Super God Gene - ตอนที่ 3022 ชุดเกราะปรากฏ
พลังไหลผ่านร่างกายของเสี่ยวฮวา มิติอวกาศรอบๆตัวเขาบิดเบี้ยว เปลวไฟสีดำและขาวไหลไปยังปราสาทโถงศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกทำลาย และมันก็เริ่มจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ มันไม่ใช่แค่ปราสาทศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แม้แต่ความมืดมิดที่ปกคลุมเซเคร็ดก็เริ่มจะเกิดความเปลี่ยนแปลงที่เหมือนกับปาฏิหาริย์
ความมืดมิดเริ่มจะจางหายไป และสิ่งก่อสร้างที่พังทลายก็เริ่มจะถูกสร้างขึ้นมาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่สร้างที่ถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดีหรือสิ่งก่อสร้างที่พุพังจากกาลวเลา พวกมันทั้งหมดถูกซ่อมแซมด้วยพลังประหลาดนั่น เซเคร็ดที่ถูกทำลายนั้นเริ่มกลับมาดูรุ่งเรืองเหมือนในสมัยก่อน มันเป็นภาพที่ไม่น่าเชื่อ
ไม่นานหลังจากนั้นความมืดที่ปกคลุมเซเคร็ดก็หายไปอย่างสมบูรณ์ ทั้งระบบจักรวาลร้างกลับมาดูงดงามอีกครั้ง ดวงดาวมากมายดูเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิต
แม้แต่ปราสาทศักดิ์สิทธิ์และรูปปั้นที่อยู่ภายในก็กลับสู่สภาพเดิม มันมีเพียงแค่สิ่งเดียวเท่านั้นที่ไม่ถูกซ่อมแซม ซึ่งมันก็คือรูปปั้นของฉินซิว
“เสี่ยวฮวา เจ้าทำสำเร็จ!” เฒ่าแมวที่อยู่ใกล้ๆเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น ขณะที่มองเสี่ยวฮวาที่กำลังสวมใส่ชุดเกราะ ตอนนี้เปลวเพลิงบนชุดเกราะได้จางหายไปแล้ว
“ข้ากลายเป็นขั้นทรูก็อตแล้วสินะ?” เสี่ยวฮวาดีใจ เขาสัมผัสได้ถึงพลังอันน่ากลัวที่อยู่ภายในตัวของเขา
“ไม่ เจ้าไม่ใช่แค่ขั้นทรูก็อต ร่างกายของเจ้าถือเป็นขั้นทรูก็อตระดับท็อป แต่ชุดเกราะจะมอบพลังที่เหนือกว่านั้นให้กับเจ้า เมื่อร่างกายศักดิ์สิทธิ์ของเจ้ารวมกับชุดเกราะ เจ้าก็จะมีพลังที่เหนือกว่าที่นักสู้ขั้นทรูก็อตทั่วไป” เฒ่าแมวพูด
“ฉินหลานอยู่ที่ไหน? ข้าต้องการให้เขาชดใช้ต่อสิ่งที่เขาทำกับอาเหมย”
เสี่ยวฮวากำหมัดแน่นขณะที่พูด ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความแค้น
“เขาอยู่ที่นั่น…” เฒ่าแมวขึ้นไปยืนอยู่บนปราสาทศักดิ์สิทธิ์และยกอุ้งเท้าชี้ขึ้นไปในอวกาศ เสี่ยวฮวามองตามทิศทางที่เฒ่าแมวชี้และเห็นปราสาทพระเจ้าอยู่บนท้องฟ้า
“เขาเป็นเทพสปิริตอย่างนั้นหรอ? เขาอยู่ในวิหารพระเจ้าไหนกัน?”
ดวงตาของเสี่ยวฮวาลุกเป็นไฟขณะที่เขามองไปที่ปราสาทพระเจ้า
“เขาไม่ใช่เทพสปิริตที่แท้จริง เขาก็แค่คนทรยศของเซเคร็ด ในตอนนี้เขาอยู่ในจีโนฮอลล์ เจ้าจำเป็นต้องเข้าไปในจีโนฮอลล์เพื่อพบกับเขา” เฒ่าแมวพูด
“จีโนฮอลล์งั้นหรอ?” เสี่ยวฮวาจ้องไปที่จุดสูงสุดของปราสาทพระเจ้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ พลังภายในร่างกายของเขาพลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง
ตูม!
พลังของเสี่ยวฮวาระเบิดออกและเขาก็หายตัวไป เขาบินขึ้นไปสู่จีโนฮอล์ที่อยู่บนจุดสูงสุดของปราสาทพระเจ้าอย่างรวดเร็วราวกับว่าเขาเทเลพอร์ต
ปราสาทพระเจ้าปรากฏออกมาเป็นเวลาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ละเผ่าพันธุ์จึงเริ่มจะเคยชินกับการมีอยู่ของปราสาทพระเจ้าบนท้องฟ้า บางครั้งจะมีสิ่งมีชีวิตไปที่ปราสาทพระเจ้าเพื่อทำการอธิษฐาน ส่วนสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งจะไปเพื่อท้าสู้กับเทพสปิริต
เฟเธอร์คนหนึ่งเพิ่งจะเข้าไปในเขตแดนของปราสาทพระเจ้า เขากำลังสงสัยว่าควรจะไปทำการขออธิษฐานกับวิหารพระเจ้าไหนดี แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นเปลวเพลิงสีขาวและดำพุ่งผ่านหน้าไปอย่างรวดเร็ว มันตรงขึ้นไปสู่ชั้นที่สูงที่สุดของปราสาทพระเจ้า
“ใครกันที่รีบร้อนบินเร็วถึงขนาดนั้น? นี่เขาคิดจะไปขออธิษฐานกับเทพสปิริตขั้นสูงอย่างนั้นหรอ?” เฟเธอร์พูดกับตัวเอง เขาคิดว่าคนที่ดูเหมือนกับเปลวเพลิงนั้นจะขึ้นไปยังวิหารพระเจ้าชั้นที่สูงที่สุดเพื่อทำการอธิษฐาน
เพราะยังไงซะจนถึงตอนนี้การท้าต่อสู้กับเทพสปิริตขั้นแอนนิฮิเลชั่นก็เป็นสิ่งที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น แต่เฟเธอร์คนนั้นรู้สึกตัวอย่างรวดเร็วว่ามีบางสิ่งผิดปกติ เปลวเพลิงสีขาวและดำพุ่งผ่านวิหารพระเจ้าขั้นดิแซสเตอร์และขั้นแอนนิฮิเลชั่นไป มันยังคงบินสูงขึ้นไปเรื่อยๆ และดูเหมือนว่ามันกำลังมุ่งหน้าไปยังจีโนฮอลล์ที่อยู่บนจุดสูงสุดของปราสาทพระเจ้า
“นี่เขากำลังทำอะไร?” เฟเธอร์ตกใจ
ผู้คนมากมายในจักรวาลต่างก็รู้สึกสับสนเมื่อเห็นการกระทำของเสี่ยวฮวา
ผู้นำปราสาทนภากำลังมองไปที่เสี่ยวฮวาเช่นเดียวกัน ใบหน้าของเขาดูแปลกๆ เขารีบเทเลพอร์ตเข้าไปในห้องลับ และดึงเอาภาพวาดที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ในระฆังยักษ์ออกมา
เขาเทเลพอร์ตออกมาจากห้องลับขณะที่ถือภาพวาดอยู่ในมือและมองขึ้นไปยังเสี่ยวฮวาที่อยู่บนท้องฟ้า เขามองภาพวาดในมือที่เป็นภาพของชายในชุดเกราะ ชุดเกราะนั้นห่อหุ้มร่างกายของชายคนนั้นอย่างมิดชิด แม้แต่ใบหน้าก็ไม่เผยออกมาให้เห็น
ผู้นำปราสาทนภามองชายชุดเกราะในภาพวาด หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองเสี่ยวฮวาที่บินขึ้นไปสู่จีโนฮอลล์ ใบหน้าของเขาดูเอาจริงเอาจรังอย่างมาก ชุดเกราะที่อยู่ในภาพวาดนั้นเป็นสีดำบริสุทธิ์ ขณะที่ชุดเกราะของเสี่ยวฮวาเป็นสีขาวบริสุทธิ์ นอกจากเรื่องนั้นแล้วชุดเกราะทั้งสองเหมือนกันทุกอย่าง
“ท่านผู้นำ…คนๆนั้น…ชุดเกราะนั่น…” ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภารีบมาหาผู้นำปราสาทนภาด้วยความรีบร้อน โดยปกติแล้วเขาจะเป็นคนใจเย็น แต่ตอนนี้เขาไม่สามารถพูดเป็นประโยคได้
ก่อนที่ผู้อาวุโสหนึ่งของปราสาทนภาจะพูดออกมาได้ มีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวข้างๆผู้นำปราสาทนภา ใบหน้าของเธอดูตกใจขณะที่เธอพูดขึ้นว่า
“ชุดเกราะนั่น…คือชุดเกราะของผู้นำเซเคร็ดไม่ใช่หรอ?”
“มันดูเหมือนจะเป็นแบบนั้น แต่มันดูแตกต่างออกไปเล็กน้อย”
ผู้นำปราสาทนภามองชุดเกราะในภาพวาด ก่อนที่จะมองไปที่เสี่ยวฮวาอีกครั้ง ใบหน้าของเขาดูซับซ้อนเหมือนกับว่าเขารู้สึกไม่แน่ใจ
สิ่งมีชีวิตจากอดีตกาลทั่วจักรวาลมองไปที่เสี่ยวฮวาอย่างตกตะลึง แม้แต่ผู้คนในปราสาทพยุหะโลหิตอย่างจักรพรรดิมนุษย์เองก็มองไปที่เสี่ยวฮวาด้วยความประหลาดใจ
ผู้หญิงชุดแดงที่ถือร่มเอาไว้เหนือหัวเดินเข้าไปหาจักรพรรดิมนุษย์ ร่มสีแดงนั้นปิดบังใบหน้าของเธอเอาไว้ ทำให้ไม่มีใครเห็นใบหน้าของเธอได้
“นายท่าน นั่นคือชุดเกราะของผู้นำเซเคร็ดอย่างนั้นหรอ?” ผู้หญิงชุดแดงถามด้วยความสับสน
“ข้าไม่รู้” จักรพรรดิมนุษย์ส่ายหัว
ผู้หญิงชุดแดงพูด “จากคำทำนายของหานจิงจื่อ มันเหลือเวลาน้อยกว่าสิบสองชั่วโมง ถ้านั่นคือชุดเกราะของผู้นำเซเคร็ด และจริงๆแล้วผู้นำเซเคร็ดยังไม่ตาย บางทีมันก็มีโอกาสที่ปราสาทพระเจ้าจะถูกทำลายจริงๆ แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เกี่ยวข้องกับหานเซิ่น น่าเสียดายที่นายท่านมอบเลือดศักดิ์สิทธิ์ให้กับเขาไปเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำให้ตอนนี้ร่างกายของนายท่านอ่อนแอ ข้ากลัวว่าพวกเราจะถูกหานจิงจื่อหลอก เห็นได้ชัดว่าเขาจงใจให้นายท่านมอบเลือดศักดิ์สิทธิ์ให้กับหานเซิ่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง”
จักรพรรดิมนุษย์ยิ้มและพูด “บางทีอาจจะไม่เป็นแบบนั้น ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่านั่นใช่ชุดเกราะของผู้นำเซเคร็ดหรือไม่ ถึงมันจะใช่ แต่คนที่สวมมันอยู่ก็ไม่มีทางเป็นผู้นำเซเคร็ดไปได้ ดังนั้นมันยังบอกไม่ได้ว่าคนๆนี้จะทำลายปราสาทของพระเจ้าได้ บางทีหานเซิ่นอาจจะมีประโยชน์เมื่อถึงเวลา การที่พวกเราถูกเขาหลอกนั้นไม่เป็นไร ตราบใดที่พวกเราทำลายปราสาทของพระเจ้าได้ ทุกอย่างก็ถือว่าคุ้มค่า”
“ทำไมนายท่านถึงมั่นใจว่าคนที่อยู่ในชุดเกราะไม่ใช่ผู้นำเซเคร็ด?” ผู้หญิงชุดแดงถามด้วยความสับสน
“เจ้าลืมไปแล้วหรือยังไง? โลหิตชีพจรของข้าใกล้เคียงกับของฉินซิวมากๆ ถ้านั่นคือเขาจริงๆล่ะก็ ข้าจะรู้สึกได้”
จักรพรรดิมนุษย์มองเสี่ยวฮวาที่บินขึ้นไปที่จีโนฮอลล์อย่างใจเย็นและพูดต่อ “แต่ในตอนข้าไม่รู้สึกถึงการเชื่อมต่อทางสายเลือดกับคนๆนั้น บางทีเขาอาจจะมีเลือดของฉินซิวอยู่ในตัว แต่เขาไม่มีทางเป็นฉินซิวไปได้”
ทุกสิ่งมีชีวิตจากโบราณกาลมองไปทางเสี่ยวฮวาที่ตอนนี้เหยียบเท้าลงบนลานกว้างของจีโนฮอลล์