Super God Gene - ตอนที่ 2717
‘ไม่น่าเป็นไปได้ที่การพบกันครั้งนี้จะเป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญ’ หานเซิ่นคิดอยู่ในหัว
แต่กรูไม่ได้รู้ถึงสิ่งที่หานเซิ่นกำลังคิด เขามองไปที่ซีโน่เจเนอิคทั้งสองและพูด
“มูนไรโน่และอิมมอร์ทัลดราก้อน พวกมันเป็นวีโน่เจเนอิคที่หายาก แต่น่าเสียดายที่พวกมันเป็นเพียงแค่ระดับราชันเท่านั้น ถ้าพวกมันเป็นระดับเทพเจ้า พวกเราก็จะมีมูลค่าสูงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิมมอร์ทัลดราก้อน ถ้ามันกลายเป็นระดับเทพเจ้า โซ่สสารของมันก็แทบจะทำให้สิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอมตะเลย ตราบใดที่อิมมอร์ทัลดราก้อนยังคงมีพลังอยู่ ใครที่มันสาบานว่าจะปกป้องก็จะไม่ถูกฆ่าตาย แต่น่าเสียดายที่อิมเมอร์ทัลระดับเทพเจ้าหาได้ยากมากๆ ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ข้าเคยได้ยินเกี่ยวกับอิมเมอร์ทัลระดับเทพเจ้าแค่สามตัวเท่านั้น”
“พลังในระดับราชันไม่เพียงพออย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นถามด้วยความสงสัย
กรูส่ายหัว “อิมมอร์ทัลดราก้อนระดับราชันมีพลังอาณาเขตที่พอใช้ได้ แต่ความสามารถของมันมีประโยชน์แค่การรักษาบาดแผลภายนอกเท่านั้น สำหรับยอดฝีมือระดับเทพเจ้าแล้ว นั่นไม่ได้มีประโยชน์อะไรมาก การจับพวกมันจึงไม่ค่อยคุ้มค่า แต่อิมมอร์ทัลดราก้อนที่เป็นระดับเทพเจ้านั้นต่างออกไป พวกมันจะช่วยเจ้าได้ในทุกๆสถานการณ์ ยอดฝีมือระดับเทพเจ้ามากมายอยากจะมีอิมเมอร์ทัลระดับเทพเจ้าสักตัว ไม่ว่าใครก็ต้องการบางสิ่งที่มีศักยภาพพอจะปกป้องชีวิตของพวกเขา”
ในตอนที่กรูพูดแบบนั้น หัวใจของหานเซิ่นก็เต้นรัว เขาคิดกับตัวเอง
‘โชคดีมากๆที่เราได้มาพบอิมมอร์ทัลดราก้อนนี้ ถ้าคริสตัลสีดำได้ผลจริงๆ บางทีเราอาจจะได้อิมมอร์ทัลดราก้อนระดับเทพเจ้าตัวหนึ่งมา”
“หานเซิ่น ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่ข้าต้องการจะฆ่าอยู่ที่แม่น้ำจันทร์เพ็ญ มันอยู่ห่างจากที่นี่ไปเพียงแค่สองร้อยไมล์เท่านั้น ถ้าเจ้ามีเวลา บางทีพวกเราควรจะไปที่นั่นด้วยกัน?” กรูพูดอย่างมีความหวัง
“ข้าอยากจะซีโน่เจเนอิคสักตัวมาเป็นสัตว์ขี่ จากที่เจ้าบอก อิมมอร์ทัลดราก้อนนั่นฟังดูไม่เลวเลย ข้าคิดว่าจะไปจับอิมมอร์ทัลดราก้อนนั่น เมื่อข้าจับมันได้แล้ว ถ้าเจ้ายังไม่ได้ฆ่าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้านั่น ข้าก็จะไปช่วยเจ้า”
ถ้าซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่กรูพูดถึงอยู่ใกล้จริงๆ หานเซิ่นก็ไม่รังเกียจที่จะไปล่ามัน
“เอาสิ ข้าจะรอเจ้าอยู่ที่นี่ มันเป็นแค่อิมมอร์ทัลดราก้อน ข้าเชื่อว่าเจ้าคงจะจับมันได้ง่ายๆ” กรูยิ้ม
หานเซิ่นไม่สนใจว่าชายคนนี้จะดูอยู่หรือไม่ เพราะยังไงซะมันก็ขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นก่อนที่คนอื่นจะว่ารู้เขาจับซีโน่เจเนอิคตัวหนึ่งไป
พวกเขารออยู่ที่นั่นสักพักหนึ่ง ขณะที่อิมมอร์ทัลดราก้อนไล่ต้อนมูนไรโน่ด้วยอาณาเขตของมัน อิมมอร์ทัลดราก้อนไม่ได้รับความเสียหายใดๆจากการโจมตีของมูนไรโน่
ที่สุดแล้วหานเซิ่นและกรูก็มองดูอิมมอร์ทัลดราก้อนกลืนกินมูนไรโน่ที่บาดเจ็บหนักเข้าไป
ร่างกายของมูนไรโน่ใหญ่โตกว่าอิมมอร์ทัลดราก้อน หลังจากที่อิมมอร์ทัลดราก้อนกลืนศัตรูของมันเข้าไป ร่างกายของมันก็ขยายใหญ่ราวกับลูกบอลลูน หานเซิ่นสงสัยว่าอิมมอร์ทัลดราก้อนจะย่อยบางสิ่งที่ใหญ่โตแบบนั้นได้ยังไง
แต่สำหรับหานเซิ่นแล้ว นี่ถือเป็นโอกาสดี อิมมอร์ทัลดราก้อนเพิ่งจะกินมูนไรโน่ทั้งตัวเข้าไป และตอนนี้มันก็กำลังหยุดพักเพื่อย่อยอาหาร มันไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งรอบตัวมากนัก
หานเซิ่นบินออกไปข้างหน้าและปลดปล่อยเส้นไหมจากมือ เขายกมือขึ้นและมีดเส้นไหมก็พันรอบตัวของอิมมอร์ทัลดราก้อน
อิมมอร์ทัลดราก้อนตัวสั่นด้วยความกลัว เมื่อมันพยายามจะหนีไป มีดเส้นไหมก็รัดแน่นขึ้นและตัดเข้าไปในร่างกายของมัน ถึงแม้อาณาเขตของมันจะทรงพลังสักแค่ไหน มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรถ้าอิมมอร์ทัลดราก้อนถูกตัดเป็นชิ้นๆ
เมื่อบาดแผลฟื้นตัวแล้ว อิมมอร์ทัลดราก้อนก็พยายามจะดิ้นรนอีกครั้ง แต่สุดท้ายอิมมอร์ทัลดราก้อนก็รู้สึกตัวว่าไม่สามารถหนีจากมีดเส้นไหมได้ มันหยุดเคลื่อนเพื่อไม่ให้มีดเส้นไหมตัดร่างกายของมัน
“ดูเหมือนมันจะมีสติปัญญาที่พอใช้ได้” หานเซิ่นพูดพร้อมกับหัวเราะ หลังจากนั้นเขาก็ค่อยๆดึงมีดเส้นไหมเข้ามา อิมมอร์ทัลดราก้อนตอบสนองต่อการดึงในทันทีและมันเลื้อยมาข้างหน้าเพื่อไม่ให้มีดเส้นไหมตัดร่างของมันอีกครั้ง
แต่มูนไรโน่ยังคงอยู่ในท้องของมัน ความกลมโตของท้องทำให้มันเป็นเรื่องยากที่อิมมอร์ทัลดราก้อนจะเลื้อยไปข้างหน้า มันเคลื่อนที่ได้ช้าเกินไป และมีดเส้นไหมก็ตัดเข้าไปในเกล็ดของมัน การตัดแต่ละครั้งทำให้อิมมอร์ทัลดราก้อนกรีดร้องออกมา
“หานเซิ่น เจ้าเก่งกาจจริงๆ พลังในการสร้างเส้นไหมพวกนั้นและการควบคุมพวกมันด้วยความแม่นยำ… เจ้าไม่ได้ห่างไกลไปจากยอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่แท้จริงเลย” กรูเอยชมเขา
“เจ้าพูดเกินไปแล้ว” หานเซิ่นยังคงสงสัยว่ากรูอาจจะมีจุดประสงค์อื่นแอบแฝง
ถึงแม้กรูจะไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลไป๋ แต่มันก็มีตระกูลมากมายภายในเอ็กซ์ตรีมคิงที่เกลียดชังหานเซิ่น หานเซิ่นคิดว่ากรูอาจจะไม่ได้เป็นเหมือนอย่างที่เขาแสดงออกมา
แต่ตอนนี้เมื่อเขาตกลงจะไปกับกรู เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธคำชวนของกรูอีกต่อไป หานเซิ่นปล่อยให้อิมมอร์ทัลดราก้อนถูกขังอยู่ในมีดเส้นไหม หลังจากนั้นหานเซิ่นก็ตามกรูลึกเข้าไปในแม่น้ำจันทร์เพ็ญ
หานเซิ่นยังคงสงสัยว่ากรูอาจจะมีแผนการอะไรซ่อนอยู่ แต่ในตอนที่พวกเขาไปถึงที่หมาย หานเซิ่นก็โล่งใจที่เห็นว่ามันเป็นเพียงแค่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าบนฝั่งแม่น้ำจริงๆ
ซีโน่เจเนอิคตัวนั้นดูเหมือนกับหมาป่า ขนของมันมีสีเทา แต่มันมีดวงตาสี่ดวง เขี้ยวของมันเหมือนกับตะขอ มันเป็นซีโน่เจเนอิคที่ดูชั่วร้ายมากๆ
ในระหว่างการเดินทาง กรูได้บอกหานเซิ่นว่ามันเป็นซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าที่มีพรสวรรค์ด้านดวงตา ดวงตาของมันสามารถปลดปล่อยแสงแห่งเทพที่น่ากลัวออกมาได้ การโจมตีของมันรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ และกรูก็ไม่สามารถทนได้นานนัก
เมื่อหมาป่าสี่ตามองเห็นกรู มันก็คำรามด้วยความโกรธและลุกขึ้นมา ดวงตาทั้งสี่ของมันเบิกกว้างและเรืองแสงสีเขียวออกมา ทันใดนั้นเจ้าหมาป่าก็ปลดปล่อยลำแสงไปในทิศทางของกรู
หมาป่าสี่ตาตัวนั้นดูจะเกลียดกรูมากๆ เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่การเผชิญหน้ากันครั้งแรกของกรูกับซีโน่เจเนอิคตัวนี้
กรูเคยต่อสู้กับเจ้าหมาป่าแล้ว ในตอนที่เขาเห็นลำแสงสีเขียวพุ่งเข้ามา เขาก็นำโล่ออกมาและใช้มันป้องกันร่างกาย
โล่ของกรูดูเปราะบางอย่างน่าประหลาด มันคล้ายคลึงกับกระจกเงิน และดูเหมือนกับว่าเพียงแค่หมัดเดียวก็พอจะทำให้มันแตกเป็นเสี่ยงๆ
แต่ในตอนที่โซ่สสารที่น่ากลัวของเจ้าหมาป่าปะทะกับโล่ประหลาดนั้น ผิวของโล่ก็สะท้อนพวกมันกลับไป และกรูก็ไม่ได้รับความเสียหายใดๆ
“เป็นโล่ที่ทรงพลังอะไรขนาดนี้!” หานเซิ่นพูดด้วยความชื่นชม
กรูเป็นแค่ครึ่งเทพ แต่เขาสามารถใช้โล่เพื่อสะท้อนโซ่สสารของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้ากลับไปได้ เห็นได้ชัดว่าโล่ประหลาดนั่นจะต้องเป็นอะไรที่พิเศษมากๆ
กรูหัวเราะ “ข้าไปยืมสมบัติระดับเทพเจ้านี้มา โล่นี้สะท้อนพลังดวงตาต่างๆได้ ข้ายืมมันมาเพื่อจะรับมือกับหมาป่าตัวนี้ แต่โล่กระจกนี้ป้องกันได้แค่ลำแสงจากดวงตาของเจ้าหมาป่าเท่านั้น มันไม่ได้เสริมความเร็วของข้า และมันก็ป้องกันการโจมตีทางกายภาพไม่ได้ ด้วยเหตุนั้นข้าจึงทำร้ายอะไรเจ้าหมาป่าไม่ได้มาก และข้าก็เกือบจะถูกฆ่าตายด้วย”
กรูมองไปที่หานเซิ่นและพูดต่อ “หานเซิ่น เจ้ามีเซ็ตอะพอลโลอยู่ ด้วยความเร็วที่เจ้าได้รับจากชุดเกราะ เจ้าควรจะไล่ตามความเร็วของเจ้าหมาป่าได้ทัน ในตอนที่มันปล่อยลำแสงออกมาอีกครั้ง ข้าจะใช้โล่กระจกนี้ป้องกันมัน หลังจากนั้นเจ้าก็ฉวยโอกาสเข้าไปโจมตี”
“เอาสิ” หานเซิ่นพยักหน้า แต่ทว่าเขาคิดอย่างเงียบๆว่า
‘เราเพิ่งจะดูดซับจีโนคอร์น้ำแข็งเข้าไป ตอนนี้เราควรจะลองใช้มันและดูว่ามันทำอะไรได้’