ซิ่งทะลุมิติ - ตอนที่ 65
SD:บทที่ 65 จักรพรรดิ์คนที่ 4
โชคดีที่ประชาชนคนอื่นพยายามที่จะหลีกเลี่ยงและซ่อนตัวอยู่ห่างไกลจากเจงกิสข่าน
ซู ฉิวไป่ เป็นห่วงว่าหากเขาเข้าใกล้กับประชาคนคนอื่นๆเขาคงต้องประสบปัญหากับตำรวจอีกครั้งอย่างแน่นอน
หลังจากความพยายามบวกกลับคำแนะนำควบคู่ของจักรพรรดิหลิวเช่อและจักรพรรดิเฉียนหลงในรถแท็กซี่ ในที่สุดเจงกิสข่านก็เข้าใจสถานการณ์
เนื่องจากคันธนูของ เจงกิสข่าน นั้นมีขนาดใหญ่จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเก็บเข้าไปยังหลังรถดังนั้น ซู ฉิวไป่ จึงจอดซื้อเชือกจากร้านใกล้เคียงเพื่อมาผูกคันธนูไว้ด้านบนของตัวรถ และเมื่อเขาผ่านทางแยกเป็นผลทำให้ตำรวจจราจรหยุดเขา
“นี่คืออะไร?”
ซู ฉิวไป่ ออกมาจากรถและตำรวจจราจรก็รีบเข้าไปตรวจสอบในรถ เมื่อมองเห็นดวงตาที่เย็นชาของจักรพรรดิทั้งหลายเขาก็หัวเราะ
“พวกคุณกำลังไปถ่ายหนังกันอย่างนั้นหรอ?แหม มีจักรพรรดิหลายองค์เชียว?”
ซู ฉิวไป่ เองไม่มีอารมณ์ที่จะอธิบายเรื่องต่างๆเขาเพียงหัวเราะและขึ้นรถแท็กซี่
คนในประวัติศาสตร์เหล่านี้กินพื้นที่ในรถแท็กซี่ของเขามากที่จริงเมื่อรวมกับเสื้อคลุมที่รุ่มร่ามของพวกเขา ทำให้ปกติรถแท็กซี่ของ ซู ฉิวไป่ นั่งได้ 4 คนในเบาะหลังแต่กลายเป็นว่าพื้นที่ทั้งหมดถูกยัดด้วยคนเพียง 3 คนเท่านั้น
ซู ฉิวไป่ ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโทรหา เฉา ตั้วเฟย และขอให้เขาเช่าบ้านบริเวณใกล้กลับโรงเรียนของซูเซี่ยวเซี่ยว จากนั้นเขาตกลงที่จะนัดพบกันยังสถานที่แห่งนั้นเขาต้องการส่งจักรพรรดิ์ทั้งสามคนนี้ไปอยู่ในบ้านหลังนั้นก่อน
ในตอนแรกเขาต้องการที่จะจองห้องพักในโรงแรมแต่เนื่องจากโรงแรมนั้นมีผู้คนมากเกินไป ในกรณีนี้อาจมีบางอย่างเกิดขึ้นมันจะสร้างความไม่สะดวกให้กับเขาและจักรพรรดิเหล่านี้ คนอื่นอาจคิดว่าคนเหล่านี้เป็นนักแสดงแต่สำหรับ ซู ฉิวไป่ นั้น ทุกคนที่อยู่ที่นี่เป็นจักรพรรดิตัวจริงแน่นอน!
จากนั้นจึงเป็นการดีที่เขาเลือกจะเช่าบ้านซะดีกว่า และเมื่อเขาออกจากเมืองตงไห่เซี่ยวเซี่ยวก็จะสามารถอาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นได้
เฉา ตั้วเฟย ตกลงช่วยเหลือทันที เขาไม่ได้รับข่าวจากลูกพี่ของเขาตั้งแต่เมื่อคืนในที่สุดตอนนี้เขาก็ได้รับข่าวสารจากลูกพี่ของเขาซะที หลังจากที่ทั้งสองมาพบกันที่จุดนัดพบ ซู ฉิวไป่ ก็ให้จักรพรรดิ์ทั้ง 3 คนติดตาม เฉา ตั้วเฟย ไป ก่อนที่พวกเขาจะแยกจากกัน ซู ฉิวไป่ ได้กำชับจักรพรรดิ์ทั้ง 3 คนว่า ห้ามพูดมากเกินไปเพราะโลกใบนี้เป็นสถานที่ที่อันตรายมาก
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่าจักรพรรดิทั้งสามคนกำลังจะพูดออกมา ซู ฉิวไป่ ก็รู้ว่าคำเตือนของเขาเป็นแค่ลมปาก ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจอะไรอีก เขาต้องไปรับคนที่ 5 ดังนั้นเมื่อพูดจากับ เฉา ตั้วเฟย อยู่สักครู่เขารีบขับตรงไปยังตำแหน่งสุดท้ายซึ่งอยู่ค่อนข้างไกล ดังนั้นเขาจึงสันนิษฐานว่าคนที่ปรากฏอาจเดินไปไม่ไกลนัก
เมื่อถึงที่ตำแหน่งสีแดง ซู ฉิวไป่ เห็นชายคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมปักลายมังกรตั้งแต่แรก แต่แล้ว ซู ฉิวไป่ ก็ยังงงๆอยู่สักพักก่อนที่จะหยุดรถ
เวรแล้ว…นี่มันอะไรกัน?
ทำไมไม่ใช่คนเดียว?แต่ยังมีคนอื่นอีก!
ไม่ใช่แค่ชายในชุดปักลายมังกรแต่มีชายอีก 3 คนที่อยู่ในชุดเกราะแปลกๆ!
ในขณะนั้นทั้ง 4 คนเองก็รู้สึกสับสนเช่นกัน เห็นได้ชัดว่าพวกเขายังคงอยู่ในระหว่างการสนทนากัน การที่พวกเขามาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ และกล่องเหล็กที่เคลื่อนที่ไปมานี่คืออะไรกัน….สิ่งเหล่านี้คืออะไร!
ซู ฉิวไป่ พยายามบังคับตัวเองให้เดินไปทักทายพวกเขา หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พบว่าคนเหล่านี้เป็นใคร
จักรพรรดิไทจง แห่งราชวงศ์ถัง หลี่ซื่อหมิน เป็นจักรพรรดิคนที่ 2 ราชวงศ์ถังของจีน
ถัดจากเขามีเทพเจ้าประจำประตูทั้งสองคน
ยูจิกงและ ฉินซือเป่า สุดท้ายคือ เฉิงเหยาจิ้น
(TL: ยูจิกงและ ฉินซือเป่าเป็นเทพที่รูปบนประตูศาลเจ้า เฉิงเหยาจิ้น เป็นนายพลในราชวงศ์ถัง )
นี่คือจักรพรรดิคนที่ 4 ที่ ซู ฉิวไป่ พบในวันนี้ แต่การมาของจักรพรรดิคนนี้ไม่ธรรมดาเพราะจริงๆแล้วเขามีนายพลที่ทรงพลังมากับเขาด้วย
หลังจากที่โทรหา เฉา ตั้วเฟย ซู ฉิวไป่ ขอให้เขามารับจักรพรรดิเหล่านี้ ในขณะเดียวกันก็ใช้ช่วงเวลานี้อธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับจักรพรรดิไทจง กว่าพวกเขาจะเข้าใจก็เป็นช่วงเวลาที่ เฉา ตั้วเฟย มาถึงพอดี
เมื่อ เฉา ตั้วเฟย ลงจากรถเขาต้องผงะเมื่อเห็นชายใส่ชุดแปลกๆยืนหยัดอยู่กับ ซู ฉิวไป่ เฉา ตั้วเฟย เหงื่อแตกอีกครั้งและดึง ซู ฉิวไป่ เข้าไปกระซิบเงียบๆ
“บอสคุณกำลังทำอะไรอยู่ คุณพบนักแสดงเหล่านี้ที่ไหน คุณกำลังพยายามถ่ายทำหนังเรื่องอะไร?”
3 คนก่อนหน้านี้หนึ่งในนั้นบอกว่าเขาคือจักรพรรดิหลิวเช่อ และอีกคนคือจักรพรรดิเฉียนหลงและคนสุดท้ายยิ่งแล้วใหญ่เขาสวมชุดคลุมของมองโกเลียจริงๆและเขายังบอกว่าเขาคือ เจงกิสข่าน!
ในตอนแรก เฉา ตั้วเฟย พอจะพอทำใจได้แต่ตอนนี้กลับมีเพิ่มขึ้นมาอีก 4 คน!
“ผมจะบอกคุณทีหลังหลังจากเรื่องนี้จบ บ้านที่คุณเช่ามีขนาดใหญ่พอที่จะรับรองพวกเขาหรือไม่”
ซู ฉิวไป่ อารมณ์เสียเล็กน้อยในขณะที่ตอบ เฉา ตั้วเฟย เขาเพิ่งพยายามที่จะเปิดช่องส่งมิติอีกครั้งแต่ผลลัพธ์ยังคงเหมือนเดิมและยังคงแจ้งว่าพลังงานไม่เพียงพอ
แต่จน ณ เวลานี้เขายังไม่รู้เลยว่าพลังงานคืออะไร!
ซู ฉิวไป่ รู้สึกโล่งอกเมื่อได้ยิน เฉา ตั้วเฟย ยืนยันว่าบ้านหลังนั้นใหญ่พอที่จะรับรองทุกคน หลังจากนั้นไม่นานรถทั้ง 2 คันก็แล่นออกไปแต่สิ่งที่พวกเขาคาดไม่ถึงก็คือ เฉา ตั้วเฟยเช่าคฤหาสน์ตากอากาศหลังใหญ่จริงๆ!
เมื่อ ซู ฉิวไป่ ถามเด็กคนนั้นว่าต้องเสียค่าเช่าเท่าไหร่ เฉา ตั้วเฟย เชิดคางของเขาและพูดว่า ไม่เท่าไหร่!
ในตอนนี้ ซู ฉิวไป่ ยังไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องนี้เขาจึงพาจักรพรรดิไทจงและคนของเขาเข้าไปในคฤหาสน์ หลังจากออกมาจากคฤหาสน์ เฉา ตั้วเฟย อาจไม่คิดอะไรเกี่ยวกับฉากที่อยู่ในห้องนั่งเล่นในตอนนี้แต่สำหรับ ซู ฉิวไป่ นั้นมันโคตรอภิมหาเหลือเชื่อ
จักรพรรดิหลิวเช่อ,จักรพรรดิเฉียนหลงแม้กระทั่ง เจ่งกิสข่าน เจงกิสข่านกำลังนั่งอยู่โซฟาเดียวกันและกำลังดูรายการทีวี ซึ่งสิ่งที่กำลังแสดงอยู่บนเวทีนั้น คือโฆษณาขายชุดชั้นในหญิง!
ทั้ง 3 คนช่องที่หน้าจอทีวีอย่างจริงจังโดยไม่สังเกตถึงการมาของคนอื่นจนกระทั่งพวกเขาสังเกตเห็นว่า ซู ฉิวไป่ ยืนอยู่ข้างๆพวกเขาจึงสามารถละสายตาออกจาก ทีวีและลุกขึ้นยืน
“ทำไมสตรีเหล่านี้ถึงได้ไร้ยางอายยิ่งนัก?น่ารังเกียจจริงๆ!”
“ถูกต้องมันไม่น่าดูเลย!”
“เหอะ สตรีมองโกเลียของข้ายังดีกว่า!”
……
คนขับรถยังไม่ทันพูดอะไรแต่ทั้ง 3 คนพยายามที่จะหาข้อแก้ตัวของตัวเอง
“เอ่อ..ผมจะแนะนำใครบางคนให้พวกคุณได้รู้จัก”
เขาคือจักรพรรดิไทจง…”
ในขณะนี้ เฉา ตั้วเฟย ยังคงวุ่นวายอยู่ด้านนอกดังนั้น ซู ฉิวไป่ จึงรีบแนะนำให้พวกเขารู้จักกันก่อน จากนั้น ซู ฉิวไป่ ก็บอกพวกเขาว่าพวกเขาต้องเชื่อฟังคำแนะนำของตน ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะไม่สามารถกลับไปยังยุคสมัยของพวกเขาได้
อาจเป็นไปได้ว่าจักรพรรดิเหล่านี้เชื่ออย่างสมบูรณ์ว่าพวกเขาทะลุมิติมาอย่างอนาคตดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีใครขัดแย้งในข้อนี้ สิ่งเดียวที่จักรพรรดิ์ทั้ง 3 ไม่มีความสุขก็คือ จักรพรรดิไทจง
เจ้าเป็นใครกันถึงมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะนำนายพลของเจ้ามาด้วย แต่ทำไมพวกเราไม่สามารถนำมาได้?
ด้วยเหตุนี้จักรพรรดิทั้งหลายเริ่มทะเลาะกันจนบ้านแทบแตก เพียงแค่ ซู ฉิวไป่ พักเข้าห้องน้ำเท่านั้น
เมื่อมองไปยังสถานการณ์ในห้องนั่งเล่น โดยเฉพาะลูกศรเหล็กที่แทงทะลุกับผนัง จากนั้นสังเกตเห็นว่า เฉิงเหยาจิ้น กับเจงกิสข่านกำลังถกแขนเสื้อเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ ซู ฉิวไป่ รู้สึกอยากจะบ้าตาย มันทำให้เขายิ่งรู้สึกว่าต้องหาพลังงานเปิดช่องมิติโดยเร็วที่สุด แม้ว่าเขาจะทำบททดสอบไม่สำเร็จแต่เขาจำเป็นต้องส่งคนเหล่านี้กลับไปให้เร็วที่สุด
เฉา ตั้วเฟย ที่เข้ามาเริ่มคิดว่าคนเหล่านี้ค่อนข้างตลก แต่หลังจากถูกโยนไปมาถึง 2 ครั้งติดต่อกัน มันเริ่มทำให้เขาหวาดกลัว
คนเหล่านี่ไม่ใช่นักแสดงพวกเขาจะต้องเป็นคนเสียสติอย่างแน่นอน!
ดังนั้นเขาไม่ลังเลที่จะติดตาม ซู ฉิวไป่ ออกจากคฤหาสน์ ทั้งสองคนออกไปสูบบุหรี่ด้านนอกเพื่อทำจิตใจให้สงบในขณะที่พวกเขาก็ได้ยินเสียงในคฤหาสน์ดังมาจากระยะไกล
“ฮ่าฮ่า ลองอีกครั้ง!ข้ากำลังสนุก!”
“มันรู้สึกเหมือนพวกเรามีความสัมพันธ์ราวกับพี่น้อง!”
“ข้าจะบอกความจริงกับท่าน ความจริงแล้วตอนที่ท่านตายเรื่องราวค่อนข้างแย่ เพราะท่านเห็นแก่ตัว….”
“อย่าพูดมากเลยตอนเจ้าสิ้นชีพก็เป็นแบบเดียวกัน…”
……
“บอสนี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย!”
เฉา ตั้วเฟย รู้สึกชีวิตของเขาเริ่มไม่ปกติแล้วและเมื่อเห็นคนเหล่านั้นเขารู้สึกเหมือนเขากลับเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาอีกครั้ง
“ผมไม่รู้จะอธิบายให้คุณฟังยังไง ยังมีอีกคนที่ผมยังตามหาไม่พบ!”
ซู ฉิวไป่ ส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้เขารู้สึกรำคาญมาก หากเขาหาคนสุดท้ายไม่ได้ภายใน 10 วันและหาพลังงานที่จำเป็นในการเปิดช่องมิติไม่พบแล้วก็…..
เมื่อคิดได้ดังนั้น ซู ฉิวไป่ ก็จุดบุหรี่ขึ้นสู่อีกมวน
เขาได้รับการแจ้งจากระบบก่อนหน้านี้แล้วว่าถ้าเขาไม่สามารถทำงานให้สำเร็จได้ภายในเวลาที่กำหนดเขาจะตาย!
แต่ฉันมีเวลาแค่ 10 วันเท่านั้น…ฉันจะสามารถทำมันได้อย่างนั้นหรอ?
นึกถึงเรื่องนี้ ซู ฉิวไป่ เริ่มรู้สึกเสียใจที่กดทำการทดสอบใบขับขี่โดยไม่ยั้งคิด แต่ตอนนี้มันสายเกินไปแล้ว
…..
ในขณะเดียวกันในบาร์แห่งหนึ่งในเมืองตงไห่ มีกลุ่มอันธพาลล้อมรอบชาย 4 คนที่มีลักษณะแปลกๆ คนที่ยืนอยู่ตรงกลางนั้นสวมเสื้อคลุมปักลายมังกรสีดำและอีก 3 คนที่เคียงข้างเขานั้นดูน่ากลัวยิ่งกว่า
“น้องชายจัดการพวกมันก็เถอะ!กูไม่อยากจะเชื่อว่ามีไอ้โง่ในเมืองตรงให่กล้าหือกับพวกเรา!”
หัวหน้าอันธพาลสั่งคำสั่งและสมาชิกในแก๊งพุ่งตรงเข้าไปยังกลุ่มคนนั้นทันที
———————————————–