กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 1019.3 ผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งมักพูดจาเรียบง่าย
บทที่ 1019.3 ผู้ที่เข้าใจอย่างลึกซึ้งมักพูดจาเรียบง่าย
กระบี่ยาวที่สะพายอยู่ด้านหลังจางไฉ่ฉินพุ่งออกจากฝัก แสง กระบี่เหมือนสายน้าลึกในฤดูใบไม้ร่วง นางดีดปลายเท้าเหยียบลงบน กระบี่ยาว ทะยานลมเดินทางไกล ติดตามเจินเหรินผู้เฒ่าที่มีรูปโฉม เป็ นเด็กหนุ่มออกไปจากยอดเขาโพโม่ด้วยกัน วาดเส้นแสงสองเส้น ให้กรีดผ่าม่านราตรีไปอีกครั้ง
ที่แท้กองทัพม้าของราชสานักสามแคว้นที่มีแคว้นชิงซิ่งเป็ นหนึ่ง ในนั้นต่างก็มารวมตัวกันตรงเขตชายแดนของภูเขาเหอฮวานตาม ข้อตกลงแล้ว อีกทั้งในเรื่องของการระดมก าลังพลก็ยังเป็ นไปอย่าง เงียบเชียบอาพรางอย่างยิ่ง ก่อนหน้านี้ไม่มีข่าวแพร่งพรายออกไป แม้แต่น้อย แม่ทัพบู๊หลายคนที่นาพากองทัพถึงขั้นยังไม่รู ้เลยว่าต้อง ไปโจมตีใคร ฮ่องเต้สกุลหลิ่วก็ยิ่งเดินทางมาด้วยตัวเอง นาขบวนผู้ ถวายงานเชื้อพระวงศ์กลุ่มหนึ่ง สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งภูเขาสายน้าของแต่ ละฝ่ ายและกองทัพชายแดนฝีมือดี ร่วมกันรอรวบแหกับอีกสองแคว้น ที่เหลือขนาบล้อมโจมตีภูเขาเหอฮวานจากสามทิศทาง
พูดถึงแค่ทางฝั่งของสกุลหลิ่วแคว้นชิงซิ่งก็ได้ส่งกองทัพหลวง รักษาพระองค์มาถึงสามพันนาย กองทัพม้าชายแดนแปดพันนายและ พลทหารเดินเท้าอีกสองหมื่นนาย บวกกับซานจวินห้ามหาบรรพต และสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหลายสิบท่านที่เรียกรวมกาลังพลอย่างเร่งด่วน
จากค่ายทัพที่ประจาการในสถานที่ต่างๆ ให้มายังที่ตั้งของกองทัพ ชายแดน ฝ่ ายพรรคจินแชวที่นอกจากสายของอารามจินเซียนที่มี ยอดเขาฉุยชิงเป็ นผู้น าแล้ว ผู้ฝึกตนผู้สืบทอดของยอดเขาต่างๆ ก็ ล้วนลงเขากันมาหมด มารับหน้าที่เป็ นผู้ฝึกตนติดตามกองทัพแคว้น ชิงซิ่งชั่วคราว
ฮ่องเต้สกุลหลิ่วและฮ่องเต้ของอีกสองแคว้นนัดหมายกันไว้ว่า ช่วงยามไฮ่เข้ายามจื่อของคืนวันนี้จะยกทัพล้อมปราบภูเขาเหอฮวาน ด้วยกัน
ทว่ามีกองทัพใหญ่ช่วยเปิดทาง ต่อให้จะใช ้วิชาอภินิหารของผู้ ฝึ กตนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย บวกกับเรือข้ามฟาก เรือยันต์ ทั้งหลายมาเสริมด้วยก็ยังคงต้องรอพรุ่งนี้เช ้าถึงจะมองเห็นภูเขาเหอฮ วาน
คนที่รู ้เรื่องวงในมาก่อนมีแค่ฮ่องเต้สกุลหลิ่วแคว้นชิงซิ่ง เฉิง เฉียนเจินเหรินผู้พิทักษ์แคว้น บรรพบุรุษสกุลจางเขตเทียนเฉา ผู้ฝึก กระบี่จางไฉ่ฉิน ฮ่องเต้และราชครูของอีกสองแคว้นที่เหลือเท่านั้น รวมกันแล้วก็ยังมีคนไม่เกินสิบคน
แน่นอนว่ายังคงเป็ นแคว้นชิงซิ่งและสกุลจางเขตเทียนเฉาที่ออก แรงเยอะสุด รับปากว่าการล้อมปราบภูเขาเหอฮวานในครั้งนี้ อาณา เขตของภูเขาสายน้าในรัศมีพันลี้นี้ สกุลหลิ่วจะแค่เก็บพื้นที่ส่วนเล็กๆ ไปเป็ นของตัวเองให้พอเป็ นพิธีเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ที่เหลือล้วนมอบให้ อีกสองแคว้นไปจัดสรรกันเอง อีกทั้งหากร่วมมือกันจัดการกับอาณา
เขตของภูเขาเหอฮวานได้ส าเร็จ สกุลหลิ่วแคว้นชิงซิ่งก็จะยึดมั่นทา ตามแนวทางปฏิบัติของกองทัพอย่างเข้มงวด พื้นที่ประกอบพิธีกรรม และถ้าสถิตน้อยใหญ่สิบกว่าแห่งที่ตั้งอยู่รายทาง ของเชลยศึกทุก อย่างที่ได้รับมา จะเป็ นผลประโยชน์เพียงหนึ่งเดียวในการออก ก าลังคนของแคว้นชิงซิ่งครั้งนี้ นอกจากนี้แล้วคลังสมบัติทั้งแห่งของ ภูเขาเหอฮวาน รวมไปถึงจวนอินอวินภูเขาจุ้ยยวนและจวนเฝิ่นหวาน ของภูเขาอูเถิง แม้กระทั่งศาลเทพภูเขาสองแห่ง คลังสมบัติและ ผลประโยชน์ทั้งหมด แคว้นชิงซิ่งจะไม่แตะต้องแม้แต่น้อย หลังสิ้นสุด การต่อสู้จะมอบให้พันธมิตรสองฝ่ายไปแบ่งกันเอง
แสงกระบี่ของจางไฉ่ฉินและเงาร่างที่ทะยานลมของเจินเหรินเฉิง เฉียนพลันหายวับไปหลังจากนั้นคนทั้งสองต่างก็เก็บซ่อนลมปราณ อาพรางตัวเดินทางไปร ้อยกว่าลี้ สุดท้ายก็มาถึงเทือกเขาแห่งหนึ่งที่ สายลมพัดกระโชกเยือกเย็น
ภูเขากว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ต้นไม้ใบหญ้าเขียวชอุ่มและเงียบ สงบ โขดหินใหญ่ตั้งอยู่สองฝั่งของทางลาด ต้นไม้โบราณที่ไม่รู ้ว่ามี อายุกี่ร ้อยปีตั้งตระหง่านเงียบสงบไร ้พลังชีวิต
ผู้เฒ่าร่างกายาที่ทั้งเส้นผมและหนวดล้วนเป็ นสีขาวโพลนนั่งอยู่ บนก้อนหินยักษ์ริมหน้าผา ยิ้มถามว่า “จ้าวฝูหยางสัมผัสได้หรือไม่ว่า ตัวเองตกอยู่ในสภาพการณ์ที่ไม่ดีแล้ว?”
เฉิงเฉียนนั่งขัดสมาธิลงด้านข้าง พยักหน้าเอ่ย “อาศัยค่ายกล พิทักษ์ภูเขาแห่งใหม่ อีกทั้งหลายแคว้นรอบด้านก็ไม่มีเซียนดิน
ก่อกาเนิดที่เป็ นศัตรูกัน หากเปลี่ยนข้าไปเป็ นเขาก็ต้องประมาทอยู่ เหมือนกัน ด้วยขอบเขตของเขากับอวี๋ฉุนจือ ได้ทั้งพิทักษ์พื้นที่หรือ จะหนีก็ได้ ต้องมั่นใจมากว่าพวกเราไม่กล้าผูกปมแค้นกับภูเขาเหอฮ วาน”
จางไฉ่ฉินเรียกผู้เฒ่าว่าท่านปู่ ทวด ผู้เฒ่าพยักหน้ารับด้วย รอยยิ้ม
พวกเขาตั้งขบวนล้อมโจมตีภูเขาเหอฮวาน เตรียมรอจับตะพาบ ในไหเรียบร ้อยแล้ว
คืนนี้ภูเขาเหอฮวานจัดงานฉลองรับบุตรเขยอย่างเอิกเกริก กลุ่ม คนป่าเถื่อนมารวมตัวกัน ทั้งงูทั้งหนูอยู่ร่วมรัง ถือว่าลดปัญหายุ่งยาก ไปได้มาก หาไม่แล้วในรัศมีพันลี้รอบด้านนี้จวนและพื้นที่ประกอบ พิธีกรรมน้อยใหญ่สามสิบกว่าแห่งปนกันมั่วซั่วไปหมด ย่อมมีปลาที่ หลุดลอดหว่างแหไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
จางฉงทอดถอนใจ “มองดูเหมือนเป็ นความคิดเพ้อฝัน แต่กลับ ท าได้จริง หากไม่พูดถึงสถานะ จ้าวฝูหยางเองก็ถือเป็ นผู้มีพรสวรรค์ ด้านการฝึกตนที่พบเจอได้ยากคนหนึ่งเหมือนกัน”
เฉิงเฉียนกล่าว “ถึงอย่างไรก็เป็ นการน าวิชานอกรีตมาใช้ในทาง ที่ชั่วร ้าย ดูกันในระยะยาวแล้ว จิตแห่งมรรคาถูกสันดานเดิมชักน า อย่างที่มองไม่เห็น ไม่ใช่การใช้จิตแห่งมรรคาช าระล้างสันดานเดิม มี แต่จะผิดต่อตัวเองและผิดต่อผู้อื่น”
อันที่จริงคากล่าวว่าวิชานอกรีตบนภูเขา ถือเป็ นคากล่าวในเชิง บวก
จ้าวฝูหยางและอวี๋ฉุนจือหนึ่งภูตงูหนึ่งภูตจิ้งจอก ในอดีตได้แบ่ง กันครอบครองสองฝากฝั่งของแม่น้าสายใหญ่ มองดูเหมือนเป็ นน้า บ่อที่ไม่ยุ่งกับน้าคลอง แต่แท้จริงแล้วได้ผูกสมัครเป็ นคู่บ าเพ็ญเพียร สายสัมพันธ ์แน่นแฟ้ นเหมือนกิ่งก้านที่เชื่อมโยงกัน คอยช่วยเหลือกัน และกัน และแม่น้าใหญ่ที่ตั้งอยู่ภาคกลางของแจกันสมบัติทวีป ภายหลังก็กลายมาเป็ นหนึ่งในช่องทางหลักของลาน้าใหญ่ จ้าวฝู หยางที่ร่างจริงคืองูหลามเผือกตัวหนึ่งได้ใช ้เวทลับยึดครองภูเขา หล่อหลอมภูเขาจุ้ยยวนทั้งลูกอย่างสมบูรณ์ก่อน แล้วค่อยช่วยให้อวี๋ ฉุนจือย้ายภูเขาอูเถิงมาทั้งลูก ถ่ายทอดวิชาประกอบกามกิจชั้นสูงบท หนึ่งให้กับนาง สองภูเขาอิงแอบเหมือนหางสองหางที่พัวพันร่วมเพศ กัน พัฒนาตบะของแต่ละคนด้วยวิธีการนี้
จางฉงไม่ยอมรับและไม่ปฏิเสธ เพียงแค่เอ่ยสัพยอกว่า “คู่รักคู่นี้ คิดว่าฟ้ าคือผ้าห่มดินคือเตียงนอนจริงๆ สู้รบโรมรันกันมาพักใหญ่ แล้ว ทาให้ตาแก่ที่เป็ นคนจริงจังซื่อตรงอย่างข้าทนมองไม่ได้เลย”
เฉิงเฉียนกล่าวเตือน “ตาเฒ่าจาง แก่แล้วอย่าท าตัวหน้าไม่อาย ไฉ่ฉินยังอยู่ด้วยนะ”
ตอนที่จางฉงยังหนุ่มเคยตะลุยดงเครื่องประทินโฉมมาน้อยนัก หรือ ติดหนี้รักไว้บนภูเขาล่างภูเขาบานเบอะ ใครกันที่เรียกตัวเองว่า “เจียงซ่างเจินแห่งเขตเทียนเฉา?
จางฉงขุ่นเคืองอยู่ในใจ ถามว่า “ภาพบรรยากาศโอสถทองขอ งอวี๋ฉุนจือเป็ นอย่างไรบ้าง?”
เฉิงเฉียนกล่าว “วันนี้ได้เห็นแล้วก็มิอาจดูแคลนได้เลย แม้ว่า ตอนนี้นางยังไม่มีลางว่าต้องปิดด่าน แต่คิดดูแล้วก็คงไม่ช ้าเกินไป นัก”
จางฉงจุ๊ปากเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นก็เหมือนเจินเหรินผู้เฒ่าเฉิงที่ต่างก็ เป็ นคอขวดโอสถทองแล้ว? จ้าวฝูหยางยังไม่เท่าไร เพราะถึงอย่างไร ก็เคยได้รับการสืบทอดที่แท้จริงจากพรรคจินแชวของพวกเจ้า หาก จะว่ากันด้วยการสืบทอดจากอาจารย์ เมื่อเทียบกับเจ้าประมุขอย่าง เจ้าแล้วก็ด้อยกว่าไม่มาก เขามีชาติกาเนิดที่ดีมาตั้งแต่เกิด คุณสมบัติในการฝึกตนยิ่งดีมากกว่า เขาเลื่อนเป็ นก่อกาเนิดได้ ข้าก็ นับถือ งูหลามขาวล้อมพันภูเขากลายร่างเป็ นเจียว เจียวหยินพ่นเมฆ สกปรก หึหึ ช่างเป็ นภาพบรรยากาศที่ยิ่งใหญ่นัก แต่หากจะพูดถึง ภูตจิ้งจอกอย่างอวี๋ฉุนจือ หากนางเลื่อนเป็ นขอบเขตก่อกาเนิดพร ้อม กับจ้าวฝูหยางได้แบบนั้นก็สนุกแล้ว นางเป็ นปีศาจจิ้งจอกนะ ผู้ฝึกตน โอสถทองทั่วไปจะไม่ถูกนางปั่นหัวเล่นอยู่ในก ามือ จับหยางมาเสริมห ยินได้อย่างง่ายๆ เลยหรอกหรือ? ภูตจิ้งจอกเห็นแก่ความสัมพันธ ์ที่ เคยมีแล้วก็จดจาความแค้นได้ดีที่สุด การล้อมสังหารครั้งนี้ หาก ปล่อยให้นางหนีรอดไปได้ ข้าจะต้องรีบหนีไปหลบให้ไกลแน่นอน”
หลายปีมานี้ไม่พูดถึงจ้าวฝูหยางที่เป็ นโอสถทองสมบูรณ์แบบมา นานแล้ว พูดถึงแค่ปีศาจจิ้งจอกอย่างอวี๋ฉุนจือที่ครั้งนี้ได้เจอกันบน
ยอดเขาโพโม่ เฉิงเฉียนสังเกตเห็นว่านางมีลางของคอขวดแล้ว นี่ แสดงให้เห็นว่าทางลัดในการฝึกตนที่จ้าวฝูหยางบุกเบิกออกมาด้วย ตัวเองเส้นนี้ถูกพวกเขาเดินทะลุไปได้แล้วจริงๆ หากให้เวลาจ้าวฝู หยางอีกสักหน่อย สามารถตั้งใจรวบรวมสมาธิหลอมลมปราณได้ ขณะเดียวกันก็รวบรวมตราลัญจกรของแคว้นที่ล่มสลายมาให้มาก อีกหน่อย ดึงเอาปราณมังกรมาใช ้หล่อหลอมภูเขาเหอฮวาน ไม่แน่ ว่าภายในหกสิบปี เขากับคนรักอาจมีหวังได้เลื่อนเป็ นขอบเขต ก่อก าเนิดทั้งคู่จริงๆ
นี่แสดงให้เห็นว่าเรียกจ้าวฝูหยางว่าเป็ นผู้พิชิตแห่งพื้นที่หนึ่งก็ไม่ เกินจริงไปแม้แต่น้อย
จางฉงยิ้มเอ่ย “คาดว่าไม่ว่าจ้าวฝูหยางคิดอย่างไรก็คงไม่เข้าใจ ว่าทาไมอีกสองแคว้นที่ตั้งอยู่ชายแดนซึ่งมีความขัดแย้งกันเกิดขึ้น ตลอดเวลาจะยินดีร่วมมือกับสกุลหลิ่วแคว้นชิงซิ่ง”
สีหน้าของเฉิงเฉียนเฉยเมย “นับแต่โบราณมาชื่อเสียงและลาภ ยศก็ไม่มีการแบ่งแยกครอบครัวอยู่แล้ว”
มองดูเหมือนว่าสกุลหลิ่วแคว้นชิงซิ่งแสวงหาชื่อเสียง อีกสอง แคว้นแสวงหาผลประโยชน์ ต่างคนต่างได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่ใน ความเป็ นจริงแล้วทุกวันนี้ฮ่องเต้ของอีกสองแคว้นต่างก็เกรงใจฮ่องเต้ สกุลหลิ่วมากแล้ว เชื่อว่าวันหน้าก็จะยิ่งเกรงใจมากกว่าเดิม
เพราะถึงอย่างไรนอกจากแคว้นชิงซิ่งแล้ว ตลอดทั้งแจกันสมบัติ ทวีป ตอนนี้ยังไม่มีราชสานักล่างภูเขาแห่งใดที่สามารถเชิญบุคคล ยิ่งใหญ่ท่านนั้นให้เข้าร่วมงานพิธีการได้ แม้กระทั่งราชวงศ์ต้าหลีที่ ยังคงได้ครอบครองแผ่นดินครึ่งหนึ่งก็ไม่ได้เป็ นข้อยกเว้น
ครั้งนี้จวนสู่เยว่ของทะเลสาบร ้อยบุปผาส่งกองทัพม้ากลุ่มใหญ่ มา แสงไฟที่เหมือนงูตัวยาวซึ่งก่อนหน้านี้พวกป๋ ายเหมามองจากยอด เขาโพโม่ไปเห็นบนทุ่งโล่งกว้างที่อยู่ห่างไกลก็คือขบวนเดินทางของ จวนวารีแห่งนี้ ดูจากท่าทางแล้ว การมาสู่ขอแม่นางสามของภูเขา เหอฮวานในครั้งนี้ จวนสู่เยว่คงมุ่งมั่นว่าจะต้องได้มาครองให้จงได้
หูจวินจางเซี่ยงเต้าจับมือคนรักเว่ยฉานพาบุตรชายคนเล็กอย่าง จางหานเฉวียนมาเยือนภูเขาเหอฮวาน อันที่จริงท่านอ๋องน้อยจวน วารีที่มีฉายาว่า “หลงไซ” (แก้มมังกร) ผู้นี้ถูกภูเขาเหอฮวานเลือก เป็ นลูกเขยเป็ นการภายในมานานแล้ว คืนนี้ก็แค่มาเยือนให้พอเป็ น พิธีเท่านั้น ทะเลสาบร ้อยบุปผาที่ตั้งของจวนสู่เยว่อยู่ในอาณาเขต ของแคว้นมื่อวิ๋น เมื่อได้ครอบครองศาลราชามังกรที่เล่าลือกันว่า ก่อตั้งมานานเป็ นพันปีแห่งนั้นก็ไล่คนเฝ้ าศาลไป ใช ้คนของตัวเองมา สร ้างคลื่นก่อมรสุม ทุกคนที่ผ่านทางจะต้องจ่ายค่าผ่านทางและเครื่อง บูชาควันธูป จางเซี่ยงเต้าสร ้างตาหนักอยู่ใต้ทะเลสาบก็สร ้างเป็ น รูปแบบวังมังกรที่ล้าเส้นเกินขอบเขตของตัวเองด้วย
ในจวนเฝิ่นหวานตอนนี้ เพื่องานเลี้ยงรับลูกเขยจึงได้จัดห้องโถง จัดเลี้ยงที่คนนั่งล้อมวงกัน มีการแยกห้องบุปผาเป็ นห้องเดี่ยวออกมา
ห้องหนึ่ง มีเพียงครอบครัวของจางเซี่ยงเต้าสามคนเท่านั้นที่กาลังนั่ง ดื่มเหล้า ขุนนางของจวนวารีส่วนที่เหลือล้วนถูกจัดให้ไปอยู่ที่ภูเขา จุ้ยยวน
คนหนุ่มเรือนกายเตี้ยม่อต้อคนหนึ่งเอ่ยด้วยน้าเสียงห้าวดัง “ได้ ยินมาว่าชื่อเสียงของแม่นางสามไม่ค่อยดี ขออย่าให้ลูกยังไม่ทันได้ ร่วมห้องหอกับนางก็ถูกสวมหมวกเขียวก่อนแล้วล่ะ”
จางเซี่ยงเต้ามีรูปโฉมเป็ นคนชราร่างผอม บนศีรษะสวมกวาน เฉาเทียน สวมชุดคลุมมังกรสีด า เขาร่ายวิชาน้าแห่งชะตาชีวิต ทันใด นั้นในห้องบุปผาก็มีไอหมอกแผ่ขมุกขมัวป้ องกันก าแพงมีหู แล้วถึง ได้ลูบหนวดยิ้มเอ่ย “ผู้ที่ฝึกบาเพ็ญตนจะต้องถือสาเรื่องแบบนี้ไปไย ใจกว้างหน่อย ทางฝั่งของภูเขาเหอฮวานแห่งนี้ บุตรสาวสามคน บุตรชายหนึ่งคน อวี๋เจิ้นเป็ นเพียงคนเดียวที่พกไอ้จ้อนมา แต่กลับ เป็ นคนที่พึ่งพาไม่ได้ ดูเหมือนว่าจะไม่สนใจเรื่องการสืบทอดกิจการ ครอบครัว ชอบเที่ยวเตร่อยู่ข้างนอก ไม่แน่ว่าวันใดอาจตายอยู่ข้าง นอกก็ได้ และมีแต่จะยิ่งไร ้คนไปเก็บศพให้ หานเฉวียน เจ้าขยันเข้า หน่อย ไม่แน่ว่าวันหนึ่งเจ้าอาจจะเป็ นคนคนเดียวที่ได้สวมยศฝูจวิน สามจวนก็ได้”
สตรีสวมชุดชาววังทาชาดสีเข้มบนแก้มซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างหัวเราะ คิก เกิดมาก็มีรูปลักษณ์ดุร ้ายไม่น่าเข้าใกล้ นางแสร ้งหัวเราะอย่างมี จริตจะก้าน “หานเฉวียน แม่เป็ นคนที่อาบน้าร ้อนมาก่อน เข้าใจเรื่อง ความรักชายหญิงดีที่สุด มองปราดเดียวก็รู ้ได้แล้ว มั่นใจได้ว่าอวี๋
โหยวอี๋ลูกสะใภ้ที่ยังไม่รับเข้าเรือนมาผู้นี้ กับเหนียงเนียงเทพภูเขา ของภูเขาจุ้ยยวนมีความสัมพันธ ์ที่แนบชิดสนิทสนมกันมาก ลูกชาย คนดี เจ้ามีโชคด้านความรักไม่น้อยเลยนะ”
ชายหนุ่มดวงตาเป็ นประกาย “จริงหรือ?!”
เหนียงเนียงเทพภูเขาของภูเขาจุ้ยยวนคนนั้นแค่มองก็รู ้ว่าเป็ น ของดีที่เชี่ยวชาญศาสตร ์การเข่นฆ่าบนเตียง เมื่อเทียบกับแม่นาง สามแห่งภูเขาเหอฮวานที่เขายังไม่รับเข้าเรือน ไม่ว่าจะเป็ นรูปร่าง หน้าตาหรือบุคลิกก็ล้วนมีแต่ดีกว่าไม่มีแย่กว่า
เดิมทีเขาก็น้าลายสออยากครอบครองนางมาก่อนแล้ว เพียงแต่ ติดขัดที่สถานะของอีกฝ่ ายจึงไม่กล้าก่อเรื่อง คิดไม่ถึงว่าจะยังมีบุพเพ เช่นนี้อยู่ด้วย?
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง “หากเป็ นเช่นนี้ ต่อให้อวี๋โหยวอี๋กาลังตั้งท้อง ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ลูกก็อดทนไว้ได้”
จางเซี่ยงเต้าตบโต๊ะ เอ่ยชื่นชมว่า “ผู้ที่จะทาเรื่องใหญ่ได้สาเร็จ ไม่สนใจรายละเอียดปลีกย่อย มีความใจกว้างเช่นนี้ ไยยังต้องกังวล ว่าจะท างานใหญ่ไม่ส าเร็จด้วยเล่า”
และเวลานี้เอง หยกชือหลงที่ห้อยอยู่ตรงเอวของจางเซี่ยงเต้าก็ส่ง เสียงขึ้นมา เขามีหยกพกสองชิ้น เป็ นคู่กันพอดี คือสมบัติหนักบน ภูเขาที่บังเอิญได้มาจากคลังลับของศาลราชามังกร กว่าจางเซี่ยงเต้า จะขบคิดหาเส้นสนกลในที่ซ่อนอยู่เจอไม่ใช่เรื่องง่าย ความมหัศจรรย์
อย่างหนึ่งของมันก็คือสามารถส่งเสียงได้ไกลหมื่นลี้ จางเซี่ยงเต้าจึง มอบหยกอีกชิ้นหนึ่งให้กับเสนาบดีภูตเต่าของวังมังกร ส่วนบุตรสาว คนโตที่ฟุ้ งเฟ้ อเสเพลไร ้ขอบเขต ดีแต่เลี้ยงบุรุษไว้ในจวนผู้นั้น ช่าง เถิดๆ จางเซี่ยงเต้าไม่ฝากความหวังใดๆ ไว้ให้กับนางแล้วกิจการ ครอบครัวอย่างวังมังกรตาหนักวารีที่ยิ่งใหญ่นี้ยังคงต้องให้บุตรชาย อย่างจางหานเฉวียนเป็ นผู้ประคับประคองเอาไว้
“นายท่านหูจวิน เกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับตะพาบหินแบกศิลาของ ศาลราชามังกร ไม่รู ้ทาไมวันนี้ถึงมีชีวิตกลับคืนมาได้ สัตว์เดรัจฉาน ชอบการเข่นฆ่า จึงบังคับป้ ายศิลาที่หลอมเป็ นสมบัติชิ้นนั้นให้พุ่งชน วังมังกรต าหนักวารีของพวกเราวุ่นวายอุตลุด ข้าน้อยส่งทูตไปเจรจา แต่อีกฝ่ ายกลับไม่ยอมคุยด้วย เอาแต่เปิ ดฉากสังหารถ่ายเดียว ตอนนี้ทหารของจวนวารีบาดเจ็บล้มตายกันไปมาก ไอ้ที่ตายก็ตายไป ไอ้ที่หนีก็หนีไป ไม่เหลือแม้แต่คนเดียวคลื่นยักษ์ถาโถมเทียมฟ้ า สายน้าปั่นป่วนวุ่นวาย วังมังกรถูกทาลายสิ้น เนื้อหนังมังสาขององค์ หญิงใหญ่ก็ถูกตะพาบนิสัยประหลาดตัวนั้นเอาป้ ายหินกระแทกใส่จน กลายเป็ นกองเนื้อเละๆ เหลือเพียงจิตวิญญาณที่หนีรอดไปได้ องค์ หญิงใหญ่จึงมุ่งมั่นแต่จะหนีขึ้นฝั่งไปหลบภัย ข้าน้อยเองก็เพิ่งโชคดี หนีขึ้นฝั่งมาได้ พอจะมีเวลาว่างได้พักหายใจหายคอจึงมารายงาน เรื่องนี้ให้หูจวินทราบ ขอหูจวินโปรดรีบกลับมา…อ๊าก…”
จางเซี่ยงเต้าหันไปสบตากับสตรีวัยกลางคน พวกเขาไม่เหลือบ้านแล้วหรือ?
ตามหลังเสียงร ้องโหยหวนของเสนาบดีเต่าก็มีเสียงอื้ออึงคล้าย เสียงระเบิดแตกร ้าวดังมาระลอกหนึ่ง จากนั้นเสียงก็เงียบหายไป
ครู่หนึ่งต่อมาจึงมีเสียงของคนแปลกหน้าที่เอ่ยอย่างเนิบช ้าว่า “เจ้าเต่าน้อยทนรับการถูกตีไม่ได้ ถูกข้าตบตายไปแล้ว จางเซี่ยงเต้า และเจ้าภูตหอยกาบเฒ่า ในเมื่อพวกเจ้ารู ้ข่าวแล้ว หากจะกลับก็ กลับมา ข้าจะได้ส่งพวกเจ้าออกเดินทางไปพร ้อมกันได้พอดี ต่อให้ ไม่กลับมาข้าก็จะไปหาพวกเจ้าอยู่ดี”