กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 1074.4 ไม่ดื่มสุราคารวะจะดื่มสุราลงทัณฑ์
ในความเห็นของชิวชิง พี่หญิงซ่งคือสตรีที่มีนิสัยเปิดเผยร่าเริง บุคลิกอบอุ่นอ่อนโยนไม่ควรจะมาถูกจับแขวนไว้บนผนังตัดเส้นเอ็น ข้อมือและข้อเท้าเช่นนี้ รอยนาบเหล็กร ้อนๆ บนร่างของนางมีอยู่ หลายจุด สภาพน่าเวทนาจนแทบทนมองไม่ได้ เห็นแล้วชวนพรั่นผวา เป็ นเหตุให้ทั้งห้องลับอบอวลไปด้วยกลิ่นเนื้อไหม้
นางไม่เหมือนกับศิษย์พี่หญิงหลัวฟู่ เม่ย วันนี้มาที่นี่ก็เพราะมี หน้าที่ จาเป็ นต้องมา
ส่วนวิธีลงทัณฑ์ที่ใช ้กับร่างของพี่หญิงซ่ง นางไม่ถึงกับ หวาดกลัว เด็กสาวเพียงแค่มองขั้นตอนทุกอย่างนี้อย่างนิ่งสงบ ไม่ เคยรู ้สึกขนลุกขนพอง เพียงแค่ในใจรู ้สึกไม่ชอบเท่านั้น
ครั้งแรกที่ได้เห็นภาพพวกนี้ เด็กสาวไม่รู ้สึกพะอืดพะอมอะไร ท า ให้ศิษย์พี่หญิงที่รอจะดูเรื่องสนุกจากนางประหลาดใจอย่างมาก บอก ว่านางเป็ นคนหน้าร ้อนใจเย็น คือวัตถุดิบที่สร ้างได้
หลัวฟู่ เม่ยเท้าคางด้วยมือข้างเดียว เห็นได้ชัดว่าจิตใจไม่อยู่กับ เนื้อกับตัว นางก้มหน้าใช ้นิ้วหัวแม่มือลูบเล็บของนิ้วอื่นเบาๆ ก่อนที่ นางจะมาที่คุกก็เพิ่งจะย้อมสีทาเล็บมา
คือของดีที่ทาด้วยกรรมวิธีลับของแคว้นหูบ้านตน เก็บดอกไม้นับ ร ้อยชนิดมา สตรีเอามาทาเป็ นสีทาเล็บสามารถกระตุ้นอารมณ์รัก
ใคร่ ใช ้ได้ผลยิ่งกว่ายากระตุ้นกาหนดทุกชนิด คือของบารุงชั้นเลิศ ส าหรับการฝึกวิชาการประกอบกามกิจในห้องหอ เป็ นเหตุให้ทั้งบน และล่างภูเขาต่างก็ยินดีจ่ายเงินก้อนใหญ่ซื้อ ตลับเล็กๆ ตลับเดียว หากอิงตามราคาตลาดของนครลมเย็นในอดีตก็สามารถขายได้สิบ กว่าเหรียญเงินเกล็ดหิมะเลยทีเดียว อีกทั้งยังมีแต่ราคาทว่าหาซื้อ
ไม่ได้อีกด้วย
ภายนอกนั้น พรรคหูซานแคว้นซงไล่มีผู้ฝึกลมปราณทั้งหมดสิบ หกคนซึ่งรวมเกาจวินไว้แล้ว ถือว่ามีพลังอ านาจและฐานก าลังทรัพย์ เป็ นหนึ่งเดียวในพื้นที่มงคล
ในพื้นที่มงคลระดับสูงแห่งนี้ กองกาลังพรรคอื่น ซานจวินสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์หรือจักรพรรดิแม่ทัพอัครเสนาบดีอะไร บางทีอาจต้องแหงน หน้ามองพรรคหูซาน
ทว่าแคว้นหูไม่จ าเป็ นต้องท าเช่นนั้น
พรรคหูซานที่มีโอสถทองเพียงคนหนึ่งเฝ้ าพิทักษ์จะนับเป็ นอะไร ได้
ในศาลบรรพจารย์ของแคว้นหู เอาผู้ฝึกตนครึ่งหนึ่งไปเป็ นแขกที่ นั่นไม่ต้องให้เจ้าแห่งแคว้นหูอย่างเพ่ยเซียงตามไปด้วยซ้า เกรงว่าก็ คงท าให้พรรคหูซานกลายเป็ นปฏิทินเหลืองเก่าแก่ไปได้
หญิงชราถามเสียงหนัก “ซ่งเจียซู ยังไม่ยอมพูดอีกหรือ? ถึง อย่างไรก็ต้องตายอยู่แล้วตายให้สบายหน่อยไม่ดีกว่าหรือ?”
ภูตจิ้งจอกหญิงแซ่ซ่งที่ถูกแขวนไว้บนกาแพงพูดอะไรไม่ออก แล้ว แต่กระนั้นนางก็ยังฝืนเลิกเปลือกตาขึ้นถ่มเลือดสดออกมาหนึ่ง ค า
ในฐานะเจ้าบ้านของคุกแห่งนี้ ผู้เฒ่าลุกขึ้นยืน ถูมือ เอ่ยอย่าง กระเหี้ยนกระหือรือว่า “ผู้คุมกฏหู ไม่สู้ให้ข้าทาเองดีกว่าไหม?”
ความสามารถของลูกศิษย์ไม่ได้เรื่อง เขาที่เป็ นอาจารย์ก็ควรจะ แสดงความสันทัดของตนเพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีหน้าตากลับคืนมาเสีย หน่อย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันนี้มีสตรีเจ้าเสน่ห์อย่างหลัวฟู่ เม่ยมาอยู่ด้วย นี่ทาให้เขายิ่งฮึกเหิมตื่นเต้น รู ้สึกคึกคักได้อารมณ์ยิ่งกว่าการเข่นฆ่า กันบนเตียงเสียอีก ความยอดเยี่ยมน่าสนใจในเรื่องนี้ มิอาจบรรยาย ให้คนนอกเข้าใจได้
แน่นอนว่าเขาเองก็ไม่กล้าให้หลัวฟู่ เหม่ยรู ้ถึงความชื่นชอบนี้ของ ตน หรือบางทีนางเองอาจจะรู ้แล้ว แล้วก็ชอบเหมือนกัน? หึ ไม่สน แล้ว หากจิ้งจอกยั่วสวาทที่เรือนร่างอวบอิ่มผู้นี้รู ้แต่กลับไม่พูดออกมา ย่อมดีที่สุด ถือเสียว่าเป็ นการหยอกเย้ากันอย่างมีชั้นเชิงของคนบน เส้นทางเดียวกันก็แล้วกัน
หญิงชราหันไปมองโต๊ะข้างๆ “หลัวฟู่ เม่ย ว่าอย่างไร? เปลี่ยนเป็ น เจ้าไหม?”
หลัวฟู่ เม่ยมีท่าทางตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด นางร ้องหา เงยหน้า ขึ้น กวาดตามองไปแวบหนึ่ง “ข้ายังนึกว่าเสร็จเรื่องแล้วเสียอีกนะ”
อันที่จริงนอกจากจดหมายลับฉบับแรกที่เนื้อหาไม่ละเอียดแล้ว จดหมายลับฉบับที่สองที่ซ่งเจียซูส่งออกไปได้ถูกแคว้นหูดักเก็บไว้ ก่อนแล้ว จดหมายหลายฉบับที่นางส่งออกไปหลังจากนั้นล้วนเป็ น
หลัวฟู่ เม่ยที่ช่วยเขียนแทนให้ทั้งสิ้น
ก่อนหน้านี้ในจดหมายลับที่มอบให้กับหลัวฟู่ เม่ยล้วนเป็ น ตัวอักษรที่ร ้อยเรียงไม่เป็ นประโยค นี่แสดงให้เห็นว่านางกับชายชู้ผู้ นั้นมีตาราลับ “ดั้งเดิม” อยู่เล่มหนึ่งที่ต้องให้บุคคลที่สามเปิดต าราค า แปลถึงจะรู ้ถึงเนื้อหาที่ซ่อนอยู่ภายใน
แต่นี่ไม่ยากสาหรับหลัวฟู่ เม่ยที่ชอบอ่านตาราเบ็ดเตล็ดเลยสัก นิด
ใช ้ค ากล่าวของอาจารย์ก็คือโฉ่วหนูเอ๋อร ์บ้านข้า เกิดมาก็กิน ข้าวชามนี้อยู่แล้ว
ในห้องส่วนตัวของซ่งเจียซูมีต าราเก็บไว้ไม่มาก มีอยู่แค่ยี่สิบกว่า เล่มเท่านั้น ล้วนถูกผู้ฝึ กตนสายของผู้คุมกฏแฝงตัวเข้าไปในห้อง ตอนที่นางออกไปข้างนอกแล้วจดชื่อหนังสือมา ตารานอกลู่บางอย่าง ที่ถือว่าเป็ นตาราหายากก็จะถูกคัดลอกเนื้อหาเอาไว้ สาเนาทุกฉบับ ล้วนถูกส่งมอบมาถึงมือของหลัวฟู่ เม่ย นอกจากนี้ หลัวฟู่ เม่ยเองก็ไม่ ถือว่าเหนื่อยเปล่า เมื่อได้ตาราลับสายของซ่งเจียซูมาอยู่ในมือ
ยกตัวอย่างเช่นเวทลับหลายชนิดของบนภูเขาสายนั้น หลัวฟู่ เม่ย รับรองกับเซียนจิ้งจอกที่เป็ นผู้อาวุโสซึ่งทาหน้าที่ดูแลถุงเงินของ แคว้นหูอย่างหนักแน่นว่าจะไม่เรียนรู ้มา แน่นอนว่าอีกฝ่ ายไม่เชื่อ เพราะหลัวฟู่ เม่ยก็ไม่เชื่อตัวเองเหมือนกัน แต่จะไม่มีทางแพร่งพราย เวทลับออกไปข้างนอกเด็ดขาด และหลัวฟู่ เม่ยก็ทาได้อย่างที่พูดจริงๆ
เดิมทีนางยังคิดอยากจะใช ้เวลาและความคิดมากกว่านี้ นางต้อง ไปสืบเบาะแสที่พรรคหูซานด้วยตัวเอง คิดไม่ถึงว่าซ่งเจียซูผู้นี้จะโง่ เกินไป…หรือควรจะพูดว่าลุ่มหลงในรักมากเกินไป หรือจะพูดว่าอีก ฝ่ ายละโมบแบบไม่มีที่สิ้นสุดดี? ทั้งอยากจะได้ร่างกายนางแล้วก็ อยากจะได้วิชาลับของแคว้นหูไปด้วย? ซื้อหนึ่งแถมหนึ่ง ช่างมีวิธีการ ที่ดีจริงๆ ได้ทั้งคนทั้งสมบัติไปครบถ้วน
แต่เมื่อเป็ นเช่นนี้ก็ไม่มีความยากเอาเสียเลย
หลัวฟู่ เม่ยไม่สนุกเลยสักนิด กลับกันยังรู ้สึกผิดหวังอย่างมาก คดีที่ไขได้ง่ายแค่นี้ น่าเบื่อยิ่งนัก
ถอยไปพูดหมื่นก้าว ต่อให้ไม่มีเบาะแสอะไรสักอย่าง ถ้าอย่างนั้น ถลกหนังของลูกศิษย์ทรยศผู้นั้น ให้หลัวฟู่ เม่ยสวม “เสื้อผ้าตัวใหม่” ตัวนั้นแล้วออกไปเตร็ดเตร่ที่แคว้นซงไล่รอบหนึ่ง นางก็ไม่เชื่อหรอ กว่าจะตกปลาใหญ่ของพรรคหูซานตัวนั้นไม่ได้
แม้จะบอกว่าซ่งเจียซูกับบุรุษผู้นั้นถือว่าเป็ นชายชอบหญิงรัก เจ้า ยินยอมข้าพร ้อมใจแต่การกระทาที่พยายามจะขโมยความลับเรื่องวง
ในและต าราลับของพื้นที่ประกอบพิธีกรรมบ้านคนอื่นเช่นนี้ ในใต้ หล้าไพศาลถือเป็ นเรื่องต้องห้ามใหญ่บนภูเขามาโดยตลอด ขอแค่มี หลักฐานแน่นหนาก็สามารถเอาผิดได้ ฉีกหน้าแตกหักลงไม้ลงมือกัน อย่างรุนแรงก็ล้วนถือว่ามีเหตุผล
รอกระทั่งหลัวฟู่ เม่ยลุกขึ้นยืน ชายชราผู้นั้นก็รีบนั่งลงทันใด หญิงชราผู้คุมกฏโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด และยังมีจิ้งจอกหนุ่มที่ทา หน้าที่ลงทัณฑ์ผู้นั้นที่วางเหล็กนาบลงไปในกระถางไฟทันที
หลัวฟู่ เม่ยเดินไปนั่งยองข้างกระถางไฟ ยื่นมือไปคล้ายจะอังไฟ หาความอบอุ่น เงยหน้ามองไปยังสตรีที่ถูกตอกตรึงอยู่บนกาแพง ถู มือเบาๆ เอ่ยเสียงอ่อนโยนว่า “พี่สาวคนดีของข้าหนอ เดิมทีเจ้าก็เป็ น หญิงงามเพียบพร ้อม ไฉนถึงเดินเส้นทางโจรโดยไม่คิดเสียดายชีวิต ตัวเอง ลาบากฝึกตนจนได้ตั้งขอบเขตถ้าสถิตเชียวนะ ไม่รู ้จักทะนุ ถนอมเห็นค่าเสียบ้างเลย ดันหลอกลวงอาจารย์ลบล้างบรรพชน เดือดร ้อนคนหมู่มาก อาจารย์ของเจ้า ศิษย์พี่ศิษย์น้องหญิงของเจ้า และยังมีคนที่ปกป้ องมรรคาให้เจ้าคราวก่อน สรุปก็คือพวกเขาใครก็ อย่าหวังว่าจะหนีรอดไปได้ โดยเฉพาะอาจารย์ของเจ้าที่ชอบนินทา ด่าข้าลับหลังด้วยถ้อยค าไม่น่าฟัง ทาไมถึงจะไม่เข้าใจเรื่องบนเตียง เล่า ข้าไม่เคยกินเนื้อหมูแล้วจะยังไม่เคยเห็นหมูวิ่งมาก่อนอีกหรือ ทั้ง ฟังทั้งดูอย่างละเอียด ตั้งใจเรียนมากเลยล่ะ”
น้าเสียงแหบพร่าของสตรีดังผะแผ่ว น่าเสียดายที่ฟังไม่ชัด ไม่ว่า ใครก็ไม่รู ้ว่านางพูดอะไร แต่เนื้อหานั้นเคาได้ง่ายมาก ก็หนีไม่พ้น ขอร ้องหลัวฟู่ เม่ยว่าอย่าให้คนอื่นต้องเดือดร ้อนไปด้วย
หลัวฟู่ เม่ยลุกขึ้นยืน เดินมาหยุดอยู่เบื้องหน้าซ่งเจียซู ยกเท้าข้าง หนึ่งขึ้นเตะลงบนรองเท้าปักลายที่ถูกเลือดสดอาบย้อมจนเป็ นสีแดง ฉานของฝ่ายหลังเบาๆ หลัวฟู่ เม่ยยกมือข้างหนึ่งขึ้น งอนิ้วลงแล้วส่าย เบาๆ จากนั้นยื่นมืออีกข้างออกไป ใช ้สองนิ้วขยับเปลือกตาของสตรี ที่น่าสงสารขึ้น หลัวฟู่ เม่ยเขย่งปลายเท้า พูดกลั้วหัวเราะเสียง อ่อนหวานว่า “ลืมตามองดูสิ สีทาเล็บของข้าเป็ นสีเดียวกับรองเท้าปัก ลายของเจ้าเลย รอก่อนเถอะ เดี๋ยวคนรักของเจ้าคนนั้นก็จะได้เห็น เหมือนกัน ถึงเวลานั้นข้าจะเอารองเท้าปักลายคู่นี้ของเจ้าไปให้เขาดู พอเขาได้เห็นแล้วก็จะค่อยๆ ถลกหนังของเขาออกมาทีละนิด เริ่มฉีก มาจากตรงหว่างคิ้วแล้วพลิกตัวเขากลับ ฉีกอ้อมไปจนถึงแผ่นหลัง กระทั่งไปถึงก้นขาวราวหิมะของเขาแล้วค่อยแยกทาง เอาสองมือฉีก ออกให้กว้าง แล้วค่อยหยุด ถามเขาว่าเจ็บหรือไม่….”
“ข้าแค่ค่อนข้างใคร่รู ้ว่า เจ้าคนที่หลอกเอาเรือนร่างเจ้า ไม่ว่าจะ บอกรักเจ้าเบื้องหน้าบุปผาใต้แสงจันทร ์ก็ดี หรือโรมรันกับเจ้าบน เตียงก็ช่าง เขาให้คาสาบานรักตราบชั่วฟ้ าดินสลายกับเจ้าไว้อย่างไร ข้าเดาว่าบุรุษผู้นั้นคงจะใช ้สายตาที่เปี่ ยมไปด้วยอารมณ์รักและ น้าเสียงหนักแน่น บอกกับเจ้าว่าต้องมีชีวิตรอดทรยศออกไปจาก
แคว้นหูให้ได้ ไปหลบอยู่ที่พรรคหูซาน ผูกสมัครเป็ นคู่บ าเพ็ญเพียร กัน อยู่ด้วยกันไปจนผมขาว จับมือฝึกตนไปด้วยกันสินะ?”
“ใช่แล้ว เจ้าคือภูตจิ้งจอกที่เชี่ยวชาญสายประคับประคองมังกร ที่สุดในแคว้นหูของพวกเรา สิ่งที่เจ้าแพร่งพรายออกไปก็คือตาราลับ เล่มนี้ ใช่แล้ว เจ้าเกิดมาก็ควรไปพลิกเมฆพลิกฝนอยู่บนเตียงมังกร มากกว่า ถ้าอย่างนั้นเขาก็คงจะช่วยเปลี่ยนโฉมหน้าให้เจ้าสินะ? ส่ง ตัวเจ้าไปเป็ นสนมอยู่ในวังของแคว้นซ่งไล่ รักใคร่อยู่กับฮ่องเต้ที่ทุก วันนี้ยังหนุ่มแน่นทั้งเช ้าค่า บิดกายเหมือนมังกรขดตัว? อุ้มท้องบุตร มังกร? เป็ นฮองเฮา? เพียงแค่นอนกับบุรุษขอบเขตก็ทะยานได้ตลอด ทาง บางครั้งเหนื่อยแล้วก็ให้บุรุษมานอนทับบนร่างเจ้า ขยับเล็กน้อย หวดตีให้แรง เสียงหอบครวญคราง อยากพูดแต่พูดไม่ออก ท าสีหน้า เหมือนร่าไห้เหมือนฟ้ อง บอกว่าอย่าได้ถนอมหม่อมฉันหรือจะแสร ้ง ท าเป็ นเปิดปากขอร ้องดีล่ะ?”
ระหว่างที่พูดหลัวฟู่ เม่ยก็ไม่ได้อยู่นิ่งเฉย เห็นเพียงว่านางใช ้เล็บ ฉีกรอยแผลเล็กๆ มากมายบนร่างของซ่งเจียซูให้แหกกว้างมาก กว่าเดิมด้วยท่วงท่าอ่อนโยน
สตรีที่ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบเลือดขยับริมฝีปากเล็กน้อย แต่ กลับถูกหลัวฟู่ เม่ยยื่นมือมาอุดปากไว้ ยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “ช ้าไปแล้ว พูด หรือไม่พูด ส าคัญหรือ? ถึงอย่างไรบุรุษคนนั้นก็ต้องตาย ก่อนจะตาย ข้ายังต้องทวงเอาเวทลับบทหนึ่งคืนมาจากพรรคหูซานถึงจะถือว่าไม่ ขาดทุน”
สตรีที่มีฉายาว่าอวี่เตี้ยวผู้นี้ เวลานี้สายตาฉายประกายร ้อนแรง “หากเพิ่มตาราให้กับแคว้นหูได้อีกสองเล่มก็ได้ก าไรแล้ว”
หญิงชราลังเลเล็กน้อย ก่อนเอ่ยว่า “ขอแค่ช่งเจียซูยินดีเปิดปาก ไม่แน่ว่าอาจจะได้ข้อมูลมากกว่าเดิม”
หลัวฟู่ เม่ยหันหน้ากลับมาตวาดอย่างเดือดดาล ใบหน้าเต็มไป ด้วยความดุร ้าย “หญิงแก่ไร ้ประโยชน์อย่างเจ้าก็กล้าสอนข้าว่าควร ท าอย่างไรด้วยหรือ…”
เพียงแต่ว่าพริบตานั้นหลัวฟู่ เม่ยก็หยุดพูดทันใด หน้าซีดขาวราว กับหิมะ อยู่ดีๆ ก็ตัวสั่นเทิ้มอย่างไม่ทราบสาเหตุ
ที่แท้ด้านนอกราวรั้วที่ทาไว้เป็ นเครื่องประดับของคุกก็มีบุรุษคน หนึ่งยืนเอาสองมือสอดกันไว้ในชายแขนเสื้อ มองมาทางนางด้วย ใบหน้าประดับยิ้ม
ทุกคนมองตามสายตาของหลัวฟู่ เม่ยไปก็เห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญ คนนั้น เด็กสาวชิวชิงเองก็หน้าซีดขาวไร ้สีเลือดไม่ต่างกัน
สวมชุดคลุมตัวยาวสีขาวหิมะ ปักปิ่นสีทองบนมวยผม
บุรุษยื่นมือออกมาจากชายแขนเสื้อ ผายฝ่ ามือมาทางหลัวฟู่ เม่ย ยิ้มบางๆ พูดด้วยน้าเสียงอ่อนโยน “ข้าก็แค่มาชมเรื่องสนุกเท่านั้น มา ดูว่าแคว้นหูใช ้กฎบ้านกันอย่างไร เชิญเจ้าต่อได้เลย”
หลัวฟู่ เม่ยหมุนตัวที่แข็งที่อกลับมา หันหน้ามาหาบุรุษคนนั้น ไม่ พูดพร่าทาเพลงก็คุกเข่าลงทันที ขณะเดียวกันก็ใช ้เสียงในใจเตือน ศิษย์น้องหญิง “ชิวชิง! ไม่อยากตายก็รีบคุกเข่าลงซะ!”
ชิวชิงรีบคุกเข่าตามศิษย์พี่หญิงทันใด
“เฉินผิงอัน” ที่เปลี่ยนจากชุดเขียวมาเป็ นชุดขาวไม่สนใจหลัวฟู่ เม่ยกับชิวชิง เพียงแค่มองไปทางสตรีที่อยู่บนกาแพง ถามว่า “อยาก รอดไหม?”
สตรีส่ายหน้าเบาๆ
เฉินผิงอันถาม “อยากตาย? แต่เปลี่ยนให้คนอื่นไม่ต้องเดือดร ้อน ไปด้วย?”
นางพยักหน้าอย่างอ่อนแรง
เฉินผิงอันกล่าวอีกว่า “ถ้าอย่างนั้นให้ข้าช่วยเจ้า?”
สตรีพยักหน้าอีกครั้ง นางพูดไม่ออกแล้ว แต่ดวงตาที่น้าตาเป็ น สายเลือดหลั่งลงมาสองสายของนางกลับเอาแต่มองบุรุษประหลาดที่ นางไม่รู ้เลยว่าเป็ นใครผู้นั้น
ในสายตาของเฉินผิงอันคนนี้ สตรีที่ลมหายใจรวยรินไม่มีพลัง ชีวิตเหลืออยู่แล้ว ปราณวิญญาณแตกซ่านหม่นหมองไร ้แสง ทว่า นาทีนี้ กลับมีเพียงเขาที่มองเห็นแสงสว่างเจิดจ้าราวกับทวยเทพ
เฉินผิงอันพยักหน้ายิ้มเอ่ย “ที่แท้ก็เป็ นเจ้านี่เอง เดิมทีนึกว่าจะ เป็ นชิวชิง ชิวชิงชิวชิง ชิงชิวชิงชิวไงล่ะ ช่างเถอะ ต่อให้ไม่ใช่เจ้าก็ ต้องเป็ นเจ้าแล้ว นับแต่นี้ไป เจ้าเปลี่ยนฉายาใหม่ให้ชื่อว่าชุ่ยป๋ าย หากเพราะเรื่องนี้ทาให้ชุ่ยป๋ ายที่แท้จริงไม่ปรากฏตัวในแคว้นหูอีกแล้ว ถ้าอย่างนั้นนางก็ไม่คู่ควรกับฉายานี้”
ยื่นมือออกไป สองนิ้วของเฉินผิงอันคว้าจับเส้นด้ายสีทองเส้น หนึ่งเอาไว้แล้วกระตุกเบาๆ จริงดังคาด อีกด้านหนึ่งของเส้นด้ายเส้น ยาวนี้มีสองคาว่าเกาจวิน “ตกลงมา”
อันที่จริงซ่งเจียซูไม่ได้มีชายคนรักอะไรทั้งนั้น ปี นั้นนางก็แค่ ออกไปหาประสบการณ์แล้วได้เจอกับเกาจวินระหว่างทาง บางทีอาจ คุยกันแค่ไม่กี่ประโยค เกาจวินชี้แนะนางสองสามคา นางเลื่อมใสเจ้า ประมุขพรรคหูซานจึงยินดีเป็ นฝ่ ายแพร่งพรายเรื่องวงในของแคว้นหู ให้พรรคหูซานทราบ
แต่ก็ถือว่าเป็ น “ชายคนรัก’ ได้เหมือนกันกระมัง?