กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 1055.4 ก็คือมาตุภูมิ
เซียนกระบี่สองคนของภูเขาตะวันเที่ยง เซี่ยหย่วนชุ่ยแห่งยอด เขาหม่านเยว่กับเยี่ยนฉู่แห่งยอดเขาสุ่ยหลง ก่อนหน้านี้เคยประชุม ลับอยู่บนลาคลองฉีเหอสายนี้ เนื้อหาที่พูดคุยกันเกี่ยวพันไปถึงการ ผลัดเปลี่ยนเก้าอี้ทั้งหลายที่อยู่บนภูเขา
ลู่เฉินเลิกมุมหนึ่งของม่านไม้ไผ่ขึ้น มองไปในห้อง หัวเราะร่าเอ่ย ว่า “เซียนกระบี่ทั้งสองแม้จะแก่แต่ยังเปี่ยมไปด้วยกาลังวังชาจริงๆ ปณิธานสูงส่งยาวไกล หากแค่พูดกันไปตามเนื้อผ้า อันที่จริงพวกเขา ก็ทาสาเร็จแล้ว ป้ ายศิลาที่อยู่บนเส้นเขตชายแดนป้ ายนั้น ภูเขาตะวัน เที่ยงสามารถเก็บไว้ได้ตลอดเลย”
ความหมายของเจ้าลัทธิลู่ชัดเจนอย่างมาก จู๋หวงเป็ นเจ้าส านัก ภูเขาตะวันเที่ยง วันหน้ายังมีหวังที่จะถอนป้ ายศิลากาหนดเขตแผ่น นั้นออกไปได้ แต่หากเปลี่ยนคนอื่นมาเป็ นเจ้าส านักคนใหม่ก็อย่าได้ หวังอีกเลย
นี่แสดงให้เห็นว่าลู่เฉินเองก็เห็นดีในตัวจู๋หวงมากกว่า
ลู่เฉินหยิบเงินเทพเซียนสามเหรียญออกมาจากชายแขนเสื้อ กา ไว้ในมือแน่นจนเกิดเสียง “เจ้าคิดว่าในมือของข้าคืออะไร?”
เฉินผิงอันกล่าว “ความอดทน”
ลู่เฉินสะอึกอึ้ง คุยเรื่องฟ้ ากับคนโง่รู ้สึกว่าเปลืองแรง จึงคิดถึงคน ฉลาด แต่พอถูกคนฉลาดเอาเรื่องฟ้ ามาพูดจนพูดต่อไม่ได้ก็รู ้สึกอีก ว่ายังคงเป็ นการคุยกับคนโง่ที่สนุกมากกว่า
ยกตัวอย่างเช่นความอดทนของชุยฉานคือหนึ่งร ้อยปี
ความอดทนของเจิ้งจวีจงได้สืบเนื่องมานานสามพันปีแล้ว
อิงตามแผนการของเซียนกระบี่ผู้เฒ่าสองคนในห้องที่ในมือกุม อ านาจเอาไว้ ก้าวแรกก็คือผู้ฝึกตนบางคนที่มีความสาคัญมากพอ ของพรรคกิ่งไผ่มิอาจซื้อภูเขาไฉอวี้ได้ ด้วยความโมโหจึงหวนกลับ ส านักไปป่าวประกาศแก่ทุกคนว่า ต้องการปลดสถานะใต้อาณัติออก เพียงฝ่ ายเดียว ตัดขาดความสัมพันธ ์กับภูเขาตะวันเที่ยงอย่างสิ้นเชิง ก้าวที่สอง หาผู้ฝึ กกระบี่รุ่นเยาว์ที่เหมาะสมหลายคนมาสร ้างคลื่น มรสุมกับพรรคกิ่งไผ่ ไม่ต้องให้มีคนตาย แค่ต่างฝ่ ายต่างบาดเจ็บก็ พอ เซี่ยหย่วนชุ่ยมองนิสัยแข็งนอกอ่อนในของกวอฮุ่ยเฟิ งออกได้ อย่างแม่นย า นางจะต้องทวงความเป็ นธรรมจากภูเขาตะวันเที่ยง หรือ พูดให้ถูกต้องก็คือจากจู๋หวงอย่างแน่นอน ถ้าอย่างนั้นภูเขาตะวัน เที่ยงก็จะมีคาอธิบายให้กับนาง พอดีกับที่สามารถเอานางมาเชือดไก่ ให้ลิงดูต่อพรรคกิ่งไผ่ได้พอดี ประคับประคองสายของภูเขาจีจู๋ขึ้นมา ลงนามทาสัญญาเป็ นสานักเบื้องบนกับภูเขาเบื้องล่างต่อภูเขาตะวัน เที่ยง การทา “สัญญาภูเขาสายน้า” ของบนภูเขาเมื่อก่อนล้วนเป็ น ห้ามหาบรรพตหรือไม่ก็เทพวารีของแต่ละแคว้นที่เป็ นผู้จัดการ ทว่า ทุกวันนี้กลับสะดวกยิ่งกว่าเก่าแล้ว แค่ต้อง “ยื่นคาร ้อง” ต่อฉีตู้ก็พอ
ขั้นที่สามก็คือภูเขาตะวันเที่ยง ให้อวี่หลิ่นแห่งยอดเขาอวี่เจี่ยว เซียน กระบี่หนุ่มที่มีบารมีอย่างมากในกลุ่มของลูกศิษย์รุ่นเยาว์ของภูเขา ตะวันเที่ยงผู้นี้เป็ นทัพหน้าในการประชุมศาลบรรพจารย์ยอดเขาอี เซี่ยน เป็ นฝ่ ายโจมตีให้จู๋หวงต้องลาบากใจ และหลังจากนั้นเซี่ยหย่ วนซุยค่อยออกหน้าด้วยตัวเอง เยี่ยนฉู่พูดคล้อยตาม พวกเขาจะให้ ค าเสนอแนะว่าให้จู๋หวงออกจากต าแหน่งเจ้าส านักด้วยตัวเอง ต าแหน่งใหม่ของเขาก็เตรียมไว้เรียบร ้อยแล้วเจ้าจู๋หวงไปเป็ นเจ้า ประมุขที่พรรคกระบี่หวงจู๋ซึ่งเป็ น “ภูเขาเบื้องล่าง” ที่ตั้งอยู่ในอาณา เขตของภูเขาเช่อจื่อขุนเขากลางก็แล้วกัน
พูดว่าให้คาเสนอแนะ แต่อันที่จริงก็คือบีบให้จู๋หวงออกไปจาก ยอดเขาอีเชี่ยน ไสหัวไป “รักษาตัวในบั้นปลาย” อยู่ที่พรรคกระบี่หวง
จู๋แต่โดยดี
ขอแค่จู๋หวงออกไปจากภูเขาตะวันเที่ยง เซี่ยหย่วนซุยก็ย่อมมี วิธีการมากมายที่จะท าให้จู๋หวงซึ่งอยู่ที่ภูเขาเบื้องล่างไม่ได้ดั่งใจไป เสียทุกเรื่อง
ลู่เฉินเดินเข้าไปในห้องบนตัวเรือ ทาท่าลับๆ ล่อๆ ด้านหนึ่งก็ฟัง แผนการยิ่งใหญ่ของผู้ฝึกกระบี่เฒ่าทั้งสอง อีกด้านหนึ่งก็ยื่นนิ้วไปดีด หน้าผากของใครบางคน หรือควรจะพูดว่าแสร ้งออกหมัดโจมตีท้าย ทอยของอีกฝ่าย
เฉินผิงอันเดินตรงดิ่งเข้าไปในห้อง ม่านไม้ไผ่ที่ขวางทางเป็ น เหมือนเครื่องประดับอย่างหนึ่ง
บนเส้นทางของชีวิตคน เฉินผิงอันเคยเห็นคนสองคนที่มองดู เหมือนคล้ายกัน แต่แท้จริงแล้วกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง พูดถึง แค่คนข้างกายก็มีกู้ช่านกับหลี่ไหว ชุยตงซาน กับลู่เฉิน
ลู่เฉินเหมือนเล่นจนเหนื่อยแล้วจึงนั่งยองลงบนพื้น เงยหน้ามอง เซี่ยหย่วนชุ่ย นับลายเส้นริ้วรอยบนใบหน้าของอีกฝ่ ายทาเหมือนจะ
ช่วยดูโหงวเฮ้งให้กับเซียนกระบี่ผู้เฒ่า
ลู่เฉินยิ้มถาม “พวกเขาช่างใจกล้าเหลือเกิน ไม่กลัวว่าวันใดจู๋ หวงจะเลื่อนเป็ นขอบเขตเซียนเหรินบ้างหรือ? และบางทีอาจหัน กลับมาคิดบัญชีเก่าบัญชีใหม่กับพวกเขาไปพร ้อมกันเลยก็ได้?”
เฉินผิงอันกล่าว “ก็แค่ว่าคว้าผลประโยชน์มาไว้ในมือให้ได้ก่อน
วันหน้าค่อยว่ากัน”
ลู่เฉินพยักหน้า “ก็จริงนะ” เฉินผิงอันพลันถามว่า “ทาไมเจ้าถึงเลิกม่านไม้ไผ่นั่นขึ้นได้?”
ลู่เฉินพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ขอบเขตสูง ความสามารถเยอะ รูปโฉมหล่อเหลา ออกจากบ้านก็ปฏิบัติดีกับผู้อื่น ไม่เคยพูดจาแข็ง กระด้างรุนแรง ระมัดระวังขับเรือได้นานหมื่นปี…”
เฉินผิงอันตัดบทการคุยโวของเจ้าลัทธิลู่ ถามว่า “พวกเราเดิน ทวนกระแสน้ากันต่อไปหรือจะไหลไปตามกระแส เดินย้อนกลับไป ทางเดิม?”
ลู่เฉิ นย้อนถาม “เปลี่ยนมาอ่านหนังสือเล่มใหม่ดีไหม? ยกตัวอย่างเช่นเง็กเซียนฮ่องเต้คือเจ้าส านักจู๋หวง หรือไม่ก็เทพธิดาก วอแห่งพรรคกิ่งไผ่? หรือว่าจะอ่านทุกเล่มเลย?”
เฉินผิงอันกล่าว “ไม่ต้องหรอก พวกเราแค่จับตามองเซียนกระบี่ ผู้อาวุโสสองคนนี้ก็พอแล้ว”
ลู่เฉินเอ่ยอย่างอ่อนใจ “ไม่รังเกียจว่าน่าสะอิดสะเอียนบ้างหรือ”
เฉินผิงอันยิ้มกล่าว “นี่คือความอดทนของเจ้าลัทธิลู่อย่างไรล่ะ”
ลู่เฉินพึมพา “ผินเต้าเป็ นคนหูอ่อน ทนฟังคาพูดดีๆ ไม่ได้ที่สุด แล้ว”
หลังจากนั้นคนทั้งสองก็มาที่ยอดเขาหม่านเยว่ เป็ นช่วงเวลา กลางดึกแล้ว ดวงจันทร ์กลมโตลอยอยู่กลางอากาศ แสงจันทร ์สุก สกาวประหนึ่งหิมะที่ปูเต็มพื้น ลู่เฉินยืนอยู่ในศาลาชมทัศนียภาพแห่ง หนึ่ง สอดสองมือไว้ในชายแขนเสื้อ บางครั้งก็มีแสงกระบี่บินลอด ทะลวงไปมาระหว่างยอดเขาเขียวขจีทั้งหลาย เขาเอ่ยอย่างปลง อนิจจังว่า “เด็กหนุ่มของที่แห่งนี้ฝึกกระบี่เหมือนภรรยาคนใหม่ที่วาด ขนคิ้วประทินโฉม แต่งแต้มเครื่องประดับหลากหลายท่วงท่างาม เพริศพริ้ง น่าเสียดายที่ไม่มีเสน่ห์ของสตรีวัยกลางคนผู้ร ้อนแรง”
ลู่เฉินพาเฉินผิงอันมายังพื้นที่ต้องห้ามแห่งหนึ่ง ในศาลขนาด เล็กตั้งบูชาป้ ายวิญญาณของบรรพจารย์แต่ละยุคสมัยของยอดเขา หม่านเยว่เอาไว้ เซี่ยหย่วนชุ่ยจุดธูปคารวะอยู่ที่นี่เงียบๆ
ลู่เฉินเอนกายพิงกรอบประตู รอกระทั่งเซี่ยหย่วนชุ่ยจุดธูปคารวะ ไปแล้ว ผู้เฒ่าก็งับประตูปิดเบาๆ ก้าวยาวๆ จากไป
ลู่เฉินยิ้มถาม “เจ้าคิดว่าเซี่ยหย่วนชุ่ยมีใจที่เห็นแก่ตัวสักกี่ส่วน?”
เฉินผิงอันกล่าว “บางทีตัวเซี่ยหย่วนชุ่ยเองก็อาจจะยังไม่รู ้ตัว กระมัง”
ลู่เฉินกล่าว “หากจะบอกว่าคนในสถานการณ์มองไม่กระจ่าง แต่ เจ้ากับข้าเป็ นคนที่มองอยู่นอกสถานการณ์นะ”
เฉินผิงอันตอบ “สิบเกินห้า หกเท่ากับหนึ่ง”
ลู่เฉินปรบมือยิ้มกล่าว “ยอดเยี่ยม มหัศจรรย์!”
เฉินผิงอันกล่าว “รบกวนเจ้าลัทธิลู่ถอยกลับไปดูเนื้อหาการ ประชุมบนยอดเขาอีเชี่ยนสักหน่อย”
ก่อนหน้านี้เซี่ยหย่วนชุ่ยเคยมีการปูพื้นติดต่อกันมา หนึ่งในนั้นก็ อย่างเช่นเรื่องที่บรรพจารย์ผู้เฒ่าเคยแนะน าลูกศิษย์บนยอดเขา ทั้งหลายตอนอยู่ในศาลบรรพจารย์ว่า ขอแค่เป็ นผู้ฝึกกระบี่ ไม่ว่าจะ เป็ นขอบเขตหรืออายุขัยในการฝึกตน หากยินดีก็สามารถติดตาม คนแก่ๆ อย่างพวกเขาที่ลาดับอาวุโสสูงที่สุดและออกจากด่านมาได้ ไม่นานเท่าไร เดินผ่านช่องทางกุยซวี ไปเยือนใต้หล้าเปลี่ยวร ้าง ด้วยกัน ออกกระบี่สังหารปีศาจอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะสามารถสะสมคุณ ความชอบด้านการสู้รบได้พอจนช่วยขอสิทธิ์รายชื่อสานักเบื้องล่าง มาจากศาลบุ๋นได้หรือไม่ อย่างน้อยที่สุดก็สามารถเปลี่ยนความรู ้สึกที่
จวนเซียนในทวีปมีต่อภูเขาตะวันเที่ยงให้ดีขึ้น ส่วนเขาเซี่ยหย่วนชุ่ย ขอแค่เจ้าส านักจู๋หวงยอมพยักหน้าตอบตกลง ด้วยเรื่องนี้ยอดเขา หม่านเยว่ก็จะสามารถเปลี่ยนเจ้าแห่งยอดเขาได้ในวันนั้นเลย
ความนัยในประโยคนี้ก็คือ เซี่ยหย่วนชุ่ยไม่คิดจะมีชีวิตรอด กลับมายังแจกันสมบัติทวีปและภูเขาตะวันเที่ยงแล้ว
เป็ นเหตุให้ตอนนั้นเหล่าผู้ฝึกกระบี่อาวุโสของยอดเขาทั้งหลายที่ อัดอั้นข่มกลั้นโทสะกันมานานพากันเอ่ยคล้อยตามกับเรื่องนี้ ต่างก็ ยินดีติดตามบรรพจารย์เซี่ยพกกระบี่เดินทางไปยังเปลี่ยวร ้าง เอา อย่างยอดเขาม่านเยว่ เปลี่ยนเจ้ายอดเขาคนใหม่!
เพียงแต่ว่าถูกจู๋หวงเจ้าสานักที่รับมือไม่ทันกับข้อเสนอนี้ใช ้ คาถาถ่วงเวลามาถ่วงไว้ก่อน บอกว่าต้องวางแผนกันในระยะยาว
เมื่อเป็ นเช่นนี้ก็มีการตัดสินสูงต่ากันได้แล้ว
คนหนึ่งที่ทาให้ผู้อื่นต้องหันมามองเสียใหม่ กับอีกคนที่ไม่มีอะไร ให้ต้องลุ้น ยังคงท าให้คนรู ้สึกผิดหวังเป็ นทบทวีอยู่เหมือนเดิม
ฝ่ายหนึ่งขึ้น ฝ่ายหนึ่งลง นี่ทาให้เจ้าสานักจู๋หวงที่เดิมทีชื่อเสียงก็ ดิ่งลงเหวยิ่งดู…หัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่ได้ใจคน
อ่อนแอทั้งยังไร ้ความสามารถ มีแต่ขอบเขตเสียเปล่า ไร ้ความ เด็ดเดี่ยวกล้าหาญอย่างสิ้นเชิง ภูเขาตะวันเที่ยงช่างโชคร ้ายจริงๆ โชคร ้ายที่มาเจอเจ้าสานักที่เป็ นเช่นนี้
จวนเซียนบนยอดเขาทั้งหลาย พื้นที่ประกอบพิธีกรรมแต่ละแห่ง พากันวิพากษ์วิจารณ์เริ่มมีการพลิกเปิดบัญชีเก่า ยกตัวอย่างเช่นดู เหมือนว่าตอนที่จู๋หวงเป็ นขอบเขตก่อก าเนิดจะไม่เคยกล้างัดข้อกับห ลี่ถวนจิ่งที่เป็ นขอบเขตเดียวกันมาก่อน รอกระทั่งเลื่อนเป็ นขอบเขต ก่อก าเนิดอย่างไม่ง่าย เผชิญหน้ากับคนหนุ่มสองคนอย่างเฉินผิงอัน และหลิวเสี้ยนหยาง ผลคือก็ยังไม่กล้าแม้แต่จะผายลม
หากเจ้าส านักจู๋หวงที่ความสามารถไม่สมกับตาแหน่งอย่างยิ่ง ละโมบอยากกุมอ านาจตัดใจปล่อยมือไม่ลง ถ้าอย่างนั้นก็จะโทษที่ เซี่ยหย่วนชุ่ยซึ่งเป็ นอาจารย์อาของเขาจะเก็บกวาดท าความสะอาด ส านักแทนเหล่าบรรพบุรุษไม่ได้แล้ว
เขาจะร่วมมือกับผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตก่อกาเนิดสองคนอย่างเยี่ยน ฉู่และเถาแยนโปที่ยังหลบซ่อนอยู่ในมุมมืดมาถามกระบี่ต่อจู๋หวง ด้วยกัน
ถึงอย่างไรทุกวันนี้ชื่อเสียงของภูเขาตะวันเที่ยงก็แย่ไปมากกว่านี้ ไม่ได้อีกแล้ว
อีกทั้งรอกระทั่งเซี่ยหย่วนชุ่ยรับตาแหน่งเจ้าสานักได้อย่างราบรื่น ผู้ฝึกกระบี่ของยอดเขาทั้งหลายที่ยินดีจะไปสังหารปีศาจที่เปลี่ยวร ้าง ก็เชิญพวกเจ้าไปได้ตามสบาย
ลู่เฉินดีดนิ้ว
คนทั้งสองก็มาที่ศาลบรรพจารย์ยอดเขาอีเซี่ยนซึ่งผ่านการ ซ่อมแซมมาก่อนแล้ว ลู่เฉินนั่งลงบนธรณีประตูเหมือนงูพาด ขวางทาง เอนหลังพิงประตูใหญ่ สองมือสอดรองไว้ใต้ท้ายทอย มอง ทางขวาเห็นเซียนกระบี่นั่งกันอยู่เต็มห้อง มองทางซ ้ายเห็นก้อนเมฆ เดี๋ยวเกาะกลุ่มเดี๋ยวแยกสลาย ไม่ถ่วงรั้งทั้งสองทาง
เฉินผิงอันข้ามธรณีประตูเข้าไปในศาลบรรพจารย์บ้านคนอื่น เหมือนกาลังเดินเล่น บางครั้งก็เดินอ้อมผ่านเสาหนาใหญ่สีชาด ถือ เป็ นไม้เก่าที่เอามาสร ้างใหม่ นี่ก็คือรากฐานที่แน่นหนาของจวนเซียน เก่าแก่แห่งหนึ่งแล้ว เชื่อว่าในคลังสมบัติของภูเขาตะวันเที่ยงคงยัง ต้องมีไม้ใหญ่ของเขตอวี้จางและไม้จันทน์ของผูซานเก็บซ่อนไว้อีก ไม่น้อยแน่นอน หากอิงตามราคาในทุกวันนี้ แค่เอาไปขายเปลี่ยนมือ
ก็จะได้ก าไรมหาศาลแล้ว
เฉินผิงอันเดินไปถึงหน้าประตูใหญ่แล้วพยักหน้าให้กับลู่เฉิน สามารถกลับได้แล้ว
ลู่เฉินลุกขึ้นยืน ใช ้ชายแขนเสื้อปัดก้น เหลือบมองเจ้าสานักที่นั่ง เหมือนหุ่นขี้ผึ้งอยู่ในห้อง ยิ้มเอ่ย “รู ้ว่าปณิธานของท่านไม่เล็ก ต้อง ไม่ใช่สิ่งของในสระอย่างแน่นอน”
ทั้งสองย้อนกลับมาที่โรงเตี๊ยมกั้วอวิ๋นกันอีกครั้ง
ชมเรื่องสนุกไม่กลัวว่าจะเป็ นเรื่องใหญ่ ลู่เฉินยื่นมือชี้ไปที่ยอด เขาอีเซี่ยน เอ่ยว่า “กวอฮุ่ยเฟิงใกล้จะมาถึงตีนเขาแล้ว”
ลู่เฉินที่ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มเปลี่ยนทิศของนิ้วที่ชี้ไปอีกครั้ง คราวนี้ชี้ไปยังยอดเขาหม่านเยว่ “จู๋หวงไปหาเซี่ยหย่วนชุ่ยแล้ว”
และยังมีเยี่ยนฉู่แห่งยอดเขาสุ่ยหลงที่ยังหวาดผวาไม่คลาย ผู้ฝึก กระบี่เฒ่าที่นั่งบนเก้าอี้อันดับสามของศาลบรรพจารย์ภูเขาตะวัน เที่ยงผู้นี้ เวลานี้ยังอกสั่นขวัญแขวน จ้องเขม็งไปยังความเคลื่อนไหว
ตรงยอดเขาหม่านเยว่
เยี่ยนฉู่เตรียมพร ้อมที่จะทาตามแผนของเจ้าประมุขจู๋หวง ขอแค่ ฝ่ ายหลังสั่งมาก็มิอาจปล่อยให้เซี่ยหย่วนชุ่ยมีชีวิตรอดออกไปจาก อาณาเขตของยอดเขาหม่านเยว่ได้
หากเยี่ยนฉู่มิอาจขัดขวางการหลบหนีของเซี่ยหย่วนซุยได้ ความผิดก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกขั้น เยี่ยนฉู่ก็จะได้ไปปิ ดประตูทบทวน ความผิดเป็ นเพื่อนเถาแยนโปที่ภูเขาชิวลิ่งแล้ว
แรกเริ่มสุดการที่เยี่ยนฉู่ยินดีเสี่ยงอันตรายทาเรื่องเช่นนี้ แน่นอน ว่าเพราะหลังจากที่ท าส าเร็จ เซี่ยหย่วนชุ่ยจะมอบผลประโยชน์ที่มาก พอให้กับเขาและยอดเขาสุ่ยหลง
ตามการตั้งสมมติฐานแรกสุดของผู้ฝึ กกระบี่เฒ่าก่อกาเนิด แน่นอนว่าบรรพจารย์เซี่ยหย่วนชุ่ยรับหน้าที่เป็ นเจ้าขุนเขาคนใหม่ ของภูเขาตะวันเที่ยง จากนั้นตามข้อตกลง บรรพจารย์เชี่ยจะยกเก้าอี้ ผู้คุมกฎที่ยังนั่งไม่ทันร ้อนตัวนั้นมาให้ เยี่ยนฉู่จะเข้ามาแทนที่ ตาแหน่งที่ว่างลง ขณะเดียวกันก็จะมีสถานะเป็ นผู้คุมกฏของส านัก
เบื้องบนควบเจ้าประมุขสานักเบื้องล่างไปพร ้อมกัน อีกทั้งบรรพจารย์ เซี่ยยังรับปากเยี่ยนฉู่ด้วยว่าจะยอมทุ่มเททรัพย์สินและทรัพยากร อย่างไม่เสียดาย ต่อให้ต้องทุ่มเงินก็ต้องทุ่มจนเยี่ยนฉู่ได้เป็ นห้า ขอบเขตบนอย่างแน่นอน ส่วนสายกระบี่ที่สืบทอดอย่างลับๆ ของยอด เขาอีเซี่ยนที่จู๋หวงเป็ นผู้ดูแลนั้น ล้วนจะถ่ายทอดให้กับเยี่ยนฉู่ทั้งหมด เมื่อเป็ นเช่นนี้จึงมีครบทั้งฟ้ าอานวยดินอวยพรและคนสามัคคีใน อนาคตการที่เยี่ยนฉู่จะเลื่อนเป็ นขอบเขตหยกดิบก็ไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อ ฝันอะไรอีกแล้ว
ส่วนพรรคกระบี่หวงจู๋ในทุกวันนี้ รอให้เยี่ยนฉู่ไปเป็ นเจ้าประมุขก็ ต้องเปลี่ยนชื่ออย่างแน่นอน ตามแผนการของเซี่ยหย่วนชุ่ยคือรอให้ เขารับหน้าที่เป็ นเจ้าสานัก เข้าไปอยู่ในยอดเขาอีเซี่ยนก็จะเปิดการ ประชุมครั้งแรกขึ้นมา ออกคาสั่งให้ผู้ฝึกกระบี่ของยอดเขาทั้งหลาย เดินทางไปยังเปลี่ยวร ้าง เชื่อว่าพวกคนรับมือได้ยากที่อยากจะออก กระบี่สังหารปีศาจมานานแล้ว พวกเจ้าแห่งยอดเขาที่เป็ นเซียนดิน เหล่านั้นคงยินดีอย่างมากที่จะไปสร ้างคุณความชอบไว้บนสนามรบ ต่างบ้านต่างเมืองโดยที่ไม่เสียดายชีวิต
เมื่อเป็ นเช่นนี้ภูเขาตะวันเที่ยงก็ยังพอจะมีความหวังส่วนหนึ่งที่จะ สามารถอาศัยคุณความชอบด้านการสู้รบที่สะสมไว้บนสมุด คุณูปการของศาลบุ๋น ทาให้สานักเบื้องล่างเลื่อนเป็ นส านักอักษรจง ได้
สุดท้ายก็จะได้ครอบครองสานักเบื้องบนและเบื้องล่างสองแห่ง พร ้อมกันเหมือนกับศัตรูคู่อาฆาตบางคน
บรรพจารย์เซี่ยทาอะไรก็มีการวางแผนลึกล้ายาวไกล พิจารณา อย่างรอบคอบรัดกุมอย่างแท้จริง
สามารถเป็ นเจ้าสานักได้ ต่อให้จะเป็ นเจ้าสานักของสานักเบื้อง ล่าง สาหรับเยี่ยนฉู่แล้ว แค่นี้เขาก็รู ้จักพอมากแล้ว
เพียงแต่พวกเขาคิดคานวณกันรอบด้าน แต่ก็ยังขาดไปก้าวหนึ่ง ค านวณผิดไปแล้ว
คาพูดของเยี่ยนอู่เป็ นดั่งคาทานาย อวี่หลิ่นผู้ฝึกกระบี่โอสถทอง หนุ่มของยอดเขาอวี่เจี่ยวผู้นั้นคือเจ้าตะพาบน้อยที่เกิดมาก็เพื่อ เนรคุณคนอย่างแท้จริง หลังจากทาเรื่องสาเร็จแล้ว กลับไม่ต้องการ ตาแหน่งบรรพจารย์ผู้คุมกฏของพรรคกระบี่หวงจู่ที่แค่คว้าก็ได้มา ครองแต่ดันแอบเอาความลับไปบอกกับเจ้าส านักจู๋หวง!
นอกจากนี้ก็คือเถาแยนโปแห่งภูเขาชิวลิ่งที่ต้องปิดภูเขาหกสิบปี ทบทวนความผิด วันนี้กลับพร ้อมที่จะร่วมมือกับตนออกกระบี่สังหาร เซี่ยหย่วนซุยได้ทุกเมื่อ!