Super God Gene - ตอนที่ 2301
“น้ำชาถ้วยนี้แลกกับยีนซีโน่เจเนอิคหนึ่งตัว ขอบคุณสำหรับการแลกเปลี่ยน” หานเซิ่นพูดอย่างมีมารยาท
ไป๋ชางลังดูประหลาดใจ หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มและพูด
“ดี! ดี! ดี! ข้าชอบคนที่โลภมาก”
หลังจากนั้นรอยยิ้มของไป๋ชางลังก็หายไป เขามองไปที่หานเซิ่นอย่างจริงจังและพูด “ข้าต้องการเจ้า ตัวเจ้ามีค่าเท่าไหร่?”
“ยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งร้อยตัว” หานเซิ่นพูด
“ดี! นั่นถูกกว่าที่ข้าคาดการณ์เอาไว้ เจ้าคุ้มค่าต่อราคาจริงๆ” ไป๋ชางลังตอบอย่างไม่ลังเล เขาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
“ต่อหนึ่งปี” หานเซิ่นพูด
ไป๋ชางลังมองหานเซิ่นด้วยความตกใจ ยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งร้อยตัวไม่ถือว่าแพงอะไรสำหรับองค์ชายสิบสี่ของเอ็กซ์ตรีมคิง
แต่ยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งร้อยตัวแลกกับข้ารับใช้ระดับดยุกเพียงแค่หนึ่งปี? นั่นเป็นบางสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยราคานั้นองค์ชายสิบสี่สามารถจ้างดยุก 12 คนมารับใช้ได้ตลอดชีวิต
“และถ้าข้าจะซื้อตัวเจ้าอย่างถาวรล่ะ ราคามันเท่าไหร่กัน?” ไป๋ชางลังถาม เสียงของเขาฟังดูอยากรู้อยากเห็น เขาไม่ได้โกรธอะไร
“ยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งร้อยตัวต่อหนึ่งปีคือราคาตายตัว เจ้าต้องซื้อตัวข้าปีต่อปี ตราบใดที่เจ้ายังต้องการข้า” หานเซิ่นพูด
ไป๋ชางลังหัวเราะ เขาวางแผ่นหินลงบนโต๊ะและพูด
“ข้าจะใช้สิ่งนี่เพื่อซื้อตัวเจ้าเป็นเวลาหนึ่งร้อยปี ข้าจะออกเดินทางพรุ่งนี้ เจ้าก็ตัดสินใจเองว่าจะมากับพวกเราหรือไม่”
หลังจากนั้นไป๋ชางลังก็ลุกขึ้นและเดินจากไป
หานเซิ่นมองแผ่นหินบนโต๊ะ มันเป็นแผ่นหยกเขียวที่มีขนาดพอๆกับมือคน ทั้ง 2 ด้านประดับไปด้วยรูปภาพของมังกรที่กำลังถือลูกบอลในกรงเล็บและชื่อชางลังก็ถูกสลักเอาไว้
“นี่คือแผ่นราชองครักษ์ของพี่สิบสี่ เจ้าจำเป็นต้องเป็นระดับราชันเป็นอย่างน้อยเพื่อเป็นหนึ่งในราชองครักษ์ของเขา”
ไป๋เวยอธิบาย ถึงแม้องค์ชายสิบสี่จะจากไปแล้ว แต่เธอก็ยังยืนอยู่ที่นี่และจ้องมองหานเซิ่น
“ข้าเป็นแค่ดยุกคนหนึ่ง ข้าคงจะไม่คุ้มค่าพอที่จะให้องค์ชายสิบสี่แหกกฎเพื่อข้า” หานเซิ่นพูดขณะที่เล่นกับแผ่นหยกในมือ
“พี่สิบสี่มาที่นี่เพื่อจ้างราชินีแห่งมีด แต่นางปฏิเสธ ดังนั้นเขาจึงมาจ้างตัวเลือกที่สอง ซึ่งก็คือเจ้า เขาต้องการเจ้าเพราะเจ้าคือลูกศิษย์ของนาง”
ไป๋เวยหยุดไปชั่วครู่ก่อนที่จะพูดต่อ “ดูเหมือนเจ้าจะทำให้เขาโกรธ”
“ข้าทำกับอะไรกับเรื่องนั้นไม่ได้ ข้าไม่คิดจะตอบตกลงเพียงเพราะใครบางคนไม่พอใจ” หานเซิ่นยักไหล่
ทันใดนั้นไป๋เวยก็ยื่นมือออกมาหาหานเซิ่น “มอบมันมาให้กับข้า”
“อะไร?” หานเซิ่นแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง ส่งรังของอันดายอิ้งเบิร์ดมา” ไป๋เวยพูด
“เจ้าเอามันไปไม่ได้ แบบนั้นทำไมข้าถึงต้องส่งมันคืนให้กับเจ้าด้วย?” หานเซิ่นรู้สึกแย่ รังนกนั้นถูกนกแดงน้อยทำลายไปแล้ว ดังนั้นมันไม่เหลืออะไรให้ส่งคืน
“ไม่ว่าข้าจะเอามันไปได้หรือไม่ มันก็เป็นเรื่องของข้า เจ้าแค่ส่งมันคืนมา” เสียงของไป๋เวยดูเย็นชา
“ข้าอยากจะคืนมันให้กับเจ้า แต่มันแตกสลายไปในครั้งก่อนที่ข้าใช้มัน” หานเซิ่นยอมรับสารภาพด้วยท่าทางรู้สึกผิด
หานเซิ่นรู้ว่าไม่สามารถปกปิดความจริงได้ ดังนั้นเขาจึงยอมรับความจริงอออกไป
เมื่อไป๋เวยได้ยินคำสารภาพของหานเซิ่น เธอก็หัวเราะออกมา
“ข้าไม่เคยคิดว่านี้จะข้ออ้างของหัวขโมย ตระกูลไป๋ไม่ใช่ตระกูลที่เจ้าจะเมินเฉยได้”
ไป๋เวยไม่เชื่อแม้แต่นิดเดียวว่ารังของอันดายอิ้งเบิร์ดระดับเทพเจ้าจะแตกสลายไป เพราะแม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถทำลายมันได้
“มันเป็นความจริง! ข้าไม่ได้โกหก” หานเซิ่นมองตาเธออย่างจริงใจ
ไป๋เวยเย้ยหยันและกรอกตาของเธอ เธอดูไม่พอใจที่ได้ยินแบบนั้น
“ก็ได้! ถ้าเจ้าไม่อยากจะส่งมันคืนมา เจ้าก็ต้องจ่ายหนี้ด้วยการมาเป็นราชองครักษ์ของข้า”
ไป๋เวยเทชาให้กับตัวเองถ้วยหนึ่งราวกับว่าเธอเป็นเจ้าหนี้ที่มาทวงเงิน
“สิบปี” หานเซิ่นกัดฟันราวกับว่าเขาต้องตัดสินใจครั้งใหญ่
ไป๋เวยยิ้มออกมา เธอจิบชาก่อนที่จะพูดต่อ
“การรับใช้ข้าก็เป็นเพียงแค่การจ่ายดอกเบี้ย เมื่อเจ้าคืนรังของอันดายอิ้งเบิร์ดมาให้กับข้า เจ้าจะไปไหนก็ได้ ข้าจะไม่ทำอะไรเพื่อหยุดเจ้า”
“แต่ข้าจะทำแบบนั้นได้ยังไง” หานเซิ่นพูด
ไป๋เวยยิ้ม “มอบรังของอันดายอิ้งเบิร์ดมา หรือไม่ก็มาเป็นราชองครักษ์ของข้า เจ้าเป็นคนเลือก ข้าไม่ชอบบังคับคนอื่น”
หานเซิ่นไม่สามารถคืนรังนกให้กับเธอได้ เพราะเขาไม่มีมันอยู่แล้ว แต่ถ้าเขาปฏิเสธ เขาก็จะถูกบังคับให้ต่อสู้กับศัตรูที่อยู่เหนือกว่าความสามารถของเขา
ไป๋เวยถอนหายใจและพูด “จริงๆแล้วเจ้าไม่มีทางเลือก พี่สิบสี่จะไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ข้าคิดว่าถ้าเจ้าไม่มาเป็นราชองครักษ์ของข้า เขาก็จะทำทุกอย่างเพื่อพาตัวเจ้าไป เป้าหมายของเขาก็คือราชินีแห่งมีดอาจารย์ของเจ้า เจ้าจะถูกใช้เป็นเบี้ยเพื่อที่เขาจะได้ตัวนางมา”
หลังจากที่หยุดคิดไปชั่วครู่ ไป๋เวยก็พูดต่อ “อย่างน้อยข้าก็แค่ต้องการตัวเจ้า ข้าไม่ได้ต้องการอาจารย์ของเจ้าเหมือนกับเขา”
“ดูเหมือนข้าจะไม่มีทางเลือกอื่น” หานเซิ่นส่งแผ่นหยกให้กับไป๋เวย
“ถ้าอย่างนั้นก็ช่วยข้าคืนนี่ให้กับองค์ชายสิบสี่”
ไป๋เวยต้องการเขา และไป๋ชางลังก็ดูเป็นคนที่น่ารำคาญ ถ้าให้หานเซิ่นเลือก เขาก็ขอเลือกไป๋เวย ถ้านั่นหมายความว่าเขาไม่ต้องคอยรับมือกับองค์ชายที่น่ารำคาญคนนั้น
ไป๋เวยรับแผ่นหยกมา หลังจากนั้นเธอก็มองไปรอบๆสวน
“ลูกสาวและเพื่อนของเจ้าอยู่ไหน? พวกเขาจะมาด้วยก็ได้ ข้าไม่รังเกลียดที่เจ้าจะพาคนอื่นไปด้วย ถึงแม้พวกเขาจะเป็นราชองครักษ์ไม่ได้ แต่ข้าให้สัญญาได้ว่าพวกเขาจะถูกปฏิบัติเป็นอย่างดี”
“ข้าต้องขอปฏิเสธแทนพวกเขา” หานเซิ่นตอบปฏิเสธข้อเสนอของไป๋เวยในทันที การเดินทางไปที่เอ็กซ์ตรีมคิงในครั้งนี้เต็มไปด้วยอันตราย หานเซิ่นไม่อยากให้หานเมิ่งเอ๋อและคนอื่นๆต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่ไม่จำเป็น เขาจะพาไปแค่เป่าเอ๋อ กิเลนโลหิตและนกแดงน้อย
ไป๋เวยไม่ได้พูดอะไรอีก เธอหยิบแผ่นหินแผ่นหนึ่งออกมาจากกระเป๋าและมอบมันให้กับหานเซิ่น
มันเป็นแผ่นหินสีขาวที่ประดับด้วยดอกไม้สีเลือด และชื่อเวยก็ถูกเขียนเอาไว้ทั้ง 2 ด้าน แผ่นหินดูค่อนข้างเรียบง่าย แต่มันก็ดูละเอียดอ่อนอย่างน่าประหลาดใจเช่นกัน
หานเซิ่นรู้ว่ามันคือแผ่นราชองครักษ์ของไป๋เวย เขารับมันมาและถาม
“ราชองครักษ์ขององค์หญิงจำเป็นต้องทำอะไรบ้างอย่างนั้นหรอ? ข้าคงจะไม่ต้องคอยดูแลเจ้าทุกวันหรอกใช่ไหม?”
ไป๋เวยตอบกลับมา “เจ้าคิดว่าสมาชิกของราชวงศ์จะขี้เกียจไปวันๆหรือยังไง? มันมีสมาชิกจำนวนมากในราชวงศ์ของเอ็กซ์ตรีมคิง ถ้าพวกเราต้องการทรัพยากร พวกเราก็ต้องต่อสู้เพื่อให้ได้มันมา ไม่อย่างนั้นแม้แต่คนในราชวงศ์ก็จะตกต่ำยิ่งกว่าขุนนางของเอ็กซ์ตรีมคิงคนหนึ่ง”
“การแข่งขันมันสูงถึงขนาดนั้นเลย?” หานเซิ่นถามอย่างไม่อยากจะเชื่อ