Super God Gene - ตอนที่ 2125
“ดอลลาร์ ตอนนี้เจ้ายังฉีกกระดาษและถอนตัวได้ มันเป็นอะไรที่น่าเสียดายถ้าต้องมาถูกฆ่าตอนนี้ เจ้าไม่คิดอย่างนั้นหรอ?”
โทนเสียงแดกดันของคุนดังก้องไปทั่วป่า
“นั่นก็ใช่ แต่ข้าจะจบการต่อสู้ด้วยการฆ่าเจ้า นั่นก็ได้ผลเช่นกัน” หานเซิ่นตอบอย่างใจเย็น
“ฮ่าๆ! นั่นมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะหาข้าเจอหรือเปล่า” คุนหัวเราะอีกครั้ง
หานเซิ่นพยายามตั้งใจฟังเสียงของเธอ แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามสักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถระบุต้นตอของเสียงได้
หานเซิ่นใช้ออร่าศาสตร์ตงเสวียนสแกนบริเวณโดยรอบอย่างเงียบๆ แต่เขาไม่เจอร่องรอยของคุนเลย นั่นทำให้เขาขมวดคิ้ว ออร่าศาสตร์ตงเสวียนของเขาสามารถสแกนได้ในรัศมีหนึ่งกิโลเมตร แต่เขากลับไม่พบร่องรอยของคุน นั่นหมายความว่าคุนอยู่ห่างไปจากเขาหนึ่งกิโลเมตรเป็นอย่างน้อย
‘เธอไม่ได้อยู่รอบๆนี่ แต่ดูเหมือนเธอจะมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น’
หานเซิ่นคิดกับตัวเอง เขามองไปแมลงจิ๋วรอบๆและพูด “ร่างกายที่แท้จริงของเจ้าไม่ได้อยู่ที่นี่ใช่ไหม? เจ้าคงจะมองดูข้าจากดวงตาของแมลงพวกนี้สินะ”
“ถ้าใช่แล้วจะทำไม?” คุนดูไม่ค่อยพอใจนักกับการสันนิษฐานของหานเซิ่น
“ดูเหมือนว่าข้าคงจะต้องทำลายดวงตาของเจ้า” หานเซิ่นพูด
“ทำลายดวงตาของข้า?” คุนทำเหมือนกับว่าเธอเพิ่งจะได้ยินอะไรบางอย่างที่น่าขบขัน เธอหัวเราะและพูดขึ้นมา “แมลงทุกตัวเป็นดวงตาของข้า เจ้ามองไม่เห็นพวกมันทุกตัวด้วยซ้ำ แล้วอย่างนั้นเจ้าจะทำลายพวกมันทั้งหมดได้ยังไง?”
ผู้ชมทุกคนเห็นด้วยกับคุน แมลงพวกนั้นเล็กเกินกว่าที่จะมองเห็นได้ ซึ่งการใช้พลังฆ่าสิ่งที่มองไม่เห็นรอบๆตัวจะทำให้ดอลลาร์สูญเสียพลังงานอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนั้นการทำอะไรแบบนั้นจึงดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไร
“พลังย่อขนาดเป็นสิ่งที่มักจะถูกมองข้าม แต่ความจริงแล้วมันเป็นพลังที่ยากจะรับมือ และมันก็ทำให้คุนเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัว ข้าเชื่อว่าคุนจะกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงหลังจากนี้”
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าพลังของคุนจะมีประสิทธิภาพถึงขนาดนี้ เมื่อเทียบกับการต่อสู้ระหว่างดราก้อนเอทและดอลลาร์แล้ว คุนอยู่ในอีกระดับหนึ่ง ถึงแม้ร่างกายของนางอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งอย่างดราก้อนเอทและดอลลาร์ แต่นางก็ทำให้พวกเขาไร้หนทางที่จะต่อสู้”
“แน่นอนอยู่แล้วว่ามาร์ควิสที่เข้าร่วมการต่อสู้ภายในบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโนจะต้องแข็งแกร่ง”
ตอนนี้ผู้ชมทั้งหมดมีความคิดที่เหมือนๆกัน พวกเขาลองจินตนาการว่าตัวเองตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับดอลลาร์และพยายามคิดหาทางเอาตัวรอดจากสถานการณ์เลวร้ายนั้น ซึ่งมันไม่มีใครคิดว่ามีทางออกอื่นที่พอจะเป็นไปได้
เพราะถ้าหานเซิ่นมองไม่เห็นแมลงพวกนั้น เขาก็จะไม่รู้เลยว่าเมื่อไหร่ที่พวกมันจะโจมตีเขา ดังนั้นทั้งหมดที่เขาทำได้ก็คือรักษาเปลวไฟที่อุณหภูมิสูงไปตลอด แต่การทำแบบนั้นเป็นอะไรที่กินพลังงาน ซึ่งเขาก็รู้ตัวว่าไม่สามารถทำแบบนั้นไปได้ตลอด และตราบใดที่เขาไม่สามารถหาตำแหน่งของคุนได้ มันก็ไม่มีหนทางที่เขาจะชนะ
แม้แต่ราชาเคลียร์ซีและราชาโรซ่าก็ไม่สามารถคิดหาหนทางที่จะพลิกสถานการณ์ได้
นอกซะจากดอลลาร์จะมีพลังของราชันที่สามารถทำลายล้างทั้งป่าและฆ่าแมลงทั้งหมดไปพร้อมๆกัน แบบนั้นพวกมันก็จะไม่เป็นภัยอีกต่อไป
แต่ดอลลาร์เป็นแค่มาร์ควิสคนหนึ่ง เขาไม่มีพลังงานมากพอที่จะใช้พลังทำลายล้างในวงกว้างแบบนั้น และถึงเขาจะขยายเปลวไฟออกไปทั่วทั้งป่า มันก็ไม่ร้อนแรงพอที่จะฆ่าพวกแมลงทั้งหมดอยู่ดี
ถึงพวกแมลงจะมีขนาดเล็ก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะอ่อนแอ เพราะยังไงซะพวกแมลงก็เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยมาร์ควิสคนหนึ่ง ดังนั้นการฆ่าพวกมันก็จำเป็นต้องใช้พลังระดับมาร์ควิสเช่นเดียวกัน
ขณะที่ทุกคนสงสัยว่าดอลลาร์จะเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ไปได้ยังไง จู่ๆเปลวไฟที่ห่อหุ้มตัวเขาอยู่ก็ดับลง ทำให้เขาไร้การป้องกันใดๆจากพวกแมลง
“ฮ่าๆ! ยอมแพ้แล้วอย่างนั้นหรอ? ถ้าเจ้าคิดจะโยนผ้ายอมแพ้ ข้าจะให้โอกาสเจ้าได้ฉีกกระดาษและถอนตัวอย่างเป็นทางการ” เสียงหัวเราะของคุนดังก้องไปทั่วทั้งป่า
“ข้าบอกเจ้าแล้วไม่ใช่หรอว่าข้าจะทำลายดวงตาทั้งหมดของเจ้า?” หานเซิ่นพูด
“ฮ่าๆ ถึงแม้จะอยู่ต่อหน้าความตาย เจ้าก็ยังหัวแข็งพอที่จะพูดจาไร้สาระ” คุนเรียกฝูงแมลงจิ๋วออกมาและส่งพวกมันเข้าไปหาหานเซิ่น
แมลงพวกนั้นมีขนาดเล็กมากๆ นอกจากนั้นพวกมันยังเงียบสนิท แม้แต่ดยุกก็ไม่สามารถสัมผัสถึงพวกมันได้ หานเซิ่นเลือกที่จะดับเปลวไฟที่ใช้ป้องกันตัวเองไป ซึ่งนั่นทำให้เขาตกอยู่ในอันตราย
ยวิ๋นซู่อีขมวดคิ้วและพูด “ดอลลาร์ต้องการจะทำอะไรกันแน่? นี่เขาคิดจะใช้ชุดเกราะป้องกันแมลงพวกนั้นอย่างนั้นหรอ? แต่ไม่ว่าชุดเกราะนั้นจะถูกสร้างขึ้นมาดีสักแค่ไหน มันก็ต้องมีรอยต่อให้พวกแมลงลอบเข้าไปได้”
“เขาไม่มีแผนที่จะป้องกันแมลงด้วยชุดเกราะ”
มีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลังของพวกเขา มันเป็นเสียงของไผ่เดียวดาย
“ศิษย์พี่ไผ่เดียวดาย!” พี่น้องยวิ๋นและกระเรียนพันขนลุกขึ้นเพื่อโค้งคำนับต่อเขา
ไผ่เดียวดายทำท่าทางบอกให้พวกเขานั่งลงและเดินมานั่งร่วมกับพวกเขา
“ศิษย์พี่ไผ่เดียวดาย ถ้าดอลลาร์ไม่มีแผนจะใช้ชุดเกราะป้องกันพวกแมลง แล้วแบบนั้นเขาจะทำยังไงถ้าพวกมันเข้ามาใกล้เขาล่ะ? เขาจะป้องกันสิ่งที่มองไม่เห็นได้ยังไง?” ยวิ๋นซู่อีถามด้วยความสงสัย
“ใครบอกว่าเขามองไม่เห็นพวกมัน?” ไผ่เดียวดายถามอย่างง่ายๆ
ยวิ๋นซู่อีและคนอื่นๆเงียบไป ก่อนที่พวกเขาจะตอบสนอง ดอลลาร์ก็เริ่มเคลื่อนไหว
หานเซิ่นยกมือขึ้นและดีดนิ้วของเขาขึ้นไปบนท้องฟ้า
หลังจากนั้นเหรียญจำนวนนับไม่ถ้วนก็ร่วงลงมาราวกับสายฝน เมื่อเหรียญทุกเหรียญร่วงลงมา มันก็ตามมาด้วยเสียงของอะไรบางอย่างถูกบดขยี้
ผู้ชมจดจำเสียงนี้ได้ มันเป็นเสียงของแมลงน้อยถูกบดขยี้
“เป็นไปไม่ได้! เจ้ามองเห็นได้ยังไง?…” ก่อนที่คุนจะจบคำถาม เสียงของเธอก็ถูกตัดไป
ร่างจริงของเธอไม่ได้อยู่ที่นี่ และเธอก็พูดผ่านพวกแมลงมาโดยตลอด เมื่อเหรียญบดขยี้แมลงทั้งหมด มันก็ทำให้เธอไม่สามารถพูดให้ดังกึ่งก้องทั่วทั้งป่าได้อีก
ผู้ชมอึ้งไป มันไม่ใช่แค่เพราะหานเซิ่นเห็นและฆ่าแมลงทั้งหมดได้ สิ่งที่ทำให้พวกเขาประหลาดใจที่สุดก็คือความจริงที่ว่าดอลลาร์สามารถปล่อยเหรียญจำนวนมากออกมาได้พร้อมๆกัน ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่ากลัวอย่างมาก
“เขามองเห็นแมลงจิ๋วพวกนั้นได้ยังไง? แม้แต่ดยุกก็มองไม่เห็นพวกมันถ้าไม่มีพรสวรรค์ด้านสายตา พวกเขาจำเป็นต้องฝึกวิชาหรือเทคนิคทางด้านสายตา นี่ดอลลาร์ฝึกฝนสายตาของตัวเองด้วยอย่างนั้นหรอ?” ไห่เอ๋อร์ที่ชมการต่อสู้ด้วยความอวดดีอยู่ตลอดตกตะลึง
ออร่าศาสตร์ตงเสวียนของหานเซิ่นสามารถสัมผัสได้ถึงตัวตนของสสารทุกอย่างที่อยู่ใกล้เคียง และถึงแม้พวกแมลงจะมีขนาดเล็กจนแทบจะมองไม่เห็น แต่ออร่าศาสตร์ตงเสวียนก็ทำให้เขามองเห็นตัวตนของพวกมันได้อย่างชัดเจน พวกมันไม่สามารถหลบจากการสังเกตของหานเซิ่นได้