ซิ่งทะลุมิติ - ตอนที่ 77
SD:บทที่ 77 เรื่องบังเอิญ
ฝูงชนที่มุงอยู่รอบข้างรู้สึกแปลกๆ ตำรวจกำลังรักษาความสงบแต่ทำไมคนเหล่านี้ถึงแทรกตัวเข้าไป?เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาเป็นตำรวจด้วยเช่นกัน?
ลู่หมิง พยายามที่จะวิ่งหนีแต่ถูกจับตัวโดย เจ่งกิสข่าน
“แกกำลังทำอะไร?แกไม่รู้หรอกว่า…”
อย่างไรก็ตามก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค เซียเซี่ยวโม ก็เข้ามาหยุดเขาทันที
ลู่หมิง รู้สึกแปลกๆทำไม เซียเซี่ยวโม ที่ขอให้เขาช่วยปิดกั้นฝูงชนกลับเดินเข้ามาหยุดไม่ให้พูดกับคนเหล่านี้
“พวกคุณมาทำอะไรที่นี่?”
เซียเซี่ยวโม รู้สึกประหม่าเล็กน้อย ฝูงชนอาจจะไม่รู้จักคนเหล่านี้แต่เธอรู้ดีว่าพวกเขาน่ากลัวแค่ไหน! อย่างไรก็ตามในฐานะตำรวจเธอยังคงถามเจงกิสข่านและคนอื่น
“ไม่ต้องกังวล เรามาที่นี่เพื่อช่วยชีวิตคน!” เฉาตั้วเฟย รีบอธิบายแม้สถานการณ์ในตอนนี้จะแปลกไปสักหน่อย เจงกิสข่านและเฉิงเหยาจิ้นไม่สนใจ เซียเซี่ยวโม เขาเดินตรงไปที่รถตู้ทันที
ในเวลานี้มีฝูงชนล้อมรอบหลายร้อยคน ทุกคนต่างจ้องมองชายบึกบึนเหล่านี้พวกเขาไม่เข้าใจว่าคนเหล่านี้พยายามจะทำอะไร ท่ามกลางสายตาของผู้คนเจงกิสข่านและเฉิงเหยาจิ้น พากันจับที่มุมรถตู้ด้านหลังทั้งสองมุม
เฮ้ย!…พวกเขากำลังดึงรถตู้เข้ามา!
ไม่มีใครเชื่อว่าพวกเขาจะทำได้มีแต่คนคิดว่าชาย 2 คนนี้จะต้องเป็นคนเสียสติอย่างแน่นอน
แต่…รถตู้ที่อยู่ในตำแหน่งอันตรายก็ถูกดึงกลับมาอีกด้านจริงๆ!
ด้วยเสียงคำรามของเจ่งกิสข่านและเฉิงเหยาจิ้น รถตู้ก็ถูกดึงมาไว้บนถนน!
จากความวุ่นวายตกอยู่ในความเงียบทันที!
เหล่าผู้ชมอดไม่ได้ที่จะ ทุบตีตัวเอง เพื่อยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป!
คุณเคยจินตนาการว่าจะได้เห็นใครบางคนยกรถตู้หรือเปล่า?
ปากของ ลู่หมิง อ้ากว้างจนแทบยัดไข่ไก่ลงไปในปากของเขาได้ ในขณะเดียวกันเขารู้สึกขอบคุณ เซียเซี่ยวโมก่อนหน้านี้ ที่หยุดยั้งไม่ให้เขาด่าทอผู้ชายพวกนี้ไม่อย่างนั้นเขาอาจจะต้องตายเพราะสัตว์ประหลาดเหล่านี้อย่างแน่นอน
หลังจากฝูงชนเงียบๆสักพักพวกเขาเริ่มส่งเสียงปรบมือและส่งเสียงเชียร์ ทุกคนมักชื่นชมวีรบุรุษโดยเฉพาะสถานการณ์แบบนี้ ไม่มีใครคิดถึงช่วงที่เจ่งกิสข่านกระทำต่อ ลู่หมิง ก่อนหน้านี้
ผู้คนที่ติดอยู่ในรถตู้ได้รับการช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว พวกเขาพยายามที่จะเข้าไปหาเจ่งกิสข่านและเฉิงเหยาจิ้นเพื่อขอบคุณพวกเขา
ในตอนแรก เฉาตั้วเฟย เกรงว่าบรรพบุรุษเหล่านั้นจะเกิดความรำคาญ แต่ผลลัพธ์ที่ปรากฏออกมาน่าประหลาดใจทีเดียว พวกเขาสุภาพและร่าเริง ทันใดนั้น เฉาตั้วเฟย ก็เข้าใจเอกลักษณ์ของคนเหล่านี้ได้ทันทีไม่น่าแปลกใจที่พวกเขาสามารถทิ้งชื่อไว้ในประวัติศาสตร์ ดูเหมือนว่าพวกเขาเข้าใจถึงความสำคัญของผู้คน
หลังจากลังเลมาสักพัก เซียเซี่ยวโมวางแผนที่จะแสดงความขอบคุณ แต่ก่อนที่เธอจะได้พูดอะไร เฉิงเหยาจิ้น ก็ถามขึ้นว่า ตอนนี้พวกเขาสามารถข้ามสะพานได้หรือยัง
เซียเซี่ยวโม ค่อนข้างอับอาย ตอนนี้รถยนต์และรถบรรทุกไม่ได้ปิดกั้นการจราจรอีกต่อไป แต่ราวสะพานยังคงถูกชนอยู่กลางถนนดังนั้นพวกเขาจึงต้องรอให้รถดับเพลิงมาจัดการ
อย่างไรก็ตามในช่วงที่เธอกำลังลังเลใจอยู่นั้น เจ่งกิสข่านก็เดินไปยกราวสะพานออกจากถนน มันเป็นอีกฉากหนึ่งที่น่าตกใจ อย่างไรก็ตามบรรพบุรุษเหล่านี้ไม่มีเวลาว่างที่จะมาสนใจเรื่องแบบนี้พวกเขาต้องการรีบไปแข่งม้า!
ดังนั้นไม่นานบนถนนก็ถูกเคลียร์ รถสปอร์ตของพวกเขาสามารถออกเดินทางได้อีกครั้ง เซียเซี่ยวโม รู้สึกตกใจเมื่อเห็นรถหรูหลายคันขับผ่านสถานที่เกิดเหตุ เธอไม่เคยเห็นการรวมกลุ่มของรถหรูหราแบบนี้มาก่อน เธอยิ่งสงสัยเกี่ยวกับตัวตนของพวกเขาเหล่านี้และคนขับแท็กซี่ที่ชื่อ ซูฉิวไป่
อีกไม่กี่นาทีต่อมารถดับเพลิงและตำรวจจราจรก็มาถึง หลังจากเห็นพวกเขามารับงานต่อ เซียเซี่ยวโม จึงส่งต่อหน้าที่นี้และจากไปในขณะที่ ลู่หมิง ติดตาม เซียเซี่ยวโม ไปเช่นกัน
บางครั้งโชคมักจะขัดต่อความต้องการของใครบางคน ในตอนที่อยู่มหาลัย ลู่หมิง มักจะใช้ประโยชน์จากความมั่งคั่งของครอบครัวของเขาเพื่อไล่ตาม เซียเซี่ยวโม อยู่เสมอแต่เธอกลับไม่มีความรู้สึกใดๆให้กับเขาเลย
อย่างไรก็ตามเนื่องจากอาการเจ็บป่วยของหลานสาวทำให้ เซียเซี่ยวโม ต้องติดต่อกับ ลู่หมิง อีกครั้ง
ลู่หมิง รู้สึกตื่นเต้นมากเมื่อได้ยินว่า เซียเซี่ยวโม ต้องการขอความช่วยเหลือโดยการย้ายผู้ป่วยมายังโรงพยาบาลตงไห่
มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่าผู้หญิงคนนี้เอาใจยากแค่ไหนโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เธอกลายเป็นตำรวจ เมื่อใดก็ตามที่เขาจินตนาการใบหน้าที่งดงามเหมือนนางฟ้าของเธอและรูปร่างที่แสนจะยั่วยวนเขารู้สึกตื่นเต้นทันที
ดังนั้นหลังจากที่เขาเข้าใจสถานการณ์ของหลานสาว เซียเซี่ยวโม เขาตัดสินใจแล้วว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาจะต้องเผด็จศึกกับ เซียเซี่ยวโม ในครั้งนี้!
รองผู้อำนวยการแผนกกุมารเวชเป็นลุงของเขา ด้วยความสัมพันธ์นี้ทำให้คนไร้ค่าเช่นเขาสามารถทำงานอยู่ในโรงพยาบาลตงไห่
อย่างไรก็ตาม ลู่หมิง ไม่เคยรู้สึกละอายใจ เขารู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ เซียเซี่ยวโม มาขอความช่วยเหลือจากเขาเขารู้สึกราวกับว่าเขาเป็นผู้ชนะ
“โอ้ เซียวโม ผมได้บอกคุณก่อนหน้านี้แล้วว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับผมที่จะย้ายผู้ป่วยมายังโรงพยาบาลตงไห่คุณเข้าใจใช่ไหมโรงพยาบาลตงไห่ไม่ใช่แค่โรงพยาบาลธรรมดา…”
เมื่อทั้งสองคนกำลังรอรถอยู่ข้างถนน ลู่หมิง ก็ตัดสินใจที่จะพูดเรื่องนี้ขึ้นมา
“ถ้ามันยาก ก็ลืมมันซะ ขอบคุณ” เซียเซี่ยวโม รู้สึกไม่สบายใจอย่างมากที่ ลู่หมิง เรียกเธออย่างสนิทสนมและตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจที่ขอร้องเขา
“ไม่ต้องกังวล ผมไม่ได้บอกว่าเรื่องนี้เป็นไปไม่ได้!ลุงของผมทำงานอยู่ที่แผนกกุมารเวชดังนั้น…”
ต้องบอกว่าในขณะที่ ลู่หมิง พูดเขาจ้องมองสัดส่วนของ เซียเซี่ยวโม ตั้งแต่หัวจรดเท้า มันทำให้เธออยากจะชกหน้าเขาเลยทันที
“ลืมมันไปซะ!นายไม่จำเป็นต้องทำอะไร”
เซียเซี่ยวโม พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองและหันหลังกลับแต่ ลู่หมิง กับขวางเธอไว้ เซียเซี่ยวโม รู้สึกราวกับว่าเธอกำลังจะระเบิด เธอมักจะเย็นชากับทุกคนเสมอหากไม่ใช่เพราะหลานสาวตัวน้อยของเธอเธอคงไม่ขอร้องคนที่ชั่วร้ายเหมือนชายคนนี้
เซียเซี่ยวโม หายใจเข้าลึกๆเธอกำลังวางแผนที่จะเตือนเขาเป็นครั้งสุดท้ายแต่เมื่อเธอเห็นรถแท็กซี่เธอไม่ลังเลที่จะเปิดประตูออกและเข้าไปนั่งทันที ลู่หมิง เองก็รีบขึ้นรถแท็กซี่ด้วยเช่นกัน
คนขับรถแท็กซี่คือ ซูฉิวไป่ เขาหันไปมองผู้โดยสารทั้งสองคน
เขารีบมาที่นี่เนื่องจากได้ยินเรื่องเกี่ยวกับอุบัติเหตุ เขาเพิ่งจอดรถริมถนนแล้ววางแผนที่จะไปดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแต่คนสองคนนี้กลับขึ้นรถแท็กซี่ของเขา
ในขณะที่เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่..เฮ้ช่างน่าบังเอิญจริง ฉันรู้จักผู้หญิงคนนี้!
เซียเซี่ยวโม รอแท็กซี่มานานในที่สุดเธอก็เจอ แท็กซี่คันนี้ อย่างไรก็ตามเมื่อเธอเงยหน้าขึ้นเพื่อขอให้คนขับขับรถออกไปเธอก็ต้องตะลึงเมื่อคนขับคือ ซูฉิวไป่!
ทั้งคู่ตกตะลึงในเวลาเดียวกัน
“ช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่คุณอยู่ที่นี่!”
“อ่า…ใช่มันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ..คุณก็มาที่นี่ด้วย”
การสนทนาที่อธิบายไม่ได้ระหว่างสองคนทำให้ ลู่หมิงตื่นตัว
เขาไม่เคยเห็น เซียเซี่ยวโม พูดจากับใคร ด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนเช่นนี้มาก่อน
“คุณทั้งสองคนรู้จักกันหรอ?”
เมื่อสังเกตเห็นว่า ซูฉิวไป่ เป็นเพียงคนขับแท็กซี่ ลู่หมิง รู้สึกโล่งใจ แต่เขายังคงถามขึ้น
“ผมเดาว่าคุณคงมาที่นี่เพราะว่าเกิดอุบัติเหตุที่นี่ใช่ไหม”
ซูฉิวไป่ ไม่ได้ใส่ใจ ลู่หมิง เขายังคงมองผ่านไปถามคำถามกับ เซียเซี่ยวโม
“ ใช่ แต่ทุกอย่างได้รับการแก้ไขแล้ว..คุณรู้ใช่ไหม”
มีเพียง เซียเซี่ยวโมที่เข้าใจ คำพูดของเธอ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในบาร์ก่อนหน้านี้ทำให้เธอสังเกตเห็นสิ่งหนึ่งนั่นคือความสัมพันธ์ระหว่าง ซูฉิวไป่ กับนักสู้ที่ดูเหมือนเสียสติเหล่านั้น แต่ดูเหมือนว่า ซูฉิวไป่ ไม่รู้ว่าอุบัติเหตุด้านหน้าได้รับการแก้ไขแล้ว
แน่นอนว่า ซูฉิวไป่ ไม่รู้ เขาคิดว่าบรรพบุรุษทั้งหลายยังคงเล่นเกมไพ่อยู่ที่บ้านพัก เขาไม่เคยคิดว่าคนเหล่านั้นจะออกเดินทางไปยังชานเมืองเพื่อแข่งม้าหลังจากออกมาจากมหาวิทยาลัยตงไห่
“เอิ่ม..ผมควรรู้อะไร?”เมื่อเห็นการมองของ เซียเซี่ยวโม ซูฉิวไป่ ค่อนข้างรู้สึกอึดอัด
“โอ้ไม่มีอะไร…ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว คุณไปส่งพวกเราที่โรงพยาบาลได้ไหม”
สุดท้ายแล้วเธอตัดสินใจที่จะไม่พูดความจริงออกมาเธอยังคงถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนที่ ซูฉิวไป่ จะตอบอะไร ลู่หมิง ก็พูดแทรกขึ้นมาว่า
“ทำไมคุณต้องสุภาพกับคนขับรถแท็กซี่ด้วย?ฉันจะให้ 100 หยวนไปส่งที่โรงพยาบาลหน่อย!”
หลังจากที่เขากล่าวจบเขาหันไปมอง เซียเซี่ยวโม ด้วยความภาคภูมิใจ
————————————–