Super God Gene - ตอนที่ 3125 โกสต์สตาร์ไลท์แลนด์
ตอนที่ 3125 โกสต์สตาร์ไลท์แลนด์
ถึงแม้หานเซิ่นจะได้รับวิชาเหมันต์แบบกลับตาลปัตรมา แต่เขาก็ไม่มียนเรซที่เหมาะสมกับวิชาเหมันต์ ด้วยเหตุนั้นเขาจึงฝึกมันไม่ได้
“ถ้าวิชาเหมันต์และวิชาโลหิตชีพจรกลับตาลปัตรได้ แบบนั้นเราจะกลับตาลปัตรเรื่องราวของยืนและศาสตร์ตงเสวียนได้เหมือนกันไหมนะ?” หานเซิ่นสงสัย
แต่ในตอนนี้หานเซิ่นไม่มีเวลาที่จะมาทําอะไรแบบนั้น แถมเขายังจําเป็นต้องมียีนเรซที่เหมาะสมอีก ตอนนี้ หานเซิ่นไม่ใช่แค่ต้องมียีนเรซสําหรับแคสต์ก็อตคอร์ท ถ้าเขาต้องการจะกลับตาลปัตรวิชาจีโนของเขา เขาก็จําเป็นต้องมียีนเรซเช่นกัน
“ถ้าระบบโกลด์คริสตัลมียีนเรซหายากอยู่ นั่นจะเป็นอะไรที่ดีมากๆ ถ้าเราฝึกวิชาจีโนกลับตาลปัตรด้วยยีนเรซที่วิวัฒนาการผ่านแคสต์ก็อตคอร์ท แบบนั้นมันจะทรงพลังขนาดไหนกัน? หานเซิ่นคิด
แต่ถึงแม้ระบบโกลด์คริสตัลจะมียีนเรซหายากอยู่จริงๆ มันก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าเขาจะหามันเจอ
“ถ้าเราเอาชนะบิ๊กสกายเดม่อนและทําให้เธอกลายเป็นไข่ได้ บางทีมันอาจจะเข้ากันได้ดีกับวิชาเหมันต์กลับตาลปัตร” หานเซิ่นนึกถึงบิ๊กสกายเดม่อนขึ้นมา
แต่บิ๊กสกายเดม่อนนั้นเดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่เหมือนกับผี ด้วยเหตุนั้นโอกาสที่หานเซิ่นจะทําให้บิ๊กสกายเดม่อนกลายเป็นไข่นั้นน้อยยิ่งกว่าการขุดหาไข่ยืนหายากจากชีพจรพระเจ้าซะอีก
หลี่ปิงหยูและบอลด์กายยังคงถูกแช่แข็ง หานเซิ่นใช้วิชากายหยกเพื่อลบล้างพลังเหมันต์บนตัวพวกเขาและพบว่ามันได้ผล ในตอนที่บอลด์กายออกมาจากน้ําแข็ง เขาก็ถามด้วยความแปลกใจว่า
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน? นางน่ากลัวเหลือเกิน! โชคดีที่เจ้าอยู่ที่นี่กับพวกเราด้วย เจ้าฆ่านางไปแล้วใช่ไหม?”
“ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของนาง” หานเซิ่นพูดพร้อมกับยักไหล่ “นางไปที่อื่นแล้ว”
ไนท์ก็อดโนมูนนั้นมีความทรงจําของทั้งสองโลก และในแต่ละโลกเธอก็ได้ขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดของโลกนั้นๆ เธอรวมพลังธรรมดาเข้ากับพลังกลับตาลปัตรและให้กําเนิดพลังทลายโลกาขึ้นมา ซึ่งการจะทําแบบนั้นพลังของทั้งสองจักรวาลเป็นสิ่งจําเป็น
“แม้แต่เจ้าก็เอาชนะนางไม่ได้อย่างนั้นหรอ?” บอลด์กายตกใจ
หลี่ปิงหยูมองหานเซิ่นอย่างแปลกๆ หานเซิ่นและบอลด์กายนั้นไม่รู้ว่าไนท์ก็อดโนมูนเป็นใคร แต่เธอรู้จักดี
ตํานานของไนท์ก็อดโนมูนนั้นต่ํากว่าแค่ฉินซิวเท่านั้น แต่ไนท์ก็อดโนมูนไม่ได้มีชื่อเสียงเท่ากับฉันซิว นั่นเป็นเพราะว่าไนท์ก็อดโนมูนนั้นไม่ได้เป็นกษัตริย์ของอาณาจักรฉิน เธอเป็นเพียงแค่ราชครูคนหนึ่ง
ในอาณาจักรฉินนั้นเคยมีราชครูหญิงอยู่หลายคน ด้วยเหตุนั้นไนท์ก็อดโนมูนจึงไม่ได้ดูพิเศษอะไร แต่ในยุคสมัยของไนท์ก็อดโนมูน อาณาจักรฉินได้เปลี่ยนแปลงระบบกฎหมาย กษัตริย์ที่ครองบัลลังก์ในตอนนั้นก็ถูกนับว่าเป็นกษัตริย์องค์แรก
หลี่ปิงหยูเคยอ่านข้อมูลลับทางราชการของพระราชวังหวูเว่ยเต๋าเกี่ยวกับไนท์ก็อดโนมูน ราชครูหญิงคนนั้น คือคนที่เริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงภายในอาณาจักรฉิน เธอเป็นกุญแจสําคัญที่ทําให้อาณาจักรฉินกลับมารุ่งเรื่องอีกครั้ง
เมื่อก่อนนั้นพระราชหวูเว่ยเต่ต้องสูญเสียครั้งใหญ่ก็เพราะไนท์ก็อดโนมูน ถึงแม้มันจะไม่ได้เลวร้ายเหมือนอย่างการถูกขับไล่ออกจากอาณาจักรฉิน แต่ความเคลื่อนไหวของพวกเขาถูกจํากัด ในขณะที่ไนท์ก็อดโนมูนยังอยู่ พระราชวังหวูเว่ยเต่ก็แทบจะทําอะไรในอาณาจักรฉันไม่ได้เลย นอกจากนั้นพวกเขายังถูกใช้โดยไนท์ก็อดโนมูน
ต่อหน้าบุคคลแบบนั้น หานเซิ่นกลับไม่เป็นอะไรเลย ถ้าไนท์ก็อดโนมูนจากไปโดยที่ไม่ได้ทําอะไร มันก็พอจะสมเหตุสมผลอยู่ แต่ถ้าไม่ได้แบบนั้นมันก็จะเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ
“บอลด์กายหยุดพูดได้แล้ว พวกเรารีบไปหาชีพจรพระเจ้ากันเถอะ” หานเซิ่นรู้สึกกระตือรือร้นที่จะหายีนเรซ
“วางใจได้เลย” บอลด์กายเชื่อว่าหานเซิ่นจัดการผู้หญิงคนนั้นเรียบร้อยแล้ว ด้วยเหตุนั้นเขาจึงคิดว่ามันไม่มีอะไรต้องกลัวอีก
ก่อนหน้านี้บอลด์กายนั้นกังวลเกี่ยวกับการขุดหาไข่ยีนจากชีพจรในผืนดินที่น่ากลัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งชีพจรในผืนดินที่พวกเขารับมือไม่ได้ แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอลด์กายก็ได้รู้ว่าหานเซิ่นนั้นแข็งแกร่งกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้ เขาเชื่อว่าตราบใดที่มีหานเซิ่นอยู่ด้วย เขาก็ไม่จําเป็นต้องกลัวอีกต่อไป
“ไปกันเถอะ พวกเราควรเดินทางลึกเข้าไปในระบบโกลด์คริสตัลมากกว่านี้ บริเวณนี้ดูมีโอกาสน้อยที่จะมียีนเรซที่หายาก” บอลด์กายกัดฟันพูด
หานเซิ่นถึงกับพูดอะไรไม่ออก ถ้าเขารู้อยู่แล้วว่ามันมีโอกาสน้อยที่จะพบยีนเรซระดับสูงที่นี่ ทำไมพวกเขาถึงมาขุดหาไข่ยีนบริเวณนี้ตั้งแต่แรก แต่ยังไงมันก็ถือเป็นโชคดีที่บอลด์กายตัดสินใจมาบริเวณนี้ ไม่อย่างนั้นล่ะก็ หานเซิ่นก็คงจะไม่มีโอกาสได้พบกับไนท์ก็อดโนมูน
บอลด์กายเรียกก็อดวินด์ดราก้อนออกมาและพาหานเซิ่นกับหลี่ปิงหยูออกจากดาวดวงนั้น พวกเขาเดินทางลึกเข้าไปในระบบโกลด์คริสตัล
หลี่ปิงหยูรู้สึกตัวอย่างรวดเร็วว่าบอลด์กายนั้นค่อนข้างมีประโยชน์ ก่อนหน้านี้เธอคิดว่าเขาเป็นคนที่ไม่ได้เรื่องและไม่เข้าใจเกี่ยวกับชีพจรพระเจ้า แต่จริงๆแล้วเขาเข้าใจเป็นอย่างดี เขาแค่หวาดกลัวและไม่กล้าจะไปที่โกสต์สตาร์ไลท์แลนด์
โดยปกติแล้วชีพจรในผืนดินของยีนเรซหายากจะเกิดปรากฏการประหลาดที่น่ากลัวขึ้น มันจึงเข้าใจได้ที่บอลด์กายจะไม่ต้องการไปในที่แบบนั้น แต่ตอนนี้เขามีความกล้าที่จะน่หานเซ็นไปที่หนึ่งในโกสต์สตาร์ไลท์แลนด์
ก่อนที่ก็อดวินด์ดราก้อนจะเข้าไปใกล้ได้ พวกหานเซิ่นก็เห็นกลุ่มอัศวินขียนเรซลาดตะเวนรอบๆดวงดาว พวกเขาไม่ปล่อยให้ใครคนไหนเข้าไปใกล้ดวงดาวนั้นได้ เห็นได้ชัดว่ามีบุคคลที่ทรงอานาจเข้ายึดครองพื้นที่บริเวณนี้เรียบร้อยแล้ว
ในตอนที่บอลด์กายเห็นพวกเขาจากระยะไกล สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปในทันที
“นั่นคือหน่วยอัศวินสกายวิงของสกายคิง พวกเราควรจะไปที่อื่น”
หานเซิ่นเคยได้ยินเกี่ยวกับสกายทิ้งมาก่อน เขาเป็นหนึ่งในราชาที่มาจากราชวงศ์อื่น ถึงอย่างนั้นเขาก็มีอิทธิพลอย่างมากภายในอาณาจักรฉิน แน่นอนว่าเหตุผลหลักนั่นเป็นเพราะว่าพวกเขามีวิหารพระเจ้าขั้นแอนนิฮิเลชั่นที่สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น
ระบบโกลด์คริสตัลนั้นกว้างใหญ่ ดังนั้นมันไม่มีเหตุผลที่หานเซิ่นจะต้องไปแก่งแย่งชิงดีกับสกายคิง เขาจึงตัดสินใจทําตามคําแนะนําของบอลด์กายและหันไปทางอื่น
แต่หลังจากที่พวกเขาเดินทางไปในทิศทางอื่นได้ไม่นาน พวกเขาก็ได้ยินเสียงอสูรที่น่ากลัวดังมาจากด้านหลัง พวกเขาทั้งสามคนหันกลับไปมองและเห็นดวงดาวที่ถูกล้อมโดยอัศวินสกายวิ่งระเบิดด้วยแสงสว่าง แสงแห่งเทพสีทองพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า ขณะที่พื้นผิวของดวงดาวถูกเปลี่ยนเป็นทะเลลาวาอย่างฉับพลัน ดาวดวงนั้นเป็นเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่กําเนิดขึ้นใหม่ และอุณหภูมิของมันก็กําลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ
แต่ส่วนที่น่ากลัวที่สุดคือต้นอ่อนสีเขียวที่งอกขึ้นมาจากภายในทะเลลาวาที่ร้อนระอุ มันเติบโตอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นเถาวัลย์ขนาดใหญ่ที่มีความยาวหลายร้อยไมล์ท่ามกลางลาวา
โดยปกติแล้วพืชหรือยีนเรซที่เป็นธาตุไม้จะหวาดกลัวธาตุไฟ แต่ดูเหมือนว่าเถาวัลย์ยักษ์นั้นกําลังดูดซับธาตุไฟเพื่อเจริญเติบโต
ดวงดาวกําลังลุกไหม้ และเถาวัลย์ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในเวลาไม่นานมันก็มีความยาวเป็นหมื่นไมล์ มันดูเหมือนกับสัตว์ประหลาดสีเขียวที่นอนอยู่บนลาวา
อัศวินสกายวิ่งบนดวงดาวพากันบินหนีออกมา พวกเขาหลายคนถูกละลายโดยความร้อนสูงของลาวาจนไม่เหลือแม้แต่ร่างกาย อัศวินที่หนีมาได้รู้สึกโล่งใจ แต่ทันใดนั้นก็มีเถาวัลย์พุ่งขึ้นมาจากลาวาและจับตัวของพวกเขาเอาไว้ พวกมันรวดเร็วอย่างน่าตกใจ หลังจากที่ถูกเถาวัลย์พันรอบร่างกาย พวกเขาก็ถูกดึงหายไปในทะเลลาวาและเหลือเพียงแค่เสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยอง