Super God Gene - ตอนที่ 2451
หานเซิ่นมองดูการต่อสู้ด้วยความหวังที่จะฉวยโอกาสฆ่าพวกเขาทั้งคู่อย่างง่ายๆ แต่ไม่นานหลังจากนั้นก็มีบางสิ่งเกิดขึ้นทำให้เขาต้องคิดใหม่อีกครั้ง
มีเสียงดนตรีลอยเข้ามาในหูของหานเซิ่น ในตอนที่ได้ยินเสียงโน้ตตัวแรก จิตใจของหานเซิ่นก็ดูเหมือนจะสั่นสะเทือนราวกับว่ามีใครมาทุบใส่หัวของเขาด้วยค้อน
หานเซิ่นรู้สึกว่านั่นเป็นอะไรที่ทำให้เขาไม่ค่อยสบายเล็กน้อย แต่เหล่าโจรสลัดระดับดยุกต่างพากันล้มลงไปกับพื้นและกระอักเลือดออกมา ตัวของพวกเขาบิดงอและเลือดไหลออกมาจากรูทั้ง 7 ของร่างกายพวกเขา พวกเขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
“โอ้ไม่นะ! เอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้ากำลังใช้พลังเสียง ถึงวาฬขาวนั้นจะทนทาน แต่มันป้องกันพลังเสียงไม่ได้ พวกเราต้องไปจากที่นี่!” หานเซิ่นบอกให้เป่าเอ๋อขับวาฬขาวอออกไปจากที่นี่
วาฬขาวเป็นเพียงแค่เทคโนโลยี ดังนั้นมันไม่สามารถปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ทุกอย่างที่มันเผชิญได้
ฟางชิงอวี่เป็นคนที่อ่อนแอที่สุดบนยาน ด้วยเหตุนั้นเขาจึงมีสภาพแย่กว่าคนอื่นมาก โชคดีที่หานเซิ่นปลดปล่อยอาณาเขตแห่งราชันเพื่อบรรเทาผลจากพลังเสียงได้ทัน ไม่อย่างนั้นล่ะก็พลังเสียงก็คงจะทำลายสมองของฟางชิงอวี่ไปแล้ว
วาฬขาวเดินทางผ่านหมู่เมฆอย่างเต็มกำลัง หลังจากที่หนีห่างออกมาได้สักระยะ ผลกระทบของพลังเสียงก็บรรเทาลงไป แต่คนของหานเซิ่นก็ยังคงทนรับพลังเสียงจากการต่อสู้ที่น่ากลัวไม่ได้อยู่ดี
หลังจากที่เห็นแบบนั้น หานเซิ่นก็ไม่คิดจะอยู่ต่อเพื่อหาโอกาสฆ่าพวกเขาทั้งคู่อีก
“อย่าเพิ่งไป! ถ้าพวกเราจากไปในตอนนี้ พวกเราก็จะถ่ายภาพการต่อสู้ไม่ได้ และถ้าพวกเราไม่ได้ถ่ายภาพการต่อสู้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกเราลงทุนไปก็จะสูญเปล่า ข้าต้องกลับไปที่นั่นและถ่ายภาพการต่อสู้ต่อ!” ฟางชิงอวี่ตะโกนใส่หานเซิ่นทันทีที่เขารู้สึกดีขึ้น
“เจ้าบ้ายิ่งกว่าข้าซะอีก นี่เจ้ายินดีที่จะตายเพื่อเงินอย่างนั้นหรอ?”
หานเซิ่นมองฟางชิงอวี่ด้วยความแปลกใจ ชายคนนี้สนใจเงินเหนือสิ่งอื่นใดทั้งหมดจริงๆ
“สหพันธ์1000สมบัติไม่อาจลงทุนในกิจการที่สูญเสียเงินได้ ข้าต้องกลับไป” ฟางชิงอวี่กัดฟันพูดออกมา
เมื่อเห็นว่าฟางชิงอวี่ไม่ได้ล้อเล่น กู่ชิงเฉิงก็พูดขึ้นมา “มันจะสำคัญอะไรว่าหาเงินได้มากแค่ไหน ถ้าต้องตายไป?”
ฟางชิงอวี่ส่ายหัวและรอยยิ้มแห้งๆ “พวกเจ้าไม่เข้าใจ นี่ไม่ได้เกี่ยวกับข้าแค่คนเดียว ทีมของข้าลงทุนไปมากกับแผนการนี้ ถ้าพวกเราไม่ทำตามแผนที่วางกันไว้ มันไม่ใช่แค่ข้าคนเดียวที่จะเดือดร้อน ทีมของข้าทุกคนจะเดือดร้อนไปด้วย! พวกเขาทุ่มเงินทั้งหมดกับแผนการนี้ นั่นหมายความว่าพวกเขาทุกคนจะหมดตัว และนั่นอาจจะทำให้พวกเขาทุกคนไม่อยากจะมีชีวิตอีกต่อไป”
“มอบรูบิคว่านเจียมาให้กับข้า และข้าจะเป็นคนไปถ่ายวิดีโอแทนเจ้าเอง” หานเซิ่นพูดหลังจากคิดไปชั่วครู่
หานเซิ่นเองก็ไม่อยากจะจากไปทั้งๆอย่างนั้นเช่นกัน แต่เป่าเอ๋อ หนิงเยวี่ยและกู่ชิงเฉิงอยู่บนยานกับเขาด้วย ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่อยากเอาชีวิตของพวกเขาไปเสี่ยง
แต่ถ้าเขากลับไปเพียงคนเดียว มันก็ไม่มีอะไรต้องกังวลมาก
“ข้าไม่รู้ว่านั่นจะ…” ฟางชิงอวีแปลกใจ
“มันจะเป็นอะไร” หานเซิ่นเอารูบิคว่านเจียมาจากมือฟางชิงอวี หลังจากนั้นเขาก็หันไปพูดกับเป่าเอ๋อ
“เป่าเอ๋อพาพวกเขาไปให้ไกลจากที่นี่ เดี๋ยวพ่อจะตามไปทีหลัง”
หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ออกจากวาฬขาวไปและมุ่งหน้ากลับไปที่สนามต่อสู้
ด้วยการนำของเป่าเอ๋อและการปกป้องจากนกแดงน้อย พวกเขาควรจะรอดชีวิตไปได้ ถึงแม้จะต้องเผชิญกับซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้า ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่ได้กังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเขามากนัก
และส่วนตัวหานเซิ่นเอง เขารู้ว่าสามารถเอาตัวรอดได้ ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่กลับมาเพียงลำพัง
หมู่เมฆสั่นสะเทือนและเสียงดนตรีก็ฟังดูชั่วร้ายและน่าขนลุก ภายใต้แรงกดดันจากพลังเสียง ก้อนเมฆสีฟ้าก้อนใหญ่ถูกซัดออกไปราวกับคลื่นของมหาสมุทร ซีโน่เจเนอิคและอสูรเมฆามากมายที่อาศัยอยู่ภายในก้อนเมฆนั้นพากันหนีไปเพื่อเอาชีวิตรอด
แต่อสูรเมฆาและซีโน่เจเนอิคระดับต่ำไม่มีเวลาแม้แต่จะหนีไป พวกมันถูกฆ่าตายด้วยพลังเสียงก่อนที่จะออกไปจากก้อนเมฆได้
หานเซิ่นใช้อาณาเขตตงเสวียนและกายหยก เขาเรียกพลังทั้งหมดออกมาเพื่อต่อสู้กับพลังเสียงนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็แทบจะทนไม่ไหว เมื่อเขาเข้าไปใกล้ๆกับสนามต่อสู้ เขารู้สึกราวกับว่าหัวของเขาจะถูกฉีกเปิดออกโดยเสียงของตัวโน้ต
หานเซิ่นเรียกวิญญาณอสูรดวงหนึ่งออกมา มันเป็นวิญญาณอสูรที่มีรูปร่างเหมือนลูกตาที่มีม่านตาสีแดง มันเป็นวิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อตระดับเทพเจ้าที่หานเซิ่นได้รับมาจากเมืองดูก็อต
ร่างกายของบลัดอายอีวิลก็อตคือลูกตาที่หานเซิ่นฆ่าได้ขณะที่มันพยายามจะหนีไป ส่วนรูปปั้นพันแขนพันตาเป็นเพียงแค่พาหนะหรือเปลือกนอกที่ลูกตาอยู่อาศัยเท่านั้น
“วิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อตระดับเทพเจ้ากลายพันธุ์ : ดวงตา”
วิญญาณอสูรบินเข้าไปในดวงตาข้างซ้ายของหานเซิ่นและก่อตัวเป็นครึ่งวงกลมที่บางอย่างมากเหมือนกับคอนแทคเลนส์ ดวงตาข้างซ้ายของหานเซิ่นถูกห่อหุ้มด้วยสีแดง
พลังของวิญญาณอสูรเนตรม่วงคือการวิเคราะห์และย้อนอดีตของวัตถุต่างๆ ส่วนพลังของวิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อตนั้นต่างออกไป
ขณะที่ดวงตาข้างซ้ายของหานเซิ่นเปลี่ยนเป็นสีเลือด แสงสีแดงของม่านตาของเขาก็ดูเหมือนจะหมุนอย่างไม่หยุด หลังจากนั้นแสงสีเลือดก็หลั่งไหลออกมาจากดวงตาของหานเซิ่น
แสงสีเลือดห่อหุ้มทั้งร่างกายของเขาและเปลี่ยนเขาเป็นเงาสีเลือด เขาดูเหมือนกับสิ่งที่ไม่มีรูปลักษณ์ ทั้งร่างกายของเขาที่ถูกเห็นได้นั้นเป็นสีเลือดทั้งหมด
เมื่อหานเซิ่นกลายเป็นเงาสีเลือดแล้ว ทุกอย่างที่สายตาของเขามองเห็นก็เปลี่ยนไป
หานเซิ่นเห็นมังกรเมฆยักษ์กำลังบินหนีมา เขามองเห็นดวงตาของมันและเขาเห็นภาพสะท้อนของตัวเองในดวงตานั้น วินาทีต่อมาร่างกายของหานเซิ่นก็หายเข้าไปในดวงตาของมังกรเมฆยักษ์
หานเซิ่นพบว่าตัวเองสามารถซ่อนตัวภายในดวงตาของสิ่งมีชีวิตอื่นได้ราวกับว่าเขาลอดไปอยู่ด้านหลังของภาพสะท้อนในดวงตาของมังกรเมฆยักษ์
หานเซิ่นจะปลอดภัยและไม่ถูกมองเห็นได้ นอกซะจากว่าผิวสะท้อนของดวงตามังกรเมฆยักษ์จะถูกทำลาย นั่นเป็นหนทางเดียวที่คนอื่นจะทำอะไรเขาได้
หานเซิ่นซ่อนตัวในดวงตาของมังกรเมฆยักษ์ และเขาก็รู้สึกตัวว่าเขามองเห็นสิ่งที่มังกรนั้นมองเห็น
เมื่อดวงตาของมังกรเมฆยักษ์ตัวนี้สบกับตาของมังกรอีกตัว หานเซิ่นก็เคลื่อนย้ายเข้าไปในดวงตาของมังกรตัวที่ 2
การเคลื่อนย้ายนี่เหมือนกับการกระโดดจากกระจกไปอีกกระจก นอกจากเขาจะไม่สามารถถูกโจมตีได้แล้ว มันยังไม่มีใครมองเห็นร่างกายของเขาด้วย
มันเหมือนกับว่าหานเซิ่นมองเข้าไปในกระจกและสลับที่กับภาพสะท้อนของตัวเอง ร่างกายทั้งร่างของหานเซิ่นสามารถที่จะเทเลพอร์ตเข้าไปในดวงตาของทุกสิ่งมีชีวิตที่เขามองเห็นได้ มันเหมือนกับว่าเขาเคลื่อนย้ายร่างกายของตัวเองเข้าไปในดวงตาของสิ่งมีชีวิตอื่น
แต่เมื่อหานเซิ่นเคลื่อนย้ายไปในดวงตาของสิ่งมีชีวิตอื่น ม่านตาของสิ่งมีชีวิตนั้นก็จะเปลี่ยนเป็นสีแดง ซึ่งนั่นเป็นอะไรที่ถูกสังเกตเห็นได้ง่าย
หลังจากที่เคลื่อนย้ายอีกหลายครั้ง ดวงตาของมังกรเมฆยักษ์ตัวหนึ่งหันไปสบตากับเป่าฉิน หานเซิ่นจึงเทเลพอร์ตเข้าไปในดวงตาของเอ็กซ์ตรีมคิงระดับเทพเจ้าคนนั้นในทันที
การมองเห็นของเป่าฉินกลายเป็นการมองเห็นของหานเซิ่น การอยู่ในดวงตาของชายคนนั้น ทำให้หานเซิ่นเห็นทุกสิ่งที่เขาเห็น
‘เรากระโดดเข้ามาอยู่ในดวงตาของยอดฝีมือระดับเทพเจ้าได้ด้วยหรอเนี่ย?’ หานเซิ่นรู้สึกดีใจ แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถหยุดพลังของวิญญาณอสูรบลัดอายอีวิลก็อตได้ นี่ทำให้เขาประหลาดใจพอสมควร