Super God Gene - ตอนที่ 2107
‘ว้าว! นั่นเป็นเทคนิคที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้’ หานเซิ่นขมวดคิ้ว ในตอนแรกเขาคิดว่าด้วยการช่วยเหลือจากผู้นำของปราสาทนภา เขาก็คงจะได้รับพลังแห่งการเกิดใหม่ได้อย่างง่ายดาย แต่สถานการณ์มันไม่ได้เป็นไปอย่างที่เขาคิดเอาไว้
ถ้าหานเซิ่นแค่ต้องเผชิญหน้ากับ 1 ใน 2 พี่น้อง วงแหวนที่ผู้นำของปราสาทนภาสอนให้กับเขาก็พอจะมีโอกาสชนะอยู่ แต่ตอนนี้เมื่อพี่น้องทั้ง 2 รวมพลังกันเพื่อต่อสู้กับหานเซิ่น เขาก็ไม่มีหวังจะเอาชนะได้
เมื่อเห็นพลังแห่งการเกิดใหม่มุ่งตรงเข้าไปหาแอนโดล่า หานเซิ่นก็พยายามคิดหาหนทางที่พลิกสถานการณ์ แต่เมื่อวงแหวนที่ผู้นำของปราสาทนภาสอนให้กับเขาไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงพอ เขาก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี
การพยายามดึงดูดพลังแห่งการเกิดใหม่ด้วยพลังชีวิตเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์ เนื่องจากพลังชีวิตของเขาอ่อนแอกว่าแอนโดล่า นี่ยังไม่รวมถึงเรื่องที่มันเป็นการแข่งขันแบบ 2 ต่อ 1
“เราไม่ควรจะกังวลมากเกินไป” หานเซิ่นกัดฟันและเริ่มร่ายวิชากายหยก หลังจากนั้นเขาก็บินเข้าไปหาพลังแห่งการเกิดใหม่
หานเซิ่นอยากจะลองดูว่าพลังระดับมาร์ควิสของกายหยกสามารถแช่แข็งพลังแห่งการเกิดใหม่ได้ไหม
เมื่อแอนโดล่าและแองเจล่าเห็นหานเซิ่นพยายามบินเข้าไปหาไข่ติดปีก พวกเขาก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร พวกเขาแค่หัวเราะด้วยความดูถูก พลังแห่งการเกิดใหม่ไม่ใช่สิ่งที่จะใช้พละกำลังชิงไปได้ แม้แต่ยอดฝีมือระดับราชันก็ไม่สามารถใช้กำลังเพื่อคว้าพวกมันมาเป็นของตัวเองได้
ผู้อาวุโสเฟเธอร์แฟรี่ยิ้มออกมาและหันไปพูดกับยวิ๋นฉางคง
“ผู้อาวุโสยวิ๋น เขาช่างไม่มีความอดทนซะจริงๆ เจ้าไม่ได้บอกเขาหรือว่าพลังแห่งการเกิดใหม่ไม่อาจใช้กำลังช่วงชิงไปได้น่ะ?”
“ฮ่า! มันถือเป็นเรื่องดีที่คนหนุ่มจะบ้าบิ่น พวกเขาควรจะลองทุกสิ่งทุกอย่างที่ในตอนที่พวกเขายังมีเวลา” ยวิ๋นฉางคงพูด
ยวิ๋นฉางคงคิดว่าหานเซิ่นทำในสิ่งที่ถูกต้อง ถึงแม้เขาอาจจะทำไม่สำเร็จก็ตาม ผู้คนที่เอาแต่นั่งเฉยโดยไม่ลองทำอะไรถือเป็นอะไรที่เลวร้ายที่สุด ไม่ว่าโอกาสสำเร็จจะต่ำสักแค่ไหน ทุกคนก็ควรจะต่อสู้ให้ถึงที่สุด
ดังนั้นถึงแม้พวกเฟเธอร์จะมองว่าหานเซิ่นเป็นเหมือนกับตัวตลก แต่ยวิ๋นฉางคงเชื่อจากใจจริงว่าหานเซิ่นทำในสิ่งที่ถูกต้อง เขานับถือการกระทำของหานเซิ่น
มันเป็นความจริงที่หานเซิ่นไม่เคยชะรอความเร็วหรือหยุดพยายาม ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นอะไรที่ยากเย็นขนาดไหน เขาก็ไม่มีวันจะยอมแพ้ มันอาจจะดูเป็นเรื่องง่ายที่จะไม่ยอมแพ้ แต่น้อยคนนักที่จะทำแบบเขาได้
เมื่อแสงเทพของกายหยกไปถูกหนึ่งในพลังแห่งการเกิดใหม่ พลังในการแช่แข็งของแสงเทพก็ไม่ได้ส่งผลอะไร พลังพุ่งผ่านไข่ติดปีกไปราวกับว่ามันเป็นเพียงแค่เงา
“ไม่ได้ผลจริงๆด้วย” หานเซิ่นคาดเดาเอาไว้อยู่แล้วว่าผลจะออกมาเป็นแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ผิดหวังอะไร
แอนโดล่าและแองเจล่าแสดงความดูถูกเหยียดหยามยิ่งกว่าเดิม แอนโดล่ายิ้มเยาะออกมา
“พลังแห่งการเกิดใหม่ไม่ใช่สิ่งที่จะใช้กำลังชิงไปได้ เจ้าต้องรอให้พวกมันเลือกที่จะเข้าไปในร่างกายของเจ้าเอง นี่เจ้าไม่รู้อย่างนั้นหรอ?”
พวกเฟเธอร์หัวเราะออกมา พวกเขามองหานเซิ่นราวกับว่าเขาเป็นตัวตลก
ข่งเฟยได้ดับตะเกียงของเผ่าเฟเธอร์ ดังนั้นพวกเฟเธอร์จึงเกลียดชังเขาอย่างมาก นอกจากนั้นข่งเฟยได้มอบขนนกเทพเจ้าให้กับหานเซิ่นและสเตย์อัพเลท ซึ่งสำหรับเฟเธอร์แล้วนั่นหมายความว่าหานเซิ่นและสเตย์อัพเลทเป็นสุนัขของปราสาทนภา พวกเขาจึงไม่มีทางยอมให้หานเซิ่นได้พลังจากสระแห่งการเกิดใหม่ไปได้เป็นอันขาด
“เจ้าจะใช้กำลังเพื่อคว้ามันไปไม่ได้ ช่างเป็นคนหนุ่มที่โง่เขลาอะไรขนาดนี้” ผู้อาวุโสเฟเธอร์แฟรี่ลูบเคราของเขาขณะที่พูดออกมา
“สระแห่งการเกิดใหม่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเผ่าพันธุ์เฟเธอร์ แน่นอนว่ามันจะช่วยเหลือพวกเรา” ผู้อาวุโสอีกคนพูด
“พวกเราควรจะเตือนพวกเขาว่าอย่าได้เอาพลังแห่งการเกิดใหม่ไปทั้งหมด พวกเขาจำเป็นต้องเหลือให้หานเซิ่นบ้าง เพราะยังไงเขาก็เป็นแขกคนหนึ่ง” ผู้อาวุโสอีกคนพูดเตือน
ทูตของปราสาทนภาขมวดคิ้ว แต่นี่เป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างเฟเธอร์และปราสาทนภา มันไม่ใช่ว่าเฟเธอร์เป็นทาสของพวกเขา
เฟเธอร์มีตัวเลือกมากกว่าแค่ปราสาทนภา แต่ปราสาทนภาได้มอบข้อเสนอที่ดีที่สุดให้กับพวกเขา นั่นเป็นเหตุผลที่ทางเฟเธอร์เลือกจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของปราสาทนภา แต่ถึงทางเฟเธอร์จะอยู่ภายใต้การปกครองของปราสาทนภา พวกเขาก็ยังคงควบคุมเรื่องภายในด้วยตัวเอง
ถ้าปราสาทนภาควบคุมเฟเธอร์โดยสมบูรณ์ มันก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องส่งทูตมาที่โฮลี่เฮฟเว่นเพื่อประชุมถึงเรื่องในอนาคต
ทูตของปราสาทนภาไม่พอใจกับการกระทำของทางเฟเธอร์ แต่พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้มาก เพราะมันจะดูไม่ดีกับปราสาทนภา
ยวิ๋นฉางคงไม่เคลื่อนไหว เขาเพียงแค่มองไปที่หานเซิ่น ตอนนี้หานเซิ่นจำเป็นต้องพึ่งตัวเอง มันไม่มีใครสามารถเข้าไปช่วยเหลือเขาได้
การที่ผู้นำของปราสาทนภาสอนวงแหวนให้กับหานเซิ่นถือเป็นความคิดที่ดี ถึงจะต้องเผชิญหน้ากับดยุก 2 คน หานเซิ่นก็สามารถชิงพลังแห่งการเกิดใหม่ส่วนใหญ่มาเป็นของตัวเองได้ แต่แอนโดล่าและแองเจล่ามีแสงเทวดาแห่งการพิพากษา และพวกเขายังสามารถถ่ายทอดพลังไปสู่กันและกันได้ นั่นเป็นสิ่งที่ดยุกทั่วๆไปไม่สามารถทำได้
เมื่อพลังชีวิตของพวกเขาทั้งคู่รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน แม้แต่ราชันก็ไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ นั่นเป็นเพราะครั้งหนึ่งพวกเขาเคยเป็นราชันเช่นกัน
หานเซิ่นไม่คิดว่าแสงเทพของกายหยกจะได้ผลอยู่แล้ว เขาแค่ใช้มันเพื่อดึงดูดความสนใจเท่านั้น ขณะที่คนอื่นๆกำลังสนใจกับความพยายามที่ไร้ประโยชน์ของเขา หานเซิ่นก็เข้าไปใกล้รูปปั้นและเปิดใช้งานใบเสมาราชาแมลงปีศาจ
หานเซิ่นไม่สามารถออมมือได้อีกต่อไป เมื่อเห็นว่าพลังชีวิตของอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่ามาก ซึ่งมันไม่ก็แปลกอะไรถ้าเขาจะล้มเหลว แต่ถ้าเขาทำสำเร็จ หานเซิ่นก็ไม่คิดจะปล่อยให้อีกฝ่ายได้พลังแห่งการเกิดใหม่ไปแม้แต่นิดเดียว เขาจะเอาทุกอย่างมาเป็นของตัวเอง
แสงสีฟ้าปรากฏขึ้นรอบตัวหานเซิ่นและกักขังพลังแห่งการเกิดใหม่ทั้งหมดเอาไว้ภายใน
“โง่เง่า! พลังแห่งการเกิดใหม่ไม่ใช่สิ่งจะหยุดเอาไว้ได้ด้วยกำลัง เจ้าจะใช้กำลังเพื่อกังขังมันไม่ได้!” แอนโดล่าหัวเราะ
ผู้อาวุโสเฟเธอร์แฟรี่ยิ้มและพูด “มันเป็นเรื่องดีที่คนหนุ่มจะพยายามจนถึงที่สุด แต่การทำแบบนี้มันทั้งบ้าบิ่นและโง่เขลา”