Super God Gene - ตอนที่ 2403
หัวใจของหานเซิ่นเต้นรัว เขาไม่ได้ใส่ใจอะไรเกี่ยวกับเทพเจ้า แต่เขาใส่ใจที่ได้ยินคำว่าพระเจ้า
ตั้งแต่ที่หานเซิ่นเข้าไปในก็อตแซงชัวรี่ เขาก็รู้สึกเกลียดคำว่าพระเจ้าขึ้นมา เพียงแค่ได้ยินมันก็ทำให้เขาอารมณ์เสียขึ้นมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนึกถึงทีมเจ็ด
‘เจ้านี่คงจะไม่ได้เป็นพระเจ้าที่กล่าวอ้างว่าจะเนรมิตความปรารถนาให้เป็นจริงหรอกใช่ไหม?’
หานเซิ่นจ้องมองชายที่นั่งอยู่บนแท่นหิน เขาเชื่อว่าชายคนนี้ต้องเป็นคนที่เขาได้ยินเรื่องราวมา
แถมปฏิกิริยาของชุดเกราะคริสตัลสีดำก็ทำให้หานเซิ่นรู้สึกระวังตัวยิ่งกว่าเดิม
‘ไม่เคยได้ยินว่ามีเอ็กซ์ตรีมคิงคนไหนที่ถูกฆ่าตายภายในหอคอยแห่งโชคชะตานี้ พวกเขาบอกแค่ว่าได้เรียนรู้อะไรมากมายจากช่วงที่อยู่ภายในหอคอย มันไม่มีใครที่พูดเป็นนัยถึงบางสิ่งที่เป็นอันตรายร้ายแรงภายในหอคอย’ หานเซิ่นคิดกับตัวเอง
‘แต่ไม่แปลกใจเลยที่เอ็กซ์ตรีมคิงแต่ละคนได้เรียนรู้สิ่งที่แตกต่างกันจากภายในหอคอยนี้ มันไม่ได้มีวิชาจีโนอยู่ที่นี่ แต่มันเป็นสิ่งมีชีวิตแทน’
หานเซิ่นยังคงนิ่งเงียบ ชายคนนั้นจึงถามขึ้นอีกครั้ง “หนุ่มน้อย เจ้าเชื่อว่าโลกนี้มีพระเจ้าไหม?”
“ข้าเชื่อแบบนั้น” หานเซิ่นตอบด้วยความมั่นใจ แต่ในใจเขาคิดว่า
‘แน่นอนว่าฉันเชื่อ พี่ใหญ่หานคนนี้ก็คือพระเจ้าดอลลาร์’
ชายคนนั้นพยักหน้าและพูดต่อ “ถ้าข้าบอกเจ้าว่าข้าคือพระเจ้า เจ้าจะเชื่อไหม?”
“ข้าเชื่อ” หานเซิ่นพูด เขาต้องการให้ชายคนนั้นพูดต่อไปเรื่อยๆ ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาได้พยายามเสาะหาข้อมูลของบุคคลที่เรียกตัวเองว่าพระเจ้า หานเซิ่นอยากจะรู้ถึงจุดประสงค์ที่แท้จริงหรือที่มาของอีกฝ่ายจนเต็มแก่แล้ว
ชายคนนั้นไม่ได้ดูประหลาดใจหรือกังวลใจกับคำตอบของหานเซิ่น สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยนแปลง เขายังคงยิ้มอยู่เช่นเดิม
“มันคือชะตากรรมที่พาเจ้ามาพบกับข้า ข้าจะเนรมิตคำอธิษฐานอย่างหนึ่งของเจ้าให้เป็นจริง เจ้าจะขออะไรก็ได้ที่ต้องการ เจ้ามีโอกาสแค่ครั้งเดียว ไม่ว่าเจ้าจะขออะไร มันจะกลายเป็นความจริง แต่เจ้าจะเปลี่ยนคำอธิษฐานในภายหลังไม่ได้”
‘หมอนี่คงจะเหมือนกับราชาจุน’ หานเซิ่นหัวเราะในใจ ขณะที่เขามองไปที่ชายคนนั้น
“ข้าจะขออะไรก็ได้จริงๆอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถาม
“อะไรก็ได้ที่เจ้าปรารถนา พระเจ้าทำได้ทุกสิ่งทุกอย่าง” ชายคนนั้นพูดอย่างสงบนิ่ง
หานเซิ่นขมวดคิ้วและไม่ได้พูดอะไรออกมา การอธิษฐานดูเหมือนจะเป็นอะไรง่ายๆ แต่จริงๆแล้วมันเป็นกับดักที่ซับซ้อน สมาชิกแต่ละคนของทีมเจ็ดได้ทำการอธิษฐานไป ซึ่งพวกเขาแต่ละคนก็ต้องเสียใจกับคำอธิษฐานของตัวเอง พวกเขาไม่เคยคาดคิดว่าบางสิ่งที่เลวร้ายจะเกิดขึ้นกับพวกเขา
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหานเซิ่นขอเงินจำนวนมาก ชายที่กล่าวอ้างว่าเป็นพระเจ้าก็อาจจะจัดฉากอุบัติเหตุและทำให้เงินจำนวนมากตกมาอยู่ที่เขา นั่นดูเหมือนจะเป็นเรื่อที่งดี แต่เมื่อความจริงถูกเผยออกมาว่าเงินนั้นเป็นของฆาตรกรโรคจิต ในที่สุดเขาก็จะถูกฆ่าโดยฆาตรกรโรคจิตคนนั้น
พระเจ้าควรจะเป็นแนวคิดนามธรรม เมื่อผู้คนทำการอธิษฐานต่อพระเจ้าแล้ว พวกเขาก็ควรจะดำเนินชีวิตของตัวเองต่อไป ไม่ใช่ต้องมีชีวิตอยู่กับคำอธิษฐานนั้นๆ
ถ้าผู้คนคิดว่าพระเจ้าคือคนที่จะเนรมิตคำอธิษฐานให้เป็นจริงเหมือนกับชายคนนี้ มันจะเป็นอะไรที่อันตรายมากๆ
ถ้าบางคนเชื่อในพระเจ้า แบบนั้นพวกเขาก็จะเชื่อว่าพระเจ้าคืออำนาจที่แท้จริงในโลกใบนี้ ทุกการกระทำของพระเจ้าจะมีผลที่ตามมา พระเจ้าไม่สามารถสร้างบางสิ่งขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้
คำอธิษฐานของคนๆหนึ่งจะเป็นบางสิ่งที่มีอยู่แล้วในจักรวาล แน่นอนว่าสิ่งนั้นจะมีการเชื่อมต่อกับจักรวาลอยู่ก่อนแล้ว อะไรก็ตามที่คนๆหนึ่งอธิษฐานจะมีความเกี่ยวข้องอย่างลึกซึ้งกับการทำงานของโลกใบนี้
เมื่อคนๆหนึ่งอธิษฐานบางสิ่งที่พวกเขาต้องการ ผลที่ตามมาจากการขอของสิ่งนั้นก็จะตกมาสู่ผู้ขอคำอธิษฐานนั้นๆ ยิ่งของที่ขอหายากมากเท่าไหร่ ผลที่ตามมาก็จะเลวร้ายมากเท่านั้น สิ่งที่ต้องจ่ายคืนจะเป็นอะไรที่มากมายมหาศาล
ถ้าคนๆหนึ่งอธิษฐานขอเงินหมื่นดอลลาร์ เงินก้อนนั้นก็อาจจะเป็นเงินของแม่ที่ต้องการจะรักษาลูกชายที่เจ็บป่วย ซึ่งเมื่อเงินก้อนนั้นถูกมอบให้กับผู้ขอคำอธิษฐาน ลูกชายคนนั้นก็จะตายและความเกลียดชังของแม่คนนั้นก็จะตกมาสู่ผู้ขอคำอธิษฐาน
ถ้าผู้ขอคำอธิษฐานโลภมากและขอเงินหนึ่งล้านดอลลาร์ คำอธิษฐานนั้นก็อาจจะทำร้ายหนึ่งร้อยชีวิต ผู้ขอคำอธิษฐานจะถูกเกลียดชังโดยหนึ่งร้อยครอบครัว การถูกหนึ่งร้อยครอบครัวแก้แค้นถือเป็นราคาที่สูงที่ต้องจ่ายคืน
แต่นั่นเป็นเพียงแค่การคาดเดาของหานเซิ่น พวกมันอาจจะไม่ได้เป็นเรื่องจริง แต่เมื่อดูจากเรื่องที่เกิดขึ้นกับสมาชิกของทีมเจ็ด มันก็เป็นไปได้ที่การคาดเดาจะเป็นความจริง
มันไม่สำคัญว่าผู้อธิษฐานจะขอความเป็นอมตะหรือการกลับไปเป็นวัยหนุ่มสาว ทุกคำอธิษฐานจะมีผลที่ตามมา บางครั้งผลที่ตามมาจะเป็นอะไรที่เลวร้าย พวกเขาอาจจะต้องทนทุกข์ทรมานเพื่อจ่ายสิ่งที่ตัวเองติดค้างเอาไว้
‘ถ้าทฤษฎีนี้ถูกต้องล่ะก็ แบบนั้นทุกคนที่เข้ามาในหอคอยแห่งโชคชะตาก็ควรจะต้องจ่ายคืนคำอธิษฐานของตัวเอง แต่ไม่เห็นเคยได้ยินเกี่ยวกับความโชคร้ายของคนที่เคยเข้ามาในนี้เลย ทำไมกันนะ?’ หานเซิ่นขมวดคิ้ว
ชายที่กล่าวอ้างว่าตัวเองเป็นพระเจ้าสังเกตเห็นว่าหานเซิ่นยังคงยิ่งเงียบ เขายิ้มและพูด
“ข้าจะให้เวลาเจ้าคิดเกี่ยวกับสิ่งที่จะขอ มันมีรูปภาพพระเจ้าทั้ง 48 รูปอยู่ในหอคอย พวกมันทั้งหมดมีจิตวิญญาณของข้าอยู่ เจ้าควรจะไปมองดูพวกมัน บางทีพวกมันอาจจะช่วยให้เจ้าตัดสินใจได้ นั่นเป็นของขวัญแรกที่ข้าจะมอบให้กับเจ้า เมื่อเจ้าคิดได้แล้วว่าต้องการจะขออะไร เจ้าก็กลับมาหาข้าและข้าจะทำให้มันเป็นความจริง”
หานเซิ่นไม่ได้เดินจากไป เขามองไปที่ชายคนนั้นและถาม
“ถ้าข้าอธิษฐานไป ข้าจะต้องจ่ายอะไรกลับคืนไปไหม?”
ชายคนนั้นยังคงยิ้มและพูด “เจ้าต้องจ่ายคืน”
หานเซิ่นประหลาดใจที่ชายคนนั้นยอมตอบ เขาคิดว่าอีกฝ่ายจะไม่มีทางยอมรับในเรื่องนี้ซะอีก หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ถามต่อในทันที
“ข้าจะต้องมอบอะไรให้กับเจ้า?”
ชายคนนั้นมองหานเซิ่นและไม่ตอบคำถามของเขา
“เจ้าไม่ใช่คนแรกที่ถามคำถามนี้กับข้า และเจ้าคงจะไม่ใช่คนสุดท้าย ข้าตอบคำถามของเจ้าได้ แต่ถ้าข้าตอบ เจ้าจะต้องขอคำอธิษฐาน ตกลงไหม?”
หานเซิ่นคิดอยู่ชั่วครู่ หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมาอย่างจริงจัง “ตกลง”
ชายคนนั้นยิ้มและพูด “คำอธิษฐานที่เจ้าขอจะกลายเป็นจริง และนั่นเป็นเพราะมันคือสิ่งที่เจ้าสมควรได้รับ”
“สิ่งที่ข้าขอคือสิ่งที่ข้าสมควรได้รับอย่างนั้นหรอ? ถ้าข้าต้องการภรรยาหนึ่งร้อยคน นั่นก็หมายความว่าภรรยาเหล่านั้นจะกลายเป็นภรรยาของข้าเรียบร้อยแล้วอย่างนั้นหรอ? นั่นไม่เห็นจะฟังดูรู้เรื่องเลย?”
หานเซิ่นนิ่งไปชั่วขณะ สิ่งที่ชายคนนั้นพูดเป็นบางสิ่งที่หานเซิ่นไม่สามารถยอมรับได้ แต่เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับมันอีกที เขาก็แทบหยุดหายใจ ตอนนี้หานเซิ่นรู้แล้วว่าทำไมอีกฝ่ายถึงพูดออกมาแบบนั้น
สิ่งที่ชายคนนั้นพูดมันกลับตาลปัตรกัน ถ้าลองทำความเข้าใจมันแบบกลับหน้ากลับหลัง มันก็จะเป็นอะไรที่สมเหตุสมผล แต่ความสัมพันธ์ของเหตุและผลนั้นกลับตาลปัตรกัน