Super God Gene - ตอนที่ 2197
ขณะที่หานเซิ่นพูดคุยกับหวงฟูจิ้ง เขาก็เช็คเส้นทางและประมาทเวลาที่ต้องใช้เดินทางไปที่นั่น
“อย่าเพิ่งลงทะเบียน รอฉันอยู่บนดาวเจดดรัม ฉันจะไปถึงที่นั่นใน 4 วัน เธอรอนานขนาดนั้นได้ไหม?”
เนื่องจากบัตรผ่านเข้าไปในดาวเจดดรัมมีอายุเพียงแค่สิบวัน และถ้าหมดเวลาแขกที่มาเยือนจะถูกบังคับให้ออกไป นั่นเป็นเหตุผลที่หานเซิ่นต้องยืนยันว่าเขาจะไปทันเวลาหรือเปล่า
“ได้ ฉันยังเหลือเวลาอยู่อีก 6 วัน” หวงฟูจิ้งตอบ
“โอเค ถ้าอย่างนั้นก็รอฉันอยู่ที่นั่น” หานเซิ่นถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หานเซิ่นวางสายและเตรียมตัวเดินทางไปที่ดาวเจดดรัม ด้วยความสามารถและสติปัญญาของหวงฟูจิ้ง หานเซิ่นไม่ได้กังวลถึงความปลอดภัยของเธอ แต่การจะนำเจดดรัมออกมาอย่างปลอดภัยนั้นคงจะเป็นเรื่องยาก
ถึงดาวเจดดรัมจะตั้งชื่อตามซีโน่เจเนอิคเจดดรัม แต่เจดดรัมก็ถือเป็นอะไรที่หาได้ยาก มันมีราชาที่ใช้พลังเสียงหลายคนอยากจะได้เจดดรัมมาเพื่อพัฒนาพลังของตัวเอง
มันถือเป็นอะไรที่วิเศษมาก ถ้าพวกเขาได้เจดดรัมระดับราชันมาเป็นของตัวเอง แต่หวงฟูจิ้งเป็นเพียงแค่เอิร์ลคนหนึ่งที่ได้เจดดรัมตัวหนึ่งมาเป็นของตัวเอง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องยากที่จะพาเจดดรัมออกไปจากที่นี่โดยไม่ดึงดูดความสนใจคนอื่น
หานเซิ่นมีใบเสมาราชาแมลงปีศาจอยู่ ดังนั้นเขาไม่ได้หวาดกลัวศัตรูระดับราชัน ทั้งหมดที่เขากลัวก็คือเรื่องที่มันอาจจะมีราชันมากกว่าหนึ่งคนพยายามแย่งชิงมันไป แบบนั้นสถานการณ์อาจจะเลวร้ายขึ้นมา
หานเซิ่นเก็บข้าวของและบอกคนอื่นๆว่าอย่าได้ออกไปจากฐานทัพขณะที่เขาไม่อยู่
หานเซิ่นพาเป่าเอ๋อไปกับเขาด้วย เขาเดินทางออกจากแนร์โรว์มูนและใช้รูหนอนเพื่อไปที่ดาวเจดดรัม
หลังจากที่หานเซิ่นออกไปจากแนร์โรว์มูนได้ไม่นาน ราชาไนท์ริเวอร์ก็ได้รับข่าวการจากไปของหานเซิ่น
“หานเซิ่น เจ้ารู้อะไรไหม? ถึงข้าจะฆ่าเจ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ข้าจะทำให้เจ้าต้องประสบกับชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย”
ใบหน้าของราชาไนท์ริเวอร์บิดเบี้ยว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
ดยุกคนหนึ่งเดินเข้ามาและโค้งคำนับต่อราชาไนท์ริเวอร์ “ท่านราชา ข้าได้ทำทุกอย่างที่ท่านสั่งเรียบร้อยแล้ว”
“ดีมาก” ราชาไนท์ริเวอร์โบกมือเพื่อบอกให้ดยุกคนนั้นไปได้ หลังจากนั้นเขาก็หันความสนใจมายังหน้าจอที่แสดงภาพของดาวอุปราคา เขายิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายเขาพูด
“หานเซิ่น ข้าอดใจรอไม่ไหวที่จะได้เห็นใบหน้าของเจ้า เมื่อเจ้ากลับมาและรู้ตัวว่าพวกพ้องของเจ้าถูกฆ่าตายจนหมด”
วันรุ่งขึ้นหลังจากที่หานเซิ่นจากไป มียานอวกาศหลายลำเข้ามาในแนร์โรว์มูน พวกมันเป็นยานบรรทุกสินค้า แต่พวกเขาเป็นคนนอกของแนร์โรว์มูน ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องจ่ายภาษีเพื่อเข้ามา ภายในยานขนสินค้านั้นมีซีโน่เจเนอิคอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งมันมาจากดวงดาวที่หลากหลาย
เมื่อยานอวกาศเคลื่อนที่ผ่านดาวอุปราคา หนึ่งในยานของพวกเขาก็เกิดพังทลาย ซีโน่เจเนอิคจำนวนมากหนีออกไปจากยานและกระจายตัวกันออกไปทั่วแนร์โรว์มูน แนร์โรว์มูนได้ส่งคนออกมาเพื่อพยายามจับพวกมันกลับไปอีกครั้ง
แต่ในระหว่างความชุลมุนมีใครบางคนแอบเข้าไปในดาวอุปราคาและปล่อยหนึ่งในซีโน่เจเนอิคลงบนภูเขาของที่นั่น
มันเป็นซีโน่เจเนอิคที่ดูเหมือนกับผึ้งราชินี แต่แทนที่จะเป็นสีเหลืองและดำ ร่างกายของมันเป็นสีแดงเข้ม เมื่อซีโน่เจเนอิคตัวนั้นเป็นอิสระอีกครั้ง มันก็ฆ่าซีโน่เจเนอิคตัวอื่นๆที่อยู่บนภูเขาและวางไข่ภายในร่างกายเหยื่อ ไข่นั้นมีสีแดงเช่นเดียวกัน
ไข่ฟักตัวอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกันร่างของซีโน่เจเนอิคที่ถูกฆ่าก็แห้งเหี่ยวราวกับเปลือกไม้ มันเหมือนกับว่าไข่พวกนั้นกำลังดูดซับสารอาหารทั้งหมดในร่างกายของซีโน่เจเนอิค
ไม่นานหลังจากนั้นผึ้งที่ฝักออกมาก็เริ่มเจาะภูเขาจนกลวงโบ๋ มันมีทางเข้าอยู่มากมายเหมือนกับรังผึ้งขนาดใหญ่ และตามรูต่างๆก็มีผึ้งสีแดงเข้าออกเป็นจำนวนมาก
ขณะที่เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้น ไม่มีใครภายในฐานทัพที่สังเกตเห็น หานเซิ่นบอกให้ทุกคนอยู่ภายในฐานทัพในตอนที่เขาไม่อยู่ ดังนั้นจึงไม่มีใครออกไปข้างนอก
นี่ทำให้ราชาไนท์ริเวอร์ขมวดคิ้ว เขาพูดขึ้นมา “หานเซิ่น! ก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้บอกให้เพื่อนๆซ่อนตัวอยู่ภายในฐานทัพ แต่การซ่อนตัวไม่ได้ช่วยให้พวกเขารอดไปได้ พวกเราแค่จำเป็นต้องล่อผึ้งราชินีไปหาพวกเขา ถ้าพวกเราพานางไปที่ฐานทัพล่ะก็ นางจะต้องฆ่าพวกเขาทั้งหมดอย่างแน่นอน หานเซิ่น! ในตอนที่เจ้ากลับมาเห็นเพื่อนๆของเจ้าถูกวางไข่โดยผึ้งราชินี ข้าอยากรู้นักว่าเจ้าจะมีใบหน้ายังไง!”
หานเซิ่นเดินทางไปตามเส้นตามที่วางแผนเอาไว้ 4 วันไม่ใช่เวลานานอะไรนัก แต่หานเซิ่นค่อนข้างเป็นกังวล เขากลัวว่าควีนและเจดดรัมจะถูกคนอื่นพบเข้าซะก่อน
โชคดีที่ความกังวลของเขาไม่เป็นความจริงขึ้นมา เขาจ่ายเงินซื้อตั๋วและเดินทางเข้าไปในดาวเจดดรัม
เมื่อบินไปที่ดาวเจดดรัม หานเซิ่นก็สังเกตเห็นว่าบนดาวปกคลุมไปด้วยภูเขาสีเทาที่ไร้ซึ่งชีวิต มันไม่มีทั้งชนบทหรือซีโน่เจเนอิคอยู่เลย
แต่นั่นก็แค่พื้นผิวของดวงดาวเท่านั้น ภายในภูเขาบนดาวเจดดรัมนั้น มีเหมืองอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งพวกดรัมจะอาศัยอยู่ภายในนั้น
การจะหาพวกมัน ผู้คนต้องขุดเหมืองเพื่อค้นหา แต่ทว่าระดับของดรัมที่เจอไม่ได้ถูกตัดสินโดยความสามารถของพวกเขาเพียงอย่างเดียว แต่มันขึ้นอยู่กับดวงด้วยเช่นกัน
แม้แต่ยอดฝีมือระดับราชันก็อาจจะหาได้แค่ระดับบรอนซ์หรือซิลเวอร์ เจดดรัมถือเป็นอะไรที่หาได้ยากมากๆ อัตราส่วนที่พวกมันจะถูกหาเจอนั้นต่ำกว่าหนึ่งตัวต่อปี
หานเซิ่นใช้โทรศัพท์ของเขาเพื่อโทรหาควีน แต่เขาไม่สามารถติดต่อเธอได้ ดูเหมือนเธอจะปิดเครื่องมือสื่อสารของตัวเอง และนั่นทำให้หานเซิ่นขมวดคิ้ว
ก่อนที่จะเข้ามาในดาวเจดดรัม เขาเพิ่งจะพูดคุยกับควีนอยู่ แต่ตอนนี้โทรศัพท์ของเธอไม่ทำงาน นั่นบ่งบอกให้เขารู้ว่ามีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น
โชคดีที่หานเซิ่นรู้ถึงสถานที่ล่าสุดที่เธออยู่ ดังนั้นเขาจึงเรียกคลาวด์บีสต์สีแดงออกมาและรีบตรงไปหาเธอพร้อมกับเป่าเอ๋อ
ในภูเขาแห่งหนึ่งบนดาวเจดดรัม มันมีทอรัสระดับมาร์ควิสคนหนึ่งกำลังถืออาวุธประหลาดอยู่ในมือ เขามองไปที่หวงฟูจิ้งและหัวเราะออกมา
“ข้ามาที่นี่เพื่อค้นหาเจดดรัม ต้องขอบคุณเจ้าที่ทำให้ข้าได้พบมันที่นี่ มอบมันให้กับข้าและข้าจะปล่อยให้เจ้ารอดชีวิตไปจากที่นี่”
หวงฟูจิ้งไม่เคลื่อนไหว เธอแค่จ้องมองไปที่ทอรัสมาร์ควิสอย่างสงบ เธอสับสนและไม่แน่ใจว่าเขารู้ได้ยังไงว่าเธอหาเจดดรัมตัวหนึ่งเจอ
เมื่อหวงฟูจิ้งพูดกับหานเซิ่น พวกเขาใช้ภาษามนุษย์ ซึ่งมันแตกต่างไปจากภาษาสากลของจักรวาลจีโนอย่างมาก ถึงแม้คนอื่นจะได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูดกัน มันก็ไม่ควรจะมีใครเข้าใจสิ่งที่พวกเขาพูดได้
ทอรัสคนนั้นค่อยๆขยับเข้ามาใกล้เธอ เขายิ้มออกมาอย่างภาคภูมิและพูด
“เจ้าคงจะคิดว่ามันแปลกสินะที่ข้าเข้าใจภาษาของเจ้า แต่ข้าคิดว่ามันเป็นอะไรที่ธรรมดาที่สุดในจักรวาล เพราะข้าเรียนรู้เกี่ยวกับเสียง ไม่มีเสียงไหนที่รอดพ้นไปจากหูของข้าได้ มันเป็นพลังที่ทำให้ข้าเข้าใจทุกภาษาที่ได้ยิน ถึงแม้ข้าจะไม่เคยได้ยินมันมาก่อนก็ตาม”