ซิ่งทะลุมิติ - ตอนที่ 3
ซูฉิวไป่ วิ่งไปบนชั้น 3 อย่างรวดเร็วเขาสูดหายใจลึกก่อนจะใส่รหัสผ่านตามที่สุนัขสีขาวบอกก่อนหน้านี้แล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันที
“เลี้ยวซ้าย ในห้องครัว!”
สุนัขในอ้อมแขนของเขาตะโกนออกมาอย่างกระวนกระวาย ซูฉิวไป่ พยายามสูดหายใจลึกเมื่อเห็นสาวสวยนอนอยู่บนพื้นชุดนอนสีแดงจับคู่กับขาเรียวขาวของเธอ เมื่อมองด้านข้างเหมือนกับนางฟ้ากำลังนอนหลับมันทำให้ดวงตาของ ซูฉิวไป่ แทบหลุดออกมา
ขนาดเป็นลมยังสวย!
“อย่ามัวแต่มอง รีบพาเธอส่งโรงพยาบาลเร็วเข้า!”
สุนัขกระโดดออกจากอ้อมแขนของ ซูฉิวไป่ จากนั้นตะกุยที่อุ้งมือของเขามันทำให้ ซูฉิวไป่ กลับมาตั้งสติได้อีกครั้ง เขาอยากจะด่าตัวเองที่มีความคิดแบบนี้จากนั้นเขาได้ไปหาเธออย่างรวดเร็ว
ใบหน้าของหญิงสาวซีดมากดวงตาของเธอปิดสนิท โชคดีที่เธอยังหายใจอยู่
ซูฉิวไป่ อุ้มเธอขึ้นทันทีแล้วเขารีบวิ่งออกจากประตู อีกครั้งเมื่อมาถึงประตูเขาเห็นพวกเจ้าหน้าที่กำลังไล่ล่าเขาก่อนหน้านี้กำลังขึ้นมาจากชั้นล่าง
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกือบหายใจไม่ออกที่ต้องวิ่งขึ้นบันไดสูง เขาหยิบกระบองที่เอวอย่างรวดเร็วเมื่อมองเห็น ซูฉิวไป่
“ หยุด…หยุดอยู่ตรงนั้น!”
“รีบโทรเรียกรถพยาบาลเร็วเข้า!”
เมื่อ ซูฉิวไป่ เห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเขารีบเปิดปากของเขาทันทีแล้วตะโกนสุดเสียงเขากลัวว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นจะทำให้เขาต้องกลิ้งตกบันได ไม่มีใครกล้าปิดกั้น ซูฉิวไป่ เมื่อพวกเขาเห็นผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของ ซูฉิวไป่ นั้นสลบไสล พวกเขารีบพูดในเครื่องส่งวิทยุเพื่อเรียกรถโรงพยาบาลมาอย่างรวดเร็ว ร่างกายของผู้หญิงคนนี้อ่อนแอและเบากว่าที่ ซูฉิวไป่ คิด เขาเห็นขนตายาวงามของเธอกระพริบเล็กน้อย เมื่อเขามองดีๆเห็นร่องหน้าอกอีกเล็กน้อย สิ่งที่สำคัญคือเขาได้กลิ่นหอมจางๆจากตัวของเธอ
ในขณะที่ ซูฉิวไป่ กำลังดื่มด่ำกับความงามของผู้หญิงเขาก็รู้สึกว่าร่างกายของเขามีพละกำลังมากขึ้น เขาหวังว่าจะอุ้มเธออีกนาน อย่างไรก็ตามเมื่อเขามาถึงชั้นล่างเหงื่อของ ซูฉิวไป่ ทะลักลาวกับเขื่อนเขาเหนื่อยมากจนแลบลิ้นออกมาราวกับสุนัข
ในความเป็นจริงแล้วไม่สามารถตำหนิ ซูฉิวไป่ได้เขาเป็นเพียงแค่คนอ่อนแอขับแท็กซี่ตลอดนั่นหมายความว่าเขาไม่ได้ออกกำลังกายมากนัก ดังนั้นถือว่าดีแล้วที่เขาไม่ล้มลงกับพื้นในขณะที่เขาวิ่งตลอดในทั้งวันนี้ โชคดีที่ด้านล่างได้เตรียมรถพยาบาลไว้รอแล้ว ถึงอย่างนั้น ซูฉิวไป่ ก็รู้สึกเขาอยู่ในเส้นทางที่ยาวไกลเขาแทบมองไม่เห็นจุดหมายปลายทาง
เมื่อเขาได้ส่งหญิงสาวขึ้นไปบนเปแล้ว ซูฉิวไป่ ล้มลงกับพื้นทันที อย่างไรก็ตามเขายังคงมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าในจิตใจของเขา เขาพยายามฝืนตัวเองแม้เขาจะล้มลง ครอบครัวของสาวสวยคนนี้ยังไม่สามารถติดต่อได้ดังนั้นเขาจึงต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการพาเธอไปโรงพยาบาล
ซูฉิวไป่ ไม่มีเวลาสนใจแท็กซี่ของเขาที่ทิ้งไว้กลางถนน ขึ้นรถโรงพยาบาลไปทันที
หลังจากมาถึงโรงพยาบาล ซูฉิวไป่ แทบหายใจไม่ออกเขาเริ่มยุ่งอีกครั้ง เขาวิ่งไปรอบๆเพื่อกรอกเอกสารชำระค่าใช้จ่ายและทำการนัดหมายเรื่องการตรวจสุขภาพของเธอ
โชคดีที่เขามีเงินออมพอสมควร อย่างไรก็ตามการดำเนินการทั้งหมดนี้ใช้เงินออกของเขาเกือบทั้งหมด
หลังจากการตรวจร่างกายเสร็จสิ้น ซูฉิวไป่ ผู้กำลังนั่งอยู่เก้าอี้ด้านนอกกำลังสูดหายใจลึกๆเพื่อผ่อนคลาย ครอบครัวของผู้หญิงก็มาถึง
คนแรกที่เขาได้เห็นคือหญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวด้วยชุดสง่างามพร้อมกับแต่งหน้าหนา เธอสวมรองเท้าส้นสูงและมีบอดี้การ์ดตามหลังเพียงไม่กี่คน เธอกำลังที่จะเข้าไปยังห้องผู้ป่วย ซูฉิวไป่ คาดเดาว่าเธอคงเป็นสมาชิกในครอบครัวของสาวสวยคนนี้ แต่แพทย์ได้แนะนำว่าให้ผู้ป่วยพักผ่อนดังนั้นเขาจึงหยุดเธอเอาไว้อย่างไม่เต็มใจ
“นายกำลังทำอะไร? ฉันเป็นน้าของหรงหรง นายเป็นใครกัน?และจะทำอะไร?”
ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงรวดเร็วและจ้องมองไปที่ ซูฉิวไป่ ซูฉิวไป่ พยายามยิ้มอย่างเชื่องช้าตอนนี้ในที่สุดเขาก็รู้ชื่อผู้หญิงคนนั้นแล้วว่าเธอชื่อ หรงหรง
แม้ว่าทัศนคติของผู้หญิงคนนี้ไม่ค่อยดีนักแต่เมื่อพิจารณาว่าเธอรู้สึกเป็นกังวลดังนั้นเขาจึงอธิบายว่า
“คุณน้า หมอได้บอกไว้ว่า..”
อย่างไรก็ตามเขาก็ถูกขัดจังหวะทันที
“คุณเรียกใครว่าน้า มองดูชุดของคุณคุณต้องเป็นคนขับรถแท็กซี่ใช่ไหม คุณเป็นคนส่งหรงหรงมาโรงพยาบาลใช่หรือเปล่า?คุณต้องการเงินใช่ไหม พูดมาว่าต้องการเท่าไหร่?”
ผู้หญิงคนนั้นเริ่มหยิบกระเป๋าเงินออกมาหลังจากพูดเสร็จนั่นทำให้ ซูฉิวไป่ รู้สึกหงุดหงิดอย่างฉับพลัน คุณเป็นใครถึงดูถูกคนอื่น!
ขณะที่ ซูฉิวไป่ กำลังวางแผนที่จะโต้เถียงกับไปหญิงสาวผู้สวยงามในห้องก็ตื่นขึ้น
“โอ้ หรงหรง ของฉัน เธอทำให้น้ารู้สึกเป็นกังวลอย่างมาก…”
ผู้หญิงคนนั้นตะโกนไปที่หรงหรง เธอสามารถเห็นหรงหรงทางหน้าต่างเธอที่เปิดประตูเข้าไปทันทีและไม่ได้มอง ซูฉิวไป่ อีกต่อไป
ซูฉิวไป่ ถูกทิ้งไว้ด้านนอกด้วยความตกใจ เขาต้องการที่จะเข้าไปยังห้องเพื่อดูหญิงสาวคนนั้น แต่เขารู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมที่จะทำแบบนั้นในเวลานี้ หากเขายืนยันที่จะเข้าไปคงกลายเป็นว่าเขาต้องการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลอย่างแน่นอน
ในขณะที่เขายังยืนลังเลอยู่ที่หน้าประตูคนอื่นๆก็ทยอยกันมาเรื่อยๆ
เธอเป็นผู้หญิงนำโชค! ในเวลาอันรวดเร็วมีคนมากกว่า 1 โหลยืนอยู่หน้าประตูพร้อมตะกร้าผลไม้และการ์ดอวยพรเพื่อที่จะให้ เซี่ยหรงหรง ฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว
ในตอนแรก ซูฉิวไป่ ยืนอยู่ข้างประตูเขาถูกผลักออกไปยังบันไดในที่สุด เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ ซูฉิวไป่ รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ตัดสินจากผู้คนที่มาเยี่ยมเยียนนั้นพวกเขาใส่เสื้อผ้าที่หรูหราพวกเขาคงเป็นคนร่ำรวยอย่างแน่นอน ส่วนซูฉิวไป่ นั้นเป็นเพียงคนขับแท็กซี่ ทุกคนสามารถทำเสื้อกั๊กบนร่างกายของเขาได้
ทันใดนั้น ซูฉิวไป่ ก็รู้สึกว่าไม่มีความหมายที่เขาจะอยู่ที่นี่อีกต่อไปเขาจึงตัดสินใจที่จะไปจากตรงนี้ เขาคิดว่าคนพวกนั้นจะคืนค่ารักษาพยาบาลให้เขาในภายหลัง หลังจากออกจากโรงพยาบาลซุฉิวไป๋หายใจลึกๆในขณะที่เขาเดินกลับไปบนทางเท้า เขาหวังว่าอนาคตของเขาจะดีขึ้นกว่านี้
วันนี้คุณไม่แคร์ผม พรุ่งนี้ผมสัญญาว่า คุณจะไม่เจอผมอีก!
….
ในห้องผู้ป่วย เซี่ยหรงหรง นอนบนเตียงแม้ใบหน้าของเธอจะดูยิ้มแย้มเธอยังคงดูเหน็ดเหนื่อย ถ้าเธอไม่ใช่ประธานของกลุ่มเซี่ยคนเหล่านี้จะมาเยี่ยมเธอหรือไม่?มีใครกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของเธอบ้าง? ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ก็มาเพื่อผลประโยชน์..
เซี่ยหรงหรง คิดในใจเธอมองน้าของเธอที่นั่งอยู่ข้างๆ
“น้าคะ หนูรู้สึกเหนื่อย ให้คนเหล่านี้ออกไปก่อน”
เซี่ยหรงหรง กระซิบจากนั้นเธอหลับตาลง
ห้องพักเงียบลงทันที คนเหล่านี้รู้ว่าควรทำตัวอย่างไรเพียงเวลาไม่กี่นาที พวกเขาก็ออกจากห้องพักไปกันหมดเหลือไว้เพียงตะกร้าผลไม้
น้าเซี่ยไห่ชิงปิดประตูเหลือเพียง เซี่ยหรงหรง และน้าของเธอเท่านั้นที่อยู่ในห้อง
“ เหมือนมีเพียงหลีซงไห่ที่ไม่ส่งคนมา!เป็นอย่างที่ฉันคิดผู้ชายคนนี้ต้องการเอาเปรียบครอบครัวเซี่ย ตอนนี้เมื่อเธอป่วยสามารถมองเห็นความจริงใจในเรื่องนี้ได้!”
เซี่ยไห่ชิง นั่งลงข้าง เซี่ยหรงหรง และพูดอย่างเย็นชา
เซี่ยหรงหรง รู้สึกเศร้าใจแม้ตอนนี้เธอยังคงรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แต่คนที่เป็นน้าของเธอที่สนิทที่สุดยังคงพูดถึงเรื่องผลประโยชน์
“หรงหรง เธอต้องหมั้นกับหลี่เหมาอย่างรวดเร็ว!เพื่อให้ตระกูลของเราได้รับการสนับสนุนจากตระกูลหลี่ นั้นกลุ่มเซี่ยของเราจะแข็งแกร่งขึ้น!”
เซี่ยไห่ชิงพูดขึ้น และเฝ้ารอด้วยความหวังว่าจะมีการหมั้นเกิดขึ้น
“คุณน้า หนูยังไม่อยากพูดเรื่องนี้ เราค่อยพูดเรื่องธุรกิจหลังจากที่หนูออกจากโรงพยาบาลได้ไหม?นอกจากนี้หนูจะพูดอีกครั้งว่าเราควรพึ่งพากำลังของตัวเองในการฟื้นฟูกลุ่มเซี่ยและไม่จำเป็นต้องหมั้นกับหลี่เหมา หนูไม่ต้องการแต่งงานกับคนที่หนูไม่ชอบ!”
ในที่สุด เซี่ยหรงหรง ก็อดทนไม่ไหวอีกต่อไปเธอจึงพูดกับเซี่ยไห่ชิงอย่างหนักแน่น
“แต่ว่า…”
“อย่าพูดเรื่องนี้อีก ปล่อยให้หนูจัดการทุกอย่างเอง!”
เซี่ยไห่ชิงยังคงมีบางอย่างจะพูดแต่เธอก็ถูกขัดจังหวะโดย เซี่ยหรงหรง
ตอนนี้ห้องได้เงียบสงบลง
“ใช่แล้ว น้าเจอคนที่ส่งหนูมาโรงพยาบาลหรือเปล่า หนูแน่ใจว่าเป็นลมอยู่ที่บ้าน” เซี่ยหรงหรง มองไปที่น้าของเธอและถามขึ้นเมื่อเธอจำได้ทันที
หลังจากตะลึงสักครู่เซี่ยไห่ชิง ก็นึกถึงคนขับแท็กซี่ก่อนหน้านี้ที่เธอพบที่หน้าประตู เธอจึงตอบว่า
“น้าโทรหาเธอแต่ไม่มีใครรับดังนั้นนะจึงโทรให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไปเคาะประตูดู จากนั้นพวกเขาเป็นคนส่งเธอมาที่นี่”
“โอ้…โปรดช่วยขอบคุณพวกเขาหลังจากนี้ด้วย”
หลังจากพูดจบ เซี่ยหรงหรง ไม่ได้สอบถามเพิ่มเติม
ในขณะเดียวกันก็ผลักประตูเข้ามา
“ครอบครัวของ เซี่ยหรงหรง อยู่ที่ไหน ผมได้สั่งเอาไว้ว่าห้ามมีใครรบกวนผู้ป่วย?ใครเป็นคนนำผลไม้เหล่านี้มา”
เมื่อหมอเข้ามาเห็นตะกร้าผลไม้เต็มไปทั่วพื้นที่เขารู้สึกอารมณ์เสียทันที
“ขอโทษค่ะหมอ ฉันเป็นคนในครอบครัวของ เซี่ยหรงหรง หากคุณมีอะไรกรุณาแจ้งฉัน”
เซี่ยไห่ชิงยืนขึ้นอย่างรวดเร็วและเดินไปหาหมอ หมอมองมาที่เซี่ยไห่ชิงอยากประหลาดใจแต่ไม่ได้พูดอะไรจากนั้นเขาพาเซี่ยไห่ชิงไปที่สำนักงานของเขา
“อะไรนะ?สุขภาพของเธอย่ำแย่!”
เมื่อเซี่ยไห่ชิงมาถึงห้องหมอและได้ยินเกี่ยวกับการวินิจฉัยทำให้เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้ทันที
“แม้ว่าเมื่อก่อนเธอจะสุขภาพดีมากแต่ไม่ได้หมายความว่าตอนนี้สุขภาพของเธอยังคงเหมือนเดิม มันเกิดขึ้นจากการที่เธอทำงานหนักเกินไป!การเป็นลมอย่างกะทันหันไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิด สถานการณ์ตอนนี้ยุ่งยากมากร่างกายของเธออ่อนแอเกินไป”หมอพูดในขณะที่ถอนหายใจเข้าถึงรายงานทางการแพทย์ไว้ในมือของเขา
“คุณหมอไม่ว่ายังไงคุณก็ต้องช่วยหรงหรง เธอคือความหวังของกลุ่มเซี่ยของเรา!คุณต้องการเงินเท่าไหร่ตามที่คุณสามารถช่วยหรงหรงได้!” เซี่ยไห่ชิงเริ่มกังวลใจมันคงเป็นข่าวร้ายถ้า เซี่ยหรงหรง เสียชีวิต
“ เงินไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง?มันไม่ได้เกี่ยวกับเงิน แต่เพราะเธอขาดการพักผ่อนทำให้ร่างกายของเธอเสียหาย วิธีที่ดีที่สุด….คือการให้เธอได้บริโภคโสมป่าเพื่อเป็นการฟื้นฟู ยิ่งอายุมากเท่าไหร่ยิ่งดี”
หมอคงคิดแล้วมองไปที่เซี่ยไห่ชิง
“โสมป่า มันราคาเท่าไหร่ ?ฉันจะซื้อมัน!”หลังจากได้ยินว่ามีความหวัง เซี่ยไห่ชิงพูดขึ้นอย่างเร่งด่วน
หมอส่ายหัวและถอนหายใจว่า
“ซื้อ?โสมป่าอายุมากไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถซื้อได้ด้วยเงิน มันไม่ใช่สิ่งที่หาซื้อได้ในตลาด…”
ใบหน้าของเซี่ยไห่ชิงเริ่มซีด
เป็นเรื่องธรรมดาที่ ซูฉิวไป่ ไม่รู้สิ่งที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาล หลังจากที่เขาขึ้นไปบนรถแท็กซี่ของเขาระบบนำทางก็ดังขึ้นทันที อู่ซง ได้ส่งคำเชิญให้ ซูฉิวไป่ ไปที่บ้านของเขา พี่ชายของเขาอู่ต้าและพี่สะใภ้ของเขาพานจินเหลียนกำลังเตรียมงานเลี้ยงเอาไว้ต้อนรับเขา