
ซู ฉิวไป่ ถามเด็กผู้ชายผมเหลืองที่ยืนอยู่หน้าสุดก่อนที่จะมองไปรอบๆอย่างรวดเร็ว
ในตอนแรก เฉา ตั้วเฟย รู้สึกเหมือนเขากำลังจะระเบิดความโกรธออกมา แต่ดวงตาของเขาต้องเบิกกว้างด้วยความประหลาดใจหลังจากได้ยินคนตามหาชื่อของเขา
“คุณคือใคร?”
“คุณมาถามผมทำไม ผมต้องการรู้ว่าใครคือ เฉา ตั้วเฟย?”
พูดตามตรง ซู ฉิวไป่ ไม่ได้กลัวสถานการณ์เลวร้ายนี้เขาสามารถต่อสู้กับคนพวกนี้ได้ทั้งหมด
ต้องการจะต่อสู้นั้นหรอ?ฮี่ฮี่…ฉันมี อู่ซง
มีบอดี้การ์ดอย่างนั้นหรอ?ฮี่ฮี่…ฉันมี อู่ซง
มีคนเยอะมากอย่างนั้นหรอ?ฮี่ฮี่…ฉันมี อู่ซง
“ผมคือ เฉา ตั้วเฟย คุณคือใคร?”
หลังจากตรวจสอบแน่ใจว่าคนขับรถแท็กซี่มาหาเขาจริงๆเฉา ตั้วเฟยหันไปมอง กู่ เฉิงหยา และ จุน เสี่ยวเตา และอธิบายสถานการณ์ให้พวกเขาฟัง
“เฉา ตั้วเฟย เสี่ยวมู่ อยู่ที่ไหน ผมมาที่นี่เพื่อรับเขา”
ซู ฉิวไป่ จ้องมองเขาและพูดอย่างใจเย็น
ทัศนคติที่ไม่แยแสของเขาทำให้ เฉา ตั้วเฟย รู้สึกตกตะลึงในที่สุดเขาก็สามารถหาข้อสรุปได้ว่าคนขับรถคนนี้มาที่นี่เพื่อช่วยเซี่ยเซียวมู่
“คุณ…คุณบอกว่าคุณต้องการที่จะพาเขากลับไป” เฉา ตั้วเฟย รู้สึกไม่ค่อยมั่นใจในสิ่งที่ได้ยิน
แม้แต่พ่อแม่ของฉันยังไม่เคยพูดกับฉันอย่างมั่นใจแบบนี้ ชายคนนี้เป็นใคร!
“ใช่แล้ว หรือคุณคิดว่าผมมาที่นี่เพื่อพบกับคุณ รีบส่งมอบเซี่ยเซียวมู่มา จากนั้นคุณจะแข่งขันหรือทำอะไรก็แล้วแต่คุณ”
เมื่อนึกถึงคำพูดของ เซี่ยหรงหรง ก่อนหน้านี้ ซู ฉิวไป่ พยายามที่จะสงบสติอารมณ์เขาก่อนที่จะตอบกลับ
จู่ๆ เฉา ตั้วเฟย ก็หัวเราะออกมา
“เงินของผมอยู่ที่ไหน” เฉา ตั้วเฟย ยื่นมือออกมา
“เงินอะไร?” ซู ฉิวไป่ มองเขาอย่างละเอียด
“คุณไม่รู้หรอกว่าเขาเป็นหนี้ผม 5 ล้าน?ส่งเงินมาให้ผมแล้วผมจะให้คุณพาเขากลับไป”
หลังจากนั้นเฉา ตั้วเฟยก็พูดอะไรบางอย่างกับพี่น้องที่อยู่ข้างหลังเขาจากนั้นไม่นานพวกเขาก็พาชายหนุ่มตัวเล็กๆคนหนึ่งออกมาอย่างรวดเร็ว
“เซี่ยเซียวมู่ดูเหมือนว่าพี่สาวของคุณจะส่งใครบางคนมาช่วยคุณ แต่ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้นำเงินมาให้”
เฉา ตั้วเฟย พูดกับชายหนุ่ม
เซี่ยเซียวมู่ มองไปที่ ซู ฉิวไป่ แล้วรู้สึกแปลกๆ
“คุณเป็นใคร?บอกพี่สาวของผมว่าไม่ต้องมายุ่ง ผมต้องการที่จะรู้ว่าคนเหล่านี้จะจัดการกับผมยังไง!”
ซู ฉิวไป่ เริ่มคิดว่าน้องชายของ เซี่ยหรงหรงนั้นเป็นเพียง ผู้ก่อเหตุ แต่เขาไม่คาดหวังว่าชายคนนี้จะหยิ่งยโสเช่นนี้แม้แต่คำพูดของเขายังอยู่งี่เง่านิดหน่อย
ตอนนี้คุณอยู่ในกำมือของเขาแล้ว คุณยังจะพูดแบบนี้อีก!
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่ ซู ฉิวไป่ จะมาคิดเรื่องนี้เขาจ้องมองไปที่ เฉา ตั้วเฟย และถามคุณว่า
“ เขาเดิมพันอะไรกับคุณ?”
เฉา ตั้วเฟย ตกใจและตอบว่า
“แข่งรถน่ะสิ จะมีอะไรอย่างอื่น”
“ตั้วเฟยคุณเป็นคนยั่วยุผม นั่นคือเหตุผลที่ผมยอมรับคำท้าของคุณ”
เซี่ยเซียวมู่ โกรธเล็กน้อยเขาจึงพูดขึ้นมาทันที
“ฮิฮิ ..แล้วทำไมล่ะ?อย่างไรก็ตามคุณเป็นคนยอมรับเดิมพันเองดังนั้นคุณควรที่จะยอมรับการสูญเสีย เข้าใจใช่ไหม?อย่าบอกผมว่ากลุ่มเซี่ยไม่มีเงินเพียงพอ”
เฉา ตั้วเฟย ล้อเลียน
เมื่อสังเกตเห็นว่า เซี่ยเซียวมู่ ต้องการที่จะก่อเหตุอีกครั้ง ซู ฉิวไป่ รีบหยุดเขาทันที เขาจ้องมองไปที่ เฉา ตั้วเฟย และพูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ
“แข่งรถใช่ไหม ได้ ผมจะเดิมพันกับคุณ 10 รอบ ถ้าผมไม่สามารถเอาชนะคุณได้ภายใน 2 รอบ ..ถ้าอย่างนั้นผมจะยอมรับการพ่ายแพ้ของผม!”
———————————————