Super God Gene - ตอนที่ 1973
ถ้ำเสวียนเยวี๋ยน
“มันจะบินขณะที่แบกสิ่งของหนักๆได้ไหม?” หานเซิ่นถามขณะที่ตรวจดูนกตัวนั้น
“ได้ มันแข็งแกร่งกว่านกกระเรียนหยกรัตติกาลระดับบารอน แต่มันไม่มีขา ส่วนปีกของมันก็ได้รับความเสียหาย”
ยวิ๋นซู่อีพูดย้ำ “ดังนั้นมันคงจะบินเร็วได้ไม่กว่าระดับบารอนทั่วๆไป และความสามารถในการต่อสู้ของมันก็เทียบกับสัตว์ขี่ระดับไวเคานต์ตัวอื่นไม่ได้”
“ข้าเลือกมัน” หานเซิ่นไม่ได้มีแผนจะให้สัตว์ขี่ทำการต่อสู้อยู่แล้ว
นกกระเรียนหยกรัตติกาลที่ได้รับความเสียหายนั้นราคาไม่แพง ยวิ๋นซู่อีจึงให้ราคาที่ดีมากๆกับหานเซิ่น
นกกระเรียนหยกรัตติกาลนั้นเชื่องมากๆ และหานเซิ่นก็สามารถเรียนรู้วิธีสั่งการพวกมันอย่างรวดเร็ว เขาสามารถควบคุมการบินของมันได้อย่างง่ายดาย
เนื่องจากมันไม่มีขา มันจึงลงจอดด้วยท้องของมัน และเนื่องจากปีกของมันได้รับความเสียหาย มันจึงไม่สามารถบินตรงๆได้ และความเร็วของมันก็ไม่ได้เลิศเลออะไร
โชคดีที่หานเซิ่นไม่ได้คาดหวังสูงอะไรมาก ดังนั้นหลังจากที่เขาทำการซื้อเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็ขี่มันกลับไปที่เกาะของเขา
นกกระเรียนหยกรัตติกาลตัวนั้นดูตื่นเต้นที่จะได้โบยบินอีกครั้ง มันส่งเสียงร้องออกมาอย่างรื่นรมย์
“เจ้านกที่น่าสงสาร มันได้รับบาดเจ็บเพราะเจ้านายของมัน หลังจากนั้นมันก็ถูกทอดทิ้ง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงเชื่องและรับฟังคำสั่ง” หานเซิ่นถอนหายใจ
เมื่อกลับถึงเกาะของเขา หานเซิ่นก็ให้นกกระเรียนลงจอด แต่ก่อนที่มันจะลงถึงพื้น หานเซิ่นก็กระโดดลงจากหลังของมัน
ท้องของนกกระเรียนชนเข้ากับพื้น ขณะที่มันกระพือปีกอย่างลนลาน มันพยายามจะควบคุมตัวเองในตอนที่ลงจอด แต่ความพยายามของมันไปไม่สวยนัก
หานเซิ่นมอบอาหารให้กับมัน หลังจากนั้นเขาก็กลับเข้าไปในบ้าน ก่อนที่จะไปที่ถ้ำเสวียนเยวี๋ยน หานเซิ่นต้องการจะรู้ถึงระดับความแข็งแกร่งของตัวเองในตอนนี้ เขานำของทั้งหมดที่ครอบครองอยู่ออกมา
อาวุธจีโนมนตราระดับเอิร์ล วิญญาณอสูรรองเท้าเขี้ยวกระต่ายระดับดยุก วิญญาณอสูรถุงมือมิงค์หมอกแดงระดับเอิร์ลและมีดเขี้ยวผีสิงระดับราชัน
ด้วยการที่มีมีดเขี้ยวผีสิงอยู่ วิชามีดเขี้ยวดาบก็ยังคงเป็นสิ่งที่พึ่งพาได้มากที่สุด แต่วิชามีดเขี้ยวดาบไม่ได้มีขั้นต่อไปให้ฝึก ดังนั้นเขาจึงมีแผนที่จะฝึกวิชาจีโนอย่างอื่นแทน
ด้วยการใช้กระแสพลังของไพ่เวทย์มนต์เต่าหยกและพลังเหรียญ หานเซิ่นมีแผนที่จะคิดค้นวิชาจีโนตัวใหม่ขึ้นมา
‘แต่เราควรจะใช้เหรียญหรือวิชาจีโนที่ดูเหมือนกับเหรียญเฉพาะในตอนที่ใช้ตัวตนของดอลลาร์เท่านั้น ไม่อย่างนั้นคนอื่นก็อาจจะสงสัยได้ แต่เราควรจะคิดค้นวิชาจีโนแบบไหนขึ้นมาดี?’ หานเซิ่นครุ่นคิดเกี่ยวกับมัน และไม่นานเขาก็เกิดความคิดบางอย่าง
ไพ่เวทย์มนต์เต่าหยกเน้นไปที่การจำกัดความเร็วของเป้าหมาย คนที่ถูกมันเข้าจะไม่สามารถบินขึ้นได้ หานเซิ่นต้องการจะใช้จุดนั้นในวิชาจีโนตัวใหม่ของเขา แต่สำหรับการปรับปรุงวิชาเหรียญเป็นสิ่งที่เขาจะทำในภายหลัง
หานเซิ่นทดลองความคิดอยู่ภายในห้อง การรวมพวกมันเข้าด้วยกันไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไป และเขาก็สามารถสร้างวิชาจีโนใหม่ขึ้นมาผ่านการทดสอบซ้ำๆหลายต่อหลายครั้ง
หลังจากที่ทำการทดสอบอยู่ทั้งคืน ในที่สุดเขาก็คิดค้นต้นแบบของวิชาจีโนตัวใหม่ขึ้นมาได้สำเร็จ มันเป็นสิ่งที่เขาสามารถใช้ได้อย่างไม่ยากเย็นอะไร ตอนนี้ทั้งหมดที่เขาต้องทำก็คือปรับแต่งมันอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“ฉันจะเรียกวิชาจีโนนี้ว่าเต่า” หานเซิ่นตัดสินใจ
แต่เนื่องจากไม่มีเป้าหมายให้ลอง ดังนั้นเขาจึงยังไม่รู้ว่าวิชาเต่ามีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน
หานเซิ่นกลับไปพักผ่อน และเมื่อถึงเวลาเขาก็เดินออกจากบ้าน นกกระเรียนไร้ขากำลังพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ หานเซิ่นป้อนอาหารมันอีกครั้ง หลังจากนั้นเขาก็ขี่มันไปยังสถานที่ที่นัดหมายกันเอาไว้
ภายนอกถ้ำเสวียนเยวี๋ยน หานเซิ่นเห็นกระเรียนพันขน เฟิร์สเดย์และพี่น้องตระกูลยวิ๋นมารออยู่ก่อนแล้ว
ยวิ๋นซู่ซางพูด “ซู่อีต้องการจะติดตามพวกเราไปด้วย ข้าจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยของนางเอง ดังนั้นไม่ต้องกังวล”
เมื่อยวิ๋นซู่ซางพูดออกมาอย่างนั้น มันก็ไม่มีใครคัดค้าน พวกเขาทิ้งสัตว์ขี่เอาไว้ข้างนอกและเดินเข้าไปในถ้ำเสวียนเยวี๋ยน
เกาะเสวียนเยวี๋ยนดูเหมือนกับภูเขาไฟเล็กๆ ทางเข้าของภูเขาไฟนั้นเต็มไปด้วยถ้ำ ซึ่งถ้ำแต่ละถ้ำจะนำไปในทิศทางที่แตกต่างกันออกไป และพวกมันก็มีซีโน่เจเนอิคจำนวนมากอาศัยอยู่ภายใน
ซีโน่เจเนอิคของถ้ำเสวียนเยวี๋ยนนั้นพิเศษมากๆ ซึ่งตัวที่พิเศษที่สุดนั้นถูกเรียกว่าวิญญาณหยกเสวียน วิญญาณหยกเสวียนสามารถเดินทางผ่านกำแพงและปรากฏตัวออกมาจากทุกซอกทุกมุมที่พวกมันต้องการ ซึ่งทำให้รับมือได้ยาก
ดังนั้นเมื่อเข้าไปภายในถ้ำ พวกเขาก็ต้องระมัดระวังตัว เพราะพวกเขาอาจจะวิญญาณหยกเสวียนโจมตีได้ทุกเมื่อ
“ศิษย์น้องหาน นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าเข้ามาในถ้ำเสวียนเยวี๋ยน ดังนั้นระวังตัวให้ดี วิญญาณหยกเสวียนนั้นจะปรากฏตัวออกมาโดยไม่มีการเตือนใดๆ”
“พวกเราอาจจะช่วยเจ้าได้ไม่ทันเวลา ถ้าพวกมันมุ่งเป้าไปที่เจ้า” ยวิ๋นซู่ซางพูด
หานเซิ่นพยักหน้า เขาเปิดใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนและคอยจับตาทุกๆอย่างรอบๆตัว การเคลื่อนไหวในรัศมี 10 เมตรนั้นไม่สามารถหนีรอดจากสายตาของเขา
พวกเขาเดินลึกเข้าไปในถ้ำกว่าหนึ่งไมล์โดยไม่เจอซีโน่เจเนอิคเลยสักตัว แต่หานเซิ่นก็ไม่ได้ชะล่าใจ เขายังคงใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนอยู่ตลอดเวลา
แต่ทันใดนั้นหานเซิ่นก็เห็นมือหยกสีดำออกมาจากพื้น มันพยายามจะจับขาของยวิ๋นซู่อี กรงเล็บสีดำของวิญญาณหยกเสวียนเป็นเหมือนกับมีด ถ้ามันจับขาของยวิ๋นซู่อีได้ล่ะก็ มันก็จะฉีกขาของเธอได้อย่างง่ายดาย
เพราะว่าพวกเขาไม่ได้พบกับวิญญาณหยกเสวียนเป็นเวลานาน ยวิ๋นซู่อีจึงชะล่าใจ และอีกอย่างเธอก็เป็นเพียงแค่ไวเคานต์ เธอไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะตอบสนองได้ทันเวลา
หานเซิ่นเรียกมนตราออกมา และสั่งให้เธอยิงปืนออกไป หลังจากที่เสียงปืนดังขึ้น กรงเล็บทั้ง 2 ของวิญญาณหยกเสวียนก็แตกหักโดยกระสุนนั่น
เมื่อกระสุนถูกเป้าหมาย มันก็ทิ้งสัญลักษณ์เอาไว้
วิญญาณหยกเสวียนดึงมือที่บาดเจ็บของมันกลับเข้าไปในพื้นอย่างไร้ร่องรอย พื้นผิวของหินยังคงสมบูรณ์ราวกับว่ามือของวิญญาณหยกเสวียนไม่เคยโผล่ขึ้นมาตั้งแต่แรก
หานเซิ่นสังเกตว่าเขาสามารถสัมผัสตำแหน่งมือของวิญญาณหยกเสวียนที่หายเข้าไปในพื้นหินได้
“นี่คือพลังที่มนตรามีอย่างนั้นหรอ?’ หานเซิ่นรู้สึกแปลกใจ เมื่อมนตรายิงถูกเป้าหมาย มันเหมือนกับว่าเธอได้ติดเครื่องติดตามเอาไว้ ถึงมันจะไม่ได้สร้างความเสียหายอะไร แต่มันก็มีประโยชน์มากๆ