ซิ่งทะลุมิติ - ตอนที่ 57
SD:บทที่ 57 แปลกใจ
3 ชั่วโมงก่อน ในห้องโถงใหญ่ของสมาคมรถแข่งมีการแถลงข่าวเพื่อประกาศสปอนเซอร์ใหม่ที่เข้าร่วมในการแข่งขันดังนั้นสถานที่แห่งนี้จึงแน่นตั้งแต่เช้า ผู้เยี่ยมชมจากทั่วทั้งประเทศดังนั้นในห้องโถงใหญ่จึงแออัดไปด้วยผู้คน เพียงพริบตาครั้งเดียวก็มีคนมากกว่า 1 หมื่นคนภายในห้องโถง
10 นาทีก่อนงานแถลงข่าวจะเริ่มขึ้น กู่ ชิงเหมย ได้เตรียมการทั้งหมดแล้วแต่เธอยังคงรู้สึกกังวลในขณะที่ยืนอยู่หลังเวทีมันเป็นเพราะการถอนสปอนเซอร์อย่างฉับพลันของตระกูลเซี่ยและตระกูลกู่ มันทำให้แผนการทั้งหมดที่เธอเตรียมไว้มันเนิ่นนานต้องมีปัญหา กู่ ชิงเทียน พี่ชายของเธอต้องไปที่ เป่ยตู เพื่อหาสปอนเซอร์รายใหม่
โชคดีที่พวกเขาหาทางออกได้ในตอนนี้ ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลงหลังจากการแถลงข่าว จากนั้น สมาคมรถแข่งก็พยายามที่จะเตรียมเข้าสู่การแข่งขันรถระดับนานาชาติ ในที่สุดความหวังของสมาคมรถแข่งก็สามารถทำได้สำเร็จ กู่ ชิงเหมย ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก ความจริงแล้วควรมีเจ้าของสนามแข่ง เป็นเจ้าภาพแถลงข่าวแต่ กู่ ชิงเทียน นั้นยังคงอยู่ที่เป่ยตู และอีก 2 คนก็อยู่ที่ต่างประเทศดังนั้นจึงเหลือเธอคนเดียวที่เป็นเจ้าภาพในงานแข่งขันนี้
“คุณเหมยทุกอย่างพร้อมแล้ว โปรดเตรียมพร้อมขึ้นเวที”
เมื่อได้ยินดังนั้น กู่ ชิงเหมย หายใจลึกๆและเดินออกไป
เวทีได้จัดวางไว้อย่างเหมาะสมแล้วบนพื้นมีผู้สื่อข่าวจากบริษัทต่างๆทั้งสื่อท้องถิ่นและต่างประเทศต่างรอคอย ฉากนี้ทำให้ กู่ ชิงเหมย นั้นตื่นเต้นอย่างไรก็ตามวันนี้เป็นวันพิเศษสำหรับเธอเพราะการประชุมมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสนามแข่งทั้งหมด
ผู้ชมรู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นคนที่ออกมายังเวทีคือ กู่ ชิงเหมย จริงๆแล้วเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังอิทธิพลทั้งหมดของสมาคมรถแข่งในปัจจุบันนั้นเป็นเพราะ กู่ ชิงเหมย รูปร่างหน้าตาของเธอกลายเป็นตัวแทนของสมาคมรถแข่งทั้งหมด ในความเป็นจริงมีหลายคนที่มาที่นี่ไม่ใช่เพื่อมาดูรถแข่งแต่พวกเขาอยากเห็นเธอ
แฟนคลับของเธอตบมืออย่างกระตือรือร้นในสิ่งที่ กู่ ชิงเหมย กล่าว ทุกอย่างดำเนินไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย กู่ ชิงเหมย เริ่มผ่อนคลายเมื่อเวลาผ่านไปเธอตอบคำถามได้คล่องแคล่วและมีรอยยิ้มอย่างเป็นธรรมชาติ
อย่างไรก็ตามมีชาวต่างชาติยืนขึ้นในช่วงที่การแถลงข่าวเสร็จสิ้น ผู้สังเกตการณ์ต้องการดึงไมโครโฟนออกไปจากเขาแต่มันก็สายเกินไป
“คุณ กู่ ชิงเหมย ผมเคยได้ยินมาสักพักแล้วว่าประเทศของคุณประสบความสำเร็จในการมีนักแข่งมืออาชีพ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมรู้มาเมื่อเร็วๆนี้…โอ้ความจริงแล้วมันไม่ควรที่จะพูดถึง”
เขาพูดเป็นภาษาอังกฤษแต่คนส่วนใหญ่ยังคงฟังออกแต่ไม่เข้าใจในความหมายที่เขาต้องการแสดงออกมา การแสดงออกของ กู่ ชิงเหมย เปลี่ยนแปลงทันทีเธอรู้ว่าเขากำลังสร้างปัญหาอย่างจงใจ
“ขอโทษนะคะ ฉันคิดว่าคุณควรรู้ว่าเราจะเข้าสู่เวทีนานาชาติในไม่ช้า จากนั้นคุณสามารถเห็นมาตรฐานของเราด้วยตาของคุณเอง” กู่ ชิงเหมย ตอบเป็นภาษาอังกฤษด้วยเช่นกันเธออาศัยอยู่ในต่างประเทศตั้งแต่ยังเด็กอย่างนั้นเธอจึงคล่องแคล่วในการใช้ภาษา
ชายคนนั้นหัวเราะเยาะอีกครั้ง
“โอ้จริงงั้นหรอ?ถ้าอย่างนั้นผมขอท้าคุณ ผมชื่อคาร์ล เป็นแค่เพียงคนขับรถธรรมดา ถ้าพวกคุณไม่สามารถเอาชนะผมในการแข่งขันนี้ได้คุณควรที่จะปิดบริษัทของคุณไปซะ”
ภายในห้องโถงเกิดความโกลาหลทันทีเมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ บางคนไม่เข้าใจตั้งแต่แรกแต่ไม่ช้าทุกคนก็เข้าใจในสิ่งที่ชายคนนี้พูดไป
“ช่างเป็นคนหยิ่งยโส ยอมรับคำท้าของเขาไป!”
“ใช่แล้วเราเป็นบริษัทใหญ่ เราไม่ต้องกลัวเขา!”
“….”
หลายคนเริ่มตะโกนในที่สุดสถานการณ์ก็ไม่สามารถควบคุมได้คนที่เป็นกังวลใจที่สุดคือ กู่ ชิงเหมย เธอไม่ต้องการยอมรับคำท้าทายนี้ยังไร้เหตุผลในช่วงวิกฤตแบบนี้ มันจะไม่มีปัญหาถ้าเธอเป็นฝ่ายชนะแต่ถ้าเธอแพ้มันจะเป็นปัญหาร้ายแรง!
ดังนั้นเธอตั้งใจที่จะปฏิเสธคำท้าทายนี้ แต่แล้วคาร์ลก็พูดอีกครั้งว่า
“ถ้าคุณปฏิเสธคำท้าของผม ผมจะบอกทุกคนที่มองเราผ่านกล้องออกอากาศทุกตัวในตอนนี้ ให้คนทั้งโลกรู้ว่าพวกคุณนั้นไร้น้ำยาแค่ไหน!”
กู่ ชิงเหมย ตกตะลึงเมื่อได้ยินสิ่งนี้เธอไม่คาดคิดว่าชาวต่างชาติคนนี้เตรียมตัวมาพร้อมกับการสร้างปัญหา เธอหันไปมองกล้องที่อยู่ไม่ไกล กู่ ชิงเหมย รู้สึกได้ถึงลมหายใจของตัวเอง สถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างยุ่งเหยิง ตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้คือยอมรับคำท้าของเขาจากนั้นก็เอาชนะเขาซะ แต่ เจ้าของสมาคมรถแข่งทั้งสามคนไม่ได้อยู่ที่นี่ กู่ ชิงเหมย และคนอื่นๆไม่แน่ใจเกี่ยวกับภูมิหลังของ คาร์ล ดังนั้นหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นพวกเขาจะเจอกับปัญหาร้ายแรง!
แต่ถ้าเธอปฏิเสธผลที่ตามมาก็เหมือนกัน กู่ ชิงเหมย อยู่ในภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างสมบูรณ์ในขณะที่ผู้ชมต่างร้องตะโกนออกมาดังๆ ในขณะที่เธอกำลังขบคิดก็มีคนลุกขึ้น เขาคือ คุนซาน อาจารย์ของ จุนเสี่ยวเตา 1 ใน 10 เทพแห่งการแข่งรถ
“คุณเป็นเพียงแค่ชาวต่างชาติธรรมดา ผมจะยอมรับคำท้าทายของคุณ!”
คำพูดของคุนซานทำให้เกิดความโกลาหล กู่ ชิงเหมย รู้สึกโล่งใจเพียงเล็กน้อยแต่ในไม่ช้าเธอก็กลายเป็นกังวลใจมากยิ่งขึ้น
คุนซานสามารถเอาชนะได้อย่างนั้นหรอ
แล้วถ้าเขาแพ้ล่ะ…พวกเราจะทำยังไง
ดังนั้นการแข่งขันจึงเริ่มต้นขึ้นและผลที่ตามมาทำให้ทั่วทั้งสนามแข่งตกอยู่ในความเงียบ
คุนซานแพ้… ความจริงมันทำให้เกิดการสูญเสียที่ย่ำแย่เป็นอย่างมาก มันทำให้ กู่ ชิงเหมย รู้ตัวได้ทันทีว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ได้ถูกวางแผนเอาไว้ พวกเขาต้องการโจมตีสมาคมรถแข่งของเธอที่กำลังเข้าสู่เวทีนานาชาติ!
การแข่งขันนี้ทำให้ผู้ขับขี่คนอื่นรวมถึงนักขับขั้นเทพทั้งหลายตำหนักได้ว่าความแตกต่างระหว่างมาตรฐานของพวกเขากับ คาร์ลนั้นแตกต่างกัน
“ คุณกู่ ชิงเหมย คุณยินดีที่จะยอมรับว่านักแข่งรถของคุณเป็นเพียงขยะแล้วใช่ไหม”
คาร์ลยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม เขายืนอยู่หน้าไมโครโฟนด้วยสีหน้าหยิ่ง ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงต่างโกรธเคืองคำพูดของเขา ริมฝีปากของทุกคนกระตุกแต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้…
คุนซานได้แพ้แล้ว..ตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายเว้นแต่…เจ้าของสมาคมรถแข่งทั้ง 3 คนจะอยู่ที่นี่…
เมื่อ กู่ ชิงเหมย คิดได้ดังนั้นเธอจึงตัดสินใจและควบคุมสถานการณ์อย่างรวดเร็ว
“คุณคาร์ล พวกเราจะยอมรับคำท้าของคุณแต่ในตอนนี้มันไม่มีเวลาแล้ว เราจะแข่งขันกันในวันพรุ่งนี้ถ้าฉันแพ้ฉันจะยอมรับว่าความสามารถของฉันไม่ดีเท่ากับคุณ!”
คำที่เธอเปล่งออกมาช่างชาญฉลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในท้ายประโยคที่เธอบอกว่าเธอเต็มใจที่จะยอมรับว่าความสามารถของเธอนั้นไม่สามารถเทียบเขาได้แทนที่จะใช้คำว่าสมาคมรถแข่ง…
หลังจากนั้น คาร์ลเองก็เห็นด้วย เรื่องนี้ทำให้ กู่ ชิงเหมย หายใจด้วยความโล่งอก พี่ชายของเธอจะกลับมาในวันพรุ่งนี้เขาจะต้องสามารถเอาชนะ คาร์ลได้อย่างแน่นอน
เมื่อการแถลงข่าวจบสิ้น กู่ ชิงเหมย รีบกลับลงหลังเวทีเธออารมณ์เสียมากและรีบโทรหากู่ ชิงเทียน อย่างรวดเร็ว แต่ไม่สามารถโทรติดต่อได้ เมื่อสังเกตเห็นว่านักข่าวพยายามที่จะพุ่งเข้ามาหาเธอเธอพยายามหลบหนีออกจากประตูหลัง
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้เธอไม่ได้เตรียมรถเอาไว้ดังนั้นเมื่อเธอกำลังหลบหนีผู้สื่อข่าวเธอก็เห็นรถแท็กซี่จอดอยู่ข้างๆ
เธอรีบเปิดประตูและเข้าไปโดยไม่ลังเล
……
ซู ฉิวไป่ ตกตะลึงเป็นเวลานานโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขาหันไปมองและสังเกตเห็นรูปร่างอันน่าหลงใหลของผู้หญิงคนนี้ขาเรียวยาวของเธอขโมยจิตวิญญาณของเขาไป
“เร็วเข้าออกรถ!”
กู่ ชิงเหมย สังเกตเห็นว่าคนขับรถไม่ขยับเขยื้อนดังนั้นเธอจึงกระตุ้นเขาอีกครั้ง เธออยู่ใกล้กับคนขับรถจนรู้สึกถึงลมหายใจของเธอ มันค่อนข้างอบอุ่น ถึงแม้ว่า ซู ฉิวไป่ จะรู้สึกสถานการณ์นี้น่าสนใจแต่เขาก็ไม่ได้วางแผนที่จะรับลูกค้าที่นี่
“เอ่อ…คุณผู้หญิงครับ”
“คุณเรียกใครว่าคุณผู้หญิง!”
“…”
“คุณครับผมไม่ได้มารับลูกค้า ดังนั้นโปรดนั่งแท็กซี่คันอื่น” ซู ฉิวไป่ รู้สึกอายหลังจากที่ผู้หญิงตอกกลับคำพูดของเขา
“คุณไม่ใช่คนขับรถแท็กซี่หรอ ทำไมคุณถึงไม่รับงาน เร็วเข้ามีคนกำลังไล่ตามฉันมา!”
ต้องบอกว่าหลังจากที่ กู่ ชิงเหมย ถอดแว่นตาของเธอออก ซู ฉิวไป่ ก็เห็นดวงตาและใบหน้าของเธอมันทำให้เขาถูกตรึงอยู่กับที่ด้วยความงดงามของเธอ
ทำไมเหมือนฉันเคยเห็นเธอมาก่อน?
“มีคนไล่ตามคุณ? OK ..คุณก็แค่รอให้พวกเขาจากไปจากนั้นค่อยลงจากรถ”
ซู ฉิวไป่ ตอบกลับอย่างเฉยเมยเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ได้ถูกใครไล่ล่าแต่เธอจงใจหลีกเลี่ยงบางอย่าง กู่ ชิงเหมย ไม่คาดคิดว่า ซู ฉิวไป่ จะตอบเธอแบบนี้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีดวงตาของเธอก็กลายเป็นสีแดงและเริ่มร้องไห้ คนขับรถรู้สึกหมดหนทางทันที
เชี่ยเอ้ย..แบบนี้คนอื่นก็เข้าใจผิดคิดว่าฉันทำอะไรเธอน่ะสิ!ทำไมคนสวยถึงยืนยันที่จะนั่งรถแท็กซี่แทนที่จะเป็นรถหรูหราคันอื่น!
“เอาล่ะ ไม่เป็นไร…อย่าร้องไห้ ไปก็ไป”
ซู ฉิวไป่ ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้และเริ่มขับแท็กซี่ออกไป จากนั้น..ผู้หญิงคนนี้ก็นั่งตัวตรงและเช็ดดวงตาราวกับว่าไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน
ซู ฉิวไป่ ขับรถไปด้านหน้าประมาณ 5-6 นาที หลังจากขับตรงไปเรื่อยๆเขาก็นึกได้ว่าเธอยังไม่ได้บอกว่าเธอต้องการไปที่ไหน อย่างไรก็ตามในขณะที่ ซู ฉิวไป่ กำลังอ้าปากถาม กู่ ชิงเหมย ก็สั่งให้เขาขับรถตรงไปด้านหน้า
ผ่านไป 10 นาทีแล้วพวกเขายังขับตรงไปเรื่อยๆ ซู ฉิวไป่ ค่อนข้างรู้สึกรำคาญ
“สาวน้อยคุณต้องการไปไหนกันแน่”
“แค่ตรงไป..”
“….”
ถามคำถามซ้ำครั้งที่ 3 เธอก็ตอบไปว่า
“ไปทุกที่”
————————————————————————