Super God Gene - ตอนที่ 2939 ผู้นำที่ไม่มีใครมาแทนที่ได้
หานเซิ่นมองไปที่ไนน์เทาซันด์คิงและถาม “ถ้าเจ้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเซเคร็ดในอดีต แบบนั้นเจ้าจะตอบคำถามสุดท้ายของข้าได้ยังไง?”
ไนน์เทาซันด์คิงหัวเราะ “ข้าไม่รู้จริงๆว่าในเซเคร็ดนั้นยังมีสิ่งมีชีวิตเหลือรอดอยู่มากเท่าไหร่ ถ้าพวกเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาก็ต้องอยู่ที่นั่น มันเป็นสถานที่เดียวที่พวกเราจะแยกตัวออกจากการต่อสู้”
หานเซิ่นมองไปที่ไนน์เทาซันด์คิงโดยไม่ได้พูดอะไร ถ้าเซเคร็ดมีสถานที่แบบนั้นอยู่จริงๆ ทำไมเซเคร็ดถึงได้หายสูญไปในแม่น้ำกาลเวลา
ไนน์เทาซันด์คิงรู้ว่าหานเซิ่นกำลังคิดอะไร เขาหัวเราะและพูด
“ที่แห่งนั้นคือที่ที่ผู้คนของเซเคร็ดอยู่อาศัย แม้แต่เทพสปิริตก็เข้าไปในนั้นไม่ได้ การที่เซเคร็ดปกครองทั้งจักรวาลและฆ่าเทพสปิริตนับไม่ถ้วนโดยที่ยังดำรงชีวิตอยู่มาได้เป็นพันล้านปี ทั้งหมดก็เป็นเพราะปราสาทนั่น แม้แต่เทพสปิริตก็ทำได้แค่มองดูมัน ถ้ามันยังมียอดฝีมือของเซเคร็ดรอดชีวิตอยู่ ตอนนี้พวกเขาก็ต้องอยู่ในปราสาทนั่น”
“เผ่าพันธุ์ที่เรียกกว่าเซเคร็ดนี่นอกจากผู้นำเซเคร็ดและน้องสาวของเขาแล้ว มันยังมีใครอยู่อีกบ้าง?”
“ข้าตอบคำถามของเจ้าหมดแล้ว” ไนน์เทาซันด์คิงพูด
“เจ้ายังไม่ได้บอกข้าว่าปราสาทนั่นอยู่ที่ไหน ดังนั้นมันจึงถือว่าเจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามของข้า”
“ในเมื่อเซเคร็ดกลายเป็นแบบนี้เรียบร้อยแล้ว ข้าจะรู้ได้ยังไงว่าปราสาทนั่นอยู่ที่ไหน?” ไนน์เทาซันด์คิงพูด
“นั่นหมายความว่าเจ้ายังไม่ได้ตอบคำถามทั้งหมดของข้า” หานเซิ่นขมวดคิ้ว
“นี่เจ้าคิดจะผิดสัญญาที่ให้ไว้กับข้าอย่างนั้นหรอ?” ใบหน้าของไนน์เทาซันด์คิงดูมืดมัว
“ความจริงแล้วเจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเนื้อในหม้อนี่เป็นของกิเลนศักดิ์สิทธิ์จริงหรือเปล่า เจ้าไม่รู้ว่าน้องสาวของผู้นำเซเคร็ดชื่ออะไร และก็ไม่รู้ว่าปราสาทนั่นอยู่ที่ไหน ทำไมข้าต้องรักษาสัญญาด้วย ในเมื่อคำตอบที่เจ้ามอบให้กับข้ามันไร้ประโยชน์?” หานเซิ่นและไนน์เทาซันด์คิงจ้องหน้ากันโดยที่ไม่มีใครยอมใคร
“ดูเหมือนเจ้าไม่คิดจะรักษาสัญญาตั้งแต่แรกแล้ว”
ไนน์เทาซันด์คิงดูโกรธเล็กน้อย ดวงตาของชุดเกราะสีเขียวเข้มเริ่มจะเปิดออก เค้าโครงของดวงตานั้นกำลังเรืองแสงสีเขียวประหลาด
“มันไม่ใช่แบบนั้น คำตอบที่เจ้ามอบให้กับข้ามันไร้ประโยชน์ เจ้าเองก็คงจะตระหนักถึงเรื่องนั้นเช่นกัน เอาแบบนี้เป็นไง? ถ้าเจ้าตอบคำถามเกี่ยวกับเผ่าเซเคร็ดนี้อีกหนึ่งคำถาม ศาลานี่ก็จะตกเป็นของเจ้า” หานเซิ่นชี้ไปที่ศาลาขณะที่พูด
ดวงตาของไนน์เทาซันด์คิงดูน่ากลัว เขาจ้องมองไปที่หานเซิ่นและพูด
“ถ้าข้าตอบคำถามนี้แล้ว เจ้ายังบิดพลิ้วอีกล่ะก็ ถึงแม้จะต้องทำลายสวนนี้ไปด้วย ข้าก็จะฆ่าเจ้า!”
“พวกเราคริสตัลไลเซอร์รักษาสัญญาเสมอ ทั้งหมดที่เจ้าต้องทำก็คือตอบคำถามของข้า” หานเซิ่นพูด
“เผ่าเซเคร็ดนั้นมีแค่ผู้นำเซเคร็ดคนเดียว มันไม่มีคนอื่น ตอนนี้เจ้าพอใจหรือยัง?” ไนน์เทาซันด์คิงเริ่มเดินเข้าไปหาศาลา
“เดี๋ยวก่อน นั่นมันไม่ถูกสิ ผู้นำเซเคร็ดมีน้องสาวอยู่ แบบนั้นเผ่าเซเคร็ดจะมีอยู่แค่คนเดียวได้ยังไง? คำตอบของเจ้ามันไม่แปลกเกินไปหน่อยหรอ” หานเซิ่นพูดขณะที่หยุดการเดินของไนน์เทาซันด์คิงเอาไว้
“ใครบอกเจ้าว่าน้องสาวของผู้นำเซเคร็ดมาจากเผ่าเซเคร็ด?”
ไนน์เทาซันด์คิงหัวเราะก่อนที่จะพูดต่อว่า “ผู้นำเซเคร็ดเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ในจักรวาลแห่งนี้ มันไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่นที่เหมือนกับเขา มันไม่มีสิ่งมีชีวิตไหนอีกที่จะถูกคำนึงว่าเป็นส่วนหนึ่งของเผ่าเซเคร็ด”
“สิ่งที่เจ้าพูดมันขัดแย้งกัน นี่ผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่น้องสาวทางสายเลือดของผู้นำเซเคร็ดหรือยังไง?”
หานเซิ่นขมวดคิ้ว เขามองไปที่ใบหน้าของไนน์เทาซันด์คิง แต่มันไม่เหมือนว่าเขากำลังพูดโกหก
ถ้าเขาต้องการจะโกหก มันจะเป็นเรื่องง่ายกว่า ถ้าเขาโกหกว่าเผ่าเซเคร็ดนั้นมีผู้คนอยู่มากมาย เขาสามารถแต่งชื่อและจำนวนขึ้นมาได้ตามใจชอบ เพราะยังไงซะหานเซิ่นก็ไม่มีทางพิสูจน์ข้อมูลนั้นได้ แต่เขากลับมอบคำตอบที่แปลกประหลาดแบบนั้นให้กับหานเซิ่นแทน
“นางเป็นน้องสาวทางสายเลือดของเขา แต่เผ่าเซเคร็ดมีแค่ผู้นำเซเคร็ดคนเดียว นั่นคือทั้งหมดที่ข้ารู้ ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อมันหรือไม่”
ไนน์เทาซันด์คิงไม่คิดจะพูดอะไรอีก เขาเดินเข้าไปหาศาลาหิน ถ้าหานเซิ่นยังพยายามจะหยุดเขาเอาไว้ เขาก็จะเริ่มทำการโจมตี
“ข้าจะทำตามคำสัญญา ตอนนี้สิ่งที่อยู่ในศาลานี่เป็นของเจ้าแล้ว” หานเซิ่นอุ้มเป่าเอ๋อขึ้นและเดินออกไป
ดาบไนน์อายด์นั้นถูกทำลายไปแล้ว ตอนนี้พลังที่ส่งผลกระทบต่อดวงตาของปลาทองตัวใหญ่และตัวน้อยกับหยางยวิ๋นเซิงจึงหายไปด้วย แต่ดวงตาของหยางยวิ๋นเซิงที่ถูกระเบิดไปนั้นไม่สามารถฟื้นคืนกลับมา
หานเซิ่นไม่ได้เป็นศัตรูกับหยางยวิ๋นเซิง แต่เนื่องจากเขามีความบาดหมางกับเอ็กซ์ตรีมคิง เขาจึงไม่ได้ช่วยรักษาให้กับอีกฝ่าย หานเซิ่นออกไปจากศาลาหินและมองดูไนน์เทาซันด์คิงเดินเข้าไปข้างใน
ที่หานเซิ่นออกมาจากศาลานั้นไม่ได้เป็นเพราะเขาต้องการจะรักษาสัญญา แต่มันเป็นเพราะว่าหม้อหินนั่นแปลกประหลาดเกินไป เขาและเป่าเอ๋อกินเนื้อที่อยู่ข้างในไปจนหมด แต่มันกลับมีเนื้อปรากฏมาเพิ่มอีก
นอกจากนั้นยีนระดับเทพเจ้าที่หานเซิ่นได้มาจากการกินเนื้อในหม้อก็ถูกลบล้างไป มันเป็นอะไรที่ยากจะเชื่อ ดังนั้นหานเซิ่นจึงอยากเห็นก่อนว่าไนน์เทาซันด์คิงจะทำอะไรกับมัน หลังจากนั้นมันก็ยังไม่สายเกินไปที่เขาจะต่อสู้กับไนน์เทาซันด์คิง
หานเซิ่นแค่พูดว่าเขาจะมอบสิ่งที่อยู่ในศาลาให้กับไนน์เทาซันด์คิง แต่เขาไม่เคยให้สัญญาว่าเขาจะไม่แย่งมันกลับคืนมา
เมื่อเห็นหานเซิ่นเดินออกไป ไนน์เทาซันด์คิงก็ดูดีใจ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ เขาก็ไม่ต้องการจะต่อสู้กับหานเซิ่น
ไนน์เทาซันด์คิงเดินไปตรงหน้าหม้อหินและยื่นมือออกไป หลังจากนั้นชิ้นเนื้อที่อยู่ในหม้อหินก็ขึ้นมาจากน้ำและเข้ามาอยู่ในมือของเขา
“มันเป็นเนื้อของกิเลนศักดิ์สิทธิ์จริงๆ” ไนน์เทาซันด์คิงตรวจดูมันก่อนที่จะกินมันเข้าไปอย่างตื่นเต้น
หลังจากที่กินมันเข้าไป ดวงตาของไนน์เทาซันด์คิงก็เป็นประกาย ดูเหมือนกับว่าเขาจะได้รับผลประโยชน์บางอย่างจากมัน ทันใดนั้นไนน์เทาซันด์คิงก็อ้าปากกว้างและหันหน้าไปหาหม้อหิน เนื้อและน้ำซุบที่อยู่ในหม้อทั้งหมดบินเข้ามาในปากของเขาในคราวเดียว ไนน์เทาซันด์คิงกินมันจนหมดในเวลาไม่กี่วินาที
“ฮ่า! ฮ่า! เนื้อของกิเลนศักดิ์สิทธิ์เป็นของดีจริงๆด้วย” ไนน์เทาซันด์คิงหัวเราะเหมือนกับคนบ้า เห็นได้ชัดว่าหม้อเนื้อนั้นมอบผลประโยชน์มากมายให้กับเขา
หานเซิ่นแค่มองดูอยู่ห่างๆ เขาไม่เห็นอะไรที่ผิดปกติ ไนน์เทาซันด์คิงกินมันเข้าไปจนหมดเหมือนอย่างที่เขากับเป่าเอ๋อทำ ไนน์เทาซันด์คิงก็เพียงแค่กินเสร็จเร็วกว่าพวกเขาเท่านั้น
“ในเมื่อพวกเจ้ารักษาสัญญา ข้าก็จะปล่อยพวกเจ้าไป” ไนน์เทาซันด์คิงเดินออกมาจากศาลาและเดินไปที่ประตูหลังของสวนศักดิ์สิทธิ์
หานเซิ่นมองดูไนน์เทาซันด์คิงเดินไปที่ประตูหลัง เขาเปิดมันและเดินออกไป เมื่อเห็นว่าไนน์เทาซันด์คิงไปแล้ว หานเซิ่นก็หันกลับมามองที่หม้อหิน เขาต้องการดูว่าเนื้อในหม้อจะปรากฏขึ้นมาอีกครั้งไหม
แต่ทันใดนั้นหานเซิ่นก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจากประตูทางเข้าของสวนศักดิ์สิทธิ์ เขาขมวดคิ้วและหันไปมอง “ตอนนี้มีใครมาอีกล่ะ?”
ในตอนที่หานเซิ่นเห็นคนที่เข้ามา เขาก็อึ้งไป คนที่เดินเข้ามาจากประตูทางเข้าของสวนศักดิ์สิทธิ์ก็คือไนน์เทาซันด์คิงที่เพิ่งจะเดินออกจากประตูหลังไป
“ทำไมเจ้าถึงกลับมาที่นี่อีก?” หานเซิ่นถามด้วยความสับสน ประตูหลังและประตูหน้าไม่ควรจะเชื่อมต่อกัน
ไนน์เทาซันด์คิงเองก็ดูสับสนเช่นกัน “แปลกจริงๆ ข้าออกไปทางประตูหลัง ทำไมข้าถึงเข้ามาจากทางประตูหน้าได้?”
หานเซิ่นตกใจกับคำพูดของไนน์เทาซันด์คิง เขารีบไปดูหม้อหินในศาลา และเขาก็รู้สึกขนลุกขึ้นมา ในเวลาชั่วพริบตาเนื้อและน้ำซุบที่ไนน์เทาซันด์คิงเพิ่งจะกินเข้าไปนั้นกลับคืนมาอีกครั้ง
เขาเห็นว่าน้ำซุบในหม้อกำลังเดือดปุดๆ มันส่งกลิ่นหอมที่น่าเอร็ดอร่อยออกมา ภาพของมันควรจะทำให้เขารู้สึกหิว แต่หานเซิ่นกลับรู้สึกหนาวขึ้นมาแทน
“มันเกิดอะไรขึ้นที่นี่กันแน่?” หานเซิ่นสับสน