Super God Gene - ตอนที่ 3017 ชาโดว์ก็อต
“เศษซากของเซเคร็ดที่หลงเหลืออยู่ โผล่หัวออกมา!”
กำแพงและผนังน้ำแข็งของห้องปฏิบัติการพังทลายภายใต้เสียงพูดอันก้องกังวาล
หานหยี่เฟยเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เธอวิ่งออกไปจากห้องปฏิบัติการขณะที่ถือมีดฝ่าตัดอยู่ในมือ เธอเอาลูกโลหะออกมาจากกระเป๋าและโยนมันขึ้นไปบนท้องฟ้า
ลูกโลหะระเบิดออกและปล่อยแสงสว่างออกมา แสงเหล่านั้นตัดกันจนกลายเป็นใบเสมาที่ปกป้องห้องปฏิบัติซีโร่จากการพังทลาย
หานเซิ่นและดราก้อนเลดี้วิ่งออกไปจากห้องปฏิบัติการน้ำแข็ง มิติของอวกาศรอบๆตัวพวกเขาเปลี่ยนเป็นสีดำ มันเหมือนกับว่าบริเวณที่พวกเขาอยู่นั้นถูกตัดขาดออกจากโลกภายนอก
ในความมืดนั้นมีเงาดำลอยอยู่ มันกำลังมองมาที่เขา
เนื่องจากเงาและความมืดนั้นกลมกลืนกัน พวกเขาจึงมองไม่เห็นรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย พวกเขาเห็นเพียงแค่ดวงตาที่เรืองแสงสีแดง
หานเซิ่นรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าดวงตาคู่นั้นกำลังจ้องมาที่เขา แถมสิ่งที่อีกฝ่ายพูดเมื่อครู่ก็เป็นสิ่งที่พอจะแปลความได้ อีกฝ่ายนั้นมาเพื่อตามล่าตัวของเขา
“เจ้าเป็นใคร ทำไมเจ้าถึงมาที่นี่?” หานเซิ่นถามออกไป
“ข้าชาโดว์ก็อตมาที่นี่ก็เพื่อบดขยี้เศษซากที่เหลือรอดของเซเคร็ด”
เสียงที่ทรงพลังดังขึ้นอีกครั้ง ดวงตาสีแดงในอากาศดูโกรธยิ่งกว่าเดิม
‘ชาโดว์ก็อตขั้นแอนนิฮิเลชั่นจุติลงมาเองแบบนี้ ดูเหมือนว่าเทพสปิริตนั้นจะหวาดกลัวเลือดของผู้นำเซเคร็ดจริงๆ’
สีหน้าของหานเซิ่นยังคงสงบนิ่ง เขามองไปที่ชาโดว์ก็อตและถามอย่างเย็นชา “ถ้าจะกำจัดเศษซากที่เหลืออยู่ของเซเคร็ด เจ้าควรไปตามล่าคนที่มอบเลือดสีฟ้าให้กับข้าแทนไม่ดีกว่าหรอ? เจ้าจะไม่ไปฆ่าคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องนี้หรือยังไง? ทำไมเจ้าถึงเลือกมาหาข้าที่เป็นผู้รับเคราะห์จากเลือดสีฟ้า? ดูเหมือนว่าเทพสปิริตจะเป็นพวกขี้ขลาดตาขาวที่กล้ารังแกแต่คนที่อ่อนแอกว่า”
“ตราบใดที่เจ้าเป็นเศษซากที่เหลือรอดของเซเคร็ด เจ้าจะต้องตาย”
ชาโดว์ก็อตพูด ดวงตาของเขาเรืองแสงสีแดงขึ้นมา พวกมันเปลี่ยนเป็นลำแสงที่พุ่งตรงออกไปหาหานเซิ่น หานเซิ่นเตรียมตัวจะต่อสู้ แต่หานหยี่เฟยเคลื่อนไหวก่อนเขา เธอมาอยู่ตรงหน้าหานเซิ่น ขณะที่ถือรีโมทคอนโทรลอยู่ในมือ เธอสัมผัสรีโมทสองครั้ง ทำให้มีหน้าจอแสงปรากฏออกมาจากรีโมทคอนโทรล หน้าจอนั้นดูเหมือนกับกระจก
เมื่อลำแสงสีแดงของชาโดว์ก็อตปะทะเข้าที่หน้าจอ มันก็ถูกสะท้อนกลับไป มันทำให้ชาโดว์ก็อตต้องปล่อยลำแสงออกมาอีกครั้งเพื่อยับยั้งมันเอาไว้
“ชาโดว์ก็อต ข้าไม่สนใจว่าเจ้าต้องการจะฆ่าใคร แต่ถ้าเจ้ากล้ามาทำลายห้องปฏิบัติการของข้า เจ้าก็ต้องชดใช้อย่างสาสม” หานหยี่เฟยพูด
“หานหยี่เฟย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเจ้า ถ้าเจ้าไม่ต้องการถูกขังอีกพันล้านปี เจ้าควรจะไปจากที่นี่ซะ” ชาโดว์ก็อตพูด
“ข้าอยากรู้เหลือเกินว่าเจ้าจะขังข้าเป็นพันล้านปียังไง?” หานหยี่เฟยพูด
“ถ้าเจ้าอยากตายมากนัก ข้าจะทำให้เจ้าสมใจเอง”
เสียงของชาโดว์ก็อตดังก้อง ดวงตาของเขาเรืองแสงสีแดงอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันไม่ได้กลายเป็นแสงเลเซอร์ที่พุ่งออกมาจากตาของเขา มันดูเหมือนกับดวงอาทิตย์สีแดงที่ส่องสว่างอย่างประหลาดจากในความมืด
สีหน้าของหานเซิ่นและดราก้อนเลดี้เปลี่ยนไป พวกเขารวบรวมพลังทั้งหมดเพื่อจะต่อต้าน แต่พวกเขารู้สึกราวกับว่าร่างกายสูญเสียการควบคุม พวกเขาเป็นเหมือนกับตุ๊กตาไม้ที่เอาแต่ยืนนิ่งอยู่กับที่
และไม่ใช่เพียงแค่นั้น จู่ๆร่างกายของหานเซิ่นก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยตัวของมันเอง แขนข้างที่ถือแอนเชี่ยนท์สปิริตซีดอยู่ถูกยกขึ้น มือของเขาเคลื่อนที่เข้าไปจับหัวของตัวเองก่อนที่จะเริ่มบิด มันเหมือนกับว่าเขาพยายามจะบิดหัวของตัวเองให้หลุดออกมา
ดราก้อนเลดี้เป็นเหมือนกับเขา เธอยกมือขึ้นและพยายามบิดหัวของตัวเอง คอของเธอถูกบิดไปเก้าสิบองศาเรียบร้อยแล้ว และมันยังคงบิดต่อไปเรื่อยๆ กระดูกคอของเธอเริ่มจะแตกร้าวและส่งเสียงออกมา มันเหมือนกับว่าหัวของเธอกำลังจะหลุดออกมาได้ทุกเมื่อ มันทำให้ปากและจมูกของดราก้อนเลดี้มีเลือดไหลออกมา
ทางด้านหานเซิ่นเองก็สถานการณ์ไม่ดีเช่นกัน เขารู้สึกว่าคอของเขาใกล้จะขาดเต็มทีแล้ว ขากรรไกรของเขาเกือบจะสัมผัสกับหลังของตัวเอง ใบหน้าของเขาดูเหมือนกับว่ามันกำลังจะระเบิด
“ข้ากำลังฉีกหัวของตัวเอง นั่นเป็นหนทางใหม่ที่จะตาย”
หานเซิ่นเย้นหยันตัวเอง เขารู้ว่าตัวเองและดราก้อนเลดี้นั้นถูกควบคุมโดยพลังของชาโดว์ก็อต แต่เขาไม่รู้ว่ามันเป็นพลังแบบไหนกันแน่ เขาสูญเสียการควบคุมร่างกายตัวเองโดยที่เขาไม่รู้ตัวได้ยังไง?
หานเซิ่นถูกจำกัดโดยเลือดสีฟ้า ด้วยเหตุนั้นเขาไม่สามารถตอบโต้อะไรได้ นอกซะจากเขาจะใช้โหมดเทพเจ้าสปิริตขั้นสุดยอดหรือใช้วิชาโลหิตชีพจรเพื่อเปิดใช้พลังของเลือดสีฟ้า นอกจากการทำแบบนั้นแล้วเขาไม่สามารถทำอะไรอย่างอื่นได้
ปัง!
ขณะที่หานเซิ่นกำลังครุ่นคิดว่าควรจะใช้พลังไหนดี เขาเห็นมือของหานหยี่เฟยกดรีโมทคอนโทรลและมีลำแสงออกมา ลำแสงนั้นพุ่งออกไปสามฟุตก่อนที่จะแพร่กระจายออก มันกลายเป็นร่มแสง
หานหยี่เฟยกดปุ่มบนรีโมทคอนโทรลที่กลายเป็นด้ามจับของร่มอีกครั้ง และร่มแสงก็เปลี่ยนเป็นสีดำ เธอยกมันขึ้นเหนือหัวเพื่อป้องกันอิทธิพลจากแสงสีแดงของชาโดว์ก็อต
หานเซิ่นและดราก้อนเลดี้ถอนหายใจออกมา พวกเขากลับมาควบคุมร่างกายของตัวเองได้อีกครั้ง
หานเซิ่นยังคงรู้สึกเจ็บปวดขณะที่เขาถามขึ้นว่า “พลังแสงสีแดงนั่นคืออะไร?”
“แสงสีแดงนั่นเป็นเพียงแค่ตัวช่วย พลังที่แท้จริงของเขาคือนั่นต่างหาก” หานหยี่เฟยชี้ไปที่พื้น
หานเซิ่นมองไปที่พื้น แต่เขาไม่เห็นอะไรผิดปกติ เขาเห็นแค่พื้นหิมะที่พวกเขากำลังยืนอยู่
แต่หลังจากนั้นหานเซิ่นก็เข้าใจว่าหานหยี่เฟยพูดถึงอะไร เธอกำลังพูดถึงเงา ภายใต้ความสว่างของแสงสีแดง ร่มสีดำของหานหยี่เฟยสร้างเงาสีดำขึ้นที่พื้น มันครอบคลุมเงาของหานเซิ่นและดราก้อนเลดี้เอาไว้
“เจ้าคิดว่าร่มนั่นจะป้องกันพลังชาโดว์ก็อตของข้าได้อย่างนั้นหรอ?”
ชาโดว์ก็อตถามอย่างเลือดเย็น ดวงตาของเขาเรืองแสงสีแดงสว่างไสวยิ่งกว่าเดิม มันทำให้เงาบนพื้นชัดเจนมากขึ้น
หานเซิ่นค้นพบอย่างรวดเร็วว่าร่มในมือของหานหยี่เฟยเริ่มจะสั่นไหว ดูเหมือนว่ามันพร้อมจะพังทลายได้ทุกเมื่อ หานหยี่เฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอต้องการจะทำบางสิ่ง แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงระฆังดังอย่างต่อเนื่อง มันเหมือนกับว่ามีระฆังหลายอันสั่นพร้อมๆกัน หานเซิ่นและคนอื่นๆหันไปมองและเห็นแสงสีม่วงพุ่งออกมาจากความมืด แสงสีม่วงนั้นคือมังกรเมฆนับสิบที่กำลังลากรถม้าทองแดงคันหนึ่งมา
“นั่นมัน…รถม้าทองแดงของเพอเพิลไฟต์” หานเซิ่นจดจำมันได้ ครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าไปหลบในดวงตาของเพอเพิลไฟต์ที่นั่งอยู่ในรถม้าคันนั้น
มังกรเมฆลากรถม้ามาอยู่เหนือห้องปฏิบัติการน้ำแข็ง มันปกคลุมทั้งห้องปฏิบัติการด้วยเงาของรถม้าและมังกรเมฆ
หลังจากนั้นประตูของรถม้าทองแดงก็เปิดออก เพอเพิลไฟต์เดินออกมา เขามองไปทางชาโดว์ก็อตที่อยู่ในความมืด