Super God Gene - ตอนที่ 2595
ตอนที่ 2595 ดวงตาที่ว่างเปล่า
“เป็นไปไม่ได้” เมื่อเหมิงเลี่ยเห็นดวงตาของผู้หญิงบนโล่เริ่มจะเรืองแสงออกมา ใบหน้าของเขาก็ซีดไป
ในตอนที่เผ่ากาน่าจุดดวงไฟในจีโนฮอลล์เมื่อนานมาแล้ว พวกเขาไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับเผ่าพันธุ์อื่นเพื่อแย่งชิงตะเกียง ในยุคสมัยนั้นมันยังมีตะเกียงจีโนหลายอันที่เหลือว่างอยู่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเผ่ากาน่าไม่แข็งแกร่ง ภายหลังอัลฟ่าของกาน่าได้ใช้สถานล้างบาปแห่งสรวงสวรรค์และโล่เมดูซ่าส์เกซเพื่อสยบเผ่าพันธุ์ต่างๆ มันมีน้อยเผ่าพันธุ์นักที่จะต่อกรกับพวกเขาได้
แม้แต่คนอย่างแอนเชี่ยนท์วอเทอร์ก็อตก็ยังไม่สามารถเข้าไปในประตูของจีโนฮลล์ได้ แต่อัลฟ่าของกาน่าต่อสู้อยู่ภายในนั้นเป็นเวลาหลายวันก่อนที่เธอจะพ่ายแพ้ นั่นพิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเธอ
สำหรับเผ่าพันธุ์อื่นๆ อาวุธระดับเทพเจ้าที่ทรงพลังที่สุดจะเป็นอาวุธเผ่าพันธุ์ แต่สำหรับเผ่ากาน่าแล้ว อาวุธเผ่าพันธุ์ของพวกเขาก็คือสถานล้างบาปแห่งสรวงสวรรค์ แต่อาวุธระดับเทพเจ้าที่ทรงพลังที่สุดของพวกเขานั้นคือโล่เมดูซ่าส์เกซ เพราะโล่เมดูซ่าส์เกซ อัลฟ่าของพวกเขาถึงสามารถสยบเผ่าพันธุ์อื่นได้
เหมิงเลี่ยเคยได้ยินเกี่ยวกับความทรงพลังของโล่เมดูซ่าส์เกซ แต่เขาไม่เคยเห็นมันกับตาตัวเอง ถ้าเขาเลือกได้ เขาก็ขอเลือกที่จะไม่มองดูพลังที่น่าสะพรึงกลัวของโล่เมดูซ่าส์เกซ เขาไม่อยากจะตกเป็นเป้าหมายของมัน
“ตายซะ!” เหมิงเลี่ยกัดฟันและคำรามออกมา เขาปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา มีดแสงที่น่ากลัวพุ่งออกไปด้วยพลังมหาศาล เขาต้องการจะฆ่าหานเซิ่นก่อนที่อีกฝ่ายจะเปิดใช้งานโล่เมดูซ่าส์เกซได้ เหมิงเลี่ยจะไม่ยอมปล่อยให้อาวุธนั้นถูกเปิดใช้งาน
มีดแสงสีทองเป็นเหมือนกับคอสมิกออโรร่าที่ผ่าท้องฟ้าและทำลายผืนดิน มันไม่ใช่บางสิ่งที่โล่อันหนึ่งจะป้องกันได้ พลังที่น่ากลัวนั้นอยู่ทุกหนทุกแห่ง หานเซิ่นจะถูกฆ่าตาย ถึงแม้เขาจะหลบอยู่หลังโล่ก็ตาม
หานเซิ่นไม่มีทางเลือกอื่น เขากัดฟันและใส่พลังทั้งหมดเข้าไปในโล่เมดูซ่าส์เกซ เขาเดิมพันทุกอย่างกับมัน
ผู้คนในวาฬขาวตกตะลึง พลังที่เหมิงเลี่ยปลดปล่อยออกมานั้นเป็นอะไรที่น่ากลัว พลังงานมหาศาลที่เขาใช้นั้นมากพอที่จะทำลายล้างทั้งเผ่าพันธุ์ มันเป็นเหมือนกับการลงโทษจากเทพ
“เหมิงเลี่ยแข็งแกร่งเกินไป ชื่อเสียงของเขาไม่ใช่ของปลอม เขาเหนือกว่ายอดฝีมือระดับเทพเจ้าของเผ่าพันธุ์อื่นมาก”
“แน่นอนอยู่แล้ว ลุงสี่ของพวกเราเป็นคนที่พิเศษมากๆ”
เหล่าอัศวินเอ็กซ์ตรีมคิงรู้สึกดีใจ พวกเขาหวังว่าการโจมตีของเหมิงเลี่ยจะฆ่าหานเซิ่นและช่วยพวกเขาไปจากพวกหานเซิ่น
ส่วนเหล่าโจรสลัดและฟางชิงอวี่ต่างก็หวาดกลัว ถึงแม้จะมีพวกเขาอยู่กันเป็นล้านคน การโจมตีนั่นก็มีพลังพอที่จะทำลายพวกเขาทั้งหมดให้กลายเป็นผุยผง
เหล่าโจรสลัดเดินทางไปรอบๆกาแล็กซี่เป็นเวลาหลายปี และพวกเขาก็ไม่เคยเห็นพลังแบบนี้มาก่อน พวกเขาสั่นรัวขณะที่คิดในใจ
‘มันจบสิ้นแล้ว… มันจบสิ้นแล้ว… ดูเหมือนว่าเขากำลังจะต้องตายที่นี่… กัปตันเป็นคนใจดี เขาไม่เคยทำไม่ดีต่อพวกเรา ถ้าพวกเราต้องตกอยู่ใต้กำมือของเอ็กซ์ตรีมคิง มันก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาจะไว้ชีวิตพวกเราไหม’
ใบหน้าของกู่ชิงเฉิงและจันทราสวรรค์ดูแย่ มีดแสงที่น่ากลัวนั่นทรงพลังเกินกว่าที่พวกเธอจะหยั่งถึง
หนิงเยวี่ยกอดเป่าเอ๋อขณะที่ร้องไห้ออกมา “นี่เขาจะฆ่าพวกเราด้วยไหม? ฉันยังไม่อยากตาย!”
นกแดงน้อยยังคงพ่นเพลิงฟินิกซ์ออกมา ไฟของมันกลายเป็นทะเลเพลิงที่พยายามจะสยบมีดแสงสีทอง แต่ทะเลเพลิงของมันไม่สามารถหยุดมีดแสงเอาไว้ได้ พวกมันระเบิดราวกับดอกไม้ไฟเมื่อสัมผัสกับมีดแสง และมีดแสงก็ไม่มีวี่แววที่จะชะลอความเร็วลงเลย
สีหน้าของอี๋ซาแข็งกร้าว มีดเขี้ยวในมือซ้ายของเธอแกว่งผ่านอากาศไปทางหานเซิ่น รอยแยกของอวกาศปรากฏขึ้นถัดไปจากตัวเขา
ถ้าหานเซิ่นผ่านรอยแยกนั้นเข้าไป เขาก็จะสามารถหลบการโจมตีของเหมิงเลี่ยได้
แต่หานเซิ่นไม่เห็นรอยแยกอวกาศที่เกิดขึ้น ดวงตาของเขาแดงก่ำ พวกมันแดงเกินไป มันดูเป็นอะไรที่น่ากลัว เขาจ้องมองไปที่เหมิงเลี่ย
ที่หานเซิ่นยังคงไม่ขยับนั้นไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะหนีไป เขาเพียงแค่ทำไม่ได้ พลังทั้งหมดในร่างกายของเขาถูกดูดไปโดยโล่เมดูซ่าส์เกซ
ในจังหวะที่โล่เมดูซ่าส์เกซสว่างไสวขึ้นมา หานเซิ่นก็รู้สึกราวกับว่าพลังของเขาเป็นม้าป่าที่หนีจากบังเหียน พวกมันพลุ่งพล่านเข้าไปในโล่เมดูซ่าส์เกซ
ร่างกายของเขาดูเหมือนจะถูกดูดจนแห้ง พลังของทั้ง 4 วิชาจีโนถูกดูดออกไปในหนึ่งวินาที
หานเซิ่นดูผอมแห้งลงไปอย่างเห็นได้ชัด เขาดูเหมือนกับโครงกระดูก เขากลายเป็นเหมือนกับเปลือกไม้ที่แห้งเหือด กล้ามเนื้อของเขายุบลงไปและผิวหนังของเขาก็แน่นจนติดกับกระดูก เขากลายเป็นมนุษย์ที่ถูกดูดจนแห้ง
แม้แต่แสงสีรุ้งของเสือคลุมวิญญาณราชานกยูงก็ถูกดูดจนเกือบจะดับลงไป ดวงตาของผู้หญิงบนโล่เมดูซ่าส์เกซค่อยๆลืมขึ้นมา มันเหมือนกับว่าเธอกำลังกึ่งหลับกึ่งตื่น
ขณะที่ดวงตาเปิดออก แสงสีม่วงประหลาดก็ส่องออกมา พวกมันส่องออกไปยังมีดแสงสีทองที่สามารถทำลายทั้งกาแล็กซี่นั้น
ผู้ที่ได้เห็นพบว่ามันยากที่จะบรรยายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไป แสงประหลาดจากดวงตาของเมดูซ่านั้นส่องไปที่มีดแสงสีทองอันน่ากลัว และมีดแสงก็แข็งทื่อไปทันที
มันไม่ใช่แค่มีดแสงสีทองเท่านั้น อะไรก็ตามที่ถูกแสงประหลาดนั่นส่องจะแข็งทื่อไป แม้แต่เหมิงเลี่ยที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนกับเทพก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน ทั้งเขาและมีดหัวสิงโตทองต่างก็นิ่งสนิทไปขณะที่ยังอยู่ในท่าฟันราวกับภาพยนตร์ที่ถูกหยุด
แสงสีม่วงนั้นยังคงส่องออกไป มันไม่ใช่แค่เหมิงเลี่ยที่ตกอยู่ภายใต้แสงประหลาดนั่น แสงสีม่วงแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วและดาวเคราะห์มากมายก็ถูกลูกหลงไปด้วย พวกมันแข็งทื่อและหยุดนิ่งไป แสงสีม่วงนั้นยังคงแพร่ขยายต่อไปไม่หยุด ถ้ามันยังเป็นแบบนี้ต่อไป บางทีระบบจักรวาลก็คงจะถูกแช่แข็งไป
หานเซิ่นกระอักเลือดออกมา เขาแยกตัวเองออกมาจากโล่เมดูซ่าส์เกซ ในจังหวะที่หานเซิ่นปล่อยโล่เมดูซ่าส์เกซไป ดวงตาของผู้หญิงบนโล่ก็ปิดลง และแสงสีม่วงประหลาดก็หายไป
แต่อวกาศบริเวณนั้นยังคงแข็งทื่อในสีม่วงเข้ม เหมิงเลี่ย มีดหัวสิงโตทองและมีดแสงที่น่ากลัวลอยค้างอยู่ในอวกาศราวกับเป็นรูปปั้น
ดวงดาวใกล้เคียงที่ครั้งหนึ่งเคยหมุนอยู่ ตอนนี้พวกมันเป็นสีม่วงและหยุดนิ่งไป ภาพของสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอะไรที่เหมือนฝันไป มันเป็นบางสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นจริงได้
ทั้งระบบจักรวาลดูเงียบสงัด ทุกคนที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นต่างก็อ้าปากค้าง ภาพต่อหน้าพวกเขาเป็นอะไรที่น่าสะพรึงกลัวเกินไป พวกเขาไม่รู้ว่าจะตอบสนองยังไงดี
คุณหญิงมิร์เรอร์สะบัดมือและเรียกกระจกบานหนึ่งออกมา หลังจากนั้นเธอก็ก้าวเข้าไปข้างในนั้นและหายตัวไป