กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 1081.4 ตำรำครึ่งเล่มแห่งโลกมนุษย์
สำหรับเรื่องนี้หลิ่วชื่อเฉิงไม่ได้ยอกแสลงใจใดๆ เพรำะถึงอย่ำงไร ก็เป็ นลูกศิษย์ผู้สืบทอดของศิษย์พี่ หำกไม่เย่อหยิ่งต่ำงหำกที่จะทำให้ คนเป็ นอำจำรย์อำอย่ำงเขำผิดหวังเป็ นทบทวี ที่พวกเขำเป็ นอยู่ในทุก วันนี้ก็ดีมำกแล้ว
ปิดประตูลง แม้จะไม่เห็นตนอยู่ในสำยตำ แต่จะถือเป็ นอะไรได้ ออกจำกบ้ำนไปอยู่ข้ำงนอก ข้ำหลิ่วชื่อเฉิงก็ยังเป็ นอำจำรย์อำของ พวกเจ้ำนี่นำ
ฝนเม็ดเล็กพร่ำงพรมลงมำ สำยฝนบำงเบำขมุกขมัว เฉินผิงอัน ไปส่งหลิ่วชื่อเฉิงถึงแค่หน้ำประตูเรือนเท่ำนั้น
หลิ่วชื่อเฉิงจะไปหำพวกสหำยที่มำเยือนด้วยควำมตื่นเต้นฮึกเหิม และกลับไปพร ้อมควำมพึงพอใจกลุ่มนั้น ไม่ว่ำจะอย่ำงไรก็ถือว่ำวันนี้ เฉินผิงอันให้หน้ำตนอย่ำงเต็มที่แล้ว
เฉินผิงอันยิ้มบำงๆ เอ่ยว่ำ “ลมและฝนกว้ำงไกลสุดลูกหูลูกตำ สหำยโปรดถนอมตัวด้วย”
ต่อให้หลิ่วชื่อเฉิงจะโง่แค่ไหนก็ยังรู ้ดีว่ำประโยคนี้ไม่ใช่แค่พูดกับ ตนเท่ำนั้น
่
ดังนั้นหลิ่วชื่อเฉิงจึงคำรวะตำมขนบลัทธิเต๋ำด้วยท่ำทำงเคร่งขรึม พูดด้วยสีหน้ำจริงจังว่ำ “เฉินผิงอัน พวกเรำต่ำงก็ถนอมตัว”
เฉินผิงอันรีบฉวยโอกำสตีเหล็กตอนที่ยังร ้อน “ในเมื่อเป็ นสหำย ที่สำมำรถเรียกชื่อกันตรงๆ ได้แล้ว”
หลิ่วชื่อเฉิงหัวเรำะฮ่ำๆ “ถ้ำอย่ำงนั้นก็อย่ำพูดถึงเรื่องเงินทองกัน
อีกเลย จะท ำร ้ำยควำมรู ้สึกเอำได้!”
อ่ำนตำรำโดยไม่รู ้ตัวเลยว่ำใบไม้ผลิเริ่มเข้มข้น เรือนหลังหนึ่งที่เงียบเหงำในภูเขำ แต่กลับไม่วิเวกวังเวง
สตรีในห้องส่วนตัวไม่รู ้ถึงควำมกลัดกลุ้ม ใช ้หวีมรกตมวยผม เป็ นทรงก้นหอย
บรรพจำรย์ผู้คุมกฏของภูเขำลั่วพั่วยำมอยู่ข้ำงนอกและอยู่ใน บ้ำนของตัวเอง เหมือนเป็ นคนละคน
เวลำนี้ข้ำงมือของผู้คุมกฏฉำงมิ่งวำงนิยำยเอำไว้หลำยเล่ม แม้ว่ำ จะเป็ นนิยำยรักเบื้องหน้ำบุปผำใต้เงำจันทร ์และนิยำยบุรุษมำก ควำมสำมำรถกับโฉมสะครำญเหมือนกัน แต่ถึงอย่ำงไรเนื้อหำก็ไม่ เหมือนนิยำยที่พวกเจิ้งต้ำเฟิง นักพรตเซียนเว่ยอ่ำนกัน
นำงในเวลำนี้ยิ้มตำหยี ท่วงท่ำผ่อนคลำยสบำยอำรมณ์ กำลังชม บุปผำในคันฉ่องจันทรำในสำยน้ำของพรรคเล็กแห่งหนึ่ง บนโต๊ะคือ
่
กล่องอำหำรที่เปิดอ้ำ แต่ละช่องแบ่งขนมของกินเล่นและผลไม้เชื่อม ต่ำงชนิดแยกจำกกัน
นำงไม่ชอบเดินออกจำกบ้ำนไปพูดคุยกับใคร แล้วก็ดูเหมือนว่ำ จะไม่มีใครชอบแวะเวียนมำหำนำงด้วย นี่ไม่มีอะไรที่ไม่ดี นำงมี ควำมสุขกับควำมสงบและควำมอิสระนี้ ถึงอย่ำงไรก็ไม่จำเป็ นต้องฝึก
ตน แค่ใช ้เวลำว่ำงให้หมดไปก็พอ
กำรรวมตัวกันที่ลำนกว้ำงของยอดเขำจี้เซ่อก่อนหน้ำนั้น ยำมที่ เด็กชำยผมขำวจรดพู่กันวำดภำพแรก อันที่จริงสือโหรวตัวแทนเถ้ำ แก่ของตรอกฉีหลง ลูกศิษย์สองคนของเทพเซียนผู้เฒ่ำเจี่ยแห่งร ้ำน ฉ่ำวโฉว หลินเฟยจิง หรือแม้กระทั่งพวกป๋ ำยเติงต่ำงก็ได้รับกำรแจ้ง เตือน พวกเขำพำกันเดินทำงมำที่ยอดเขำจี้เซ่อโดยที่ไม่ได้ตกหล่น ใครไปแม้แต่คนเดียว ดูเหมือนว่ำต่ำงก็ต้องถูกวำดลงไปในภำพเพื่อ เก็บไว้เป็ นที่ระลึก แรกเริ่มฉำงมิ่งยังไม่รู ้ควำมตั้งใจของคุณชำยบ้ำน ตน เพียงแต่ว่ำพอนำงมองเห็นเด็กชำยชุดเขียวที่ยิ้มหน้ำทะเล้นกับ เด็กหญิงชุดกระโปรงชมพูที่ยืนหน้ำเคร่งอยู่ข้ำงกำยเขำ แล้วพอ เคลื่อนสำยตำมองไปยังร่ำงของคนบำงคนที่ไม่สะดุดตำที่สุด ฉำงมิ่งก็ เข้ำใจได้ในฉับพลัน
คือบุรุษวัยกลำงคนที่ทั้งไม่ใช่ผู้ฝึกลมปรำณแล้วก็ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ เต็มตัว เขำมำจำกกำแพงเมืองปรำณกระบี่ ตอนที่เพิ่งมำถึงภูเขำลั่ว พั่ว เขำยังเป็ นเด็กหนุ่ม เป็ นคนวัยเดียวกันกับคนร่วมบ้ำนเกิดอย่ำง เจี่ยงชวี่
่
ทว่ำทุกวันนี้จำงเจียเจินกลับมีผมขำวแซมตรงจอนหูสองข้ำงแล้ว
เด็กหนุ่มไม่ได้มีอำยุน้อยอีกแล้ว
กำรมำรวมตัวกันในทุกครั้งซึ่งอำจจะได้กลับมำพบเจอกันอีกครั้ง ล้วนคือเครื่องหมำยวรรคตอน แต่อย่ำลืมล่ะว่ำกำรกลับมำรวมตัวกัน ในทุกครั้ง ถึงอย่ำงไรก็มีแค่เครื่องหมำยวรรคตอน
หำกจะบอกว่ำบนเส้นทำงของชีวิตคนก็คือกำรพบพรำกและกำร จำกลำครั้งแล้วครั้งเล่ำ ถ้ำอย่ำงนั้นยิ่งเป็ นผู้ฝึกบำเพ็ญตนที่ยิ่งประสบ ผลสำเร็จในกำรฝึ กตน ก็จะยิ่งได้พบเจอกับกำรแยกจำกและกำร ไม่ได้พบเจอกันอีกมำกขึ้นเท่ำนั้น
หรือยกตัวอย่ำงเช่นตอนนั้นเจิ้งต้ำเฟิงเอำมือวำงพำดไว้บนไหล่ ของจ้ำวซู่เซี่ย จูเหลี่ยนที่ในบำงควำมหมำยอำยุแท้จริงคือเจ็ดสิบปี แล้วก็ได้ยืนอยู่ตำแหน่งด้ำนข้ำงที่สุด
ต่งสุ่ยจิ่ง ตอนที่อำยุยังน้อยเคยเปิดร ้ำนขำยเกี๊ยวน้ำข้ำงเส้นทำง เทพในภูเขำที่ผู้คนเดินขึ้นไปจุดธูป เกรงว่ำพูดออกไปคงไม่มีใครเชื่อ
อุตส่ำห์มีสหำยมำเยี่ยมหำทั้งทีจึงเข้ำครัวท ำอำหำรด้วยตัวเอง ทุกครั้งที่ต่งสุ่ยจิ่งมีเวลำว่ำงก็มักจะมำที่นี่เสมอ เขำจะเลือกช่วงเวลำ กลำงดึกที่ผู้คนนอนหลับกันหมดแล้ว ปิ ดประตูลงต้มเกี๊ยวน้ำให้ ตัวเองหนึ่งชำม
่
ครั้งนี้นัดหมำยคู่ค้ำที่คุ้นเคยกันมำหลำยคน ชำยสำมหญิงสอง ล้วนเป็ นคนรุ่นเยำว์อย่ำงน้อยที่สุดหน้ำตำก็เป็ นเช่นนี้ เป็ นผู้ฝึ ก ลมปรำณ แล้วก็ถือว่ำเป็ นคนรุ่นเยำว์ของบนภูเขำด้วย
เมื่อสำมสิบปีก่อน พวกเขำทุกคนซึ่งรวมถึงต่งสุ่ยจิ่งต่ำงก็ไม่ได้มี กำลังทรัพย์อย่ำงในทุกวันนี้
ล้วนเป็ นช่องว่ำงที่ตระกูลผู้มีอำนำจของต้ำหลีหรือไม่ก็จวนเซียน อันดับหนึ่งบนภูเขำแอบย้ำยออกไป หนีไปจำกแจกันสมบัติทวีปทิ้ง เอำไว้ คนรุ่นเยำว์ทั้งหลำยที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะบ้ำงก็เป็ นตระกูลลับหลัง ของพวกเขำที่ฉวยโอกำสมำเสริมช่องว่ำงที่ว่ำนี้
หำกฝ่ ำยแรกคิดจะหวนกลับมำอีกก็ต้องมำแย่งพื้นที่อิทธิพลกับ “คนรุ่นหลังที่โดดเด่น” อย่ำงพวกเขำ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ำยขนำดนั้น
คนหนุ่มผู้หนึ่งที่มีลักษณะเหมือนคุณชำยผู้สูงศักดิ์ไม่ปกปิดสี หน้ำดูแคลนของตัวเองแม้แต่น้อย พูดด้วยสีหน้ำเย้ยหยันว่ำ “ม้ำที่ดี ไม่กินหญ้ำที่เคยเดินผ่ำน พวกเขำยังมีหน้ำกลับมำที่แจกันสมบัติ ทวีปอีกหรือ พี่ต่ง ทำงฝั่งต้ำหลีของพวกเจ้ำว่ำอย่ำงไร คงไม่ใช่ว่ำทำ กำรค้ำก็พูดภำษำกำรค้ำ ทุกเรื่องล้วนปรึกษำกันได้ง่ำยหรอกนะ?”
ต่งสุ่ยจิ่งกล่ำว “ไม่มีทำงให้ใครได้เปิดปำกพูด อย่ำงน้อยที่สุด ตอนนี้ก็เป็ นเช่นนี้”
หญิงสำวคนหนึ่งยื่นมือมำโบกไอร ้อนที่ลอยกรุ่นเหนือชำมเบำๆ “ได้ยินมำว่ำพวกเขำต่ำงก็หำที่ลงหลักปักฐำนแถวแคว้นต่ำงๆ ทำง
่
ทิศใต้ เอำงิ้วเรื่องเดิมมำเล่นซ้ำอีกครั้ง ประคับประคองสนับสนุนหุ่น เชิดทั้งบนและล่ำงภูเขำ พยำยำมจะหยัดยืนให้มั่นคง จำกนั้นค่อยมำ ต่อรองรำคำกับสกุลซ่งต้ำหลี?”
บุรุษที่นั่งอยู่บนม้ำนั่งยำวตัวเดียวกับนำงกินเกี๊ยวน้ำคำใหญ่ พูด เสียงอู้อี้ฟังไม่ชัดว่ำ “เห็นท่ำไม่ดีก็เผ่นหนี มีโอกำสให้ฉกฉวยก็หวน กลับมำ ไม่มีอะไรน่ำแปลกใจหรอก ต่อให้สกุลซ่งต้ำหลีสูญเสีย แผ่นดินไปครึ่งหนึ่ง ต่อให้ตอนนี้ยังไม่มีรำชครูคนใหม่ ก็ไม่ใช่ว่ำพวก ตะพำบกลุ่มนี้จะมำงัดข้อด้วยได้ หำกเปลี่ยนข้ำที่เป็ นรำชครูคนใหม่ เรื่องแรกที่จะทำหลังจำกขึ้นตำแหน่งก็คือขับไล่พวกเขำออกไปจำก แจกันสมบัติทวีปให้หมด”
แล้วก็มีคนขัดคอขึ้นมำทันใด “เจ้ำก็ไปเป็ นรำชครูต้ำหลีเสียสิ”
บุรุษมองค้อน “เจ้ำขุนเขำเฉินยังไม่เป็ นเลย แล้วข้ำจะไปเป็ นกะ ผำยลมอะไร”
“พี่ใหญ่ต่ง ขออีกชำมสิ มีผักชีไหม?”
“ข้ำไม่ใส่ผักชี ทนรับกลิ่นนั้นไม่ไหวจริงๆ ต่งครึ่งเมือง ขอ น้ำส้มสำยชูขวดหนึ่ง หำกรสไม่เปรี้ยวก็รู ้สึกแปลกๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว นัก”
“พูดไปพูดมำก็ยังเป็ นเพรำะต ำแหน่งรำชครูต้ำหลีถูกปล่อยว่ำง มำโดยตลอด บนภูเขำและล่ำงภูเขำของหลำยแคว้นทำงใต้ถึงได้กล้ำ กระโดดโลดเต้นกันแบบนี้”
่
“ใช่แล้ว ได้ยินมำว่ำศำลเทพวำรีของแม่น้ำเถี่ยฝูมีคนที่มำขอ เรื่องควำมรักไม่ขำดสำยพี่ต่ง ที่นั่นศักดิ์สิทธิ์ขนำดนั้นจริงๆ หรือ? ได้ ยินมำว่ำก็เหมือนศำลเทพวำรีลำคลองม่ำยเหอใบถงทวีปที่พอมีคน ไปขอลูกที่นั่นจะศักดิ์สิทธิ์มำก ข้ำมีสหำยสองคนที่ตั้งใจไปที่รำช สำนักต้ำเฉวียนโดยเฉพำะ ศักดิ์สิทธิ์มำกเลยล่ะ!”
ต่งสุ่ยจิ่งยกชำมออกมำจำกห้องครัวแล้วเพิ่มผักชีลงไป แล้วยัง หยิบน้ำส้มสำยชูขวดหนึ่งมำวำงบนโต๊ะ “ไม่เคยไป ไม่รู ้ว่ำศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ อีกอย่ำงหยำงฮวำอดีตเทพวำรีแม่น้ำเถี่ยฝูก็ได้เลื่อนขั้นเป็ น กงโหวแห่งลำน้ำใหญ่แล้ว รับหน้ำที่เป็ นสุ่ยเสิน ตำแหน่งเทพคืออะไร ใครจะไปรู ้ได้”
หลินโส่วอีกลับเหมือนกลำยเป็ นคนนอก
เป็ นขอบเขตหยกดิบแล้ว แล้วยังเคยรับหน้ำที่เป็ นคนเฝ้ ำศำล ของรำชส ำนักต้ำหลีมำก่อน
ตัวเมืองของจังหวัดฉู่โจว ถนนและตลำดกำรค้ำตั้งเรียงรำย แสง ไฟสว่ำงไสวรำวกับเวลำกลำงวัน ควำมเจริญรุ่งเรืองและโอ่อ่ำหรูหรำ ถือเป็ นหนึ่งของครึ่งทวีป
ในภูเขำแห่งนี้มีศำลเทพภูเขำอยู่แห่งหนึ่งที่ควันธูปโชติช่วง ควัน ธูปโขมงกลุ่มหนำทึบจำกชำวบ้ำนทั่วสำรทิศ ผู้คนจำกสี่ด้ำนแปดทิศ หลั่งไหลเข้ำมำกรำบไหว้ไม่ขำดสำย
่
“ต่งสุ่ยจิ่ง เจ้ำสนิทกับเจ้ำขุนเขำเฉินมำกหรือไม่? ช่วยแนะน ำให้ หน่อยได้ไหม? ในตระกูลข้ำมีพี่สำวอยู่คนหนึ่ง วันๆ นำงเอำแต่จ้อง มองจนตำแทบหลุดออกจำกเบ้ำ รอคอยให้ภูเขำลั่วพั่วเปิดบุปผำใน คันฉ่องจันทรำในสำยน้ำ”
“พี่ต่ง พี่ต่ง เจ้ำก็รู ้ว่ำข้ำคนนี้ไม่เคยร ้องขออะไร แต่มีเรื่องหนึ่งที่ ต้องขอร ้องเจ้ำจริงๆ ต้องพำข้ำขึ้นไปบนภูเขำลั่วพั่วสักรอบนะ ข้ำมี ภำรกิจติดตัวมำด้วย! ศิษย์พี่หญิงของข้ำคนนั้นนำงเสียสติไปแล้ว ได้ ยินว่ำข้ำจะมำรำชสำนักต้ำหลี แล้วจะผ่ำนทำงมำเจอสหำยที่ฉู่โจวก็ ดึงดันจะให้ข้ำไปขอผลงำนน้ำหมึกจำกอิ่นกวำนหนุ่มให้จงได้ ขนำด บันทึกขุนเขำสำยน้ำที่เขียนเรื่องควำมเจ้ำสำรำญของเขำตอนเป็ น เด็กหนุ่มก็ยังพกมำด้วย…”
ต่งสุ่ยจิ่งได้ยินมำถึงตรงนี้ก็เอ่ยอย่ำงไม่สบอำรมณ์ว่ำ “แนะนำเจ้ำ ว่ำอย่ำไปพูดเรื่องนี้กับเฉินผิงอันเด็ดขำด”
หลินโส่วอียิ้มอย่ำงรู ้ทันกัน นี่เป็ นเรื่องจริง เพรำะหำกพูดเรื่องนี้ก็ ไม่เท่ำกับว่ำไปรนหำที่โดนซ ้อมถึงที่หรอกหรือ
ลมภูเขำพัดโชยมำเป็ นระลอก ร ้อยช่องโพรงในร่ำงเย็นสบำย เกี๊ยวน้ำหนึ่งชำมทำให้หัวใจและลำไส้ร ้อนวำบ
คนหนุ่มผู้หนึ่งดื่มเหล้ำไปแล้วก็ใช ้ตะเกียบเคำะชำม ร ้องเพลง ด้วยน้ำเสียงแฟบพร่ำ “ท่ำนไม่เห็นยำมที่ผู้กล้ำทุกข์ระทม ภูเขำ
่
สำยน้ำพังภินท์ลมพัดฝ้ ำยปลิวปรำย ทุกคนที่เคยนั่งอยู่ตรงนี้ในอดีต ล้วนคือวีรบุรุษ”
สตรีคนหนึ่งยื่นมือไปตบโต๊ะเบำๆ ร ้องคลอไปว่ำ “ท่ำนไม่เห็น ยำมที่วีรบุรุษตกอับท้อแท้ ม้ำผอมเหมือนท่อนฟืนขำยดำบวิเศษ วันนี้ ภำคภูมิใจฮึกเหิมเปี่ยมด้วยพลัง”
“ท่ำนไม่เห็นยำมสำวงำมอ่อนล้ำที่จะประทินโฉม เส้นผมขำว เหมือนหิมะเกลียดชังคันฉ่อง เสียใจที่ไม่ได้แต่งกับจ้วงหยวนหลำงแต่ กลำยเป็ นภรรยำพ่อค้ำ”
“ท่ำนไม่เห็นเสื้อเกรำะเหล็กของแม่ทัพผู้เฒ่ำส่งเสียงดุจมังกร ค ำรำม เว้นเสียจำกยำมฝันวสันต์ได้หวนย้อนกลับไปเป็ นเด็กหนุ่มอีก ครำ ยินดีน ำคุณควำมชอบด้ำนกำรสู้รบแลกเปลี่ยนมำเป็ นควำมอ่อน เยำว์”
จงเชี่ยนทนอยู่ในพื้นที่มงคลไม่ไหวจึงรีบกลับมำที่ภูเขำลั่วพั่ว พอมำถึงบนภูเขำก็ไปขออำหำรมื้อดึกกินที่บ้ำนของจูเหลี่ยนทันที
นำเรื่องรำวที่จะพูดคุยบนโต๊ะสุรำกลับมำด้วยกัน
กำรประชุมที่ถูกขนำนนำมให้เป็ นสุดยอดแห่งโลกมนุษย์ที่ อำรำมต้ำสู่ทะเลสำบชิวชี่ สมำชิกที่มีคุณสมบัติจะได้เข้ำร่วมกำร ประชุม ภำยหลังต่ำงก็กลับบ้ำนใครบ้ำนมัน ไม่มีใครกล้ำแพร่งพรำย เรื่องวงในใดๆ ออกไป
่
ทว่ำนอกจำกที่แต่ละคนจะเคำรพกฎเพื่อไม่ให้กระทบต่อควำม สง่ำงำมแล้ว ก็ยังมีคำกล่ำวที่ไม่ส่งผลกระทบต่อรสนิยมอันดีงำมเพิ่ม เข้ำมำ แพร่หลำยในยุทธภพกลำยเป็ นวลีติดปำกผู้คน
“จอมยุทธหนุ่มน้อยโปรดชักดำบ” “บนภูเขำใช ้คำถำเซียนใน กำรประลอง ผู้ที่มรรคำสูงสำมำรถเอ่ยเพิ่มหลังจบเรื่องได้ว่ำล่วงเกิน
แล้ว
“มือกระบี่เจอกับเซียนกระบี่ เฉำนี่แม้จะพ่ำยแพ้แต่ก็แพ้อย่ำง สมเกียรติ” “ใครบำงคนหลับไปตื่นหนึ่ง พอตื่นขึ้นมำอีกครั้งก็ กลำยเป็ นคนที่ให้ควำมสำคัญกับมำรยำทในยุทธภพมำกที่สุด
จูเหลี่ยน เจิ้งต้ำเฟิง เจียงซ่ำงเจิน
ชำยโสดสำมคนมำรวมตัวพูดคุยกัน ต่อให้เฉินผิงอันเดินมำถึง หน้ำประตูแล้วก็จะไม่ยอมเข้ำไป
เฉินหลิงจวินกำลังคิดว่ำควรจะเข้ำไปท่องเที่ยวในพื้นที่มงคลรำก บัวตอนไหนดี รู ้สึกว่ำควรจะสำนสัมพันธ ์กับจงเชี่ยนให้ดี จึงวิ่ง ตุปัดตุเป๋ มำดื่มสุรำคำรวะให้กับ “จงที่หนึ่ง” ที่นี่
เจียงซ่ำงเจินถูกชะตำกับบุคคลอันดับหนึ่งบนวิถีวรยุทธของใต้ หล้ำพื้นที่มงคลผู้นี้อย่ำงมำก โดยเฉพำะอย่ำงยิ่งคำพูดจำกใจจริง สองประโยคของจงเชี่ยนที่พูดโดนใจโจวอันดับหนึ่งจริงๆ
ควำมรู ้สึกถูกท ำร ้ำยยำกจะประสำน เสพติดต ำรำไร ้หนทำงให้ เยียวยำ
่
อะไรที่เรียกว่ำอดทนให้แต่ละวันผ่ำนพ้นไป ก็คือถุงน้ำดีขม (เปรียบเปรยถึงควำมขมขื่นทุกข์ทน ควำมเจ็บปวดภำยในใจ) แตก ไปแล้วก็ยังไม่รู ้ตัว
กินอำหำรมื้อดึกไปแล้ว เจิ้งต้ำเฟิงก็เอนกำยนอนบนเก้ำอี้หวำย อย่ำงเกียจคร ้ำน จูเหลี่ยนและเจียงซ่ำงเจินนั่งอยู่บนเก้ำอี้ไม้ไผ่ เฉิน หลิงจวินหิ้วม้ำนั่งมำนั่งอยู่ตรงกลำงระหว่ำงพวกเขำ
จงเชี่ยนเดินเรอตบหน้ำท้องออกมำ ขำดก็แค่ไม่ได้เอำไม้มำแคะ ฟันเท่ำนั้น
จูเหลี่ยนตบหัวของเด็กชำยชุดเขียวเบำๆ “เจ้ำโง่น้อย เจ้ำรอนำง อยู่ ไฉนนำงจะไม่ได้ก ำลังรอเจ้ำอยู่เหมือนกันเล่ำ พวกเจ้ำล้วนเติบ
ใหญ่กันได้แล้ว”
เฉินหลิงจวินทั้งไม่ได้หัวเรำะหน้ำทะเล้น แล้วก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร ได้แต่เงียบงันไม่พูดไม่จำ
เจียงซ่ำงเจินท ำลำยควำมเงียบด้วยกำรเปลี่ยนหัวข้อพูดคุย “ทำไมเสี่ยวโม่ถึงยังไม่กลับมำเสียที”
จูเหลี่ยนหัวเรำะ รอเขำกลับมำก็ต้องถำมเขำสักคำเหมือนกันว่ำ
“เสี่ยวโม่ เจ้ำเคยเจอแม่นำงคนใดที่โอหังอวดดีได้ยิ่งกว่ำนำง หรือไม่?”
่
เฉินผิงอันกลับมำที่ชั้นหนึ่งของเรือนไม้ไผ่ ดึกดื่นผู้คนพำกัน หลับใหล แสงจันทร ์แสงดำวบำงตำ เขำนั่งอยู่บนระเบียงไม้ไผ่เพียง ลำพัง งัวเงียจะหลับมิหลับแหล่ กึ่งหลับกึ่งตื่น
พริบตำนั้นกลุ่มภูเขำทั่วทั้งถ้ำสวรรค์หลีจูเก่ำกับเมืองเล็ก บน เส้นทำงภูเขำและบนถนนพลันเต็มไปด้วยเปลวเพลิงสีทองหลำยต่อ
หลำยเส้นประหนึ่งน้ำที่ไหลรินไม่หยุดนิ่ง
มีเพียงตรอกหนีผิงเส้นเดียวเท่ำนั้นที่ยังคงมืดมิด
หลิวเสี้ยนหยำงและกู้ช่ำนที่เดิมที่ควรกลับไปถึงสำนักกระบี่หลง เฉวียนนำนแล้ว อันที่จริงกลับพำกันมำอยู่ในบ้ำนบรรพบุรุษของเฉิน ผิงอัน หลิวเสี้ยนหยำงลืมตำก่นด่ำ กู้ช่ำนมีสีหน้ำเคร่งเครียด ไม่กล้ำ
พูดอะไร
หลิวเสี้ยนหยำงใช ้เสียงในใจตวำดอย่ำงเดือดดำล “เฉินผิงอัน!”
เฉินผิงอันที่อยู่บนภูเขำซึ่งหลับฝันไปพลันถูกปลุกให้สะดุ้งตื่น เขำลุกขึ้นนั่ง ระหว่ำงที่ยังมึนงงก็ได้ยินเสียงหลิวเสี้ยนหยำงพูดอีกว่ำ “เจ้ำโดนผีบังตำอีกแล้วหรือไร?!”
เมื่อก่อนตอนที่เป็ นลูกศิษย์เตำเผำ เจ้ำเฉินผิงอันผู้นี้มักจะฝัน ร ้ำยบ่อยๆ โดยที่ไม่รู ้ตัวหลิวเสี้ยนหยำงเขย่ำปลุกอย่ำงไรเขำก็ไม่ยอม ตื่น….จนต้องฟำดมือออกไป
่
เฉินผิงอันที่เหงื่อท่วมเต็มร่ำงสูดลมหำยใจเข้ำลึก หดย่อพื้นที่ ตรงดิ่งมำที่หน้ำประตูบ้ำนบรรพบุรุษตรอกหนีผิง ผลักประตูเปิดออก แล้วถำมว่ำ “ท ำไมพวกเจ้ำยังอยู่ที่นี่กันอีกล่ะ?”
หลิวเสี้ยนหยำงถลึงตำใส่ “กู้ช่ำนรู ้สึกว่ำเจ้ำผิดปกติ ข้ำรู ้สึกว่ำ ลำงสังหรณ์ของเขำไม่น่ำจะผิด ก็เลยย้อนกลับมำโดยไม่ได้บอกเจ้ำ
เล่ำมำสิ นี่มันเรื่องอะไรกันแน่?!”
เฉินผิงอันปิดประตูเรือน ยิ้มเงื่อนเอ่ยว่ำ “ค่อนข้ำงซับซ ้อนแล้ว โดยภำพรวมก็คือข้ำสร ้ำงเขำวงกตแห่งหนึ่งให้กับตัวเองหลำยคน แล้วให้แต่ละคนไปไขปริศนำกันเอำเอง”
ก่อนหน้ำนี้อวี๋เสวียนถำมเฉินผิงอันว่ำมีชั้นที่หกหรือไม่ ตอนนั้น เฉินผิงอันพูดเลี่ยงหนักให้เป็ นเบำ เปลี่ยนหัวข้อสนทนำไป แต่ คำตอบที่แท้จริงก็คือมี
หำกไม่เป็ นเช่นนี้ กำรเดินทำงไปเยือนแคว้นชิงหลวน พูดถึงแค่ ขบวนเล็กๆ ของหลี่เป่ำเจินกับหลิ่วซัวก็คงไม่ถึงขั้นให้เฉินผิงอันต้อง พำคนจิ๋วดอกบัวไปด้วยกัน
หลิวเสี้ยนหยำงเอ่ยอย่ำงขุ่นเคือง “หำกเดินออกมำไม่ได้จะเป็ น อย่ำงไร? ธำตุไฟเข้ำแทรกรี?!”
กู้ช่ำนนั่งแทะเมล็ดแตงอยู่บนกำแพงดินเหนียว ไม่มำร่วมวงด้วย
เพียงแต่ว่ำเปลือกเมล็ดแตงล้วนถูกกู้ช่ำนโยนเข้ำไปในลำนบ้ำน ของซ่งปันไฉที่อยู่ติดกันทั้งหมด
่
เฉินผิงอันเองก็ไม่โต้เถียง พูดเพียงว่ำไม่ถึงขนำดนั้น
ไปยกม้ำนั่งยำวในห้องมำข้ำงนอก หลิวเสี้ยนหยำงก็เดินตำมมำ ด่ำไม่เลิก รู ้สึกว่ำยังไม่หำยโมโหจึงยกมือตบลงบนหัวเฉินผิงอันติดๆ กันหลำยที
กู้ช่ำนหัวเรำะหึ
เฉินผิงอันเอ่ยอย่ำงอ่อนใจ “ไม่รู ้จักจบจักสิ้นเสียที ไม่รำคำญ บ้ำงหรือไร”
หลิวเสี้ยนหยำงยืนนิ่งไม่พูดไม่จำ
เฉินผิงอันยิ้มกล่ำว “นั่งลงแล้วค่อยด่ำดีไหม?”
หลิวเสี้ยนหยำงไม่ตอบรับ กู้ช่ำนก็ยิ้มพูดยุแยงว่ำ “เจ้ำสำนักหลิว รังเกียจที่เจ้ำเป็ นขอบเขตก่อกำเนิด ไม่มีคุณสมบัติจะนั่งทัดเทียมกับ เขำ ต้องยืนถึงจะได้สูงกว่ำคนอื่น”
เฉินผิงอันใช ้สำยตำบอกเป็ นนัยกับกู้ช่ำนว่ำอย่ำท ำเป็ นเล่นไป เรื่อย แล้วจึงหำข้ออ้ำงที่ฟังไม่ค่อยขึ้นเท่ำไรเอ่ยว่ำ “พวกเจ้ำต่ำงก็ เป็ นขอบเขตหยกดิบแล้ว ข้ำก็ต้องร ้อนใจไม่ใช่หรือ”
กู้ช่ำนเบ้ปำก แทะเมล็ดแตงหมดก็กระโดดลงจำกก ำแพงดิน เหลือง ปัดมือ เดินไปนั่งลงบนม้ำนั่งยำว
่
หลิวเสี้ยนหยำงยื่นมือมำผลักศีรษะทั้งสองออก นั่งลงตรงกลำง ของม้ำนั่ง ยกสองแขนกอดอก “ตดดังไม่เหม็น ตดเหม็นไม่ดัง อันที่ จริงเจ้ำไม่ทำให้คนวำงใจยิ่งกว่ำเจ้ำขี้มูกยึดเสียอีก”
เฉินผิงอันสอดสองมือไว้ในชำยแขนเสื้อ นั่งตัวตรง ยิ้มตำหยีเอ่ย ว่ำ “ใช่ๆๆ ด่ำได้ดี”
กู้ช่ำนสอดสองมือรองไว้ใต้ท้ำยทอย เหยียดขำสองข้ำงไป ข้ำงหน้ำ ยิ้มเอ่ยว่ำ “ด่ำได้ดีใช่ๆๆ”
หลิวเสี้ยนหยำงตีหน้ำเคร่ง แต่ก็อดไม่ไหวหลุดหัวเรำะ เอื้อมสอง มือมำกอดคอคนทั้งสอง