Super God Gene - ตอนที่ 2609
“ท่านผู้นำ ข้าได้คิดเกี่ยวกับมันแล้ว ข้ายินดีจะไปที่เผ่าเวรี่ไฮ แต่ก่อนหน้านั้น ข้าอยากจะพูดคุยกับเอ็กซ์ควิสิทตามลำพัง” หานเซิ่นพูดกับผู้นำของปราสาทนภา
“เจ้าอยากจะพูดอะไรกับนาง?” ผู้นำของปราสาทนภาหลี่ตาขณะที่มองไปที่หานเซิ่น เขารู้ว่าหานเซิ่นและไผ่เดียวดายนั้นหัวแข็งเหมือนกัน การจะโน้มน้าวคนอย่างพวกเขาไม่ใช่เรื่องง่าย
“ข้าอยากจะพูดเกี่ยวกับข้อตกลงและเงื่อนไขในการไปเข้าร่วมกับเผ่าเวรี่ไฮ เพราะยังไงซะข้าก็เป็นอัจฉริยะที่มีพรสวรรค์ระดับ 11 เปลือก ข้ามีสิทธิ์ที่จะต่อรองผลประโยชน์ของตัวเองถูกไหม?” หานเซิ่นพูด
“บอกข้ามาว่าเจ้าต้องการอะไร ปราสาทนภามีทีมที่จะช่วยเจ้าต่อรองข้อตกลงและเงื่อนไขเพื่อประโยชน์ของเจ้า” ผู้นำของปราสาทนภาไม่เชื่อว่าหานเซิ่นแค่ต้องการจะพูดคุยเกี่ยวกับข้อตกลง
“มันมีเงื่อนไขอย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องเก็บเป็นความลับ ท่านผู้นำไม่ต้องกังวล ข้ารู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ข้าจะไม่สร้างปัญหาให้กับเผ่านภา” หานเซิ่นพูดอย่างจริงจัง
“ก็ได้ ตอนนี้เจ้ากลับไปก่อน ข้าจะจัดให้เจ้าได้พบกับนางเป็นการส่วนตัว”
หลังจากที่ผู้นำของปราสาทนภาพูดแบบนั้น เขาก็จ้องมองหานเซิ่นอยู่สักพักหนึ่ง และเขาพูดขึ้นว่า “แต่ถ้าเจ้าไม่อยากจะไป เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องไป ข้าจะรับมือกับทางเผ่าเผ่าเวรี่ไฮเอง”
“ไม่เป็นไร ข้าตัดสินใจแล้ว และข้าก็คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร มันต้องใช้เวลาหนึ่งปีครึ่งกว่าที่ข้าจะฟื้นตัว แต่ถ้าข้าไปที่นั่น มันก็จะประหยัดเวลาได้อย่างน้อยหนึ่งปี และข้ายังจะได้รับของอย่างอื่นอีกมากมาย แบบนั้นทำไมข้าจะไม่ไป?” หานเซิ่นหัวเราะ
หลังจากที่หานเซิ่นจากไปแล้ว ผู้นำปราสาทนภาก็มองไปที่อวี้ซ่านซินและถาม “เจ้าคิดว่าเขาจะไปที่เผ่าเวรี่ไฮจริงอย่างนั้นหรอ?”
อวี้ซ่านซินโค้งคำนับ “ท่านผู้นำ ข้าคาดเดาจิตใจของหานเซิ่นไม่ได้ แต่ข้าไม่คิดว่าเขาพูดโกหก และข้าไม่คิดว่าเขาจะทำร้ายพวกเรา”
“ข้าเองก็คิดแบบนั้น แต่หนุ่มน้อยคนนี้ได้ก่อปัญหาเอาไว้มาก เขาเป็นคนที่ค่อนข้างน่ารำคาญ” ผู้นำของปราสาทนภาพูดขณะที่กุมขมับของตัวเอง
“ใครบ้างที่ไม่ทำตัวน่ารำคาญในตอนที่พวกเขายังหนุ่มสาว?” อวี้ซ่านซินพูดด้วยรอยยิ้ม
“เจ้าพูดถูก เจ้าเองก็ควรกลับไปเตรียมตัว หลังจากที่ไปถึงเผ่าเวรี่ไฮ เจ้าต้องคิดเรื่องความปลอดภัยก่อนเป็นอันดับแรก ทำเท่าที่เจ้าทำได้และอย่าได้ฝืนทำเกินตัว” ผู้นำของปราสาทนภาพูด
“เข้าใจแล้ว” อวี้ซ่านซินโค้งคำนับ
หานเซิ่นกลับไปถึงเกาะหยกน้อย หลังจากนั้นไม่นานคนของปราสาทนภาก็มาพบกับเขา ชายคนนั้นบอกหานเซิ่นว่าเอ็กซ์ควิสิทรอเขาอยู่ที่บ้านนภาวารี
หานเซิ่นตามบัตเลอร์ไปที่บ้านนภาวารี เอ็กซ์ควิสิทรออยู่ที่นั่น เธอนั่งอยู่บนบันไดที่นำลงไปสู่สระน้ำ
“บอกข้ามาว่าเจ้าต้องการอะไร เจ้าต้องการยีนซีโน่เจเนอิค สมบัติหรือวิชาจีโน?” เอ็กซ์ควิสิทถาม บนใบหน้าของเธอนั้นไม่มีอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว
“ข้าไม่ได้ต้องการอะไรพวกนั้น” หานเซิ่นพูดขณะที่นั่งลงข้างๆสระ เขาถอดรองเท้าและพับขากางเกงขึ้น เขาปล่อยขาลงไปจุ่มน้ำเหมือนกับเอ็กซ์ควิสิท ความรู้สึกเย็นสัมผัสกับเท้าของเขา ซึ่งทำให้หานเซิ่นสั่นด้วยความสบาย มันเหมือนกับการกินไอศกรีมในฤดูร้อน
น้ำของบ้านนภาวารีนั้นไม่ใช่น้ำปกติ มันเป็นน้ำสีน้ำเงินที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังงาน มันสามารถเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์และช่วยในการฟื้นตัวของร่างกาย
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าต้องการอะไร?” เอ็กซ์ควิสิทมองหานเซิ่นด้วยความสงสัย
เอ็กซ์ควิสิทยอมปล่อยไผ่เดียวดายไปและหันมาเลือกหานเซิ่นแทน นอกจากพรสวรรค์และพลังพิเศษของหานเซิ่นแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดที่กระตุ้นให้เธอเลือกหานเซิ่นคือความจริงที่หลี่เคอเอ๋อเลือกดอลลาร์
ดอลลาร์เคยเอาชนะไผ่เดียวดายในบัญชีสิ่งมีชีวิตจีโน และเอ็กซ์ควิสิทก็ได้เห็นพลังของดอลลาร์กับตาตัวเอง ถ้าเธอเลือกไผ่เดียวดาย เขาก็จะถูกเปรียบเทียบกับดอลลาร์
หลี่เคอเอ๋อมีพรสวรรค์ระดับสิบเปลือก ส่วนเอ็กซ์ควิสิทมีพรสวรรค์ระดับ 9 เปลือก ด้วยเหตุนั้นเอ็กซ์ควิสิทจึงไม่ต้องการตัวไหมที่ด้อยกว่าของหลี่เคอเอ๋อ นั่นเป็นเหตุผลที่เธอเสี่ยงเดิมพันกับหานเซิ่น
ถ้าหานเซิ่นมีพรสวรรค์ระดับ 11 เปลือกจริงๆ อย่างนั้นตัวไหมของเธอก็จะเหนือกว่าของหลี่เคอเอ๋อ ถ้าพรสวรรค์ของหานเซิ่นไม่ได้ดีเลิศอะไร เธอก็แพ้แค่ครั้งเดียว แต่แบบนี้อย่างน้อยเธอก็มีโอกาสที่จะชนะ
หานเซิ่นมองไปที่เอ็กซ์ควิสิท หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็หัวเราะออกมาและพูด
“เจ้าจะใช้ข้า ก็จำเป็นต้องเหนือกว่าข้า ทำไมข้าจะต้องติดตามคนที่ด้อยกว่าตัวเองด้วย? เจ้าไม่คิดว่านั่นเป็นความคิดที่สมเหตุสมผลหรอกหรอ?”
“แน่นอนว่ามันสมเหตุสมผล” เอ็กซ์ควิสิทพูด เธอไม่ได้โกรธอะไร
“ถ้าเจ้าคิดเหมือนกัน แบบนั้นก็เป็นอันตกลง ถ้าเจ้าโน้มน้าวให้ข้าเชื่อได้ว่าเจ้าเหนือกว่า ข้าก็จะติดตามเจ้าไปที่เผ่าเวรี่ไฮ แต่ถ้าทำไม่ได้ เจ้าช่วยปล่อยข้าและปราสาทนภาไปได้ไหม?” หานเซิ่นพูด
“เอาสิ” เอ็กซ์ควิสิทตอบอย่างไม่ลังเล เธอดูมั่นใจ
หานเซิ่นมองไปที่เอ็กซ์ควิสิทด้วยความสนใจ “เจ้าคิดจะโน้มน้าวข้ายังไง?”
เอ็กซ์ควิสิทมองไปที่หานเซิ่นและถาม “วิชาจีโนที่ดีที่สุดของเจ้าคืออะไร?”
“วิชามีดล่ะมั้ง” ในตอนที่หานเซิ่นใช้ฐานะหานเซิ่น เขาใช้มีดซะส่วนใหญ่
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็มาประลองวิชามีดกัน”
เอ็กซ์ควิสิทยื่นมือออกมา หลังจากนั้นสายธารของน้ำก็ลอยขึ้นมายังฝ่ามือของเธอและก่อตัวเป็นมีดเล่มหนึ่ง
“ข้าจะนั่งอยู่ตรงนี้ ส่วนเจ้าก็โจมตีใส่ข้า ถ้าเจ้าทำให้ข้าลุกจากตรงนี้ได้ภายในการโจมตีหนึ่งร้อยครั้ง เจ้าก็เป็นฝ่ายชนะ”
เอ็กซ์ควิสิทมั่นใจมากๆ ซึ่งดูจากการที่เธอเลือกจะต่อสู้ด้วยมีดน้ำ เธอไม่ลุกขึ้นมาด้วยซ้ำ หานเซิ่นยิ้มและยื่นมือออกไปทางสระ เขาดูดน้ำขึ้นมาก่อตัวเป็นมีดของตัวเองเช่นกัน
“เอาสิ การโจมตีจำกัดที่หนึ่งร้อยครั้ง มาดูสิว่าระหว่างพวกเราใครจะลุกขึ้นก่อน” หานเซิ่นพูดด้วยรอยยิ้ม
“เชิญลงมือ” เอ็กซ์ควิสิทพูดโดยไม่คัดค้าน
“ในถิ่นกำเนิดของข้า ผู้หญิงจะเป็นฝ่ายเริ่มก่อน” หานเซิ่นอยากจะเห็นพลังที่แท้จริงของเอ็กซ์ควิสิท
หานเซิ่นเดินทางร่วมกับหลี่เคอเอ๋อและเอ็กซ์ควิสิทอยู่พักหนึ่ง แต่เขาไม่สามารถประเมินพลังที่แท้จริงของพวกเธอได้
“เอางั้นก็ได้” เอ็กซ์ควิสิทเริ่มโจมตีใส่หานเซิ่นด้วยมีดน้ำอย่างไม่ลังเล
เธอไม่ได้ใช้แรงมากนัก ดังนั้นมีดไม่ได้สร้างเสียงอะไรขณะที่มันสไลด์ผ่านอากาศไป แต่ถึงอย่างนั้นหานเซิ่นก็รู้สึกหนาวกับภาพที่เห็น มีดของเธอตรงเข้ามาหาหัวของเขา มือของเธอดูเหมือนจะเคลื่อนไหวเป็นเส้นโค้ง แต่หานเซิ่นรู้สึกราวกับว่าไม่เห็นว่ามีดนั้นมาจากทิศทางไหน
“เป็นวิชามีดที่ดี” หานเซิ่นชมเธอขณะที่แกว่งมีดของตัวเองออกไปโดยใช้วิชามีดเขี้ยวดาบ