Super God Gene - ตอนที่ 2378
ถ้าสามัญชนคนหนึ่งตาย มันจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าองค์หญิงตายไป ราชาไป๋และคนอื่นๆจะตรวจสอบเหตุการณ์อย่างจริงจัง ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงต้องจับตาดูหลันไห่ซินเอาไว้
โชคดีที่มีเป่าเอ๋ออยู่เคียงข้างเธอ เขาไม่ต้องกังวลว่าเธอจะทำเรื่องยุ่งอะไรให้กับเขา
“น้องสิบหก เจ้าตัดสินใจได้หรือยัง?” ภาพของไป๋หลิงซวงปรากฏขึ้นบนหน้าจอโทรศัพท์ของหานเซิ่น
“พวกเราค่อยพูดเรื่องนี้กันทีหลัง ข้ายังไม่มั่นใจว่าจะไปถึงยอดภูเขากระดูกเน่าได้ ถ้าข้าทำข้อตกลงนี้และล้มเหลวในภายหลัง ข้าก็จะทำให้เจ้าต้องผิดหวัง” หานเซิ่นพูด
“นั่นไม่เป็นไร ตราบใดที่เจ้าพยายามอย่างเต็มความสามารถ ข้าจะไม่โทษเจ้า ถึงแม้เจ้าจะล้มเหลว และข้าก็ยังจะให้รางวัลกับเจ้าตามที่ตกลงกัน” ไป๋หลิงซวงพูด
“เจ้าแน่ใจหรือว่าจะให้สัญญาในเรื่องนั้น?” หานเซิ่นดูลังเล
“น้องสิบหก บอกข้ามาว่าเจ้าต้องการอะไร ข้าไม่ใช่คนที่ใจแคบ ถ้าเจ้าต้องการเชอร์ พี่สาวคนนี้ก็ยินดีจะมอบนางให้กับเจ้า” ไป๋หลิงซวงยิ้ม
“เจ้าจะมอบเชอร์ให้กับข้าจริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นพูดอย่างมีความหวัง
ไป๋หลิงซวงยิ้ม “น้องสิบหก เผ่าจิ้งจอกนั้นเชื่อใจไม่ได้ เจ้าต้องการให้นางเป็นองครักษ์ของเจ้าจริงๆอย่างนั้นหรอ?”
“พี่สิบไม่ต้องการจะปล่อยตัวนางไปอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นดูเศร้า
ไป๋หลิงซวงส่ายหัว “ผู้ชายมักจะต้านทานมนตร์เสน่ห์ของเผ่าจิ้งจอกไม่ได้ มันไม่ใช่ว่าข้าต้องการจะเก็บนางห่างจากเจ้า ข้าแค่กลัวว่าบางสิ่งที่เลวร้ายอาจจะเกิดขึ้นถ้าข้าไม่ทำแบบนั้น”
“ถ้าพี่สิบไม่ต้องการจะปล่อยตัวเชอร์ อย่างนั้นก็มอบยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันให้กับข้าหนึ่งร้อยยีน” หานเซิ่นดูคับข้องใจขณะที่พูดข้อเสนอนี้ขึ้นมา
แน่นอนว่าจริงๆแล้วหานเซิ่นไม่ต้องการเชอร์ เขาแค่ขอเธอเพื่อที่จะขอยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันเป็นอีกตัวเลือก
ยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันหนึ่งร้อยยีนถือเป็นคำขอที่มากเกินไป ซึ่งแม้แต่ไป๋หลิงซวงเองก็รู้สึกได้ถึงการสูญเสียขนาดนั้น
แน่นอนว่าถ้าไป๋หลิงซวงเลือกที่จะมอบเชอร์ให้กับเขาแทน หานเซิ่นก็จะยอมรับเธอมา ถ้าเขาควบคุมเชอร์ได้ เขาก็จะใช้เธอต่อรองกับราชินีจิ้งจอก
ไป๋หลิงซวงขมวดคิ้ว ยีนซีโน่จเนอิคระดับราชันหนึ่งร้อยยีนเป็นอะไรที่มากเกินไป แม้แต่คนที่ร่ำรวยอย่างเธอก็ไม่สามารถยอมรับข้อเสนอแบบนั้นได้
เธอเงียบไปสักพักหนึ่ง หลังจากนั้นเธอก็มองกลับมาที่หานเซิ่นและพูด
“เอาแบบนี้เป็นยังไง? ข้าจะมอบยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชัน 50 ยีนให้กับเจ้า และถ้าเจ้าช่วยข้าไปถึงยอดภูเขากระดูกเน่าได้ ข้าจะมอบให้เจ้าอีก 50 ถ้าเจ้าไปถึงยอดภูเขาไม่ได้ เจ้าก็เก็บ 50 ยีนแรกเอาไว้เพื่อเป็นค่าเหนื่อย เจ้าคิดว่ายังไง?”
“แน่นอน” หานเซิ่นยอมรับข้อเสนอในทันที เพราะแค่ได้รับยีนระดับราชัน 50 ยีนก็ถือเป็นเรื่องดีสำหรับเขาแล้ว
“เจ้าจะมาเอาที่เมืองไนท์ชาร์มด้วยตัวเอง หรือเจ้าต้องการให้ข้าส่งคนไปมอบมันให้กับเจ้า?” ไป๋หลิงซวงถาม
“ข้าจะไปที่เมืองไนท์ชาร์ม ข้าคิดถึงเชอร์ พี่สิบคงจะไม่ใจแคบถึงขนาดที่ไม่ปล่อยให้เชอร์ใช้เวลาคืนนี้ร่วมกับข้าหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นถามอย่างละโมบ
ไป๋หลิงซวงไม่ชอบความโลภมากของหานเซิ่น แต่เธอก็ยังตอบตกลง
เป่าเอ๋อและนกแดงน้อยอยู่เฝ้าเมืองใต้น้ำ ดังนั้นหานเซิ่นจึงไม่กลัวว่ามันจะมีเรื่องไม่ดีอะไรเกิดขึ้นกับหลันไห่ซินและลิลลี่
ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น หานเซิ่นค้างคืนร่วมกับเชอร์ แต่แทนที่จะทำในสิ่งที่ไป๋หลิงซวงคิด พวกเขาแค่นอนบนเตียงและแบ่งปันข้อมูลกันเท่านั้น
หานเซิ่นนำยีนซีโน่เจเนเอิคระดับราชันติดตัวกลับไป แต่เขายังไม่คิดที่จะใช้มัน ในตอนที่เขาเลื่อนสู่ระดับราชัน ยีนระดับดยุกจะไร้ประโยชน์สำหรับเขา ดังนั้นการใช้ยีนระดับราชันในตอนนี้จึงเป็นอะไรที่เสียเปล่า
หานเซิ่นนำยีนซีโน่เจเนอิคระดับราชันไปเก็บในโกดังและเดินทางไปที่สวนกษัตริย์ ที่นั่นเขาดูดซับลมปราณกษัตริย์จำนวนมากเข้าไปเพื่อเพิ่มยีนระดับดยุกของเขา
ตอนนี้ไป๋อี้ถูกมองว่าเป็นหนึ่งในคนของราชวงศ์ที่แข็งแกร่งที่สุด ความจริงที่ว่าหานเซิ่นไม่ถูกคนของราชวงศ์คนอื่นยั่วยุเป็นสิ่งที่พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของเขา และการจะหามังกรกษัตริย์รากแก้วสักตัวก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
เพราะอย่างนั้นเขาถึงได้รับยีนระดับดยุกจำนวนมากในเวลาอันสั้น เขาปลดล็อคยีนล็อคทั้ง 3 ของวิชาจีโนทั้ง 4 ตัว และเขาก็ยังคงเหลือเวลาก่อนที่จะถึงการสอบใหญ่
พลังธาตุของกายหยกนั้นสามารถเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายและมอบพลังน้ำแข็งปิดผนึก เลือดกลายพันธุ์มีธาตุโลหิตและพลังทางพันธุกรรม ส่วนวิชาโลหิตชีพจรนั้นแตกต่างออกมาเล็กน้อยตรงที่มันมีธาตุอวกาศและกาลเวลา สำหรับศาสตร์ตงเสวียนนั้นหานเซิ่นไม่รู้ว่ามันอยู่ในหมวดไหนกันแน่
พลังธาตุของเรื่องราวของยีนคืออีเทอร์นิตี้ มันสามารถแช่แข็งสิ่งต่างๆได้ ยิ่งหานเซิ่นสามารถควบคุมธาตุต่างๆได้มากเท่าไหร่ พลังของอีเทอร์นิตี้ก็สามารถประยุกต์ใช้ได้มากขึ้น ถ้าเขาสามารถใช้มันได้เป็นอย่างดี มันก็เป็นอาวุธที่ทรงพลังสำหรับเขา
หลังจากที่เรื่องราวของยีนปลดล็อคยีนขั้นที่ 3 หานเซิ่นก็สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในตอนที่เขาใช้เรื่องราวของยีน การเชื่อมต่อระหว่างเขากับชุดเกราะคริสตัลสีดำถูกสร้างขึ้นมา ถึงแม้การเชื่อมต่อนั้นจะอ่อน แต่หานเซิ่นก็รู้สึกได้ถึงพลังชีวิตและจิตวิญญาณของชุดเกราะคริสตัลสีดำ
“ชุดเกราะคริสตัลสีดำนี้เป็นสิ่งมีชีวิตอย่างนั้นหรอ? หรือว่ามันมีบางสิ่งอยู่ภายในชุดเกราะคริสตัลสีดำ?” หานเซิ่นไม่เข้าใจ
แต่การเชื่อมต่อนั้นอ่อนมากๆ และเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาสัมผัสถึงมันได้ การเชื่อมต่อก็ดูเบลอๆราวกับว่ามันสัญญาณไม่ดี
‘หลังจากที่มนตราเลื่อนสู่ระดับราชัน เราควรพยายามเรียนรู้เกี่ยวกับชุดเกราะคริสตีลสีดำเพิ่ม บางทีเราอาจจะหาได้ว่ามันคืออะไร’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
สวนของกษัตริย์สงบสุขมากๆ คนของราชวงศ์ต่างก็เตรียมตัวสำหรับการสอบประจำปี ไม่มีใครอยากจะสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็นก่อนที่การสอบจะเสร็จสิ้น
หานเซิ่นเดินทางออกจากสวนของกษัตริย์และกลับไปที่เมืองใต้น้ำ หลังจากที่เขาออกจากเมืองกษัตริย์ เขาก็รู้สึกได้ถึงพลังงานประหลาดในยานอวกาศ มันมาจากด้านหลังของเขา
หานเซิ่นหันกลับไปและเห็นราชินีจิ้งจอกนั่งอยู่ด้านหลัง
“ทำไมพี่สาวถึงมาอยู่ที่นี่ได้?” หานเซิ่นหันกลับไปขับยานอวกาศต่อ
ราชินีจิ้งจอกยังคงนั่งอยู่ที่เดิมและยิ้มออกมา “ข้ามาที่นี่เพราะหอคอยแห่งโชคชะตา”
“พี่สาวแสนดีของข้า ในตอนนี้ผู้คนมากมายกำลังสงสัยในตัวข้า แค่ข้าจะปกป้องตัวเองก็เป็นเรื่องยากมากพอแล้ว พี่สาวยังต้องการให้ข้าทำอะไรอีก?” หานเซิ่นพูด
“โอกาสมาอยู่ตรงหน้าของเจ้าแล้ว และมันก็ไม่ได้มีความเสี่ยงอะไรอีกด้วย ถ้าเจ้าติดอันดับ 1 ใน 3 ของการสอบที่จะมาถึง เจ้าจะได้รับสิทธิ์ให้เข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา” ราชินีจิ้งจอกพูด
“ข้าจะได้เข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตาถ้าข้าติดอันดับ 1 ใน 3 อย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นแปลกใจ ถ้าเขามีโอกาส เขาก็อยากจะเข้าไปในหอคอยแห่งโชคชะตา
“ใช่ แต่เจ้าจำเป็นต้องติด 1 ใน 3” ราชินีจิ้งจอกพยักหน้า
“แต่มันมีคนของราชวงศ์ที่เป็นระดับเทพเจ้าร่วมการสอบด้วยถึง 2 คน และมันยังมีคนที่เป็นระดับครึ่งเทพอยู่อีกหลายคน มันมีผู้เข้าร่วมการสอบมากเกินกว่าที่ข้าจะติด 1 ใน 3 ได้” หานเซิ่นส่ายหัวของเขา
ราชินีจิ้งจอกยิ้ม “เจ้าต้องติด 1 ใน 3 ไม่อย่างนั้นข้าจะบอกทุกคนว่าเจ้าเป็นคนฆ่าไป๋อี้”
“ทำไมพี่สาวถึงได้เรียกร้องในสิ่งที่ข้าทำไม่ได้? พี่สาวช่วยกำหนดเงื่อนไขที่พอเป็นไปได้หน่อยได้ไหม?” หานเซิ่นไม่ได้ยินคำตอบกลับของราชินีจิ้งจอก เมื่อเขาหันกลับไปด้านหลัง เธอก็หายตัวไปแล้ว