Super God Gene - ตอนที่ 2598
ตอนที่ 2598 ไผ่เดียวดายยืนกราน
หานเซิ่นไม่มีรู้วิธีที่จะแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้ ถ้าทั้ง 2 ฝ่ายต่อสู้กันและไผ่เดียวดายตกอยู่ในอันตราย เขาก็ยินดีจะเข้าร่วมการต่อสู้ แต่ในตอนนี้ไผ่เดียวดายถูกจับไปขังโดยฝ่ายอำนาจของปราสาทนภา นอกจากนั้นพวกเขาไม่ได้กำลังทำสงความกับเผ่าเวรี่ไฮ ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงไม่สามารถช่วยอะไรได้
“นี่เป็นสถานการณ์ที่ยากจะจัดการ เวรี่ไฮไม่ได้ต้องการให้ไผ่เดียวดายเข้าร่วมกับพวกเขาอย่างถาวร มันเป็นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น แถมพวกเขายังจะมอบทรัพยากรจำนวนมากให้กับไผ่เดียวดาย ถ้าเป็นคนอื่น พวกเขาก็คงจะรีบคว้าผลประโยชน์เอาไว้ ข้าไม่เข้าใจว่าทำไมไผ่เดียวดายถึงได้ยืนกรานที่จะปฏิเสธมัน” กระเรียนพันขนพูดพร้อมกับถอนหายใจ
หานเซิ่นพอจะเข้าใจว่าไผ่เดียวดายกำลังคิดอะไรอยู่ แต่เขายังไม่ได้พูดกับไผ่เดียวดายตรงๆ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าการคาดเดาถูกต้องหรือเปล่า
วันต่อมา หานเซิ่นไปถามผู้อาวุโสสิบ(ยวิ๋นฉางคง)เกี่ยวกับเรื่องที่จะขอพบไผ่เดียวดาย
ยวิ๋นฉางคงเป็นพ่อของยวิ๋นซู่อีและยวิ๋นซู่ซาง และเขาก็เป็นอาจารย์ของกระเรียนพันขน เขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับหานเซิ่น และเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธคำขอของหานเซิ่น
“บางทีเจ้าจะโน้มน้าวไผ่เดียวดายได้ การเข้าร่วมกับเผ่าเวรี่ไฮนั้นไม่ใช่เรื่องเลวร้าย” ยวิ๋นฉางคงพูดกับหานเซิ่น
หานเซิ่นตอบตกลง หลังจากนั้นยวิ๋นฉางคงก็สั่งให้คนพาหานเซิ่นไปที่ห้องขัง
หานเซิ่นคิดว่าปราสาทนภาเพียงแค่สร้างฉาก แต่เมื่อเขาได้เห็นห้องขัง เขาก็รู้ได้ทันทีว่าเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิดเอาไว้ในตอนแรก
ล็อคสยบปีศาจ 12 อันเจาะผ่านร่างกายของไผ่เดียวดาย พวกมันตรึงเขาเอาไว้กับหินสยบปีศาจ ร่างกายของเขาเต็มไปด้วยเลือด และแม้แต่คอของเขาก็ถูกตรึงเอาไว้ หานเซิ่นรู้สึกตกใจ
“เจ้ามาอยู่ที่นี่” แขนขาของไผ่เดียวดายถูกล็อคอย่างเจ็บปวดกับหินสยบปีศาจ แต่ในขณะอยู่ในสภาพแย่ขนาดนั้น เขาก็ยังคงยิ้มออกมา
แต่มันจะเป็นไปไม่ได้ที่ใครจะดูดีภายใต้สถานการณ์แบบนั้น ล็อคสยบปีศาจทั้ง 12 มีพลัง 12 อย่างที่แตกต่างกัน มันมีทั้งน้ำ ไฟ สายฟ้า ลมและพลังอื่นๆอีก 8 อย่างที่จะโจมตีใส่ร่างกายของเขาอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ยอดฝีมือระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถทนอยู่ในสภาพแบบนี้ได้เป็นเวลานาน การถูกทรมานแบบนี้ทั้งวันทั้งคืนเป็นชะตากรรมที่เลวร้ายยิ่งกว่าความตาย
“นี่พวกเขาต้องปฏิบัติกับเจ้าแย่ถึงขนาดนี้เลยอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นพูดและดูโกรธเล็กน้อยขณะที่มองไปที่ไผ่เดียวดาย
ไผ่เดียวดายเป็นลูกศิษย์ของผู้นำปราสาทนภา เขามีสายเลือดของคนในปราสาทนภา แต่แล้วเขากลับถูกปฏิบัติแบบนี้ มันไม่มีแม้แต่ความเห็นใจ
“อย่าไปโกรธพวกเขา เรื่องทั้งหมดนี้เป็นเพราะการกระทำของข้าเอง” ไผ่เดียวดายหัวเราะอย่างขมขื่น
หานเซิ่นนำเอาขวดไวน์ออกมา เขามอบให้ไผ่เดียวดายดื่มมันสักอึก 2อึกและถามขึ้นว่า
“ทำไมเจ้าถึงปฏิเสธที่จะเข้าร่วมกับเผ่าเวรี่ไฮ?”
ไผ่เดียวดายเลียไวน์บนริมฝีปากและพูด
“การเข้าร่วมกับเผ่าเวรี่ไฮเป็นอะไรที่ดีมาก ถ้าข้าไม่ไป มันอาจจะใช้เวลาเป็น 10-20 ปีเพื่อกลายเป็นระดับเทพเจ้า แต่ถ้าข้าไปที่เผ่าเวรี่ไฮ ข้าจะกลายเป็นระดับเทพเจ้าในเวลาเพียงแค่ 3 ปี”
“ถ้าเจ้าเข้าใจ ทำไมเจ้าถึงไม่ไป?” หานเซิ่นถามขณะที่มองไปที่ไผ่เดียวดาย เขารู้ว่าไผ่เดียวดายต้องมีเหตุผลของตัวเองอยู่
ไผ่เดียวดายมองหานเซิ่นและไม่ตอบคำถามของเขาตรงๆ แต่เขากลับถามขึ้นมา “เจ้าชอบวิ่งขณะที่เปลือยเปล่าไหม?”
“ข้า… ข้าคิดว่าไม่ชอบ” หานเซิ่นไม่รู้ว่าไผ่เดียวดายหมายความว่ายังไง ดังนั้นคำตอบของเขาจึงไม่ค่อยเต็มปากเต็มคำ
ไผ่เดียวดายยิ้มและพูด “ข้าเองก็ไม่ชอบเช่นกัน ดังนั้นมันไม่สำคัญว่าจะได้ผลประโยชน์มากมายแค่ไหนหรือต้องถูกลงโทษอะไร ข้าก็จะไม่ไปเข้าร่วมกับเผ่าเวรี่ไฮ”
“เจ้าหมายความว่ายังไง? เจ้าจะบอกว่าเผ่าเวรี่ไฮชอบวิ่งขณะที่เปลือยเปล่าอย่างนั้นหรอ? เจ้าต้องถอดเสื้อผ้าทั้งหมดขณะที่อยู่ที่นั่น?”
หานเซิ่นจินตนาการภาพของเอ็กซ์ควิสิทและหลี่เคอเอ๋อเปลือยเปล่า หลังจากนั้นเขาก็ยิ้มออกมา
แน่นอนว่าหานเซิ่นแค่พูดออกไปเล่นๆ เขารู้ว่าเผ่าเวรี่ไฮไม่ได้โรคจิตแบบนั้น
“เวรี่ไฮเซ้นส์ของเผ่าเวรี่ไฮนั้นสัมผัสได้ทุกสิ่งในโลกใบนี้ ถ้าเจ้าถูกเลือกโดยพวกเขา เจ้าก็จะกลายเป็นสื่อกลางสำหรับพวกเขาเพื่อสัมผัสโลก พวกเขาจะสัมผัสได้ทุกสิ่งที่เจ้าทำ ถ้าเจ้ากินอาหาร พวกเขาก็จะสัมผัสได้รสชาติขม หวาน เปี้ยวหรือเผ็ดของอาหาร ในตอนที่เจ้าอาบน้ำ พวกเขาก็จะรู้ว่ามันอุ่นหรือเย็น ไม่ว่าจะอารมณ์ งานอดิเรกหรือแม้แต่ความรู้สึกของเจ้าในตอนที่เจ้านอนร่วมกับผู้หญิง เผ่าเวรี่ไฮก็จะได้ประสบกับพวกมันทุกอย่าง ถ้าเจ้ามาอยู่ในตำแหน่งเดียวกับข้า เจ้าจะไปไหมล่ะ?” ไผ่เดียวดายถามขณะที่มองไปที่หานเซิ่น
“เอิ่ม…นี่เผ่าเวรี่ไฮโรคจิตขนาดนั้นเลย?” ดวงตาของหานเซิ่นเบิกกว้าง
“นี่เป็นแค่มุมมองของข้า แต่ยังไงก็ตามเจ้าไม่มีทางปิดกั้นพลังของพวกเขาได้ เมื่อเจ้าตกอยู่ในความสามารถของพวกเขาแล้ว มันก็ไม่มีหนทางจะปิดกั้นพวกมัน พวกเขาจะจับตามมองเจ้าอยู่ตลอดเวลา และข้าก็ไม่คิดว่าพวกเขาจะตัดขาดการเชื่อมต่อนั้น” ไผ่เดียวดายพูด
“เจ้าแน่ใจหรือว่ามันเป็นแบบนั้น?” หานเซิ่นถามอย่างจริงจัง
ไผ่เดียวดายยิ้มและพูด “ถ้าจะมีสักเผ่าพันธุ์ในจักรวาลที่เข้าใจเผ่าเวรี่ไอ มันก็คือพวกเราเผ่านภา ถึงแม้มันจะไม่มีหลักฐานอยู่จริง แต่คนของเผ่านภาหลายต่อหลายรุ่นเคยทำงานให้กับเผ่าเวรี่ไฮ ข้อสันนิษฐานนี้มีโอกาสถูกมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์”
“ถ้ามันเป็นแบบนั้นจริง ข้าก็คงจะไม่ไปเช่นกัน” หานเซิ่นพูดพร้อมกับพยัก
หานเซิ่นยกขวดไวน์ขึ้นให้ไผ่เดียวดายดื่มอีก และเขาก็ขึ้นมา
“แต่ถ้าเจ้ายังยืนกรานปฏิเสธ เผ่าเวรี่ไฮจะปล่อยเจ้าไปอย่างนั้นหรอ?”
“ข้าไม่รู้” ไผ่เดียวดายส่ายหัว
หานเซิ่นไม่รู้จะถามอะไรอีก เขาพูดคุยกับไผ่เดียวดายต่ออีกสักพักและหลังจากที่เขาดื่มไวน์จนหมด เขาก็ออกมาจากห้องขัง
ระหว่างที่หานเซิ่นเดินจากไป เขาก็คิดกับตัวเอง
‘ทำไมเผ่าเวรี่ไฮถึงต้องการตัวไผ่เดียวดายมากขนาดนั้น? มันต้องมีหนทางที่เราช่วยเขา’
หานเซิ่นเดินออกมาและเห็นชายคนหนึ่งนั่งอยู่บนนกกระเรียนสีขาว ชายคนนั้นยิ้มให้กับหานเซิ่น
“มิสเตอร์อวี้” หานเซิ่นประหลาดใจที่ได้เห็นอวี้ซ่านซิน
ครั้งหนึ่งอวี้ซ่านซินเคยไปในดินแดนของเผ่าดราก้อนเพื่อช่วยชีวิตหานเซิ่น ด้วยเหตุนั้นหานเซิ่นจึงมีมารยาทกับเขา
อวี้ซ่านซินยิ้มและพูด “พวกเราไปเดินเล่นกันหน่อยไหม ถ้าเจ้าไม่รังเกียจล่ะก็นะ”
“ท่านมาหาไผ่เดียวดายอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามอวี้ซ่านซินขณะที่ตามหลังเขาไป
“ไม่ ข้ามาหาเจ้า” อวี้ซ่านซินตอบ นั่นทำให้หานเซิ่นประหลาดใจ
ก่อนที่หานเซิ่นจะพูดอะไร อวี้ซ่านซินก็พูดต่อ “ปราสาทนภาได้ทำข้อตกลงกับเผ่าเวรี่ไฮ ดังนั้นไม่ว่าใครที่เผ่าเวรี่ไฮเลือกจะต้องไปเข้าร่วมกับพวกเขา ถ้าไผ่เดียวดายไม่ยอมไป อย่างนั้นพวกเราก็ต้องหาคนอื่นที่คู่ควรมาแทน”
“คนๆนั้นคงจะไม่ได้เป็นข้าหรอกใช่ไหม?” หานเซิ่นยิ้มแห้งๆออกมา
“นอกจากไผ่เดียวดายแล้ว คนเดียวในรุ่นนี้ที่จะสร้างประทับใจต่อเผ่าเวรี่ไฮได้ก็คือเจ้า” อวี้ซ่านซินพูดด้วยรอยยิ้ม
“ข้าจะไม่ไปเช่นกัน” หานเซิ่นพูดพร้อมกับส่ายหัวอย่างรุนแรง เขาไม่ชอบวิ่งไปรอบๆขณะที่เปลือยเปล่าไม่ได้น้อยไปกว่าไผ่เดียวดาย
อวี้ซ่านซินคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าหานเซิ่นจะมีปฏิกิริยาแบบนี้
“ข้าแน่ใจว่าไผ่เดียวดายคงจะบอกเจ้าแล้วว่าเผ่าเวรี่ไฮเป็นยังไง ข้ารอจนกระทั่งถึงตอนนี้และมาพบกับเจ้าก็เพื่อที่ข้าไม่ต้องเสียเวลาอธิบาย”
“มิสเตอร์อวี้ ท่านไม่จำเป็นต้องพยายามจะโน้มน้าวข้า ความคิดของข้าในเรื่องนี้เหมือนกับไผ่เดียวดาย ข้าเลือกที่จะถูกขังดีกว่าที่จะไปเข้าร่วมกับเผ่าเวรี่ไฮ” หานเซิ่นพูด