Super God Gene - ตอนที่ 2847
หานเซิ่นไม่ได้ดูการต่อสู้นัดต่อไป เขาจำเป็นต้องรีบเพิ่มยีนระดับเทพเจ้าให้เร็วที่สุดเพื่อกลายเป็นขั้นบัตเตอร์ฟลาย ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะไม่มีโอกาสชนะสิ่งมีชีวิตระดับเทพเจ้าขั้นสูง
หานเซิ่นกลับไปที่ปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ ก่อนที่การต่อสู้นัดต่อไปของเขาจะมาถึง เขาหวังจะเลื่อนสู่ขั้นบัตเตอร์ฟลายซะก่อน
แต่ความคืบหน้าในการเพิ่มยีนระดับเทพเจ้านั้นไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นมากนัก นั่นก็เป็นเพราะว่าเขาเป็นขั้นลาร์วาเรียบร้อยแล้ว ถึงเขาจะกินยีนของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นต่ำเข้าไปเป็นจำนวนมาก มันก็จะไม่เพิ่มยีนระดับเทพเจ้าของเขามากนัก เขาจำเป็นต้องกินยีนของซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นลาร์วาเป็นอย่างน้อย ถ้าเขาต้องการจะได้รับยีนระดับเทพเจ้าทีละเยอะๆ
แน่นอนว่ามันจะเป็นอะไรที่ดียิ่งกว่า ถ้าเขาได้ยีนซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นบัตเตอร์ฟลายมา เขาจะได้รับยีนระดับเทพเจ้าจำนวนมากจากพวกมัน แต่ซีโน่เจเนอิคในปราสาทไนน์ดีเฟ้นส์ส่วนใหญ่นั้นเป็นขั้นพริมิทีฟ ส่วนซีโน่เจเนอิคอย่างไทม์โกสต์นั้นถึงแม้มันจะถูกล่ามเอาไว้ มันก็ไม่ใช่ซีโน่เจเนอิคที่หานเซิ่นจะฆ่าได้อยู่ดี ด้วยเหตุนั้นความคืบหน้าในการเพิ่มยีนระดับเทพเจ้าเพิ่มจึงช้าเหมือนกับหอยทาก
โชคดีที่ระยะเวลาในการต่อสู้แต่ละนัดนั้นค่อนข้างนาน และคู่ต่อสู้คนต่อไปของหานเซิ่นก็เป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นทรานส์มิวเทชั่นเท่านั้น ซึ่งหานเซิ่นสามารถเอาชนะได้อย่างง่ายดาย
ในการประลองรอบที่สาม คู่ต่อสู้นั้นเป็นขั้นลาร์วาเหมือนกัน มันเป็นซีโน่เจเนอิคที่ดูเหมือนกับมังกรยักษ์ แต่มันก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะเป็นภัยต่อเขา หานเซิ่นต้องการจะฆ่ามัน แต่ทว่าในจังหวะที่เจ้าซีโน่เจเนอิครู้ตัวว่าไม่สามารถสู้ได้ มันก็รีบยอมแพ้และหนีออกจากสนามประลองไป
หานเซิ่นเอาชนะการต่อสู้สามครั้งติดต่อกัน และชื่อเสียงของดอลลาร์ก็เป็นที่รู้จักกันไปทั่วทั้งจักรวาล
น่าเสียดายที่หานเซิ่นโฟกัสเวลาทั้งหมดไปกับการเพิ่มยีนระดับเทพเจ้า ด้วยเหตุนั้นเขาจึงไม่ได้รู้ว่าชื่อที่เป็นที่พูดถึงมากที่สุดนั้นไม่ใช่ชื่อดอลลาร์ แต่เป็นชื่อหานเซิ่นและสเปชการ์เด้น
สเปชการ์เด้นไม่เคยมีระดับเทพเจ้ามาก่อน แต่แล้วพวกเขากลับส่งระดับเทพเจ้าถึงเจ็ดคนเข้าร่วมการประลอง ถึงแม้พวกเขาทุกคนจะเป็นแค่ขั้นพริมิทีฟ แต่ความสามารถของพวกเขาก็ถือว่าเป็นอะไรที่พิเศษ
ในพวกเขาทั้งเจ็ดคนมีแค่หนึ่งคนที่โชคร้ายต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่เป็นถึงซีโน่เจเนอิคขั้นบัตเตอร์ฟลายและตกรอบไป อีกหกคนที่เหลือสามารถผ่านถึงรอบที่สามได้สำเร็จ
แน่นอนว่าโชคนั้นเกี่ยวข้องกับการที่พวกเขาผ่านมาถึงรอบที่สามได้ เพราะยังไงซะพวกเขาทุกคนก็เป็นแค่ระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟเท่านั้น ถึงแม้พวกเขาจะไม่ได้พบกับศัตรูที่แข็งแกร่งมากนักในสองรอบแรก แต่ความสามารถที่พวกเขาแสดงออกมาก็เป็นอะไรที่น่าตกใจอยู่ดี
พวกเขาทุกคนนั้นล้วนแต่เป็นคนที่เก่งกาจที่สุดในบรรดาระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟ พวกเขาทุกคนนั้นแข็งแกร่งมากๆ
ทุกคนเชื่อว่านั่นเป็นเพราะการอวยพรของหานเซิ่น ด้วยเหตุนั้นสเปชการ์เด้นและหานเซิ่นจึงกลายเป็นหัวข้อสนทนาที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในจักรวาล
“ก็อดฟาเธอร์หานสุดยอดที่สุด ทั้งแฟรี่แห่งดาบ ควีนและดราก้อนเลดี้เชฟล้วนแต่แข็งแกร่งกว่าคนอื่น ข้าอยากจะไปที่สเปชการ์เด้นบ้างจัง ไม่รู้ว่าก็อดฟาเธอร์หานจะยินดีอวยพรให้กับข้าไหมนะ แบบนั้นข้าก็จะได้เข้าร่วมการประลองแบบนี้บ้าง”
“ข้าคิดว่าสาวน้อยในชุดม่วงจากเผ่าเดม่อนและสาวน้อยจากเผ่าเฟเธอร์นั้นแข็งแกร่งยิ่งกว่าซะอีก”
“ไม่คาดคิดเลยว่าอาจารย์เซี่ยจะเป็นส่วนหนึ่งของสเปชการ์เด้นและกลายเป็นระดับเทพเจ้าด้วยเช่นกัน แต่มันน่าเสียดายที่ดวงของอาจารย์เซี่ยไม่ดีนัก เขาต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่เป็นถึงขั้นบัตเตอร์ฟลาย ด้วยเหตุนั้นเขาจึงต้องยอมแพ้”
“ฮ่า! ฮ่า! สเปชการ์เด้นส่งระดับเทพเจ้าเข้าร่วมเจ็ดคน มีเพียงแค่อาจารย์เซี่ยที่โชคร้ายตกรอบไป แม้แต่หวังอวี่ฮังที่อ่อนแอ่ที่สุดในหมู่พวกเขายังผ่านมาถึงรอบที่สามได้ เขาโชคดีมากๆที่คู่ต่อสู่สองคนแรกที่เขาเจอนั้นเป็นแค่ซีโน่เจเนอิคระดับเทพเจ้าขั้นพริมิทีฟที่อ่อนแอ”
“น่าเสียดายที่ก็อดฟาเธอร์หานไม่ได้เข้าร่วมการประลอง ถ้าเขาเข้าร่วมด้วยอีกคน มันก็คงจะเป็นอะไรที่น่าสนใจยิ่งกว่าเดิม”
“นี่ก็อดฟาเธอร์หานจำเป็นต้องเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยหรือยังไง? เขาทำให้ใครคนไหนเป็นระดับเทพเจ้าก็ได้ตามใจชอบ แบบนั้นมันจะมีความจำเป็นอะไรที่เขาต้องต่อสู้ด้วยตัวเองอีก? เขาจะได้รับทรัพย์สินเงินทองมากมายแค่นั่งอยู่ที่บ้านเฉยๆ”
“พวกเราต้องทำยังไงก็อตฟาเธอร์หานถึงจะอวยพรให้กับพวกเราบ้าง? ถ้าเขายอมอวยพรให้กับข้า ข้ายินดีจะจ่ายทุกอย่าง”
“เจ้าอย่าได้คิดเกี่ยวกับมันเลย ตอนนี้เผ่าพันธุ์ที่ใหญ่โตทุกเผ่าต่างก็ต้องการตัวหานเซิ่น เขาทำให้คนอื่นกลายเป็นระดับเทพเจ้าได้ตามใจชอบ แม้แต่สามเผ่าพันธุ์สูงสุดก็ต้องอิจฉาในสิ่งที่เขาทำได้”
“ข้าเชื่อว่าอีกไม่นานก่อนที่สเปชการ์เด้นจะกลายเป็นใหญ่ในจักรวาลแห่งนี้ ข้าคิดว่าพวกเราควรจะรีบไปสวามิภักดิ์ต่อพวกเขา ถ้าสเปชการ์เด้นเป็นใหญ่ขึ้นมาจริงๆ พวกเราก็จะเป็นคนแรกๆที่ได้การรับสนับสนุนจากพวกเขา”
“ที่เจ้าพูดมามันก็มีเหตุผล ถ้าพวกเราโชคดีและได้ช่วยเหลือพวกเขาในทางใดทางหนึ่ง พวกเราก็อาจจะขอให้ก็อดฟาเธอร์หานช่วยอวยพรให้กับพวกเราได้ ถ้าเป็นแบบนั้นพวกเราก็จะได้กลายเป็นระดับเทพเจ้าด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นข้าควรจะเรียกตัวเองว่าอะไรดี? สเปชการ์เด้น… โคว์ก็อต! พวกเจ้าคิดยังไงกับชื่อนั้น?”
สิ่งมีชีวิตธรรมดามากมายพูดถึงกันแต่เรื่องนี้ พวกเขาหลายคนต้องการจะเป็นพันธมิตรกับสเปชการ์เด้น แต่สเปชการ์เด้นนั้นตัดขาดจากโลกภายนอก ดังนั้นมันไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนที่สามารถเข้าร่วมได้
เมื่อเห็นว่าหานเซิ่นนำระดับเทพเจ้าที่น่ากลัวหลายคนเข้ามาอยู่ด้วย เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตก็รู้สึกสองจิตสองใจกับเรื่องนี้
ในทางหนึ่งยอดฝีมือระดับเทพเจ้าที่มาอยู่ด้วยจะรับประกันความปลอดภัยของสเปชการ์เด้น และพวกเขายังสามารถล่าพืชซีโน่เจเนอิคสำหรับการนำมาทำจีโนฟลูอิด
แต่การมีระดับเทพเจ้าหลายคนมาอยู่ที่นี่ด้วยก็ยังทำให้เหล่าฟลาวเวอร์ก็อตเป็นกังวล พวกเขากลัวว่าด้วยการที่ยีนของพวกเขาด้อยกว่ามาก พวกเขาก็อาจจะถูกทอดทิ้งโดยหานเซิ่นและคนอื่น
ลึกๆแล้วพวกเขาหวังว่าสักวันหนึ่งหานเซิ่นจะอวยพรให้เผ่าฟลาวเวอร์ก็อตได้มีโอกาสกลายเป็นระดับเทพเจ้ากับเขาบ้าง
เผ่าพันธุ์ต่างๆที่มีกองกำลังพอจะจับตัวหานเซิ่นนั้นต่างก็พยายามจะหาหนทางเข้าไปในสเปชการ์เด้น
พวกเขาสนใจในทรัพยากรที่มีอยู่ในสเปชการ์เด้นด้วยเช่นกัน แต่เป้าหมายหลักของพวกเขาก็คือหานเซิ่น ถ้าให้เลือกระหว่างหานเซิ่นกับสเปชการ์เด้น พวกเขาก็จะเลือกหานเซิ่นอย่างไม่ลังเล
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเผ่าเวรี่ไฮ พวกเขาอยากจะได้ตัวหานเซิ่นกลับไป หนึ่งคือพวกเขานั้นหวาดว่าคำสาปที่ติดตัวหานเซิ่นจะกลายเป็นจริงขึ้นมา อีกหนึ่งเป็นเพราะความสามารถที่คนของสเปชการ์เด้นแสดงออกมาในการประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนเป็นที่น่าตกใจอย่างมาก ยิ่งหานเซิ่นแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ พวกเขาก็รู้สึกไม่ดีขึ้นเท่านั้น
สิ่งมีชีวิตมากมายในจักรวาลจีโนกำลังตามหาโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์ เนื่องจากเขาเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าไปในสเปชการ์เด้นได้โดยไม่ได้รับอนุญาต แม้แต่ทางเผ่าโจรสลัดเองก็กำลังหาตัวเขาเช่นเดียวกัน มันดูเหมือนว่าโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์นั้นจะหายสาบสูญไปจริงๆ
ทางด้านโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์นั้นกำลังรู้สึกเศร้าใจมากๆ เขาเคยพยายามที่จะแอบเข้าไปข้างในเพื่อช่วยหานเซิ่นออกมาจากเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงตามที่สัญญาเอาไว้ แต่หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง เขาก็ยังทำไม่สำเร็จ สุดท้ายเขาก็ยอมแพ้
และทันทีที่การประลองของบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนเริ่มต้นขึ้น สเปชการ์เด้นก็กลายเป็นที่หมายตาของใครหลายๆคน ซึ่งทำให้ตัวโจรสลัดศักดิ์สิทธิ์เองก็กลายเป็นเป้าหมายของทุกฝ่ายในจักรวาลไปด้วย
โชคดีที่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์นั้นเก่งเรื่องการหนีเอาตัวรอด ไม่อย่างนั้นเขาก็คงจะถูกจับตัวไปเรียบร้อยแล้ว
ถึงแม้ชื่อของเขาจะมีคำว่า “ศักดิ์สิทธิ์” อยู่ แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับเขา เขาก็เป็นแค่หัวขโมยคนหนึ่งในจักรวาลนี้ ถึงจักรวาลนี้จะกว้างใหญ่ มันก็ไม่มีที่ไหนให้เขาหนีไปพึ่งพา แม้แต่เอาท์เตอร์สกายของเผ่าเวรี่ไฮก็เป็นสถานที่ที่เขาเคยแอบเข้าไปและขโมยของออกมา เพราะยังไงซะนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงในจักรวาล
คนนอกนั้นไม่ได้รู้ว่าถึงเขาจะขโมยของของเผ่าเวรี่ไฮออกมา แต่เขาก็รีบเอามันกลับไปคืนให้กับเผ่าเวรี่ไฮในทันทีที่เผ่าเวรี่ไฮเริ่มตามหาตัวเขา ไม่อย่างนั้นล่ะก็เผ่าเวรี่ไฮก็คงจะไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ
ส่วนในเรื่องการต่อสู้นั้น โจรสลักศักดิ์สิทธิ์ไม่คิดว่าตัวเองจะสามารถเผชิญหน้ากับยอดฝีมือของเผ่าเวรี่ไฮหรือเผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงได้ ด้วยเหตุนั้นเขาจำเป็นต้องซ่อนตัว เขาตัดสินใจที่ไปที่เผ่าเอ็กซ์ตรีมคิงและพยายามเอาตัวหานเซิ่นออกมาอีกครั้ง ด้วยการที่มีหานเซิ่นอยู่ เขาจะสามารถควบคุมสเปชการ์เด้นที่เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับรังโจร
โจรสลักศักดิ์สิทธิ์สามารถผ่านระบบป้องกันมากมายของเอ็กซ์ตรีมคิงเข้าไปได้ และในที่สุดเขาก็ไปถึงสวนของพระราชวังที่ที่หานเซิ่นอยู่อาศัย
โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์รู้ว่ามันมีชายที่ชื่อโฮลี่เบบี้อาศัยอยู่ที่นั่น เขาเป็นลูกศิษย์ของราชาไป๋ แต่ในตอนที่โจรสลัดศักดิ์สิทธิ์เข้าไปในสวน เขาไม่เห็นหานเซิ่น เขาเห็นเพียงแค่เด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังมองดูการต่อสู้ในบัญชีรายชื่อเทพเจ้าจีโนอย่างเงียบๆ