Super God Gene - ตอนที่ 3008 แอนเชี่ยนท์สปิริตซีด
หานเซิ่นรู้ว่าเด็กทารกคนนี้ไม่ใช่มนุษย์ ความร้อนของน้ำในกระทะนั้นมากพอจะตุ้มเนื้อของสิ่งมีชีวิตขั้นทรูก็อตได้ ถ้าเด็กทารกเป็นมนุษย์ล่ะก็ เขาก็คงจะสุกตั้งแต่ตอนที่ถูกกับไอความร้อนแล้ว แต่ผิวของเด็กทารกที่อยู่ในน้ำแค่ถูกเผาไหม้นิดหน่อยและยังสามารถดิ้นไปมาได้ ดังนั้นมันต้องไม่ใช่เด็กทารกธรรมดาๆอย่างแน่นอน
“ทารกนี้คืออะไรกัน?” หานเซิ่นมองเด็กทารกที่กำลังส่งเสียงร้องในน้ำ เขาคาดเดาอยู่หลายอย่าง แต่เขาไม่รู้ว่ามันมาจากเผ่าพันธุ์ไหนกันแน่
ในตอนนี้หานเซิ่นไม่สามารถใช้อาณาเขตตงเสวียนได้ ดังนั้นเขาจึงไม่เห็นสิ่งที่อยู่ภายนอกกระทะ แต่อุณหภูมิของน้ำนั้นเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเหตุนั้นเขาไม่จำเป็นต้องมองก็รู้ว่าซีโน่เจเนอิคทั้งสองกำลังใช้พลังธาตุไฟเพื่อเพิ่มความร้อน
“ตอนนี้เราจะทำยังไงดี?” หานเซิ่นจำเป็นต้องพักฟื้นอีกหน่อยก่อนถึงจะใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตได้อีกครั้ง แต่อุณหภูมิของน้ำนั้นกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่ผิวหนังที่แข็งแกร่งของเขาก็เริ่มจะรู้สึกเจ็บปวด
เด็กทารกร้องไห้เสียงดังยิ่งกว่าเดิม แต่ถึงผิวของทารกจะแข็งแกร่งมากๆ แต่มันก็เป็นแค่เด็กทารกอยู่ดี มันไม่สามารถหนีออกไปจากกระทะเบบี้ก็อตได้
เด็กทารกดิ้นรนอยู่สักพักและเข้ามาใกล้หานเซิ่นขึ้นเรื่อยๆ
“ไปทางอื่น อย่ามาทางนี้” หานเซิ่นเห็นว่าเด็กทารกกำลังจะถีบพริกสีเขียวที่เขาใช้ซ่อนตัวอยู่กระเด็นออกไป หานเซิ่นจึงพยายามใช้มือของเขาผลักเด็กทารกไปทางอื่น
แต่ทว่าเมื่อมือของหานเซิ่นสัมผัสกับเด็กทารก มันก็ทำให้เด็กทารกรู้ถึงการมีตัวตนของเขาและใช้มือที่ตุ้ยนุ้ยจับแขนของหานเซิ่นเอาไว้ เด็กทารกหยุดส่งเสียงร้องและมองมาที่หานเซิ่นด้วยสายตาที่เหมือนกับลูกสุนัข
“ไปทางอื่น ข้าช่วยเหลือเจ้าไม่ได้ แค่ตัวเองข้าก็แทบจะเอาตัวไม่รอดแล้ว” หานเซิ่นพยายามจะสลัดแขนเพื่อทำให้เด็กทารกหลุดออกไป แต่เด็กทารกนั้นจับแขนของเขาเอาไว้แน่น
หานเซิ่นไม่กล้าจะพูดหรือทำการเคลื่อนไหวที่อาจจะทำให้ซีโน่เจเนอิคทั้งสองรู้สึกตัว เขาจึงไม่รู้จะทำยังไงกับเด็กทารกคนนี้ดี
“แปลกจริงๆ ทำไมจู่ๆแอนเชี่ยนท์สปิริตซีดถึงได้หยุดร้อง?” เสียงแหลมดังขึ้นมาอีกครั้ง มันทำให้หานเซิ่นสะดุ้ง
“มันคงจะถูกต้มจนสุกไปแล้ว” เสียงแหบพูดขึ้นมา
“กระทะเหล็กเบบี้ก็อตนั้นร้อนอยู่แล้ว เมื่อรวมเข้ากับไฟหยางที่แท้จริงของข้าและไฟใต้พิภพของเจ้า แม้แต่ซีโน่เจเนอิคขั้นทรูก็อตก็จะถูกต้มจนสุกอย่างง่ายดาย แถมมันก็เป็นแค่เด็กทารก”
“เจ้าจะไปรู้อะไร? นั่นมันไม่ใช่เด็กทารกธรรมดา มันเป็นแอนเชี่ยนท์สปิริตซีด” ซีโน่เจเนอิคตาเดียวพูด
“แอนเชี่ยนท์สปิริตซีดคืออะไร?” เสียงแหบถามด้วยความสับสน
ซีโน่เจเนอิคตาเดียวพูดขึ้นมา “ไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าที่เคยเป็นถึงผู้นำของระบบจักรวาล แต่เจ้ากลับไม่รู้เกี่ยวกับแอนเชี่ยนท์สปิริตซีดของแอนเชี่ยนท์ก็อต”
หลังจากที่หยุดไปชั่วครู่ ซีโน่เจเนอิคตาเดียวก็อธิบาย “แอนเชี่ยนท์ก็อตจะสืบทอดสายพันธุ์ผ่านแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินของพวกเขา ในตอนที่แอนเชี่ยนท์ก็อตตาย พวกเขาจะทิ้งแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินเอาไว้เบื้องหลังเพื่อที่แอนเชี่ยนท์ก็อตคนใหม่จะได้ถือกำเนิดขึ้นมา ด้วยเหตุนั้นจำนวนของแอนเชี่ยนท์ก็อตจึงตายตัว พวกเขาจะไม่เพิ่มจำนวนขึ้นหรือมีจำนวนน้อยลง นอกซะจากว่าแอนเชี่ยนท์ก็อตออริจินจะถูกทำลาย ในกรณีนั้นแอนเชี่ยนท์ก็อตจะใช้พิธีกรรมลับเพื่อให้กำเนิดแอนเชี่ยนท์ก็อตคนใหม่ แอนเชี่ยนท์ก็อตที่ถือกำเนิดด้วยวิธีนี้จะเป็นเหมือนกับเด็กทารก พวกเขาจะไม่ได้รับการยอมรับโดยพลังธาตุในทันที นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาถูกเรียกว่าแอนเชี่ยนท์สปิริตซีด พวกเขาจะกลายเป็นแอนเชี่ยนท์ก็อตของจริงก็ต่อเมื่อพวกเขาได้รับการยอมรับจากธาตุใดธาตุหนึ่ง”
“นั่นหมายความว่าแอนเชี่ยนท์สปิริตซีดก็คือแอนเชี่ยนท์ก็อตอย่างนั้นสินะ? นี่พวกเราจะใช้แอนเชี่ยนท์สปิริตซีดเพื่อทำจีโนฟลูอิดให้กับนายหญิงอย่างนั้นหรอ? แต่นั่นหมายความว่านายหญิงจะต้องกินพวกเดียวกันเองน่ะสิ…” เสียงแหบยังไม่ทันพูดจบก่อนที่จะถูกพูดขัดขึ้นมา
“เบาเสียงลง! ถึงเจ้าจะไม่ได้พูดเสียงดัง มันก็ไม่มีใครหาว่าเจ้าเป็นใบ้หรอกนะ”
ซีโน่เจเนอิคตาเดียวลดเสียงลงและพูดต่อ “เจ้านายของพวกเราคือราชาของแอนเชี่ยนท์ก็อต แอนเชี่ยนท์สปิริตซีดคนหนึ่งจึงไม่มีความหมายอะไรมาก ถึงแม้พวกเราจะถูกใช้ให้ต้มแอนเชี่ยนท์ก็อตที่แท้จริง มันก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไร”
เสียงแหมตอบกลับ “แปลกนะ ตามกฎแล้วแอนเชี่ยนท์ก็อตจะต้องรอคอยจนกระทั่งแอนเชี่ยนท์ก็อตคนก่อนตายไปก่อนที่แอนเชี่ยนท์ก็อตคนใหม่จะกำเนิดขึ้นมา ถ้าเป็นแบบนั้นจริง ทำไมนายท่านถึงได้มีทายาทอย่างนายหญิงได้ละ?”
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่เจ้าและข้ามีสิทธิ์รู้ หยุดพูดถึงเรื่องนี้และเร่งไฟขึ้นอีก พวกเราต้องทำจีโนฟลูอิดให้เสร็จก่อนถึงงานพิธีก้าวผ่านวัยของนายหญิง พวกเราจะล้มเหลวไม่ได้”
ซีโน่เจเนอิคตาเดียวหยุดไปชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ “เจ้าเร่งไฟต่อไป ข้าจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้นกับแอนเชี่ยนท์สปิริตซีด”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องไปดู มันคงจะถูกต้มจนสุกไปเรียบร้อยแล้ว”
“แค่ทำตามที่ข้าบอกและเลิกพูดจาไร้สาระ”
หานเซิ่นได้ยินการเคลื่อนไหวของซีโน่เจเนอิคตาเดียว เขามองแอนเชี่ยนท์สปิริตซีดที่ยังคงเกาะแขนของเขาเอาไว้แน่น มันมีดวงตาที่มีน้ำตาคลอเบ้า ซึ่งทำให้เขาถอนหายใจออกมา
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะเทเลพอร์ตมาในดินแดนของแอนเชี่ยนท์ก็อต แถมยังเป็นเขตของแอนเชี่ยนท์ก็อตคิง เราจะหนีไปจากที่นี่ด้วยสิ่งที่อยู่ในตอนนี้ได้ไหมนะ?”
ในจังหวะที่เขาเห็นหัวของซีโน่เจเนอิคตาเดียวยื่นมาเหนือกระทะ หานเซิ่นก็พาแอนเชี่ยนท์สปิริตซีดกระโดดออกไปพร้อมกับเขา เขาเหยียบหัวของซีโน่เจเนอิคตาเดียวก่อนที่จะเริ่มวิ่งออกไป
หลังจากที่ออกมาจากกระทะ หานเซิ่นก็เห็นซีโน่เจเนอิคอีกตัว มันเป็นซีโน่เจเนอิคที่ดูเหมือนกับหมีดำ แต่มันมีแขนแปดแขน มันกำลังพ่นไฟใส่ใต้กระทะเหล็ก
สมองของมันดูเหมือนจะประมวลผลถึงสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ทัน มันได้แต่มองหานเซิ่นพาแอนเชี่ยนท์สปิริตซีดวิ่งผ่านอุโมงค์ไปโดยที่ไม่ได้ทำอะไร
“ทำไมเจ้าถึงยังยืนเฉยอยู่อีก? เขาเป็นศัตรูที่บุกรุกเข้ามาที่นี่! แถมเขายังขโมยแอนเชี่ยนท์สปิริตซีดไป! พวกเราต้องจับตัวของเขาให้ได้!”
ซีโน่เจเนอิคตาเดียวตะโกนด้วยความโมโห ก่อนจะรีบวิ่งไล่ตามหานเซิ่นไป
เนื่องจากอุโมงค์ทางที่หานเซิ่นเลือกมีความสูงแค่พอให้มนุษย์ผ่านเข้าไปได้เท่านั้น มันจึงเป็นเรื่องยากสำหรับซีโน่เจเนอิคตาเดียวที่จะไล่ตามหานเซิ่นได้ทัน มันจำเป็นต้องพังหินที่ขวางทางเพื่อจะไล่ตามไป
ถึงหานเซิ่นจะใช้วิชาจีโนไม่ได้ แต่เขาก็ยังคงมีพละกำลังของขั้นทรูก็อต ในตอนที่เขาวิ่ง เขาก็รวดเร็วเหมือนดังสายฟ้า
แอนเชี่ยนท์สปิริตซีดยังคงเกาะแขนของหานเซิ่น ใบหน้าของมันบิดเบี้ยวด้วยกระแสลมที่แรง
หานเซิ่นเอาแอนเชี่ยนท์สปิริตซีดมาไว้ที่อก แอนเชี่ยนท์สปิริตซีดจึงปล่อยมือจากแขนของเขาและหันมาจับที่เสื้อของหานเซิ่นแทน มันเงยหน้าขึ้นมาและยิ้มให้กับหานเซิ่น
หานเซิ่นไม่มีพลังในการสัมผัสของอาณาเขตตงเสวียน เขาจึงได้แต่วิ่งไปมั่วๆ เขาเหมือนกับไก่ไร้หัวที่วิ่งไปตามอุโมงค์ที่ซับซ้อน
โชคดีที่เขาไม่เจอกับซีโน่เจเนอิคตัวอื่นๆ และเขาก็ไม่ได้เห็นใครคนไหนจากเผ่าแอนเชี่ยนท์ก็อตเช่นกัน มันทำให้หานเซิ่นรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
ทันใดนั้นอุโมงค์ข้างหน้าเปิดออกและเผยให้เป็นพื้นที่ใต้ดินที่เต็มไปด้วยดอกไม้ มันเหมือนกับสวนใต้ดินที่งดงาม
มีหญิงสาวชุดขาวกำลังนั่งอยู่บนชิ่งช้าภายในสวน เธอหันมามองหานเซิ่นและแอนเชี่ยนท์สปิริตซีดที่เพิ่งจะวิ่งเข้ามาข้างใน