ซิ่งทะลุมิติ - ตอนที่ 58
SD:บทที่ 58 นี่คือแผนการ
จู่จู่ ซู ฉิวไป่ ก็นึกถึงชายอ้วนผู้บ้าคลั่งที่เขาเคยพบในอดีต
เขามีอาการแบบนี้!
ด้วยความคิดนี้ ซู ฉิวไป่ อดไม่ได้ที่จะหยุดรถและหันไปมอง กู่ ชิงเหมย อย่างละเอียดพร้อมกับถามขึ้นเบาๆว่า
“สาวน้อยคุณไม่ได้เป็นคนบ้าที่หนีออกจากบ้านใช่ไหม”
“ คุณสิคนบ้า!”
กู่ ชิงเหมย รู้สึกแย่มากหลังจากแพ้การแข่งขันแล้วเมื่อได้ยินคำพูดของ ซู ฉิวไป่ เธอตะโกนออกมาทันที
มีคนขับรถแท็กซี่ที่น่ารำคาญแบบนี้บนโลกได้ยังไง!
อย่างไรก็ตามความคิดของ ซู ฉิวไป่ แตกต่างจากเธอโดยสิ้นเชิงเขาเกือบจะยืนยันได้แล้วว่าผู้หญิงคนนี้ บ้า!
ผู้หญิงที่บ้าจะยอมรับว่าตัวเองป่วยจริงๆหรอ?ไม่น่าแปลกใจเลยที่เธอดูคุ้นๆ บางทีฉันอาจจะเจอเธอในป้ายประกาศหาคนหาย.. เฮ้อ..ช่างเป็นผู้หญิงที่สวยงามแต่เสียดายที่สมองของเธอมีปัญหา
กู่ ชิงเหมย สังเกตเห็นว่า ซู ฉิวไป่ ถอนหายใจและส่ายหัว เธอกัดฟันแน่นและความโกรธเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นเธอถอดรองเท้าส้นสูงและเหวี่ยงไปที่ ซู ฉิวไป่ ในขณะนั้น ซู ฉิวไป่ ไม่ได้ระวังตัวเขาจึงโดนส้นสูงของเธอเข้าเต็มเปา ผู้หญิงคนนี้ตะโกนและหยิบรองเท้าขึ้นมาฟาดเขา
เชี่ยแล้ว…เธอไม่ได้บ้าก็แปลกแล้ว!
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ ซู ฉิวไป่ ไม่รู้ก็คือแฟนคลับของเธอมักจะเห็น กู่ ชิงเหมย นั้นสง่างามและมีเสน่ห์อยู่เสมอ พวกเขาไม่มีโอกาสเห็นเธอทำพฤติกรรมแบบนี้แน่นอนแต่คนขับแท็กซี่คนนี้กลับมีโอกาสนั้น แต่เขากลับปฏิบัติต่อเธอในฐานะผู้หญิงบ้า เขาสิคนบ้า!
สาวใหญ่แห่งวงการสมาคมรถแข่งกำลังอารมณ์เสีย ใครจะคิดว่าการประชุมในครั้งนี้จะจบด้วยความอับอายขายหน้าให้กลับสมาคมรถแข่งของเธอ สิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นและมีการถ่ายทอดสดพร้อมรายงานมากมาย ดูเหมือนเป้าหมายของพวกเขาต้องการให้สมาคมรถแข่งของเธอนั้นอับอาย องค์กรอื่นทั่วโลกจะสูญเสียความมั่นใจต่อสมาคมรถแข่งของเธอ มันส่งผลกระทบต่อการแข่งขันนานาชาติที่กำลังมาถึง
กู่ ชิงเหมย เริ่มตำหนิตัวเองอีกครั้งหากเธอตั้งใจแน่วแน่ที่จะปฏิเสธคำท้าของ คาร์ล เธอคงไม่ต้องเผชิญหน้ากับผลกระทบร้ายแรงเช่นนี้ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว
แต่ทำไมคาร์ลถึงต้องท้าทายในวันนี้?เห็นได้ชัดว่าเขารู้ว่าพี่ชายของฉันและอีก 2 คนไม่ได้อยู่ที่นี่!
หรือความคิดนี้เธอก็นึกถึงอีกเรื่องหากตระกูลเซี่ยไม่ถอนสปอนเซอร์พี่ชายของเธอก็ไม่ต้องจากไป และถ้าไม่ใช่เพราะคนขับรถแท็กซี่ที่หน้าตายคนนั้นและตระกูลกู่กับตะกูลเซี่ยคงไม่ยกเลิกการเป็นสปอนเซอร์สมาคมรถแข่งของเธอ
ใช่แล้ว…ทุกอย่างเข้ากันเป๊ะ!มันเป็นความผิดทั้งหมดของคนขับรถแท็กซี่โง่เง่าคนนั้น!
เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ กู่ ชิงเหมย จ้องมองไปที่ ซู ฉิวไป่ ที่นั่งถัดอยู่จากเธอ เขากำลังจ้องมองโทรศัพท์มือถือของเขาอย่างจริงจังเธอมั่นใจมากขึ้นว่าคนขับรถแท็กซี่คนนี้ไม่ใช่คนดีเช่นกัน
ซู ฉิวไป่ ไม่รู้ว่า กู่ ชิงเหมย ได้บทสรุปที่น่ากลัวและเข้าใจยากสำหรับเขาในตอนนี้เขากำลังมองหาสถานีตำรวจบนแผนที่ในโทรศัพท์มือถือของเขา
หากผู้หญิงคนนี้ไม่ได้ป่วยแสดงว่าเธอกำลังมีปัญหา ไม่อย่างนั้นใครจะนั่งรถแท็กซี่แล้วบอกว่าให้ตรงไปเรื่อยๆ!อีกทั้งยังถอดรองเท้าส้นสูงและโยนใส่เขา จากนั้นเธอก็กลับมาสงบเสงี่ยมนั่งเงียบในตอนนี้
เขาไม่รู้ว่าจะหาวิธีใดจัดการกับผู้หญิงคนนี้ดังนั้นนั่นคือสาเหตุที่เขากำลังมองหาสถานีตำรวจ อย่างไรก็ตามโทรศัพท์ของ กู่ ชิงเหมย ดังขึ้น ซู ฉิวไป่ จึงหันไปมองเธอ สติของเขากลับมาอีกครั้งบางทีคนที่โทรมาอาจเป็นครอบครัวของเธอ!
กู่ ชิงเหมย รู้สึกประหลาดใจหลังจากดูหมายเลขโทรศัพท์มันเป็นพี่ชายของเธอ กู่ ชิงเทียน!
กู่ ชิงเหมย รับโทรศัพท์อย่างรวดเร็วและตั้งใจที่จะบอกให้พี่ชายของเธอกลับมาในทันที แต่เสียงที่อยู่อีกด้านหนึ่งของโทรศัพท์ทำให้เธอรู้สึกหูฝาด
“ชิงเหมย พี่รู้เรื่องทุกอย่างแล้ว เพียงแค่ยอมแพ้การแข่งขันในวันพรุ่งนี้..”
เสียงของ กู่ ชิงเทียน ฟังดูอ่อนแรงและคำพูดของเขาทำให้ กู่ ชิงเหมย พูดไม่ออก
ยอมแพ้?ยอมแพ้ทำไม?
“พี่เกิดอะไรขึ้น” จู่ๆ กู่ ชิงเหมย ก็รู้สึกไม่สบายใจ
“ไม่มีอะไรหรอก เพียงแต่มีคนแทงพี่ด้วยมีด..คนคนนั้นเป็นคนต่างชาติเช่นกัน ดูเหมือนว่าพวกเราทั้งคู่จะเจอปัญหาซะแล้ว พวกเขาไม่ต้องการให้พี่กลับไปยังตงไห่…นี่เป็นแผนสมรู้ร่วมคิด”
คำพูดของ กู่ ชิงเทียน เหมือนค้อนทุบในจิตใจของ กู่ ชิงเหมย เธออดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทา
ซู ฉิวไป่ รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติแต่เขายังคงเงียบอยู่
“พี่เป็นยังไงบ้าง โอเคหรือเปล่า”
สุดท้ายแล้วพวกเขาก็เป็นพี่น้องกันดังนั้น กู่ ชิงเหมย จึงรู้สึกกังวลเกี่ยวกับสภาพของ กู่ ชิงเทียน ในตอนนี้
“มันไม่ได้ร้ายแรงมากนักแต่พี่ยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ ดังนั้นน้องจงจำไว้ว่าให้ยกเลิกการแข่งขันในวันพรุ่งนี้ นี่คือแผนสมรู้ร่วมคิดที่จะทำร้ายเรา ถ้าน้องยอมรับการแข่งขัน น้องอาจตกอยู่ในอันตราย!”
นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ กู่ ชิงเทียน พูดถึงคำว่า “ แผนสมรู้ร่วมคิด”
เหตุผลที่เขาเพิ่มประโยคสุดท้ายนี้ก็เพราะเขาค่อนข้างเข้าใจ ว่าทัศนคติของน้องสาวของเขาเป็นอย่างไร บางทีเธออาจจะต่อสู้จนถึงที่สุดเพื่อประโยชน์ของชื่อเสียง สมาคมรถแข่ง
เขายังเข้าใจอีกด้วยว่าการกระทำของอีกฝ่ายรุนแรงและเด็ดขาดเพียงใด แม้ว่าเขาจะบอกว่าเขาไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสแต่ความจริงแล้วมันตรงกันข้าม มีดแทงทะลุเข้าช่องท้องของเขาเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างฉับพลันเกินไป เขาไม่สามารถตอบโต้ได้ทันเมื่อคนเหล่านั้นพุ่งเข้าหาเขา สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เป็นฝีมือของคนต่างชาติ คนเหล่านั้นถูกจับกุมเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นพร้อมกับการท้าแข่งในตงไห่
“ยอมแพ้งั้นหรอ?”
เมื่อได้ยินว่าพี่ชายของเธอสบายดี กู่ ชิงเหมย ก็เริ่มรู้สึกโล่งใจแต่เมื่อเธอนึกถึงการแข่งขันในวันพรุ่งนี้เธอรู้สึกเป็นกังวลอีกครั้ง
“ใช่แล้ว แค่ยอมรับความพ่ายแพ้ การที่มีชีวิตอยู่ย่อมมีความหวังในอนาคต!”
เสียงของ กู่ ชิงเทียน หนักแน่นโดยไม่มีความลังเลใดๆ กู่ ชิงเหมย เงียบลงหลังจากพี่ชายของเธอพูดจบ เธอต้องการให้พี่ชายของเธอพักผ่อนดังนั้นเธอจึงวางสายอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครเข้าใจอารมณ์ของเธอในตอนนี้ สมาคมรถแข่งคือความฝันของเธอ ในอดีตเธอเฝ้ารอวันที่นักแข่งของเธอจะเข้าสู่เวทีนานาชาติ เธอเฝ้ารอให้วันนั้นมาถึง แต่เมื่อวันนั้นมาถึงเข้าจริงๆกลับ….
กู่ ชิงเหมย เอนตัวลงกับเบาะและมองออกไปด้านหน้าเธอเต็มไปด้วยความผิดหวังและไม่รู้ว่าควรทำอะไรดี ซู ฉิวไป่ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เขาเข้าใจข้อมูลจากการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อสักครู่ รวมกับท่าทางของ กู่ ชิงเหมย เหมือนว่ามันจะเป็นปัญหาใหญ่
ซู ฉิวไป่ จุดบุหรี่และนั่งอยู่เงียบๆถัดจาก กู่ ชิงเหมย หลังจากนั้นไม่นานเธอก็เปิดปากพูดในที่สุด
“ส่งฉันกลับบ้านที วิลล่าหลี่เทียน …ขอบคุณค่ะ”
ในขณะนี้ กู่ ชิงเหมย นั้นแตกต่างจากตอนที่เธอขึ้นรถแท็กซี่ในครั้งแรกอย่างชัดเจนมันทำให้ ซู ฉิวไป่ รู้สึกไม่สบายใจ เขาไม่พูดอะไรเลยเพราะทั้งคู่ถือว่าเป็นคนแปลกหน้า เขาช่วยอะไรไม่ได้มากในฐานะคนขับรถแท็กซี่สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือไปส่งเธอกลับบ้าน
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ซู ฉิวไป่ ก็มาหยุดที่วิลล่าหลี่เทียน กู่ ชิงเหมย จ่ายเงินตามราคารถแท็กซี่แล้วลงจากรถไป อย่างไรก็ตามเธอถูกหยุดโดย ซู ฉิวไป่ ในขณะที่เธอกำลังจะจากไป
“คุณผู้หญิงอย่าท้อแท้ ความหวังมีอยู่เสมอ”
เขาไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงพูดประโยคนี้บางทีเขาแค่พยายามที่จะให้กำลังใจเธอ
กู่ ชิงเหมย ตกตะลึงเล็กน้อยดังนั้นเธอจึงถาม ซู ฉิวไป่ ว่า
“ความหวังอยู่ที่ไหน?”
ผลลัพธ์เดียวที่มีต่อสมาคมรถแข่งของเธอในตอนนี้คือการยอมรับความพ่ายแพ้จากนั้นชื่อเสียงของเธอก็จะป่นปี้ การแข่งขันนานาชาติก็จะจบลง หลังจากนี้คงใช้เวลาอีกนานกว่าเธอจะกู้ชื่อเสียงกลับมาได้ แล้วแบบนี้ความหวังอยู่ที่ไหน
อย่างไรก็ตาม กู่ ชิงเหมย ยังคงกล่าวอย่างสุภาพว่า
“ขอบคุณ” จากนั้นเดินจากไป
ซู ฉิวไป่ มองดู กู่ ชิงเหมย เดินเข้าไปในบ้านพักของเธอจากนั้นเขาเริ่มสตาร์ทเครื่องยนต์และถอนหายใจ
ทุกครอบครัวย่อมมีปัญหาของตัวเอง….
จากนั้นเขาไม่ได้คิดอะไรมากมันเป็นเพียงการพบกันโดยบังเอิญดังนั้นเขาจึงขับรถกลับไปยังโรงพยาบาล ที่โรงพยาบาลตระกูลกู่ได้จัดให้มีคนมาดูแล เซี่ยวเซี่ยว และเพื่อนร่วมชั้นทั้งสองคนของเธอ จางเหวิน และเสี่ยวหลี่ก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน
ซูเซี่ยวเซี่ยว รู้สึกดีขึ้นมากเธอสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ภายในสัปดาห์นี้ การฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเธอมาจากสมุนไพรที่ ซู ฉิวไป่ นำมาให้และโรงพยาบาลเองก็รักษาอาการของเธออย่างจริงจัง ซู ฉิวไป่ เองก็มีความสุขเช่นกันเขากำลังพูดคุยกับ เซี่ยวเซี่ยว ทันใดนั้น เฉา ตั้วเฟย ก็บุกเข้ามาในห้องและพูดว่า
“บอส มีบางอย่างร้ายแรงเกิดขึ้น!”
———————————