Super God Gene - ตอนที่ 3127 หมัดเทพสุริยะ
ตอนที่ 3127 หมัดเทพสุริยะ
ที่ใจกลางดวงดางนั้นร้อนจนน่าสะพรึงกลัว หานเซิ่นเห็นเถาวัลย์ที่น่ากลัวขดตัวกันรอบๆแก่นดาวและก่อตัวเป็นวัตถุทรงกลมขนาดยักษ์เพื่อแทนที่เปลือกของแก่นดาว
เถาวัลย์จํานวนมากพุ่งออกมาจากเถาวัลย์ทรงกลมนั้นเหมือนกับฝูงมังกร พวกมันตรงเข้าไปหาหานเซิ่น พวกมันทําให้หานเซิ่นต้องเร่งความเร็วเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกโจมตี
หานเซิ่นใช้เนตรราชานกยูงจนถึงขีดจํากัดเพื่อมองทะลุผ่านเถาวัลย์และเห็นสิ่งที่อยู่ภายในนั้น ของเหลวอุณหภูมิสูงที่อยู่ภายในนั้นได้เปลี่ยนเป็นสีขาว พวกมันดูเหมือนกับคริสตัล และภายในของเหลวนั้น หานเซิ่นเห็นปลาประหลาดที่ดูเหมือนว่ากําลังหลับอยู่ ปลาตัวนั้นมีสีขาว มันดูเหมือนกับว่ามีอยู่จริงๆ แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ดูเหมือนกับว่าไม่ได้มีอยู่จริง
จากภายนอกปลาตัวนั้นดูเหมือนกับปลาไหล แต่ร่างกายของมันยาวมากกว่าสามพันฟุต มันขดตัวอยู่ภายในเถาวัลย์ และดูเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังชีวิตราวกับว่ามันพร้อมจะตื่นขึ้นมาได้ทุกเมื่อ
หานเซิ่นสัมผัสได้ถึงพลังที่น่ากลัวลุกโชนจากภายในร่างกายของปลาตัวนั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันก็คือ โลหิตชีพจรเทพสปิริตที่กําเนิดขึ้นภายในชีพจรในผืนดินที่น่ากลัวนี้
หานเซินอยากจะรีบเข้าไปเอามันมา แต่เขาสังเกตเห็นว่าภายในเถาวัลย์ทรงกลมนั้นยังมีน้ําเต้าที่ลอยอยู่ระหว่างเถาวัลย์
น้ําเต้านั้นมีขนาดครึ่งหนึ่งของมนุษย์ มันมีสีขาวเหมือนกับคริสตัลและลอยอยู่เหนือหัวของเจ้าปลาเหมือนกับเป็นสร้อยคอน้ําเต้าน้อยๆ ในตอนที่หานเซิ่นสังเกตมันดูดีๆ เขาก็รู้สึกได้ถึงอันตราย เขารู้สึกว่าน้ําเต้านั่นน่าสะพรึงกลัวยิ่งกว่าเจ้าปลาโลหิตชีพจรเทพสปิริตซะอีก แต่สิ่งที่หานเซิ่นคิดว่าแปลกยิ่งกว่าคือความจริงที่ถึงแม้น้ําเต้านั่นจะไม่มีดวงตา แต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามันกําลังจ้องมองมาที่เขา มันทําให้เขารู้สึกขนลุก
หานเพิ่นพยายามสังเกตน้ําเต้าภายในเถาวัลย์ พร้อมกับหลบการโจมตีของเถาวัลย์ไปเรื่อยๆ น้ําเต้านั้นดูเหมือนว่ากําลังดูดพลังจากปลาโลหิตชีพจรเทพสปิริตอยู่ มีแสงส่องออกมาจากบริเวณที่น้ําเต้าสัมผัสกับหัวของเจ้าปลาและละลายเข้าไปในน้ําเต้า
“เจ้าสิ่งนั่นกําลังดูดซับโลหิตชีพจรเทพสปิริต”
หานเซินหยุดลังเล เขาพบช่องโหว่และพุ่งตรงเข้าไปหาเถาวัลย์ทรงกลม ยีนเรซที่วิวัฒนาการจนถึงระดับนั้น คงจะทําให้เชื่องไม่ได้ การปล่อยให้มันดูดซับโลหิตชีพจรเทพสปิริตเข้าไปจนหมดนั้นจะเป็นอะไรที่เสียเปล่า
แต่ก่อนที่หานเซิ่นจะเข้าไปในเถาวัลย์ทรงกลมได้ จู่ๆเขาก็เห็นน้ําเต้าปลดปล่อยเปลวเพลิงสีขาวที่น่ากลัวออกมา น้ําเต้าเรืองแสงอย่างสว่างไสวราวกับดวงอาทิตย์
Pang!
แสงสว่างส่องมาที่ร่างกายของหานเซิ่น มันทําให้เขารู้ราวกับว่าอยู่ในเตารังสีแสงอาทิตย์ ถึงแม้ร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งและมีพลังของราชานกยูงปีกทอง แต่เขาก็ป้องกันผลกระทบจากความร้อนนั้นไม่ได้ ขนของปีกนกยูงบนหลังของเขามีควันลอยขึ้นมา ผมสีทองของเขาปะทุด้วยเปลวเพลิง คิ้วและหางตาของเขาลุกไหม้
หานเซิ่นจําเป็นต้องแหกกฎของโลกเพื่อใช้พลังกําจัดเปลวเพลิงบนร่างกายและบินถอยออกมา เปลวเพลิงที่น้ําเต้าปล่อยออกมานั้นน่ากลัวเกินไป มันน่าจะอยู่ในระดับเดียวกันกับเทพสปริตขั้นแอนนิเลชั่น เปลวเพลิงของมันเทียบได้กับพลังของพระเจ้าชั่วพริบตา
ถ้าหานเซิ่นไม่ได้ถูกจํากัดพลังโดยกฎของโลกใบนี้ เขาก็คงจะป้องกันเปลวเพลิงที่น้ําเต้าปล่อยมาใส่เขาได้ แต่ตอนนี้พลังของเขาถูกจํากัด ถ้าเขาต้องการจะใช้พลังทั้งหมด หานเซิ่นก็ทําได้แค่เพียงช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น เขาจําเป็นต้องคํานึงถึงเรื่องที่เขาอาจจะจัดการกับน้ําเต้าได้ไม่ทันเวลา
หานเซิ่นไม่กล้าจะแหกกฏของโลกใบนี้เป็นเวลานานเกินไป ด้วยเหตุนั้นหลังจากที่ถอยห่างออกมาจากเถาวัลย์ทรงกลมได้ระยะหนึ่งแล้ว เขาจึงหยุดใช้พลังของตัวเองและหันไปใช้พลังของราชานกยูงปีกทองเพื่อบินไปตามลาวา
หานเซิ่นยังไม่ยอมแพ้ เขาบินวนรอบเถาวัลย์ทรงกลมไปเรื่อยๆ เขาต้องการจะหาจุดอ่อนของน้ําเต้า เพื่อที่จะจัดการกับมันในการโจมตีเพียงครั้งเดียว
แต่น้ําเต้านั่นน่ากลัวมากๆ ถึงแม้หานเซิ่นจะใช้คัมภีร์นภาจําพัน เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะเปลี่ยนมันให้กลายเป็นไข่ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็จะลองดูสักตั้ง
แต่ก่อนที่หานเซิ่นจะได้ทําอะไร จู่ๆเขาก็เห็นว่าลาวาด้านบนมีความเคลื่อนไหว ทันใดนั้นมีคนๆหนึ่งพุ่งผ่านของเหลวอุณหภูมิสูงมาหยุดอยู่ใกล้ๆกับเถาวัลย์ทรงกลม
หานเซิ่นมองไปและเห็นชายแก่ที่สวมใส่ชุดเกราะสีขาวดํา ดํานหลังของเขามีวงแหวนที่ดูเหมือนกับหยินหยางของไท่เก๊ก วงแหวนนั้นกําลังหมุนและปลดปล่อยแสงแห่งเทพออกมา
มีเถาวัลย์นับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาหาเขา แต่ชายแก่คนนั้นไม่ต้องทําอะไร เหล่าเถาวัลย์นั้นก็ถูกผลักออกไปโดยแสงจากวงแหวนหยินหยางโดยอัตโนมัติ
“เขาคือสกายคิงอย่างนั้นหรอ?” หานเซิ่นพอจะคาดเดาได้ว่าคนๆนั้นน่าจะเป็นใคร
สกายคิงนั้นสืบทอดโลหิตชีพจรเทพสปิริตขั้นแอนนิฮีเลชั่นมาจากเทพสปิริตสกายก็อด ตํานานเล่าว่าสกายก็อดนั้นเป็นเทพสปิริตที่ควบคุมท้องฟ้าและผืนดิน เขามีพลังทั้งหยินและหยาง
ตอนนี้เมื่อสกายคิงรวมร่างกับสกายก็อด พลังของเขาจึงเทียบได้กับเทพสปิริตขั้นแอนนิฮีเลชั่น บางทีเขาอาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าด้วยซ้ํา เพราะยังไงซะสกายทิ้งก็ได้รับสืบทอดพลังของเทพสปิริตขั้นแอนนิฮีเลชั้นมาเป็นเวลายาวนาน ด้วยเหตุนั้นในตอนนี้เขาก็คงจะต้องมียนเรซเอ็กซ์คลูซีฟอยู่เป็นจํานวนไม่น้อย
ดูเหมือนว่าพลังในการมองเห็นของสกายคิงนั้นจะไม่ได้ดีเหมือนอย่างหานเซิ่น เขามองไม่เห็นหานเซิ่นที่อยู่ห่างไกลออกไป เขาตรงเข้าไปหาเถาวัลย์ทรงกลมในทันที เขาคงจะมาที่นี่เพื่อโลหิตชีพจรเทพสปิริต
“เราควรจะปล่อยให้เขาลองสู่ก่อน แบบนั้นเราจะได้รู้ว่าพลังของน้ําเต้านั่นทําอะไรได้”
หานเซิ่นล้มเลิกความคิดที่จะเข้าไปขโมยโลหิตชีพจรเทพสปิริตมาและตัดสินใจใช้เนตรราชานกยูงมองดูสถานการณ์ไปก่อน
สกายคิงนั้นแข็งแกร่งมากๆ เขาเข้าไปจนถึงจุดที่หานเช่นไปถึงก่อนหน้านี้ได้อย่างง่ายดาย เช่นเดียวกันกับครั้งก่อนน้ําเต้าปลดปล่อยแสงสว่างออกมาราวกับเป็นกับดวงอาทิตย์
แสงจากวงแหวนหยินหยางนั้นห่อหุ้มร่างกายของสกายทิ้งเอาไว้ เปลวเพลิงของน้ําเต้านั้นไม่อาจเจาะทะลวงโล่ป้องกันที่ก่อตัวจากพลังหยินและหยางได้
เมื่อเห็นว่าสกายคิงเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ น้ําเต้าก็เริ่มเกิดความเปลี่ยนแปลง เพลิงแสงสีขาวที่น่ากลัวระเบิดออกมาและเปลี่ยนเป็นอีกาสามขาสีทองที่คํารามใส่สกายคิง
ใบหน้าของสกายคิงดูจริงจังอย่างมาก เขาชกใส่อีกาสามขาด้วยหมัดที่สว่างไสวราวกับดวงอาทิตย์ พลังหยินของเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าของน้ําเต้าเลย
อีกาสามขาสีทองถูกระเบิดโดยวิชาประสานยีนของสกายคิง แต่แสงของหมัดเทพสุริยะก็ระเบิดด้วยเช่นกัน วินาทีต่อมาน้ําเต้าที่เหมือนกับดวงอาทิตย์ก็ปล่อยอีกาสามขาสีทองออกมาเป็นจํานวนมาก
ต่อหน้าฝูงอีกาที่น่ากลัว สกายคิงนั้นเป็นเหมือนกับเทพสงครามที่กลับชาติมาเกิด เขาชกหมัดเทพสุริยะออกไปอย่างต่อเนื่อง และระเบิดเหล่าอีกาสามขาสีทองตัวแล้วตัวเล่า
ถึงสกายคิงจะป้องกันตัวเองท่ามกลางฝูงอีกาได้ แต่เขาเข้าไปเอาปลาโลหิตชีพจรเทพสปิริตมาไม่ได้
สกายคงนั้นดูเหมือนจะหวาดกลัวอะไรบางอย่าง เขาจึงไม่มัวชักช้า ทันใดนั้นมือทั้งสองข้างของเขาก็เรืองด้วยแสงแห่งเทพ มือข้างหนึ่งเป็นเหมือนกับดวงอาทิตย์บนอากาศ ขณะที่มืออีกข้างเป็นเหมือนกับดวงจันทร์ที่ส่องสว่างบนพื้นดิน
มือทั้งสองข้างของเขาประกบเข้าด้วยกันและเกิดเป็นหลุมดําที่น่ากลัว มันดูดทั้งลาวาและอีกาสามขาเข้าไปข้างใน อีกาสามขาสีทองไม่อาจจะต่อต้านแรงดูดของมันได้และถูกดูดกลืนโดยหลุมดําอย่างรวดเร็ว สกายคิงใช้จังหวะนั้นพุ่งตรงเข้าไปในเถาวัลย์ทรงกลมราวกับสายฟ้า เขาตรงเข้าไปหาปลาโลหิตชีพจรเทพสปิริต