Super God Gene - ตอนที่ 2363
หอยสังข์สายรุ้งวิ่งหนีเอาตัวรอด แต่เปลวไฟยังคงลุกไหม้บนเปลือกของมัน
“นกแดงน้อยผู้นำมาซึ่งความตาย!” หานเซิ่นยิ้มราวกับคนบ้า ถึงแม้เขาจะรู้ว่านกแดงน้อยเป็นสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้า แต่การที่มันสามารถสร้างความเสียหายให้กับสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าตัวอื่นได้นั้นเป็นอะไรที่น่าประทับใจอย่างมาก
แถมนกแดงน้อยก็เพิ่งจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ไม่นาน ดังนั้นมันยังแข็งแกร่งขึ้นกว่านี้ได้อีก ในอนาคตมันอาจจะเติบโตกลายเป็นบางสิ่งที่เหมือนกับแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตก็เป็นได้
นกแดงน้อยส่งเสียงร้องด้วยความภาคภูมิ ขณะที่มันบินอยู่เหนือหอยสังข์สายรุ้ง หานเซิ่นวิ่งตามมันไปพร้อมกับตะโกน “เหลือลมหายใจสุดท้ายของมันไว้ ฉันต้องการฆ่ามันด้วยมือของฉันเอง!”
หานเซิ่นไล่ตามไป และในที่สุดหอยสังข์สายรุ้งก็รู้ไม่สามารถหนีไปไหนได้อีก เนื้อภายในเปลือกหอยของมันถูกย่างจนสุก และเปลือกหอยของมันก็เปลี่ยนเป็นสีขาวกึ่งโปร่งใส มันดูเหมือนกับหอยสังข์ที่ถูกจับทำบาร์บีคิว
“มันยังหายใจอยู่ไหม?” หานเซิ่นนำธันเดอร์ก็อตสไปค์ออกมาและรีบวิ่งเข้าไปหามัน มันเป็นถึงซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า ถึงแม้โอกาสที่จะได้รับวิญญาณอสูรจะต่ำ แต่หานเซิ่นก็อยากจะลองดู
ไฟรอบๆตัวนกแดงน้อยดับลงไปและมันลอยลงมาเกาะบนไหล่ของหานเซิ่น มันหันไปทางหอยสังข์สายรุ้งและสูดลมหายใจเข้า หลังจากนั้นเปลวไฟก็ถูกดูดกลับเข้าไปในท้องของมัน
หานเซิ่นฟาดธันเดอร์ก็อตสไปค์เข้าไปยังเนื้อที่ถูกย่างจนสุกของหอยสังข์ แต่มันเหมือนกับว่าเขาฟาดใส่ยางยืด ธันเดอร์ก็อตสไปค์นั้นเด้งกลับออกมา
หานเซิ่นพยายามรวบรวมพลังทั้งหมด แต่ไม่ว่าเขาจะออกแรงมากสักแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถเจาะทะลวงเนื้อหนังของหอยสังข์ได้
ขณะที่พลังชีวิตของหอยสังข์สายรุ้งค่อยๆจางหายไป ร่างกายของมันก็ตกผลึก
หานเซิ่นรู้สึกหดหู่ ของรางวัลมาอยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว แต่เขาไม่สามารถเอามันไปได้
ไม่นานหลังจากนั้นหอยสังข์สายรุ้งก็ตกผลึกอย่างสมบูรณ์ มันกลายเป็นสิ่งที่เหมือนกับชิ้นงานศิลปะที่ทำขึ้นมาจากคริสตัลสายรุ้ง
“น่าเสียดาย”
หานเซิ่นไม่สามารถเจาะทะลวงเนื้อหนังของหอยสังข์สายรุ้งได้ ถึงแม้เขาจะใช้ธันเดอร์ก็อตสไปค์ของเขาก็ตาม
“การช็อตไฟฟ้าก็เป็นความเสียหายอย่างหนึ่ง นั่นจะถือว่าเราเป็นคนที่ฆ่ามันไหมนะ?” หานเซิ่นรู้สึกกังวลอย่างมาก โอกาสที่จะได้รับวิญญาณอสูรระดับเทพเจ้านั้นเป็นอะไรที่ยั่วยวนอย่างที่สุด
“ซีโน่เจเนอิคหอยสังข์คริสตัลสายรุ้งระดับเทพเจ้าถูกฆ่า ยีนซีโน่เจเนอิคถูกค้นพบ”
หานเซิ่นรู้สึกรวาว่าเขาก้าวเข้าสู่สรวงสวรรค์เพียงเพื่อจะตกลงสู่นรกอันร้อนแรง เขาเป็นคนที่ฆ่ามันได้สำเร็จ แต่เขาไม่ได้รับวิญญาณอสูรระดับเทพเจ้า
“ช่างเถอะ อย่างน้อยเราก็ได้รับยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า นั่นถือเป็นรางวัลที่ดีแล้ว” หานเซิ่นพึมพำกับตัวเอง แต่เขายังคงคอตก
หานเซิ่นส่งร่างของหอยสังข์คริสตัลสายรุ้งกลับเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ สิ่งที่ไม่มีชีวิตจะไม่ได้รับผลจากก็อตแซงชัวรี่เช่นเดียวกับร่างของเรเวนอาทิตย์
หอยสังข์ที่เข้าไปในร่างของกิเลนโลหิตเองก็หายไปหมดแล้วเช่นกัน ถึงแม้กิเลนโลหิตจะยังมีบาดแผลอยู่ทั่วตัว แต่มันก็ไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงอะไร
กิเลนโลหิตเริ่มกินเนื้อของหอยสังข์ภูเขาและส่วนที่เหลืออยู่ของปลาไหลไฟฟ้า หานเซิ่นกัดฟันและมอบยีนซีโน่เจเนอิคของหอยสังข์ภูเขาให้กับกิเลนโลหิตเช่นกัน เขาต้องการให้มันฟื้นคืนพลังโดยเร็ว
หลังจากผ่านไป 2 วัน ก่อนที่หานเซิ่นจะเดินทางกลับไปที่เมืองใต้น้ำ เมื่อถึงตอนนั้นบาดแผลของกิเลนโลหิตก็ไม่เหลือให้เห็นอีกแล้ว แต่มันก็ยังต้องพักฟื้นอีกหน่อยก่อนที่จะหายดี
กิเลนโลหิตได้รับบาดเจ็บสาหัส และหอยสังข์ตัวน้อยก็ทำลายอวัยวะภายในของมัน มันได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก ถ้ามันไม่มีทรัพยากรที่เพียงพอ มันก็จะใช้เวลานานก่อนที่มันจะหายเป็นปกติ
หานเซิ่นสำรวจดินแดนใต้น้ำต่อไป แต่เขาไม่เจอซีโน่เจเนอิคระดับราชันอีก เขาไม่รู้ว่าทำไมถึงพบซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 2 ตัวและระดับเทพเจ้าหนึ่งตัวในบริเวณนั้นได้
หานเซิ่นอยากจะกลับไปที่รูนั่นเพื่อสำรวจดู แต่เขาไม่ถนัดเรื่องการย่อส่วนร่างกาย รูนั้นจะเล็กลงไปเรื่อยๆเมื่อเดินทางลึกเข้าไป ซึ่งในที่สุดมันก็มีความกว้างเท่าเข็มหมุด หานเซิ่นใช้เวลาขุดทางให้กับตัวเองอยู่นาน แต่เขาก็พบไม่อะไร สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจยอมแพ้
“เราควรจะพากิเลนโลหิตไปที่สวนกษัตริย์เพื่อรักษาตัว” หานเซิ่นตัดสินใจ
แน่นอนว่าหานเซิ่นไม่คิดจะรับการคุ้มครองของต้นไม้กษัตริย์อีกครั้ง เขาต้องการหามังกรกษัตริย์รากแก้วสักตัวเพื่อที่เขากับกิเลนโลหิตจะได้ดูดซับลมปราณกษัตริย์ ถ้ากิเลนโลหิตได้ดูดซับลมปราณกษัตริย์สักหน่อย กระบวนการฟื้นตัวของมันก็จะรวดเร็วขึ้น
ถึงแม้หานเซิ่นจะพยายามทำตัวไม่ใเป็นจุดเด่น แต่การที่เขาเข้าไปในสวนกษัตริย์ก็ดึงความสนใจของผู้คนอยู่ดี และมันเป็นเรื่องยากที่จะหามังกรกษัตริย์รากแก้วที่ไม่มีคนอื่นจองเอาไว้ได้
หานเซิ่นพบมังกรกษัตริย์รากแก้วตัวหนึ่ง และหลังจากที่มองดูดีๆ เขาก็ยิ้มออกมา เขาเบะปากและพูด
“มันคือองค์ชายดาบดาราผู้น่าสงสารนี่เอง”
หานเซิ่นบินเข้าไปหาองค์ชายดาบดาราโดยไม่ลังเล
องค์ชายดาบดารานั่งอยู่บนมังกรกษัตริย์รากแก้วตัวหนึ่งร่วมกับองครักษ์ของเขา เมื่อเขาเห็นหานเซิ่นบินตรงเข้ามา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“น้องชายคนดีของข้า เจ้าไม่เคยได้ยินหรือว่าเจ้าควรจะเคารพคนที่อาวุโสกว่า? ข้าต้องการมังกรกษัตริย์รากแก้วตัวนี้ เจ้ารีบไสหัวไปซะ” หานเซิ่นพูด
องค์ชายดาบดาราข้องใจอย่างมากที่หานเซิ่นถูกปล่อยตัวออกมาจากคุกโดยคุณหญิงมิร์เรอร์ ตอนนี้เมื่อได้ยินหานเซิ่นพูดอย่างนี้ มันก็ทำให้เขาโกรธขึ้นมา
“ข้าควรจะเคารพคนที่อาวุโสกว่า แต่ถึงพวกเราจะมอบมันให้กับเจ้า ข้าก็ไม่คิดว่าเจ้าจะรับลมปราณกษัตริย์บนหลังของมันได้อยู่ดี แบบนั้นเจ้าจะเอามันไปทำไม?”
องค์ชายและองค์หญิงคนอื่นรู้ว่าองค์ชายดาบดาราจับตัวหานเซิ่นไปที่ศาลยุติธรรม ด้วยนิสัยอาฆาตของไป๋อี้แล้ว ทุกคนรู้ว่าเขาไม่มีทางปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ เหล่าองค์ชายและองค์หญิงจึงหันสายตามองการเผชิญหน้ากันที่กำลังจะเกิดขึ้นด้วยความตื่นเต้น
“ดูเหมือนว่าพี่คนนี้คงจะต้องส่งสอนบนเรียนให้กับเจ้า”
หานเซิ่นหัวเราะออกมา เขารวบรวมพลังไปที่หมัดและชกออกไปด้วยวิชาหมัดช็อคกิ้งสกายของเอ็กซ์ตรีมคิง เขาชกหมัดออกไปทางองค์ชายดาบดาราที่นั่งอยู่บนหัวมังกร
“จัดการพวกเขา!” องค์ชายดาบดาราสั่งขณะที่มองไปที่กิเลนโลหิตด้วยความกลัว เขาไม่กล้าต่อสู้ด้วยตัวเอง
องครักษ์ 4 คนก้าวออกมาข้างหน้า 2 คนในหมู่พวกเขาเป็นถึงระดับครึ่งเทพ
โดยปกติแล้วหานเซิ่นจะปล่อยให้กิเลนโลหิตเป็นคนต่อสู้ แต่กิเลนโลหิตยังคงได้รับบาดเจ็บอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถปล่อยให้มันออกมาต่อสู้ได้
หานเซิ่นหัวเราะและพูด “ให้พี่คนนี้สอนเจ้าถึงความไร้เทียมทานที่แท้จริงของเอ็กซ์ตรีมคิง!”
หลังจากนั้นเขาก็ส่งหมัดช็อคกิ้งสกายของเอ็กซ์ตรีมคิงเข้าใส่องครักษ์ทั้ง 4
“นี่ไป๋อี้บ้าไปแล้วหรอ?” องค์ชายและองค์หญิงทั้งหมดรู้สึกแปลกใจ
ถึงแม้เขาจะปลุกรูปปั้นอัลฟ่าให้ตื่นขึ้นมาและได้รับความคุ้มครองจากคิงอีซนับไม่ถ้วน แต่ตัวเขาเองก็ยังเป็นแค่ระดับราชันขั้นแรกอยู่ดี ด้วยความสามารถและร่างกายแห่งราชันออริจินอลวอเทอร์ อย่างมากเขาก็ต่อสู้กับยอดฝีมือระดับครึ่งเทพได้แค่คนเดียวเท่านั้น มันเป็นอะไรที่อวดดีเกินไปที่เขาคิดว่าจะรับมือกับคู่ต่อสู้ 4 คนพร้อมๆกัน