ซิ่งทะลุมิติ - ตอนที่ 44
SD:บทที่ 44 : คุณเป็นคนบังคับผมเองนะ
เมื่อเธอเห็น เซี่ยว หยุน นอนแน่นิ่งบนเตียงของโรงพยาบาลแล้ว ฝาง ชุนหยู ก็สับสนอย่างยาวนาน เหลือ ก่อนที่เธอจะยอมรับได้ว่าความจริง เด็กหนุ่มที่นอนอยู่ตรงนั้นเป็นลูกชายของเธอ สมาชิกของตระกูลเซี่ยวคนอื่นกำลังยืนรออยู่หน้าแผนกคนไข้ พร้อมกับที่คนอีกมากกำลังเดินทางเข้ามาในโรงพยาบาล
คนคุ้มกันจำนวนหยิบมือหนึ่งคุกเข่าลงบนพื้น ราวกับเตรียมตัวจะรับการประหาร ต่างก็ตัวสั่นเทาด้วยความกลัว
“ฉันขอถามเป็นครั้งสุดท้าย หยุนเอ๋อกระโดดลงไปด้วยตนเองแน่นะ” นายหญิงสูดหายในเช้า เธอชำเลืองมองคนคุ้มกันทีละราย แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เหล่าคนคุ้นกันไม่กล้าพอที่จะเสียเวลาไปกับการลังเลแม้แต่วินาทีเดียว พวกเขาแทบจะร้องไห้ออกมาเสียด้วยซ้ำ
“จริงครับท่าน ทุกคนที่อยู่ที่นั่นต่างเห็นเหมือนกันหมด นายน้อยกระโดดออกนอกหน้าต่างด้วยตนเอง ตอนนั้นพวกผู้บุกรุกได้กลับไปแล้วครับ”
คราวนี้นับเป็นครั้งที่สามที่พวกเขารับสารภาพ แม้จะรู้ว่าตนคงต้องเจอผลลัพธ์ที่เลวร้ายเป็นแน่ แต่หากพยายามแก้ตัวข้าง ๆ คู ๆ พวกเขาคงจบลงแบบศพไม่สวยแน่นอน
ฝาง ชุนหยู ไม่กล่าวอะไรหลังจากที่ได้ยินคำสารภาพ เธอเพียงกำลังรอให้ เซี่ยว ซิวเหวิน กลับมาก็เท่านั้น
สิบนาทีแห่งความเงียบงันที่น่าอึดอึด สุดท้ายก็มีเสียงฝีเท้าก้าวเดินเข้ามาจากทางโถงทางเดิน ไม่นานเกินรอ เซี่ยว ซิวเหวิน ก็โผล่มา เขายังคงงงงวย หลังจากที่รู้เข้าว่า เซี่ยว หยุน กระโดดตึก ตลอดทางที่มาโรงพยาบาล เขาจินตนาการไว้หลายเรื่อง แต่เขาไม่คิดเลยว่า เซี่ยว หยุน จะจบลงด้วยสภาพนอนเป็นผักแบบนี้
ฝาง ชุนหยู ยังคงปิดปากเงียบ เธอเองก็รู้ดีว่าไม่ใช่เธอคนเดียวที่รักลูกชาย คนเป็นพ่ออย่าง เซี่ยว ซิวเหวิน เองก็รับเขามากเช่นกัน
เพียงไม่นาน ร่องรอยของความโศกเศร้าจางหายไปจากใบหน้าของชายผู้มีอิทธิพลสูงสุดของเมืองตงไห่
“ใครเป็นคนทำแบบนี้กัน พี่ชายของ ซู เซี่ยวเซี่ยว เหรอ” เซี่ยว ซิวเหวิน ที่ตอนนี้กลับเยือกเย็นอย่างประหลาดถามเธอขึ้น
เธอพยักหน้าโดยไม่ลังเล แต่พลันหน้าบึ้งตึงมาเมื่อนึกขึ้นได้ “แต่ฉันก็ไม่แน่ใจว่ามันทำยังไง พวกนี้พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าหยุนเอ๋อกระโดดลงมาเอง”
เซี่ยว ซิวเหวิน ยังไม่แสดงอาการอะไรเมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้น
“นั่นไม่ใช่เรื่องสำคัญ เมื่อมันกล้าทำเช่นนี้กับหยุนเอ๋อแล้ว เราต้องแสดงให้มันเห็นว่าเราตระกูลเซี่ยว จะต้องส่งมันไปลงหลุม! ฉันจะโทรเรียกน้องชายลำดับที่สองเดี๋ยวนี้เลย เราจะจับมันก่อน โทษฐานที่มันทำร้ายหยุนเอ๋อ อีกอย่าง…”
หลังจากการพิจารณาเพียงชั่วครู่ เซี่ยว ซิวเหวิน ก็วางแผนการลงมือในหัวเรียบร้อยแล้ว เป้าหมายของเขานั้นชัดเจน จนกว่า ซู ฉิวไป่ และน้องสาวมันจะตาย เขาคงตายตาไม่หลับเป็นแน่
ซู ฉิวไป่ ไม่คาดคิดเลยว่าการโต้ตอบของตระกูลเซี่ยวจะรุนแรงเช่นนี้ เขาไม่อาจจินตนาการได้ ว่าพวกเขาจะต้องเจอกับอะไรต่อไป
ในขณะเดียวกัน กลับมีแขกผู้ไม่ได้รับเชิญมาปรากฏตัวหน้าห้องพักคนไข้ของ ซู เซี่ยวเซี่ยว!
หลังจากที่เขาเห็นว่า ซู เซี่ยวเซี่ยว หลับไป ซู ฉิวไป่ ก็ปล่อยให้เธอได้พักผ่อนและออกมาจากห้อง เขาพลันเห็น กู่ จ้านชุน ที่รอเขามาเสียสักพัก
เมื่อคนคุ้มกันเห็น ซู ฉิวไป่ ออกมาจากห้อง ความฝืนใจของเขากลับแปรเปลี่ยนเป็นความกังวล
“คุณซูครับ”
เขาทำได้แค่ร้องชื่อของชายที่เขาตามหาอยู่ออกมา ซู ฉิวไป่ ณ ตอนนั้นหันกลับไปทันทีที่เห็นเขา โดยไม่ให้โอกาสเขาได้พูดเลย
“คุณซู อย่าเพิ่งไป เรามาพูดกันก่อนครับ” กู่ จ้านชุนแทบจะร้องไห้อยู่รอมร่อ เขาวิ่งไปดักทางข้างหน้าชายหนุ่มแล้วขวางทางเขา
เฉา ตั้วเฟย ทึ่งในความหน้าด้านของชายตรงหน้ามาก แน่ล่ะว่าเขารู้ว่าชายคนนั้นเป็นคนที่ไล่เขาออกจากสนามแข่งคังจวง
ตอนนั้นหมอนั่นทำตัวน่าหมั่นไส้มาก ตอนนั้นมันมาทำบ้าอะไรที่นี่เนี่ย
“คุณต้องการอะไรจากผมกัน” ซู ฉิวไป่ หยุดเดินแล้วกล่าวเย็นชา
กู่ จ้านชุน กระอักระอ่วนมากขึ้นไปอีก แต่เจ้าตัวก็พยายามบังคับให้ตัวเองยิ้มจนได้ “ท่านปู่แห่งตระกูลกู่ต้องการเชิญชวนคุณมาที่บ้านของเขาครับ”
“ไสหัวไป ผมไม่ไปแน่ ๆ !”
ซู ฉิวไป่ ตะโกนอย่างไม่ลังเล จากนั้นเขานั่งบนเก้าอี้สำหรับนั่งรอตัวหนึ่งในโถงทางเดิน
กู่ จ้านชุน ชะงักงัน เขาหวาดหวั่นมากเกินกว่าที่เขาอยากจะยอมรับ
“คุณซู หมอสองคนที่คุณรู้จักคราวที่แล้ว…” เขาไม่มีทางเลือกนอกจากการพยายามเกลี้ยกล่อม ซู ฉิวไป่ ต่อ แม้ทางตระกูลกู่จะเคยเตือนเขาแล้วหลายครั้งว่าห้ามกล่าวถึงแพทย์ชราทั้งสองเด็ดขาด แต่เมื่อมาเจอ ซู ฉิวไป่ จริง ๆ เขาก็อดไม่ได้หรอก!
อาการป่วยของของ กู่ เฉิงหยา ได้ทำร้ายตระกูลกู่มานานเหลือ ตอนนี้ที่เธอมีประกายของความหวังแล้ว เขากลับดับมันเสียได้!
ชายผู้คุ้มกันจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจาก ซู ฉิวไป่ แม้จะต้องแลกด้วยความตายของเขาก็ตาม
อย่างไรก็ดี ซู ฉิวไป่ ลุกพรวดขึ้นมาก่อนที่เขาจะได้พูดต่อ
“ไร้สาระ สองคนนั้นเป็นหมอที่ไหนกัน พวกนั้นน่ะเป็นพวกต้มตุ๋นทั้งเพ! อีกอย่าง คุณควรหาวิธีช่วยนายหญิงของคุณด้วยตัวเองแล้วล่ะ ผมก็เป็นแค่คนขับรถแท็กซี่ จะไปรู้อะไรเล่า”
ท่าทางจริงจังของชายหนุ่มทำให้ กู่ จ้านชุน งงงัน แม้แต่เด็กสาวทั้งสองและ เฉา ตั้วเฟย ก็ตาเบิกกว้างด้วยความใคร่รู้
สองคนนี้มันคุยเรื่องอะไรกัน น่าสนใจดีแฮะ
กู่ จ้านชุน มอง ซู ฉิวไป่ นั่งลงที่เก้าอี้อีกครั้ง มือเขาอยู่ไม่สุข จนเขาเผลอเกาหัวตัวเองอีกครั้ง ก่อนที่จะเอ่ยขอร้องอีกครา
“คุณซูครับ ทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง ผมจะก้มกราบขอร้องเลยถ้าคุณต้องการ แต่นายหญิงน่ะบริสุทธิ์นะครับ ผมอ้อนวอนให้คุณช่วยเธอทีเถอะ”
จะอย่างไรก็เถอะ กู่ จ้านชุน เป็นคนซื่อตรงเสียจนเขาไม่ทันเห็นด้วยซ้ำว่า ซู ฉิวไป่ กำลังเล่นละครตบตาเขาอยู่ เพราะเจ้าตัวยังคงโกรธเขาจากเรื่องคราวที่แล้ว
“คุณซู เราไปพูดคุยเรื่องนี้กันที่อื่นเถอะ ในฐานะตัวแทนจากตระกูลกู่ ผมขอเชิญคุณมาเยี่ยยเยือนบ้านของเราครับ เพื่อแสดงความจริงใจ เราจะช่วยเหลือคุณอย่างเต็มที่ในปัญหาใด ๆ ที่คุณมีกับตระกูลเซี่ยว”
กู่ จ้านชุน ไม่อาจต้านทานที่จะกล่าวเช่นนั้นหลังจากที่เขายังเห็น ซู ฉิวไป่ นิ่งเงียบ
ซู ฉิวไป่ ชำเลืองมองไปที่ฝ่ายตรงข้าม เขายังคงไม่พูดอะไร เอาจริง ๆ เขาเมินคำขอร้องของตระกูลกู่ไปได้เลยด้วยซ้ำ เมื่อพิจารณาจากความไร้มารยาทของ กู่ จ้านชุน เมื่อก่อนหน้านี้
แม้ กู่ เฉิงหยา นั้นไม่มีส่วนผิดอะไรจริง ๆ ก็ตาม แต่ ฮัว โต๋ และ จาง จ้งจิ่ง ก็ได้ยืนยันชัดเจนแล้วว่าพวกท่านจะไม่ยอมรักษา กู่ เฉิงหยา อีก
ถึงในใจของเขาจะคิดเช่นนั้น แต่แน่นอนว่า กู่ จ้านชุน ย่อมไม่รู้ ชายตรงข้ามเขาคงจะยังนึกว่า ซู ฉิวไป่ ยังโกรธเขาอยู่ อีกฝ่ายจึงกล่าวขึ้นมาอย่างกระวนกระวาย “คุณซูครับ ให้ผมได้เตือนคุณเรื่องความแข็งแกร่งของตระกูลเซี่ยวหน่อยเถอะครับ อย่างน้อย ตระกูลกู่จะช่วยเหลือคุณในการต่อสู้ครั้งนี้ ตราบใดที่คุณยอมช่วยเหลือนายหญิงของเราครับ”
ชายผู้คุ้มกันคนนั้น ดูไกลจะไม่ไหวเต็มที สุดท้าย ซู ฉิวไป่ จึงเลิกบ่ายเบี่ยงปฏิเสธ
หลังจากที่เขาชี้แจ้งเรื่องทั้งหมดกับ เฉา ตั้วเฟย และเพื่อนร่วมห้องของเซี่ยวเซี่ยวเรียบร้อย เขาก็ออกจากโรงพยาบาลไปพร้อมกับ กู่ จ้านชุน พวกเขาพบร้านน้ำชาที่ไม่ห่างไปนัก ซู ฉิวไป่ เมื่อหาที่นั่งได้แล้ว จึงเอ่ยถามหาเรื่องสถานการณ์ทั้งหมดอย่างละเอียด
ดูเหมือนว่า หลังจากที่ กู่ เฉิงหยา กลับบ้านไปในวันนั้น เธอยังคงปกติดี ทว่าเธอกลับมีไข้ในคืนนั้นนั่นเอง ซึ่งนั่นทำให้ปู่เธอกังวลเป็นอย่างมาก เขาเรียกหมอจากเมืองหลวงในคืนเดียวกันนั้น หลังจากที่นายแพทย์ตรวจ กู่ เฉิงหยา แล้ว หมอคนนั้นกลับประกาศว่าสุขภาพของ กู่ เฉิงหยา ที่จริงกำลังดีขึ้น!
จุดฝังเข็มที่เธอเคยได้ทำไว้ก่อนหน้านี้ ราวกับว่ามันจะช่วยบรรเทาอาการของเธอได้ดีทีเดียว ข่าวดีนั้นทำให้ทั้งครอบครัวเธอตื่นเต้นเป็นอย่างมาก และ กู่ เฉิงหยา ก็นึกขึ้นมาได้ว่ามันเป็นตำแหน่งเดียวกับที่ ฮัว โต๋ เคยฝังเข็มไว้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น และเมื่อท่านปู่กู่พบว่าคนที่ไล่นายแพทย์ทั้งสองไปคือ กู่ จ้านชุน ท่านปู่แทบจะตบเขาตรงนั้นเลย ท่านได้มอบคำสั่งถึงตายกับเขา
หากเชิญ ซู ฉิวไป่ และหมอเทวดาสองคนนั้นมาไม่ได้ล่ะก็ ห้ามกลับมาเหยียบบ้านนี้อีกเป็นอันขาด!
ดังนั้น ในคืนเดียวกันนั้นเอง กู่ จ้านชุน ก็มุ่งหน้าไปที่แม่น้ำชิง แต่เขากลับหา ซู ฉิวไป่ ไม่พบ ต่อมา เขาได้ข่าวว่า ซู ฉิวไป่ กำลังเดินทางไปที่เมืองตงไห่ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าเหตุใด เขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้
ซู ฉิวไป่ ไม่ได้อยากจะให้ชายตรงหน้าอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากเลย แต่เขาไม่สามารถหวังได้ว่าจะรับการช่วยเหลือจากชายชราทั้งสอง ชายหนุ่มตกลงแค่จะไปเยี่ยวเยียนตระกูลกู่ให้เร็วที่สุด และจะพยายามช่วยเหลือ กู่ เฉิงหยา สุดความสามารถ
กู่ จ้านชุน ปลื้มปิดิเป็นล้นพ้นเมื่อได้ยินเขากล่าวยืนยัน
ตั้งแต่ที่เขารู้ตัวว่าเขาได้ทำลายโอกาสในการมีชีวิตรอดของนายหญิงไปเสียแล้ว ชายคนคุ้มกันนึกอยากให้ตัวเองตาย ๆ ไปเสียตอนนั้นเลย!
ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เขาจึงสามารถใจเย็นได้สักที ทว่าเขายังคงจำคำสัญญาของเขาก่อนหน้านี้ได้ดี ผู้คุ้มกันจึงแนะนำ ซู ฉิวไป่ เกี่ยวกับความสามารถของตระกูลเซี่ยว
อีกด้านหนึ่งนั้น เซี่ยว ซิวเหวิน ที่เฝ้ารอที่จะส่ง ซู ฉิวไป่ ไปลงหลุมเสียแทบจะไม่ไหว จู่ ๆ กลับได้รับสายจากพี่ชาย
“น้องพี่ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะยุ่งกับไอ้เวรนั่น”
เซี่ยว ซิวเหวิน ได้ยินเช่นนั้นก็ได้แต่ขมวดคิ้ว “ทำไม”
“ใครซักคนจากเบื้องบนไม่เห็นด้วย บวกกับที่ไม่มีหลักฐานว่ามันผลัก เซี่ยว หยุน จริง ๆ แถมเรื่องนี้ดันไปพัวพันกับตระกูลกู่ด้วย” พี่ชายของ เซี่ยว ซิวเหวิน น้ำเสียงดูหมดอาลัยตายอยาก พวกเขาไม่เคยต้องเผขิญกับสถานการณ์ลำบากเช่นนี้ โดยเฉพาะเมื่อศัตรูดันเป็นแค่คนขับรถแท็กซี่อีกด้วย
หลังจากที่สอบสวนพี่ชายเขาอีกนิด เซี่ยว ซิวเหวิน ก็วางสาย ฝาง ชุนหยู โทรหาความช่วยเหลือจากญาติฝั่งแม่ของเธอทันที แต่คำตอบที่ได้รับก็ไม่ต่างกัน
ใครบางคนกำลังช่วยเหลือ ซู ฉิวไป่ และอำนาจของใครคนนั้นมีมากอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย!
คู่สามีภรรยาจึงตระหนักได้ว่าคราวนี้ พวกเขาเจอปัญหาใหญ่แล้ว ทว่าดวงตาของ เซี่ยว ซิวเหวิน กลับมีประกายของความบ้าคลั่ง!
ถ้าขอความช่วยเหลือไม่ได้ล่ะก็ ฉันจัดการเองก็ได้ล่ะวะ! หยุนเอ๋อ พ่อจะแก้แค้นให้ลูกเอง!
และด้วยความคิดเช่นนั้น เขาควักมือถือตัวเองออกมา โทรหาลูกน้องตน แล้วบอกพวกของตัวเองให้ทำตามแผนแรกที่วางไว้ทันที
ซู ฉิวไป่ เองก็ไม่อาจทราบได้ ว่าแผนการแก้แค้นของตระกูลเซี่ยว ต้องเจออุปสรรคมากมายแค่ไหน
หลังจากการเจรจาอย่างยาวนานกับ กู่ จ้านชุน เขาขับรถผ่านช่องทางข้ามเวลาไปหา ฮัว โต๋ และอย่างที่เขาคาดการณ์ไว้ ฮัว โต๋ เมื่อนายแพทย์ชรารู้ว่าคนไข้ของตนเป็น กู่ เฉิงหยา แล้ว ท่านกลับปฏิเสธอย่างหนักแน่น
ชายหนุ่มคะยั้นคะยอและเกลี้ยกล่อยชายเฒ่าสุดความสามารถ จนในที่สุด ฮัว โต๋ ก็ยอมแพ้ ถึงอย่างนั้น ชายชราก็ทำเพียงแค่มอบตำราแพทย์ของตนให้ ซู ฉิวไป่ ไปอ่านและศึกษาเอาเอง แล้วให้เขาไปหาทางรักษา กู่ เฉิงหยา ด้วยตัวเอง
คนขับรถตะลึงงันเสียด้วยซ้ำ นี่คิดว่าฉันอุดส่าห์เกลี้ยกล่อมขนาดนี้ แค่เพื่อจะเอาคู่มือท่านมารักษาเองเหรอ
ดีที่ไม่มีใครอ่านใจเขาออก มิอย่างนั้น ใครคนนั้นคงโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่
บ้าไปแล้วรึไง นั่นมันตำราการแพทย์ของ ฮัว โต๋ ที่สูญหายไปเชียวนะ! ยังจะมาบ่นอีกเหรอฮะ!
ซู ฉิวไป่ จำใจต้องรับตำราการแพทย์จากแพทย์ชรา แล้วขับรถกลับบ้าน เขาเดาว่า ซู เซี่ยวเซี่ยว น่าจะตื่นได้แล้ว แต่เมื่อเขาไปถึง ชายหนุ่มกลับพบว่าไม่มีใครอยู่ในห้องคนไข้!
เมื่อออกจากห้อง เขากลับพบกับ จาง เหวิน และ เสี่ยว หลี วิ่งมาหาเขาอย่างร้อนรน หน้าขนองทั้งสองซีดเผือก เสียงของพวกเธอสั่นขณะที่พยายามพูด
“พี่ซูคะ เมื่อกี้มีคนสองสามคนเข้ามา อ้างว่าตัวเองเป็นหมอแล้วขอตรวจเซี่ยวเซี่ยว แต่กลายเป็นว่า พวกนั้นลักพาตัวเธอไปแล้วค่ะ แม้แต่ เฉา ตั้วเฟย ก็โดนจับไปด้วย!”
ซู ฉิวไป่ รู้สึกว่าหัวของตัวเองมึนตึ้บทันทีที่ได้ยินข่าวนั้น!
“แล้วก็ พวกนั้นบอกให้ส่งไอ้นี่ให้คุณด้วย!”
เสี่ยว หลี พูดขึ้นแล้วยื่นกระดาษที่ยับยู่ยี่มาให้ เมื่อคลี่กระดาษออก เขาพลันเห็นประโยคหนึ่งเขียนไว้บนแผ่นกระดาษนั้น!
“สิบแปดนาฬิกาเย็นนี้ ที่ถนนตงโขว่ ณ สระมังกร, แหล่งถ้ำเสือ!”
ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึก ๆ เขามั่นใจมากว่าตระกูลเซี่ยวอยู่เบื้องหลังเป็นแน่ บ่ายเดียวกันนั้น กู่ จ้านชุน ก็เพิ่งบอกเขาไปว่าศูนย์บัญชาการของตระกูลเซี่ยวนั้น คือสถานที่ที่เรียกว่า สระมังกร, แหล่งถ้ำเสือบนถนนตงโขว่!
เขาขย้ำกระดาษในกำมือ แววเย็นชาเข้าแทนทีในนัยน์ตา ซู ฉิวไป่ ตั้งมั่นเป็นอย่างมาก
ตระกูลเซี่ยว ต่อไปอย่าโทษกันนะ แกบังคับให้ฉันทำแบบนี้เอง!
ด้วยความคิดเช่นนั้น ซู ฉิวไป่ ก็มุ่งตรงไปที่ภูเขาเหลียงซาน