กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 1055.3 ก็คือมาตุภูมิ
กวอฮุ่ยเฟิ งจ้องเขม็งไปที่บรรพจารย์ผู้คุมกฏสายของภูเขาจีจู๋ ด้วยสายตาเฉียบคม!
หลิงเซี่ยมีสีหน้าเป็ นปกติ บอกว่านางปฏิเสธข้อเสนอนี้ไปแล้ว จากนั้นหลิงเซี่ยก็เอ่ยมาอีกประโยคว่า พรรคกิ่งไผ่ของพวกเรา วันนี้ สามารถทาเรื่องย้ายให้เสร็จสิ้นได้เลย ไม่อย่างนั้นอาศัยแค่ภูเขาจีจู๋ แห่งเดียวก็มิอาจหยัดยืนอยู่ที่นี่ได้ ไม่ต้องถึงร ้อยปี ควันธูปก็จะกระจัด กระจาย ไม่สู้ไปหาที่ตั้งรกรากใหม่ทางทิศใต้
กวอฮุ่ยเฟิงถอนหายใจ เรื่องมาถึงขั้นนี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้ว กลัวก็แต่ว่าเซียนกระบี่ของยอดเขาทั้งหลายของภูเขาตะวันเที่ยงจะ ไม่ยอมให้พวกเขาย้ายไปทางใต้อย่างราบรื่นน่ะสิ
ภูเขาไฉอวี้คือกิจการบรรพบุรุษที่สืบทอดกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า คือรากฐานของส านักหากย้ายไปอยู่ที่อื่นก็ไม่ต่างจากจอกแหนไร ้ ราก
ทางใต้ของแจกันสมบัติทวีปในทุกวันนี้ต่างก็พากันกอบกู้แคว้น ไม่ก็ก่อตั้งแคว้น ชากปรักนับร ้อยรอการฟื้นคืน ที่นั่นมีโอกาสอยู่ มากมายจริงๆ ใช่ว่าพรรคกิ่งไผ่จะย้ายไปไม่ได้ ผู้ฝึกลมปราณกลุ่ม ของพวกเขาน าพาป้ ายวิญญาณของบรรพบุรุษแต่ละรุ่นย้ายไปอยู่ ทางใต้พร ้อมกัน แต่ถึงอย่างไรนั่นก็เป็ นแผนการระดับล่างที่ถูกบีบให้
จนใจแล้ว มังกรข้ามแม่น้าเป็ นกันได้ง่ายขนาดนั้นเลยหรือ? กวอฮุ่ย เฟิงคือโอสถทอง นางไม่กลัวความขัดแย้งทั้งหลายบนภูเขา นางกลัว ก็แต่ว่าจะไม่คุ้นเคยกับผู้คนและสถานที่ เดือดร ้อนให้พรรคกิ่งไผ่ต้อง ตกอับไปนับแต่นี้ ต่างก็พูดกันว่าต้นไม้ย้ายที่ตายคนย้ายที่รอด แต่ นางจะรับประกันได้อย่างไรว่าพรรคกิ่งไผ่จะไม่ใช่ต้นซิ่งที่ขึ้นอยู่ริมลา ธารป่าพวกนั้น?
ความสัมพันธ ์ของใต้อาณัติบนภูเขาแบ่งออกเป็ นสองประเภท ประเภทแรกคือความสัมพันธ ์พึ่งพาที่ค่อนข้างผ่อนคลาย พรรคกิ่งไผ่ กับภูเขาตะวันเที่ยงเป็ นเช่นนี้มาหลายร ้อยปี
หรือยกตัวอย่างเช่นภูเขาลั่วพั่วทางทิศเหนือกับเกาะจูไชภูเขา หลังอ๋าวที่ย้ายไปจากทะเลสาบซูเจี่ยน ในสายตาของโลกภายนอกก็ ถือว่าเป็ นความสัมพันธ ์ประเภทนี้เหมือนกัน
และยังมีความสัมพันธ ์ “บนภูเขากับล่างภูเขา” ตามความหมายที่ เข้มงวด ระหว่างความสัมพันธ ์สองประเภทนี้มีความต่างกัน ค่อนข้างมาก ฝ่ายแรกเหมือนเป็ นพันธมิตรกันมากกว่า ส่วนฝ่ายหลัง กลับเป็ นผู้ที่พึ่งพาอยู่ใต้อาณัติอย่างแท้จริง พูดง่ายๆ ก็คือทุกวันนี้ ภูเขาตะวันเที่ยงมาควบคุมว่าศาลบรรพจารย์พรรคกิ่งไผ่จะเลือกให้ ใครมีเก้าอี้นั่งไม่ได้ แต่รอกระทั่งพรรคกิ่งไผ่กลายเป็ นภูเขาเบื้องล่าง เมื่อไหร่ ภูเขาตะวันเที่ยงก็จะสามารถสอดมือเข้ายุ่งเกี่ยวกับการ แต่งตั้งการถอดถอน การเลื่อนขั้นการลดขั้นของผู้ฝึกตนทาเนียบทุก คนของพรรคกิ่งไผ่ได้ แม้กระทั่งเจ้าประมุขและผู้คุมกฏก็ถูกควบคุม
ด้วย! ถึงขั้นที่ว่าขอแค่ภูเขาตะวันเที่ยงต้องการก็สามารถให้ผู้ฝึ ก กระบี่ของยอดเขาทั้งหลายอ้อมผ่านพรรคกิ่งไผ่เข้าไปเป็ นเจ้าประมุข ของพรรคกิ่งไผ่ได้เลย
ตอนที่พรรคกิ่งไผ่กาลังเตรียมการเรื่องย้ายถิ่นฐานอย่างลับๆ ยอดเขาอีเซี่ยนภูเขาบรรพบุรุษของภูเขาตะวันเที่ยงก็เปิดการประชุม
ศาลบรรพจารย์ตามเวลาที่กาหนด
เพียงแต่ว่าเรื่องของพรรคกิ่งไผ่และเรื่องที่จ่ายเงินซื้อภูเขาไฉอวี้ มาเป็ นแค่มติการประชุมเล็กๆ ที่เสริมมาเท่านั้น สาหรับบุคคลยิ่งใหญ่ อย่างภูเขาตะวันเที่ยงแล้ว พรรคกิ่งไผ่เล็กๆ แห่งหนึ่ง เจ้าประมุขก็เป็ น แค่ผู้ฝึกลมปราณขอบเขตโอสถทอง ไม่นับเป็ นอะไรได้เลย
ผลสรุปในที่ประชุมของภูเขาตะวันเที่ยงก่อนหน้านี้ อันที่จริงก็ เป็ นความต้องการของจู๋หวงเจ้าสานักคนเดียวเท่านั้น คือให้คนไปที่ แคว้นชิงหลิงก่อน เชื่อว่าขอแค่เปิดราคาไว้ที่ห้าสิบเหรียญเงินฝน ธัญพืชก็มากพอจะให้พรรคกิ่งไผ่รู ้จักถอยไปด้วยตัวเองแล้ว
ภายหลังค่อยให้เซียนกระบี่ในศาลบรรพจารย์สักคนไปหากวอ ฮุ่ยเฟิง ปรึกษากับนางให้ดีๆ หากอีกฝ่ ายยินดีกลายมาเป็ นภูเขาเบื้อง ล่างของตน ทางฝั่งของภูเขาตะวันเที่ยงก็รับปากว่าภายในเวลาสาม ร ้อยปีจะไม่สอดมือเข้าแทรกเรื่องการเปลี่ยนแปลงใดๆ ของท าเนียบ หยกทองพรรคกิ่งไผ่ ขณะเดียวกันภูเขาตะวันเที่ยงก็จะช่วยอบรมบ่ม เพาะผู้ฝึกตนของพรรคกิ่งไผ่ ขอแค่กวอฮุ่ยเฟิงมีตัวเลือกที่เหมาะสม มีตัวอ่อนผู้ฝึกตนบางส่วนที่คุณสมบัติใช ้ได้ ก็สามารถส่งมาฝึกตนที่
ยอดเขาต่างๆ ของภูเขาตะวันเที่ยงได้ ไม่จากัดจานวนคน ใช ้สิ่งนี้มา ช่วยให้พรรคกิ่งไผ่ได้นั่งในตาแหน่งของจวนเซียนอันดับหนึ่งแห่ง แคว้นชิงหลิงได้อย่างมั่นคง
ผลคือเนื่องจากการไม่รู ้จักดีชั่วของหลิงเซี่ย บวกกับที่อวี่หลิ่น แห่งยอดเขาอวี่เจี่ยวทาอะไรโดยใช ้อารมณ์ ตัดสินใจเองโดยพลการ เท่ากับว่าจ่ายเงินฝนธัญพืชไปมากกว่าเดิมอีกหนึ่งร ้อยกว่าเหรียญ เงินเทพเซียนก้อนนี้ต้องให้อวี่หลิ่นควักกระเป๋ าสารองจ่ายเอง รอให้ การประชุมสิ้นสุดลง อวี่หลิ่นก็ต้องเอาเงินเทพเซียนไปส่งให้ที่คลัง สมบัติของภูเขาบรรพบุรุษแล้วบันทึกลงเอกสาร อวี่หลิ่นไม่มี ความเห็นต่างกับเรื่องนี้ เขาลุกขึ้นรับคาสั่งในทันที
ทุกวันนี้ในศาลบรรพจารย์ยอดเขาอีเซี่ยน บรรพจารย์ยอดเขา หม่านเยว่เซี่ยหย่วนชุ่ยรับหน้าที่เป็ นผู้คุมกฏของภูเขาตะวันเที่ยง ใน ฐานะเซียนกระบี่ขอบเขตหยกดิบที่ขอบเขตเท่ากับเจ้าส านักจู๋หวง และยังเป็ นอาจารย์อาของฝ่ ายหลัง เซี่ยหย่วนชุ่ยทาหน้าที่ควบคุม กฎระเบียบของสานักก็เป็ นเรื่องที่ทุกคนให้การยอมรับได้
ส่วนเยี่ยนฉู่แห่งยอดเขาสุ่ยหลง เซียนกระบี่ผู้เฒ่าขอบเขต ก่อกาเนิดท่านนี้เปลี่ยนจากบรรพจารย์ผู้คุมกฏไปนั่งเก้าอี้อันดับหนึ่ง ของคลังสมบัติภูเขาตะวันเที่ยง มองดูเหมือนโยกย้ายไปรับตาแหน่งที่ เท่าเทียมกัน แต่แท้ที่จริงแล้วกลับเป็ นการถูกลดขั้น
แต่ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าเถาแยนโปที่ถูกลงโทษให้ปิ ดประตู ทบทวนความผิดอยู่บนภูเขาชิวลิ่งหกสิบปี นี่ก็น่ าจะเรียกว่า สภาพการณ์เหมือนกันแต่ชะตากรรมแตกต่างกระมัง
จู่ๆ ก็มีกระบี่บินส่งข่าวบินมายังศาลบรรพจารย์ เยี่ยนฉู่ที่รับ จดหมายอ่านเนื้อหาไปแล้วหน้าก็เปลี่ยนสีไปเล็กน้อย ลุกขึ้นเอ่ยว่า “ผู้ฝึ กกระบี่รุ่นเยาว์ของพวกเราไปมีเรื่องกับผู้ฝึ กตนท าเนียบกลุ่ม หนึ่งของพรรคกิ่งไผ่ตรงจุดตัดระหว่างลาธารป่ าภูเขาไฉอวี้กับลา คลองฉีเหอ”
จู๋หวงถาม “สองฝ่ายมีใครได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”
เยี่ยนฉู่กล่าว “ทั้งสองฝ่ ายต่างก็ได้รับบาดเจ็บกันเล็กน้อย ทาง ฝั่ งของพวกเราจงใจออมมือให้ ค่อนข้างระมัดระวังแรงที่ใช ้ ไม่อย่างนั้นผู้ฝึกลมปราณของพรรคกิ่งไผ่มีกี่คนก็นับกี่คน ใครก็อย่า หวังจะออกไปจากล าคลองฉีเหอได้เลย”
ดูจากท่าทางแล้วจู๋หวงคงต้องการจะถามถึงสาเหตุของความ ขัดแย้งครั้งนี้
หึหึ เจ้าส านักจู๋ที่หลีกเลี่ยงความขัดแย้งด้วยการประนีประนอม เซียนกระบี่จู่ที่ไม่ว่าเรื่องอะไรก็พูดง่ายนี่นะ….คาเรียกขานเชิงสัพยอก และคาวิจารณ์ที่มีต่อจู๋หวงพวกนี้ ล้วนเป็ นคา “ชมเชย” ที่ได้มาจาก รายงานขุนเขาสายน้าฉบับแล้วฉบับเล่าของแจกันสมบัติทวีป
เซี่ยหย่วนชุ่ยลูบหนวดยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “พรรคกิ่งไผ่แห่งนี้ไม่เลว ไม่เลว มีความกล้าหาญของคนที่จะได้เป็ นจวนเซียนอักษรจงแล้ว”
ในฐานะบรรพจารย์ผู้คุมกฏ เรื่องนี้เขาเซี่ยหย่วนชุ่ยต้องเป็ น ผู้ดูแล แน่นอนว่าเจ้าส านักอย่างศิษย์หลานจู๋หวงผู้นี้ หากเขาอยากจะ เข้ามายุ่งเกี่ยว เซี่ยหย่วนชุ่ยก็คร ้านจะยุ่งด้วยแล้ว
พรรคจวนเซียนใต้อาณัติแต่ละแห่งต่างก็อยากจะทิ้งระยะห่าง จากภูเขาตะวันเที่ยงเปลี่ยนวิธีมาหาสารพัดเหตุผล ไม่อยากจะ สวามิภักดิ์อีกต่อไป
ทุกวันนี้แม้กระทั่งพรรคกิ่งไผ่ที่อยู่ใต้เปลือกตาของภูเขาตะวัน เที่ยงก็ยังจะควบคุมไม่ได้อีกอย่างนั้นหรือ?
เมื่อก่อนศัตรูคู่อาฆาตของภูเขาตะวันเที่ยงคือสวนลมฟ้ า เจ้า สวนหวงเหอไปอยู่ที่เปลี่ยวร ้างแล้ว ทิ้งหลิวป้ าเฉียวเอาไว้ คือหนึ่งใน สิบคนรุ่นเยาว์ที่ถูกประเมินจากแจกันสมบัติทวีป
หลังจากงานพิธีครั้งหนึ่งผ่านพ้นไปก็มีศัตรูคู่อาฆาตเพิ่มมาอีก ภู เขาลั่วพั่วยิ่งสั่งให้ภูเขาตะวันเที่ยงตั้งป้ ายศิลาไว้ริมอาณาเขต แกะสลักประโยคหนึ่งว่า “ห่างจากภูเขาลั่วพั่วที่อยู่ทางเหนือสองแสน ลี้!”
ทุกวันนี้ผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์ของภูเขาตะวันเที่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ฝึกกระบี่ที่เป็ นลูกรักของสวรรค์ ใครบ้างที่ยังมีหน้าออกไปท่องเที่ยว หาประสบการณ์ข้างนอก?
แต่ในการประชุมศาลบรรพจารย์ยอดเขาอีเซี่ยนครั้งนี้ จู๋หวงก็ ยังคงไม่ท าให้คน “ผิดหวัง” เขายังคงใช ้สถานะของเจ้าส านัก ไม่ สนใจคาวิจารณ์ของผู้อื่น ยืนกรานว่าจะให้คนเป็ นฝ่ ายติดต่อไปหา พรรคกิ่งไผ่ ความหมายก็คือให้ช่วงนี้ผู้ฝึกตนทาเนียบของสองฝ่ าย ยับยั้งตัวเองกันหน่อย อย่าได้เกิดข้อพิพาทกันขึ้นมาอีก
วันนี้กวอฮุ่ยเฟิงเจ้าประมุขพรรคกิ่งไผ่มาเยือนยอดเขาอีเชี่ยน ของภูเขาตะวันเที่ยงเพียงล าพัง
ผู้ฝึ กตนหญิงโอสถทองที่นิสัยเด็ดเดี่ยวผู้นี้ เห็นได้ชัดว่ามีใจ พร ้อมตายแล้ว
ทางฝั่งหอกั้วอวิ๋นที่อยู่ใกล้กับท่าเรือป๋ ายลู่ เฉินจิ้วที่เป็ นเตี่ยนเค่อ ฝ่ ายนอกของพรรคกิ่งไผ่ อันที่จริงตอนนั้นเขายืนอยู่บนดาดฟ้ าชม ทิวทัศน์ของโรงเตี๊ยมตระกูลเซียนแห่งนี้
ตอนนี้เรื่องที่เขาค่อนข้างสงสัยใคร่รู ้มีอยู่สามเรื่อง แผนการที่มี การคิดพิจารณาอย่างรอบคอบครั้งนี้ เซียนกระบี่เซียโหวที่เคยดื่ม สุราร่วมโต๊ะรู ้เรื่องมาก่อนหรือไม่ แน่นอนว่าคาตอบคืออะไรล้วนไม่ ส าคัญ
อีกอย่างก็คือหลิงเซี่ยบรรพจารย์ผู้คุมกฎพรรคกิ่งไผ่ นางสมคบ คิดกับจู๋หวงแห่งภูเขาตะวันเที่ยงตั้งแต่เมื่อไหร่
เรื่องสุดท้ายแน่นอนว่าต้องเป็ นเรื่องที่ว่าจู๋หวงคิดจะเก็บกวาด เรื่องเละเทะนี้อย่างไร
เฉินผิงอันไม่คิดว่าเซี่ยหย่วนชุ่ยและเยี่ยนฉู่จะมีโอกาสชนะใดๆ เมื่อเทียบกับการวางแผนเล่นงานใจคนแล้ว เซียนกระบี่ผู้เฒ่าทั้งสอง อาจจะยังไม่เหมาะจะถือรองเท้าให้กับเจ้าส านักจู๋หวงเลยด้วยซ้า
ดังนั้นการแสดงออกทุกอย่างของจู๋หวงที่ดูอ่อนแอไปทุกเรื่อง หากเป็ นอย่างนี้ต่อไปตามหลักทั่วไปแล้ว ยอดเขาอีเซี่ยนของจู๋หวง จะต้องถูกยอดเขาอื่นๆ ที่เหลือลดทอนบทบาทจนหมดอ านาจ
เมื่อเหตุการณ์ผิดแผกไปจากเดิมแสดงว่าต้องมีอะไรซ่อนอยู่
และนี่ก็คือเหตุผลที่ว่าทาไม “เฉินจิ้ว” ถึงได้มาหยุดอยู่ที่พรรคกิ่ง ไผ่ มารับหน้าที่เป็ นเตี่ยนเค่อฝ่ ายนอก เฉินผิงอันอยากจะเห็นว่าสรุป แล้วเซี่ยหย่วนชุ่ยแห่งยอดเขาหม่านเยว่คิดจะก่อเรื่องอะไรขึ้นมากัน แน่ แล้วจะทาไปได้ถึงขั้นไหน สรุปแล้วจะสามารถบีบให้จู๋หวงต้อง ถอยจนถึงทางตันได้หรือไม่ ตอนนี้มาลองดูแล้ว ยาก ดูเหมือนว่า สถานการณ์จะโน้มเอียงไปด้านเดียว เหตุผลก็เรียบง่ายมาก จู๋หวงไม่ เคยตอบโต้เลยแม้แต่ครั้งเดียว นี่หมายความว่าหากจู๋หวงเลือกจะลง มือ เกรงว่าสถานการณ์คงพลิกคว่าได้ในชั่วเสี้ยววินาทีเท่านั้น
คิดดูแล้วเฉินผิงอันก็ไม่อยากจะจ่ายเงินอย่างเสียเปล่า จึงบอก ชื่อ “โจวโซ่ว กับทางหอกั้วอวิ๋น ต้องการพักห้องอักษรเจีย ‘โจวโซ่ว’ จะเหมาห้องนี้นานหนึ่งปี
ทุกวันนี้หอกั้วอวิ๋นเปลี่ยนเถ้าแก่คนใหม่แล้ว แต่พอได้ยินอีกฝ่ าย เอ่ยชื่อ “โจวโซ่ว” ก็ตกใจจนหน้าซีดเผือด ไม่กล้าขอดูเอกสารผ่าน
ด่านจากผู้ฝึ กลมปราณที่รูปโฉมธรรมดาทั้งยังไม่คุ้นหน้าผู้นี้เลย แม้แต่น้อย ได้แต่พาแขกผู้สูงศักดิ์คนนี้ไปเข้าพักที่ห้องอักษรเจี่ยด้วย ตัวเอง ก่อนจะถอยออกมาจากห้องก็พูดแค่ว่าหากท่านลูกค้าต้องการ อะไร หอกั้วอวิ๋นจะพยายามทาให้ท่านพอใจอย่างเต็มที่ เป็ นเพราะถูก งูกัดครั้งหนึ่งก็กลัวเชือกไปนานสิบปีจริงๆ ก่อนหน้านี้โจวโซ่วกับเด็ก หนุ่มชุดขาวมีไฝแดงกลางหว่างคิ้วคนหนึ่งใช ้เงินมือเติบซื้อห้อง อักษรเจี่ยไว้หนึ่งปี จากนั้นก็เป็ นเจ้าขุนเขาเฉินแห่งภูเขาลั่วพั่วและ หลิวเสี้ยนหยางเจ้าสานักคนปัจจุบันของสานักกระบี่หลงเฉวียนที่มา พักอยู่ที่นี่ ถึงได้มีการถามกระบี่ครั้งนั้น วันนี้ยังมีคนผู้นี้มาเยือน….
ยอดเขาที่อยู่ใกล้กับหอกั้วอวิ๋นมากที่สุดก็คือหอชิงอู้ แน่นอนว่า ไม่ใช่น้าไหลและใจคนภูเขาไม่มีขาย่อมย้ายที่ไม่ได้
เฉินผิงอันยังคงนอนบนเก้าอี้หวายตัวนั้น เริ่มหลับตาทาสมาธิ
สถานที่แห่งนี้ห่างจากยอดเขาอีเซี่ยนไกลเกินไป ขอบเขตไม่ มากพอ ถึงอย่างไรก็มองไม่เห็นภาพแสงกระบี่สาดส่องไปสี่ทิศของที่ นั่นอยู่แล้ว
ส่วนเจ้าประมุขพรรคกิ่งไผ่คนนั้น การเดินทางมาเยือนภูเขา ตะวันเที่ยงของนางครั้งนี้ไม่มีทางเกิดเรื่องไม่คาดฝันใดๆ แน่นอน
เฉินผิงอันพลันลืมตาขึ้นก็มองเห็นแผ่นหลังของนักพรตที่สวม กวานดอกบัวคนหนึ่งอีกฝ่ายนั่งอยู่บนราวรั้วกาลังท่องอะไรพึมพา
เฉินผิงอันถาม “เจ้าลัทธิลู่ว่างขนาดนี้เลยหรือ?”
ลู่เฉินหันหน้ามายิ้มเอ่ย “คนที่ต้องตามหาก็หาเจอแล้ว เรื่องที่ ต้องท าก็ท าเสร็จแล้วอีกเดี๋ยวก็ต้องกลับบ้านแล้วล่ะ คิดว่ามีเริ่มก็ต้อง มีจบ จ าเป็ นต้องมาบอกลาเจ้าสักหน่อย”
เฉินผิงอันกล่าว “ในห้องมีเหล้า ไปหยิบมาเองได้เลย”
แม้ว่าจะประหลาดใจ แต่เฉินผิงอันก็ไม่ได้ถาม
ลู่เฉินน่าจะพาจูลู่หวนกลับไปยังใต้หล้ามืดสลัวแล้วถึงจะถูก เวลา อย่างนี้ตามหลักแล้วพวกเขาควรจะปรากฏตัวที่ป๋ ายอวี้จิงแล้ว
หรือจะบอกว่า “ลู่เฉิน” ที่อยู่ตรงหน้าผู้นี้เป็ นแค่หนึ่งในห้าฝันเจ็ด จิตธรรมที่ทิ้งไว้ในใต้หล้าไพศาล?
ลู่เฉินเอนตัวมาด้านหลัง คิดจะตีหลังกากลับหลังอย่างสง่างาม แต่คงเป็ นเพราะประมาณการณ์ความสูงของราวรั้วผิดไป จึงร่วงไป กองอยู่กับพื้น ได้แต่ดีดตัวขึ้นในท่านอนหงาย แล้ววิ่งตุปัดตุเป๋ ไป หยิบเหล้าเซียนส าเร็จรูปสองกาในห้องมา โอ้โห ถึงกับเป็ นเหล้าเซียน ตาหนักฉางชุนที่มีราคาแต่หาซื้อไม่ได้เชียวหรือนี่ หอกั้วอวิ๋นก็ช่าง ตัดใจลงทุนได้จริงๆ นี่คือถือว่าคืนเงินเทพเซียนหนึ่งปี มาให้แล้ว? หากว่าเจ้าขุนเขาเฉินแวะมาที่หอกั้วอวิ๋นบ่อยกว่านี้ จะไม่ต้องปิ ด กิจการกันไปเลยหรอกหรือ?
ลู่เฉินใช ้ปลายเท้าตวัดเตะเก้าอี้ตัวหนึ่งที่อยู่ในห้องไปไว้ที่ดาดฟ้ า ชมทิวทัศน์ นั่งลงบนเก้าอี้ โยนเหล้ากาหนึ่งให้เฉินผิงอันเบาๆ
เฉินผิงอันไม่ได้ดื่มเหล้า เพียงแค่เก็บใส่ไว้ในชายแขนเสื้อ
ลู่เฉินยิ้มกล่าว “เหตุการณ์วุ่นวายที่เก่งกันในโปงผ้าห่มครั้งนี้ ความจริงกับขั้นตอนที่เจ้าคาดเดาเอาไว้ ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไร”
เฉินผิงอันถาม “แล้วต่างกันตรงไหน?”
ลู่เฉินกระดกเหล้าดื่มดังอีกๆๆ ราวกับดื่มน้าดับกระหายอย่างไร อย่างนั้น ยกหลังมือขึ้นเช็ดปาก เอ่ยว่า “ผินเต้ายุ่งอยู่กับการดื่มเหล้า อยู่นะ คร ้านจะใช ้สมอง อีกอย่างตอนนี้ก็ยังบอกได้ไม่ชัดเจน ไม่สู้ พวกเราไปท่องแม่น้าแห่งกาลเวลาด้วยกันสักรอบ?”
เฉินผิงอันกล่าว “จู๋หวงรู ้แต่แรกแล้วว่าข้าอยู่ที่พรรคกิ่งไผ่?”
ลู่เฉินยิ้มกล่าว “เจ้าสานักจู๋เขาเป็ นแค่เซียนกระบี่ ไม่ใช่ซินแสดู ดวงที่ล่วงรู ้เหตุการณ์ล่วงหน้า ไม่มีทางรู ้ได้หรอก ส่วนจู๋หวงจะเดาได้ ถึงข้อนี้หรือไม่ ผินเต้าก็ไม่รู ้แล้ว เพราะถึงอย่างไรก็ไม่ใช่พยาธิใน ท้องเขา”
เฉินผิงอันลุกขึ้นนั่ง
คนทั้งสองเดินอยู่ในแม่น้าแห่งกาลเวลาสายหนึ่งด้วยกัน เดิน ทวนกระแสน้าขึ้นด้านบน เหมือนกับพลิกเปิดต ารากลับหลัง พอเห็น เนื้อหาที่สนใจก็คลี่กางตาราออก อ่านตัวอักษรของหน้านั้น
พวกเขามาอยู่บนเรือทางการของแคว้นชิงหลิงลาหนึ่งที่ลอยตัว อยู่ในล าคลอง ในและนอกห้องมีม่านไม้ไผ่ผืนหนึ่งกั้นขวาง แน่นอน ว่ายังมีการร่ายตราผนึกขุนเขาสาย