กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 1093.4 ประหนึ่งมังกรเดินลงน้ำ
แม้กระทั่งอำรมณ์จะก่นด่ำก็ยังไม่มีแล้ว เสิ่นเค่อหลับตำลง สตรีผู้ นั้นพูดถูกจริงๆ ด้วยเขำยืนอยู่ที่เดิม นิ่งเฉยรอควำมตำย
ในลำนกว้ำง ฮ่องเต้หญิงสกุลหม่ำที่ว่ำรำชกำรหลังม่ำนมำนำน หลำยปีก่อนจะยึดบัลลังก ์ขึ้นครองรำชย์พลันรู ้สึกปวดหัวแปลบ นำง ยื่นมือมำกุมขมับ ควำมทรงจำประหนึ่งน้ำขึ้นถำโถมซึ่งคล้ำยกับจะ เจำะหัวกะโหลกของนำงให้เป็ นรู
เจินเหรินผู้เฒ่ำยิ้มบำงๆ เอ่ยว่ำ “ตอนที่เจ้ำอำยุยี่สิบปี ก็เคย พยำยำมสุดชีวิตเพื่อเจ้ำคนนี้มำก่อน จำได้ว่ำตอนนั้นบอกกับเจ้ำว่ำ ชื่อเสียงลำภยศ ควำมร่ำรวยควำมสูงศักดิ์ล้วนเป็ นเพียงของนอกกำย น่ำเสียดำยที่พอคนบนโลกเห็นสิ่งเหล่ำนี้ก็มักจะสละชีวิตเพื่อแสวงหำ มัน พอได้มำครองอยู่ในมือกลับรู ้สึกว่ำรสชำติไม่ต่ำงจำกกำรเคี้ยว เทียน”
“ตอนนั้นเจ้ำย่อมไม่เชื่อ ตอนนี้รอกระทั่งเจ้ำได้เป็ นฮ่องเต้หญิงที่ แม้แต่ฝันเจ้ำก็ยังไม่กล้ำฝัน ขอถำมหน่อยเถิดว่ำรสชำตินี้เป็ นเช่น ไร? หำกว่ำมีโอกำสได้กลับไปเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง เจ้ำจะยังตอบตกลง ที่จะเข้ำวังมำคัดเลือกเป็ นพระสนม หรือจะติดตำมนักพรตพเนจรผู้ นั้นขึ้นเขำไปฝึกวิชำเซียนจิตใจสงบไร ้ควำมปรำรถนำ? หรือจะลอบ แต่งงำนอย่ำงลับๆ กับใครสักคน ออกจำกบ้ำนไปพเนจร สี่มหำสมุทร
ล้วนคือบ้ำน ออกท่องยุทธภพ ผดุงคุณธรรม? หรือจะเป็ นคนธรรมดำ ที่มีชีวิตสงบมั่นคง ทุกวันพอเปิดประตูบ้ำนก็แค่ใช ้ชีวิตที่เรียบง่ำย เท่ำนั้น?”
“ใช่แล้ว เป็ นฮ่องเต้มำแล้วก็ต้องอยำกเป็ นอมตะสินะ นี่ก็คือ ควำมรู ้สึกปกติทั่วไปของมนุษย์”
“ผู้ฝึกบ ำเพ็ญตน ต้องพบเจินเหริน ต้องพบเจินเหริน “ต้อง” ค ำ แรกนั้นอยู่ที่โชค “ต้อง” คำหลังนั้นอยู่ที่ตัวเอง”
คำสี่คำที่เหมือนกัน ทว่ำคำว่ำ ‘ต้อง’ กลับอ่ำนออกเสียงสอง อย่ำงไม่เหมือนกัน “ต้องที่แปลว่ำได้รับกับ ‘ต้อง’ ที่แปลว่ำต้องเป็ น อย่ำงไร
เทพเซียนผู้เฒ่ำยิ้มบำงๆ เอ่ยยว่ำ “มีคนลุ่มหลงกี่มำกน้อยที่มอง ไม่ออกว่ำชีวิตล่องลอยคล้ำยน้ำที่อยู่ใต้น้ำแข็ง”
เมื่ออักษรคำสุดท้ำยของเทพเซียนผู้เฒ่ำที่มีมำดของผู้บรรลุ ธรรมท่ำนนี้จบลง ทันใดนั้นสตรีก็คล้ำยจะมองไกลๆ ไปเห็นว่ำมีดวง จันทร ์ผุดลอยขึ้นมำจำกบนมหำสมุทร รำวกับว่ำจู่ๆ ก็กระโดดพ้น จำกผิวน้ำ สำดส่องให้หมื่นสรรพสิ่งในฟ้ ำดินประหนึ่งกลำยเป็ นแก้ว ใส บนกิ่งไม้สูงมีอีกำนอนงีบหลับ บนชำยหำดน้ำตื้นมีนกกระยำงขด ตัวนอน เงียบสงัดไร ้สุ่มเสียง
ในสถำนที่แห่งหนึ่ง บนถนนทำงหลวงนอกตัวเมือง กองทัพม้ำ ติดอำวุธฝีมือดีกองหนึ่งสังหำรผู้คนกลำงวันแสกๆ สมำชิกของศูนย์
ฝึกยุทธไม่มีใครรอดชีวิต สภำพกำรตำยอเนจอนำถจนแทบไม่อำจ ทนมองได้ คนตำยส่วนใหญ่คือคนเก่ำแก่ในยุทธภพที่เป็ นผู้คุมกันมำ ทั้งชีวิต ผลกลับต้องตำยคำที่ในเสี้ยววินำที ไม่มีเรี่ยวแรงให้เอำคืน แม้แต่น้อย บนร่ำงของศพจำนวนไม่น้อยมีรูที่เกิดจำกกำรดึงลูกธนู ออกไป คำดว่ำนักชันสูตรศพของทำงกำรคงมีงำนให้ท ำยุ่งกันแล้ว เกี่ยวกับเรื่องนี้ ควรจะรำยงำนอย่ำงไรก็ยิ่งเป็ นปัญหำใหญ่ยุ่งยำกที่ ทำให้เจ้ำเมืองรู ้สึกหงุดหงิดวุ่นวำยใจ กลำงวันแสกๆ เช่นนี้ ทว่ำบน เส้นทำงกลับมีกลิ่นอำยควำมตำยอึมครึมน่ำสะพรึงกลัว “หม่ำชวน” เหม่อมองตัวเองที่นอนจมอยู่ในกองเลือด ตรงเป้ ำกำงเกงของศพถูก หอกเหล็กทิ่มแทงจนแหลกเละ “หม่ำปี้” ที่อยู่ข้ำงกันกลับมองคนตำย ที่ผมเผ้ำยุ่งเหยิง แขนขำดไปข้ำงหนึ่ง เนิ่นนำนกว่ำที่สองพี่น้องจะคืน สติ พวกเขำมองสบตำกัน ต่ำงก็ไม่รู ้ว่ำควรจะไปที่ไหนไปทำอะไร จำ ได้ว่ำในต ำรำบอกไว้ว่ำคนตำยจะต้องถูกยมทูตขำวด ำหรือไม่ก็ ยมทูตหัววัวหน้ำม้ำมำกักวิญญำณ พำไปที่ประตูผีเดินไปบนเส้นทำง สู่น้ำพุเหลือง ดื่มน้ำแกงยำยเมิ่ง ไม่รู ้ว่ำเป็ นเรื่องจริงหรือเท็จ
และเวลำนี้เองวิญญำณหม่ำชวนก็สังเกตเห็นคนหนุ่มที่แต่งกำย เป็ นนักพรตก่อน อีกฝ่ ำยเดินวนรอบม้ำตัวหนึ่งที่ป้ วนเปี้ยนอยู่ที่เดิม ไม่ไปไหน นักพรตคนนั้นมองสบตำกับตน ดูเหมือนว่ำนักพรตจะไม่ ตกใจกับกำรเห็นผี เขำยังคงก้ำวเดินไม่หยุดนิ่ง ใช ้ปลำยเท้ำเตะดำบ เล่มหนึ่งที่อยู่บนถนนให้พ้นทำง หม่ำชวนเห็นแล้วก็อดไม่ไหวถำมว่ำ “เจ้ำก็เป็ นผีเหมือนกันหรือ?”
นักพรตหนุ่มหลุดหัวเรำะพรืด เอ่ยด้วยสีหน้ำเย็นชำว่ำ “ไม่ เหมือนกับพวกเจ้ำ ข้ำคือคนตัวเป็ นๆ ก็แค่ว่ำพอจะเป็ นมรรคกถำ ตระกูลเซียนบ้ำงเล็กน้อยจึงสำมำรถมองเห็นวิญญำณเร่ร่อนอย่ำง พวกเจ้ำได้ ก็แค่ผ่ำนทำงมำเท่ำนั้น”
หม่ำปี้กำสองมือเป็ นหมัด เอ่ยอย่ำงคลั่งแค้นสุดขีด “ในเมื่อ นักพรตเป็ นยอดฝี มือตระกูลเซียน ไฉนผ่ำนทำงมำแล้วถึงไม่ยอม ช่วยเหลือพวกเรำล่ะ?!”
นักพรตพเนจรยิ้มบำงๆ “ถ้ำอย่ำงนั้นผินเต้ำควรต้องยอมรับผิด เอ่ยขออภัยพวกเจ้ำสองพี่น้องอย่ำงจริงใจด้วยไหมล่ะ?”
เห็นเพียงว่ำนักพรตก้มหัวคำรวะ แล้วก็ถึงกับเปิ ดปำกเอ่ยขอ
อภัยอย่ำงเสแสร ้งจริงๆ
หม่ำปี้เดือดดำลอย่ำงหนัก ทั่วร่ำงมีควันดำจำงๆ ลอยล้อมวน สำยตำเปลี่ยนมำเป็ นดุร ้ำยอย่ำงที่ไม่อำจห้ำมตัวเองได้ เขำเตรียมจะ พุ่งตัวไปเอำเรื่องนักพรตที่ใจดำผู้นั้น แต่กลับถูกหม่ำชวนยื่นมือมำ กำแขนของเขำเอำไว้แน่น นักพรตเห็นภำพนี้ก็ไม่หวำดกลัวแม้แต่ น้อย กลับกันยังเผยสีหน้ำดูแคลน “ฟ้ ำดินแบ่งแยกหยินหยำง คนและ ผีอยู่กันคนละด้ำน ทั้งสองฝ่ ำยอำจได้มำพบเจอกันบ้ำงเป็ นบำงครั้ง ตำมคำโบรำณแล้วก็คือกำรปะทะอย่ำงหนึ่งซึ่งค่อนข้ำงจะผิดต่อข้อ ห้ำม กำรที่ผินเต้ำมำปรำกฏตัวที่นี่ก็เพรำะว่ำเมื่อครู่นี้ดวงตำทั้งคู่ สัมผัสได้ถึงยันต์บำงอย่ำง หำกคิดเป็ นรำคำตลำดแล้วก็เป็ นเงินตั้ง หลำยตำลึง ดังนั้นพอลืมตำถึงได้มองเห็นผีในโลกมืดอย่ำงพวกเจ้ำ
นี่ก็เพื่อป้ องกันไม่ให้มีผีร ้ำยออกอำละวำดเพรำะมีควำมยึดมั่นถือมั่น มำกเกินไป อำจจะละเมิดข้อห้ำมก่อกวนโลกสว่ำงอย่ำงที่ไม่เสียดำย ดังนั้นตอนนี้หำกผินเต้ำสังหำรพวกเจ้ำก็จะมีบุญกุศลติดตัวได้แล้ว”
หม่ำชวนเอ่ยอย่ำงระมัดระวังว่ำ “มองออกว่ำนักพรตไม่ใช่คน แบบนี้”
นักพรตหนุ่มยิ้มถำม “คิดอยำกจะกลำยเป็ นผีร ้ำยอย่ำงที่ผินเต้ำ พูด เพื่อที่จะได้แก้แค้นคนชั่วที่เห็นชีวิตคนไร ้ค่ำเหมือนต้นหญ้ำพวก นี้น่ะหรือ? ถ้ำอย่ำงนั้นผินเต้ำก็ต้องสำดน้ำเย็นๆ ใส่หน้ำพวกเจ้ำเสีย หน่อย เชื่อหรือไม่ว่ำแม้กระทั่งประตูเมืองพวกเจ้ำก็เข้ำไปไม่ได้? ต่อ ให้โชคดีลอบเข้ำไปในประตูเมืองได้ส ำเร็จ แล้วยังอ้อมผ่ำนกลุ่ม ลำดตระเวนของเทพท่องทิวำรำตรีของศำลเทพอภิบำลเมืองได้ รอ กระทั่งพวกเจ้ำได้เห็นเทพทวำรบำลที่แปะอยู่หน้ำประตูบ้ำนของพวก เขำอย่ำงไม่ง่ำย เชื่อหรือไม่ว่ำพวกเจ้ำก็จะถูกเทพทวำรบำลที่ไม่เอน เอียงเข้ำข้ำงใครผู้นั้นมองเป็ นสิ่งสกปรกโสโครก แล้วสังหำรพวกเจ้ำ ทิ้งทันที”
พอพูดถึงโจรกลุ่มนั้น หม่ำชวนก็เช่นเคี้ยวเขี้ยวฟันเอ่ย “ท่ำน นักพรต ขอแค่สำมำรถแก้แค้นสัตว์เดรัจฉำนพวกนั้นได้ ไม่ว่ำจะต้อง จ่ำยด้วยรำคำเช่นไร พวกเรำสองพี่น้องก็ยินดี!”
ใบหน้ำของหม่ำปี้บิดเบี้ยวสีหน้ำดุร ้ำย “เทียบกับสัตว์เดรัจฉำน ยังไม่ได้ด้วยซ้ำ จะต้องถลกหนังดึงเส้นเอ็นของพวกเขำออกมำ กิน เนื้อดื่มเลือดของพวกเขำ!”
นักพรตทำสีหน้ำมีเลศนัย เอ่ยเนิบช ้ำว่ำ “ก่อนหน้ำนี้เห็นคนจะ ตำยแล้วไม่ยอมช่วยเหลือก็เพรำะหำยนะครั้งนี้เป็ นพวกเจ้ำที่รนหำที่ เอง ต่อให้เป็ นเทพเขียนก็ยำกจะช่วยเหลือคนตำยได้ วันนี้ช่วยพวก เจ้ำ ไม่แน่ว่ำพรุ่งนี้อำจยังมีคนตำยเพิ่มอีก เป็ นแค่คนนอกคนหนึ่งผิน เต้ำจะเอำตัวไปคลุกในธุลีแดง จะหำเรื่องลำบำกใส่ตัวไปไย ไม่สังหำร พวกเจ้ำเพื่อเอำบุญกุศล ก็ถือว่ำผินเต้ำ…”
สองพี่น้องเห็นเพียงว่ำนักพรตคนนั้นยกฝ่ ำมือข้ำงหนึ่งมำวำงไว้ เบื้องหน้ำตนเอง ท่องเบำๆ ว่ำขออู๋เลี่ยงเทียนจุนอำนวยพร
หลังจำกนั้นภำยใต้กำรคุกเข่ำโขกหัวขอร ้องอย่ำงน่ำเวทนำของ พี่น้องสองคน นักพรตถึงได้เอำศพเกลื่อนกลำดทั้งหลำยมำประกอบ เข้ำด้วยกัน แล้วท ำกำรฝังอย่ำงลวกๆ
แล้วนักพรตก็พำผีสองตนตำมรอยฝีเท้ำม้ำบนถนน ไล่ตำมกอง ทหำรม้ำกองนั้นไปตลอดทำง
นักพรตสะพำยกระบี่คือยอดฝีมือนอกโลกอย่ำงแท้จริง เดินด้วย ฝีเท้ำเร็วรำวกับบินโดยไม่หอบไม่หน้ำแดง ควำมเร็วเร็วเกินกว่ำม้ำที่ ควบตะบึง โชคดีที่สองพี่น้องสกุลหม่ำเป็ นผีแล้วจึงยังพอจะติดตำม คนมหัศจรรย์ที่บอกว่ำลงจำกภูเขำมำฝึกประสบกำรณ์โลกโลกีย์ผู้นี้ ได้บ้ำง ระหว่ำงนั้นนักพรตมีหยุดพัก เขำหยิบอำหำรแห้งออกมำจำก ในห่อสัมภำระ ปลดน้ำเต้ำใส่เหล้ำตรงเอวลงมำแล้วนั่งกินนั่งดื่มของ ตัวเองอยู่ข้ำงทำง ใช ้ถั่วลิสงคั่วและผักดองมำกินแกล้มเหล้ำ หำก อำหำรแห้งฝืดติดคอก็จะกรอกเหล้ำเข้ำปำกเพื่อทำให้ลำคอชุ่มขึ้น….
หม่ำปี้ที่นิสัยใจร ้อนเร่งรัดให้นักพรตรีบกินให้หมดจะได้ออกเดินทำง ต่ออยู่หลำยครั้งแต่นักพรตกลับเอ้อระเหย พูดแค่ว่ำกินเหล้ำไม่กิน กับแกล้มจะต้องเมำเร็ว คนมีชีวิตไร ้ควำมกล้ำ แม้เรี่ยวแรงมำกก็สูญ เปล่ำ…ระหว่ำงที่นักพรตพูด หม่ำปี้ไม่ทันได้สังเกตเห็นสำยตำที่พี่ชำย ซึ่งอยู่ข้ำงกำยมองตน คล้ำยกับว่ำเขำจำอะไรได้จึงมีท่ำทำงประหลำด ใจ หม่ำชวนลอบสะบัดหัว โยนเรื่องบำงอย่ำงทิ้งไปจำกในควำมคิด
“รำงเลี้ยงหมูไร ้อำหำรหมูยังชนกันเอง แบ่งทรัพย์สินไม่ลงตัว หมำกัดหมำ”
นักพรตที่กินดื่มอิ่มหนำแล้วเก็บห่อสัมภำระเอำมำสะพำยไว้บน ร่ำงอีกครั้ง ตบหน้ำท้องเบำๆ ยิ้มถำมชวนคุยว่ำ “ผีในโลกมืดเหมือน คน คนในโลกสว่ำงเหมือนผี หม่ำชวน หม่ำปี้ พวกเจ้ำว่ำวิถีทำงโลก ใบนี้ประหลำดหรือไม่ประหลำด?”
สองพี่น้องสีหน้ำหม่นหมอง เพียงแค่เงียบงันไม่เอ่ยอะไร
นักพรตยิ้มบำงๆ เอ่ยว่ำ “ถึงอย่ำงไรก็อยู่ว่ำงๆ อยู่แล้ว จับปลำให้ คนอื่นไม่สู้สอนให้คนรู ้จักจับปลำ ผินเต้ำจะถ่ำยทอดวิชำบทหนึ่งที่ เหมำะให้ผีฝึกตนแก่พวกเจ้ำดีไหม? ผินเต้ำยังมีธุระต้องไปท ำ ไม่อำจ เดินเล่นเตร็ดเตร่เป็ นเพื่อนพวกเจ้ำได้ตลอด”
“แต่บอกไว้ก่อนนะว่ำครั้งนี้พวกเจ้ำแก้แค้นจะมีโอกำสได้ฆ่ำคน ละหนึ่งคนเท่ำนั้น ก่อนจะตัดสินใจว่ำจะฆ่ำใคร พวกเจ้ำสำมำรถตำม หำพวกเขำภำยใต้ควำมช่วยเหลือจำกผินเต้ำก่อนได้ ท ำควำมเข้ำใจ
กับภูมิหลังสถำนะของพวกเขำก่อน สุดท้ำยค่อยปรึกษำกันว่ำจะฆ่ำ ใคร ระหว่ำงนี้หำกพวกเจ้ำกล้ำละเมิดคำสัญญำ ผินเต้ำก็ย่อมมีวิธีทำ ให้พวกเจ้ำรู ้ถึงควำมหนักเบำของเรื่องนี้”
“ส ำเร็จหรือไม่ส ำเร็จก็จะบอกกล่ำวให้ชัดเจน” หม่ำชวนกุมหมัดเอ่ย “พระคุณยิ่งใหญ่ของท่ำนนักพรต พวกเรำ
จะตอบแทนได้อย่ำงไร?”
นักพรตยิ้มเอ่ย “ไม่จำเป็ นต้องตอบแทน จำไว้ว่ำตอนที่พวกเจ้ำ ฆ่ำศัตรูแค่อย่ำใจอ่อนก็พอ”
เนื่องจำกนักพรตกินอำหำรระหว่ำงทำง บวกกับที่พวกเขำต้อง เลือกอ้อมศำล ส ำนักศึกษำและอำรำมประเภทต่ำงๆ ที่อยู่รำยทำงไป อย่ำงระมัดระวัง ขณะเดียวกันนั้นนักพรตยังถ่ำยทอดวิชำตระกูล เซียนให้กับพวกเขำด้วย ไปๆ มำๆ จึงถ่วงเวลำในกำรเดินทำง รอ กระทั่งสองพี่น้องแยกย้ำยกับนักพรตแล้วอำศัยวิชำบทนั้นลอบแฝง กำยเข้ำไปในเมืองถึงได้รู ้ว่ำตัวกำรร ้ำยที่แท้จริงก็คือเจ้ำลูกสุนัขพันธ ์ ผสมสองคนที่มำจำกแคว้นเพื่อนบ้ำน แล้วพวกเขำก็กลับบ้ำนเกิดกัน ไปนำนแล้ว ภำยหลังพวกเขำต้องผ่ำนควำมยำกล ำบำกมำกมำย มี หลำยครั้งที่ตกอยู่ในอันตรำยรำยล้อม พบเจอทำงต้น เกือบจะมีจุด จบที่ต้องจิตวิญญำณแหลกสลำย แต่สุดท้ำยพวกเขำก็หำสองคนนั้น พบ
หม่ำชวนมองหม่ำชวน หม่ำปั๊มองหม่ำปี้
พวกเขำมองตัวพวกเขำเอง
แทบจะเวลำเดียวกันนั้นควำมทรงจำทั้งหมดก็ฟื้นคืนกลับมำ
ในขณะที่คุณหนูสกุลจ้ำวนำมว่ำชิวจวินกำลังจะออกเรือน สำว ใช ้ที่จะออกจำกตระกูลไปรับใช ้นำงต่อก็พลันยิ้มถำมนำงว่ำ
“สถำนะนำยและบ่ำวสลับกัน ให้คนที่เคยเป็ นเจ้ำนำยอย่ำงหม่ำ เยว่เหมยเป็ นสำวใช ้ของเจ้ำมำนำนหลำยปีขนำดนี้ รู ้สึกเป็ นอย่ำงไร บ้ำงเล่ำ?”
หม่ำเค่อที่อยู่ในเมืองหลวงแคว้นอวี้เซวียนตำยไปครั้งแล้วครั้งเล่ำ ประหนึ่งตกสู่วัฏจักรที่ไม่มีวันจบสิ้น เรือนกำยของผู้เฒ่ำยิ่งผ่ำยผอม เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก หมดอำลัยตำยอยำกอย่ำงสิ้นเชิง
รอกระทั่งฟ้ ำดินเกิดภำพเหตุกำรณ์ผิดปกติ สรรพสิ่งเงียบงัน เสิ่นเค่อก็ยังไม่รู ้ตัวแม้แต่น้อย วิญญำณเร่ร่อนของเขำเหมือนผีดิบที่ เดินเตร็ดเตร่อยู่ในตรอกเล็กของเมืองหลวงที่ไร ้ผู้คนเพียงลำพัง
ได้ยินเพียงเสียงพูดกลั้วหัวเรำะของคนคนหนึ่งที่ดังมำจำกข้ำง หลัง “หำกคิดอยำกจะร่ำรวย ไฉนจึงไม่ถำมข้ำเล่ำ”
ร่ำงของเสิ่นเค่อแข็งทื่อ หันหน้ำกลับไปมองอย่ำงแข็งค้ำง เขำก็ ได้เห็นบุรุษสวมชุดเขียวผู้นั้น ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง ในที่สุดก็จำได้ว่ำ คนตรงหน้ำคล้ำยจะเป็ นเซียนกระบี่คนหนึ่งแต่ว่ำแซ่อะไรแล้วนะ?
ผู้เฒ่ำที่เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก เริ่มมีประกำยแสงผุดขึ้นมำใน ดวงตำที่ขุนมัว ริมฝีปำกขยับน้อยๆ คล้ำยอยำกจะถำมอะไร แต่กลับ เปิดปำกไม่ออก
คนผู้นั้นยิ้มถำม “ให้เรือนกำยที่เท่ำเทียมกับผู้ฝึกยุทธขอบเขต ปลำยทำงแก่เจ้ำก็ถือว่ำช่วยเจ้ำโกงแล้ว เจ้ำลองดูอีกทีสิว่ำจะเดิน
ออกไปจำกที่แห่งนี้ได้อย่ำงไร?”
เสิ่นเค่อได้ยินประโยคนี้ก็ไม่มีควำมยินดีแม้แต่น้อย เพียงแค่ทรุด ตัวลงนั่งยองเงียบๆ หลังพิงกำแพงของตรอกเล็ก ยกสองมือขึ้นกุมหัว ผู้เฒ่ำที่เสียใจรำวใจจะขำดพลันส่งเสียงร ้องไห้คร่ำครวญ
คนผู้นั้นยิ้มเอ่ย “อำยุก็ตั้งปูนนี้แล้ว ไฉนจึงยังร ้องไห้อยู่อีกเล่ำ”
เสิ่นเค่อเงยหน้ำขึ้นเล็กน้อยแล้วยกมือข้ำงหนึ่งขึ้นมำ ผู้เฒ่ำ ค่อยๆ กัดนิ้วที่สวมแหวนให้แตกไปทีละนิด ในปำกเต็มไปด้วยเลือด สด ลูกกระเดือกขยับเคลื่อน กลืนแหวนหยกลงไปพร ้อมกับเลือดเนื้อ เส้นเอ็นและกระดูก
คนผู้นั้นถำม “ยำเสียใจภำยหลัง อร่อยหรือไม่?”
ผู้เฒ่ำส่ำยหน้ำ
ในฟ้ ำดินที่เป็ นภำพมำยำอีกแห่งหนึ่ง เฉินผิงอันที่อยู่นอกวัดเล็ก ยื่นเท้ำข้ำงหนึ่งออกไปข้ำงหน้ำ พำอวี๋สืออู้เดินทำงกลับมำเยือน สถำนที่เดิม มำเยือนนครแห่งน้ำที่เจริญรุ่งเรืองแห่งนั้น เดินอยู่บน เส้นทำงหินเขียวริมฝั่ง ในลำคลองมีเรือประดับประดำหลำกสีซึ่งเป็ น
ขบวนรับเจ้ำสำว บนเรือคือเจ้ำสำวที่สวมมงกุฎหงส์สวมผ้ำคลุมไหล่ กำลังขับเคลื่อนไปทำงสะพำนฝูลู่ที่มีควำมหมำยงดงำม
พวกเขำเดินเคียงไหล่กันไปช ้ำๆ ในเรือนใหญ่โตหลังหนึ่งมี ต้นจื่อเวยที่กำลังอยู่ในช่วงออกดอกสีแดงบำนสะพรั่ง เฉินผิงอันยิ้ม บำงๆ “ของเก่ำแก่กลำยเป็ นภูติ ไม่รู ้ว่ำมันได้เห็นเด็กหนุ่มในบ้ำน
กลำยเป็ นคนผมขำวไปแล้วกี่คน”
อวี๋สืออู้ถำม “ก่อนหน้ำนี้ข้ำก็รู ้สึกแล้วว่ำช่วงเวลำที่ดอกไม้ผลิ บำนไม่ถูกต้อง คงไม่ใช่เพื่อบอกเป็ นนัยว่ำมันกำลังจะกลำยเป็ นภูติ เจ้ำก็เลยจงใจท ำให้คนตำดีมองออกอย่ำงชัดเจนหรอกนะ?”
เฉินผิงอันยิ้มตอบ “ถือว่ำใช่กระมัง”
คุณชำยตระกูลร่ำรวยที่เกียจคร ้ำนไม่ทำกำรทำงำนคนหนึ่งเดิน ผิวปำกมำ ในมือถือกรงนก ดูจำกท่ำทำงแล้วน่ำจะต้องกำรจับอำหำร เป็ นๆ ให้กับนกในกรง คุณชำยเห็นเด็กสำวเรือนกำยอ้อนแอ้นคล้อง ตะกร ้ำดอกไม้ไว้ในมือคนหนึ่งก็ขยับเท้ำออกไปด้ำนข้ำงขวำงทำงไป ของเด็กสำวไว้ได้พอดี เด็กสำวเดินอ้อมไปอีกทำง คุณชำยก็จงใจ ขยับไปขวำงอีกสองก้ำว เด็กสำวถลึงตำใส่ เปลี่ยนจำกอับอำยพำน เป็ นโกรธ คุณชำยรีบเอ่ยขออภัยหน้ำทะเล้น เป็ นฝ่ ำยหลีกทำงให้ …อวี๋สืออู้ถำมว่ำใช่ลูกหลำนของสกุลหม่ำไหม? เฉินผิงอันส่ำยหน้ำ บอกว่ำก็แค่กลิ่นอำยของชำวบ้ำนที่ควรมีเท่ำนั้น พวกเขำมำถึงลำน ตำกธัญพืชกลำงแจ้งที่วำงถังหมักเต้ำเจี้ยวไว้เต็มลำน เพียงไม่นำนก็ มีคนงำนที่กำลังทำงำนอยู่เงยหน้ำกวักมือเรียก “ช่ำงเฉินมำแล้วหรือ”
เฉินผิงอันพยักหน้ำรับด้วยรอยยิ้ม แล้วก็มีเสียงคนงำนที่คุ้นเคยถำม ขึ้นมำเสียงดังต่อทันใดว่ำ “ช่ำงเฉิน ลูกชำยโตขนำดนี้แล้วหรือ?” เฉินผิงอันหัวเรำะร่วนไม่ได้เอ่ยอะไร “เด็กหนุ่ม” อวี๋สืออู้ถอนหำยใจ นี่มันอะไรกับอะไรกัน