กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 1093.5 ประหนึ่งมังกรเดินลงน้ำ
อวี๋สืออู้เหมือนผู้ชมที่เพิ่งได้เห็นโคมหลำกสีจำนวนมำกที่เขียน ปริศนำค ำทำยเอำไว้ในวันหยวนเชียววันที่สิบห้ำ แต่กลับไม่อำจตอบ คำทำยพวกนั้นได้ ทว่ำเวลำนี้ในที่สุดก็สำมำรถถำมคำตอบจำกคนที่ ออกคำถำมได้แล้ว “ก่อนหน้ำนี้เดินทำงผ่ำนเมืองด่ำนชำยแดน ตั้ง ชื่อให้ว่ำด่ำนเต้ำหู้ หมำยควำมว่ำอย่ำงไร?”
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “ตำมกฎแล้วปริศนำนั้นล้ำค่ำตรงที่หำ ค ำอธิบำยไม่ได้ หรือไม่ก็เป็ นแบบแผนที่ไม่มีแบบแผน โดยทั่วไปแล้ว ปริศนำบนโคมไฟมักจะไม่อนุญำตให้เปิดเผยเนื้อหำ”
อวี๋สืออู้ถำม “พูดถึงแค่เนื้อหำที่มีควำมเกี่ยวข้องกับโคมคำทำย ข้ำพอจะประมำณกำรณ์ได้คร่ำวๆ สองพันปีที่ผ่ำนมำนี้ ส่วนที่กวำด ตำมองผ่ำนก็มีไม่ต่ำกว่ำหลำยพันข้อ ข้ำอยำกรู้ อยำกรู้มำกๆ! เฉิน ผิงอัน เจ้ำเอำควำมรู ้มำกมำยขนำดนี้มำจำกไหน ถึงได้โยนเอำมำไว้ ในฟ้ ำดินที่เป็ นดินแดนแห่งควำมฝันแห่งนี้ได้?”
อยำกจะให้ “เซียนเหริน” คนหนึ่งที่ฝึกตนประสบควำมสำเร็จท่อง อยู่ในโลกมนุษย์เป็ นเวลำพันปีโดยที่ไม่รู ้สึกเลยว่ำมีตรงไหนผิดปกติ ต้องทุ่มเทฝี มือไปเท่ำไร ต้องมีควำมรู ้ที่หลำกหลำยมำเสริมมำก เท่ำไร?
“แค่ฟังก็รู ้ว่ำเป็ นคำถำมที่ต้องเป็ นคนนอกถึงจะถำม”
เฉินผิงอันส่ำยหน้ำ ย้อนถำมกลับอีกว่ำ “เคยได้ยินชื่อของเรือ รำตรีไหม? รู ้หรือไม่ว่ำด้ำนบนนั้นมีนครเถียวมู่อยู่?”
อวี๋สืออู้ส่ำยหน้ำ “ข้ำไม่ชอบสืบข่ำวเรื่องพวกนี้ เรื่องรำวบนภูเขำ ล่ำงภูเขำล้วนเป็ นสิ่งที่ข้ำขำดแคลน เข้ำใจน้อยมำก นี่ถือว่ำลัทธิหนึ่ง ไม่รู ้เรื่องของลัทธิหนึ่ง หลวงจีนไม่รู ้เรื่องของลัทธิเต๋ำหรือไม่? มิอำจ เปรียบเทียบกับเจ้ำที่เดินทำงไกลอยู่เป็ นประจำได้ เจ้ำขุนเขำอย่ำงเจ้ำ เคยชินกับกำรออกจำกบ้ำนแล้วถำมทำง เข้ำเมืองตำหลิ่วหลิ่วตำ ตำม…”
กล่ำวมำถึงตรงนี้ อวี๋สืออู้ก็มีสีหน้ำเย้ยหยันตัวเอง หำกจะพูดกัน ถึงกำรท่องเที่ยวฝึกประสบกำรณ์ เวลำสองพันปีของคน ได้เห็นผู้คน และทัศนียภำพมำก็ไม่น้อย แต่ส่วนที่จำได้นั้นมีมำกน้อยแค่ไหน?
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “ภูเขำใหญ่ต้นไม้สูง บ่อลึกน้ำเย็น สหำยอวี๋ไม่ ต้องเปรียบเทียบกับข้ำในเรื่องนี้ ต่ำงคนต่ำงก็มีข้อดีข้อเสียของ ตัวเอง”
อันที่จริงตอนนี้ในมือของเฉินผิงอันก็มียันต์นำทำงข้ำมฟำกสิบ สองแผ่น ขอแค่เรียกยันต์แผ่นหนึ่งออกมำใช ้ในอำณำเขตเลียบ ชำยทะเลก็จะสำมำรถช่วยให้เขำขึ้นไปบนเรือรำตรีลำนั้นได้แล้ว
เฉินผิงอันกล่ำว “พูดถึงแค่เรื่องโคมปริศนำ อันที่จริงก็ง่ำยดำย มำก แค่ในมือมีรวมเล่มคำทำยปริศนำสี่ห้ำเล่มก็พอ ก็แค่คัดลอกมำ ใช ้รำคำของหนังสือประเภทนี้ก็ไม่ได้แพงใช ้เงินแค่กี่ตำลึงกันเชียว?”
เฉินผิงอันอธิบำยต่อไปว่ำ “แน่นอนว่ำคิดอยำกจะให้สิ่งที่เจ้ำพบ เห็นและได้ยินสมเหตุสมผล ระดับควำมยำกก็ไม่น้อยเลยจริงๆ ดังนั้น ข้ำจึงได้เตรียม แผ่นกระดำษ” น้อยใหญ่ที่รูปแบบแตกต่ำงกันหลำย ร ้อยรูปแบบและสำมำรถคลี่กำงออกมำได้ทุกเมื่อไว้ล่วงหน้ำรวม ทั้งสิ้นเกือบสิบล้ำนแผ่น ก็คือกระดำษจดสั้นๆ ที่คนที่ชอบอ่ำนหนังสือ ชอบเหน็บไว้ในหน้ำหนังสือ เอำมำสร ้ำงและเติมเต็มโลกมำยำแห่งนี้ นี่ก็เพื่อป้ องกันไม่ให้ผู้ฝึกบำเพ็ญตนอย่ำงเจ้ำเข้ำมำข้ำงในแล้วรู ้สึก ว่ำเป็ นของปลอมเพียงแค่มองปรำดเดียว”
“กลับมำที่หัวข้อหลัก คำโบรำณกล่ำวไว้ว่ำคนรวยฉลองปีใหม่ ส่วนคนจนต้องฝ่ ำด่ำนชีวิต ดังนั้นข้ำจึงรู ้สึกว่ำชื่อด่ำนเต้ำหู้นี้ฟังแล้ว ค่อนข้ำงน่ำสนใจ แค่นี้เท่ำนั้น”
อวี๋สืออู้อดกลั้นอยู่นำน ก่อนจะถำมออกมำว่ำ “คือเคล็ดวิชำใน กำร “ศึกษำหำควำมรู้” ที่ซิ่วหู่สอนให้เจ้ำหรือ?”
ตระกูลร่ำรวยของล่ำงภูเขำ ยำมอ่ำนหนังสือก็มีวิธีในกำรอ่ำน หนังสือ ยำมเขียนอักษรก็มีเคล็ดลับในกำรเขียนอักษร ส่วนใหญ่ มักจะเป็ นวิชำลับที่ไม่แพร่งพรำยให้แก่คนนอก
เฉินผิงอันเบ้ปำก “เขำไม่เคยสอนเรื่องพวกนี้ ดูแคลนที่จะสอน ด้วยซ้ำ”
อวี๋สืออู้พลันถำมว่ำ “หำกข้ำจับคนคนหนึ่งไว้ไม่ยอมปล่อย เอำ มำเผชิญหน้ำกันแล้วถำมค ำถำมเขำหลำยร้อยข้อติดกันล่ะ?”
เฉินผิงอันหลุดหัวเรำะอย่ำงอดไม่อยู่ ยกนิ้วโป้ งให้กับอวี๋สืออู้ “ถ้ำอย่ำงนั้นเจ้ำก็ถำมจนข้ำตอบไม่ถูกแล้วจริงๆ”
อวี๋สืออู้ลังเลอยู่พักหนึ่ง “สักวันหนึ่ง ต่อให้คนคนนั้นจะถูกใคร บำงคนชักใช ้อย่ำงถึงที่สุด ค ำตอบของเขำก็จะสมบูรณ์ไร ้ช่องโหว่ได้ เลยหรือไม่?”
เฉินผิงอันตอบไม่ตรงคำถำม “พวกเรำเปลี่ยนสถำนที่กันดี ไหม?”
อวี๋สืออู้กล่ำวอย่ำงอ่อนใจ “ข้ำเลือกได้หรือ?”
เหมือนแค่ขยับเท้ำก็เปลี่ยนทัศนียภำพมำอยู่ในสวนดอกไม้ที่มี ชื่อเสียงแห่งหนึ่ง จุดที่เท้ำของคนทั้งสองยืนเหยียบอยู่คือกลำงภูเขำที่ มีลำธำรไหลผ่ำนเสียงน้ำดังกังวำนไพเรำะ พอผสำนรวมเข้ำกับลำ คลองนอกภูเขำก็กลำยเป็ นว่ำไร้เสียง มีคนตัดต้นไม้และคนแจวเรือ มำพบเจอกันบนลำคลอง คนหนึ่งถือเหล้ำที่หมักจำกบ้ำนตัวเอง อีก คนหนึ่งถือของปำที่เพิ่งไปจับมำได้ ตะโกนพูดค ำสัปดนตำมภำษำ ชำวบ้ำน ค ำสุภำษิตของบ้ำนเกิดบอกว่ำอยู่กับภูเขำกินจำกภูเขำ อยู่ กับน้ำกินจำกน้ำ ทั้งหมดนี้ก็ล้วนเป็ นกำรกินข้ำวโดยพึงสวรรค์ ประทำนให้ นำยพรำนเงยหน้ำมองดวงอำทิตย์ลอยสูงเจิดจ้ำ บอกว่ำ ช่ำงเป็ นทัศนียภำพที่งดงำมเหลือเกิน คนแจวเรือจึงเอ่ยคล้อยตำมว่ำ มีเงินก็ยำกจะซื้อหน้ำร ้อนวันที่ห้ำเดือนห้ำได้ ผลเก็บเกี่ยวของปีนี้ ต้องไม่เลวแน่นอน
ในช่วงเวลำที่ดอกไม้บำนสะพรั่งต้นหลิวพลิ้วไหว ทันใดนั้นเมฆ ด ำทะมึนก็มำรวมตัวกันหนำแน่น ฝนใหญ่ตกลงมำแล้วจำกไป ดอกไม้หล่นร่วงเต็มพื้น มีผู้เฒ่ำคนหนึ่งที่ตระกูลตกอับ ชีวิตบั้นปลำย ยำกลำบำก ใบหน้ำเหลืองแห้งตอบ ทั้งเส้นผมและหนวดล้วนเป็ นสี ขำวโพลน บนศีรษะสวมหมวกขนสัตว์เก่ำผุพัง ในมือถือโคมกระดำษ ขำวใบหนึ่งที่ใช ้มำนำนหลำยปี แล้ว เดินมำส่งลูกชำยที่จะออกไป ค้ำขำยข้ำงนอกที่หน้ำประตู มอบเงินเก็บสะสมที่เหลือส่วนสุดท้ำย ให้กับลูกชำยที่พูดจำหน้ำเชื่อถือ ตบอกรับรองว่ำจะต้องไปทำกำรค้ำ ที่ได้กำไรก้อนใหญ่อย่ำงแน่นอน ผู้เฒ่ำยืนอยู่ที่เดิมมองเขำจำกไป จำกไปจนไม่เห็นแผ่นหลังแล้ว เขำถึงได้หมุนตัวเดินกลับเข้ำไปใน บ้ำน
คนหนุ่มที่รับรองกับผู้เฒ่ำว่ำหำกตัวเองเล่นพนันอีกจะตัดมือทิ้ง ทันทึกลับตรงดิ่งไปยังบ่อนที่มีกลิ่นอำยสกปรกคละคลุ้งในเมืองหลวง ทันใด
พ่อค้ำเกลือรำยใหญ่อำยุหกสิบปี เวลำเจอกับใครก็จะแนะน ำ อนุภรรยำของตนให้รู ้จัก จะพูดแค่ประโยคเดียวว่ำนี่ก็คือหัวขโมย น้อยของบ้ำนข้ำ หญิงสำวที่เอำมือคล้องแขนผู้เฒ่ำหัวเรำะรำวกับกิ่ง บุปผำสำยไหว ที่แท้คำว่ำขโมยออกเสียงเหมือนคำว่ำเชี่ยที่แปลว่ำอนุ ภรรำ รำวกับว่ำเมื่อพูดเช่นนี้จะฟังดูดีกว่ำเรียกอีกฝ่ำยว่ำฮูหยิน
ฟ้ ำดินเยียบเย็น บนสนำมประลองยุทธของด่ำนเต้ำหู้ก ำลังมีงำน พิธีสวนสนำมทหำร ลูกหลำนตระกูลชั้นสูงมีอำนำจในเมืองหลวงที่
เมื่อวำนเพิ่งจะมำร่วมงำนให้มีสีสันพอเป็ นพิธี ผลคือกลับถูกแม่ทัพ หลักที่ใช ้ชีวิตอย่ำงเรียบง่ำย ปกครองกองทัพอย่ำงมีระเบียบจงใจ เรียกลูกหลำนขุนนำงกลุ่มนี้ให้ตื่นตั้งแต่เช ้ำตรู่ ให้มำร่วมสวนสนำม ด้วยกันที่นี่ ยืนอยู่เป็ นเพื่อนแม่ทัพบู๊คนนั้นนำนถึงหนึ่งชั่วยำม น่ำ สงสำรลูกหลำนขุนนำงที่ถูกควำมหนำวเกำะกุมจนน้ำมูกไหล รอ กระทั่งพิธีสวนสนำมสิ้นสุดลงอย่ำงไม่ง่ำย แม่ทัพหลักกลับพำ ลูกหลำนขุนนำงไป “เปิดเตำเล็ก” อันที่จริงบนโต๊ะก็มีแค่โจ๊กขำวหนึ่ง ชำมใหญ่กับหมั่นโถวกินแกล้มกับผักดองเท่ำนั้น ทว่ำต่อให้เป็ น เช่นนี้ก็ยังคงทำให้ลูกหลำนตระกูลชนชั้นสูงที่สวมเสื้อผ้ำหรูหรำ กิน ดีอยู่ดีกันมำจนชินกลุ่มนั้นสวำปำมอย่ำงหิวโหย จ้วงตะเกียบเร็วรำว กับบิน รู ้สึกว่ำชีวิตนี้ตัวเองไม่เคยกินอิ่มและกินอร่อยขนำดนี้มำก่อน
ทยอยได้เห็นโรงเรียนสำมแห่งที่ทัศนียภำพต่ำงกันไป ใน โรงเรียนที่แร ้นแค้นแห่งหนึ่ง อำจำรย์ท่ำนหนึ่งใช ้ไม้บรรทัดตีจนมือ สองข้ำงของเด็กน้อยเกเรบวมแดง หลังจำกเลิกเรียนเด็กน้อยก็ไม่ กล้ำให้พ่อแม่เห็นมือ หำไม่แล้วจะต้องถูกแล้ไม้ไผ่ฟำดซ้ำอีกรอบ แน่นอนโรงเรียนแห่งหนึ่งอยู่ในเมืองที่เจริญร่ำรวย อำจำรย์ถูกพวก พ่อแม่ที่สงสำรบุตรของตัวเองด่ำจนคอหด พอเวลำนำนวันเข้ำก็ไม่ กล้ำวำงมำดใช ้กฎระเบียบอีกต่อไปแล้ว แค่สอนหนังสือหำเงินมำเจือ จุนครอบครัวได้เท่ำนั้นก็พอ ไฉนต้องโดนด่ำเปล่ำๆ เพียงแค่เพรำะ อบรมสั่งสอนคนอื่นด้วยเล่ำ ไม่แน่ว่ำอำจจะได้กินอำหำรมื้อใหญ่จำก พวกนำยท่ำนที่เป็ นครูผู้สอนของระดับอ ำเภอและระดับจังหวัด เป็ น
เหตุให้ไม้บรรทัดถูกทิ้งให้กินฝุ่ นอยู่นำนหลำยปี ในโรงเรียนส่วนตัว ของตระกูลปัญญำชนแห่งหนึ่งได้เชิญอำจำรย์ผู้เฒ่ำที่หัวเก่ำคร่ำครึ คนหนึ่งมำสอน วันนี้เด็กน้อยที่เพิ่งจะเรียนชั้นประถมได้ไม่นำนถูกตี อย่ำงรุนแรง ร ้องไห้วิ่งไปฟ้ องมำรดำ เพรำะวิ่งอย่ำงลนลำนจึงสะดุด ล้มระหว่ำงทำง มีคนอยำกจะเข้ำไปประคองเด็กน้อยแต่กลับถูกสตรี ออกเรือนแล้วท่ำทำงเรียบร ้อยสง่ำงำมคนหนึ่งขัดขวำง บอกให้เด็ก คนนั้นลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง นำงไม่เพียงแต่ไม่เอ่ยปลอบใจ กลับกันยัง สั่งสอนลูกชำยที่อำยุน้อยของตัวเองว่ำ “หำกเดินระวัง มีหรือจะหกล้ม แล้วสตรีก็ถำมเด็กน้อยว่ำท ำไมถึงร ้องไห้ เด็กน้อยไม่พูดพร่ำทำเพลง หมุนตัวกลับได้ก็วิ่งไปที่ห้องเรียนของบ้ำนตนทันที กลับไปนั่งเรียนให้ ดีอีกครั้ง
ในหมู่บ้ำนชนบท เด็กๆ จับกลุ่มกันไปงมหอยโข่งในล ำธำร พอ กลับไปถึงบ้ำนบนโต๊ะอำหำรก็มีเนื้อหอยโข่งที่ต้องใช ้หนำมของตัว นิ่มจิ้มออกมำ ยัดใส่ปำกเคี้ยวก็จะได้ลิ้มรสอำหำรป่ำที่เอร็ดอร่อยแล้ว และยังมีสตรีออกเรือนแล้วที่เก็บใบชำไปแลกเงิน ถือโอกำสแวะไปที่ ตลำด บุตรชำยหญิงสองคนเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียน วันต่อมำก็จะมี เสื้อผ้ำและรองเท้ำถุงเท้ำใหม่เอี่ยมครบชุดให้สวมใส่แล้ว
อวี๋สืออู้หันมำมองเฉินผิงอัน
เห็นเพียงว่ำใบหน้ำของเฉินผิงอันประดับยิ้ม สีหน้ำอ่อนโยน
อวี๋สืออู้พูดพึมพำกับตัวเองว่ำ “คนฟุ่ มเฟือยต่อให้ร่ำรวยแค่ไหน ก็ไม่รู ้จักพอ คนประหยัดอดออมต่อให้ยำกจนแค่ไหนก็มีเหลือ”
ไม่ต้องใช ้วิชำอภินิหำรก็สำมำรถหดย่อพื้นที่ อวี๋สืออู้ตำมเฉินผิง อันมำอย่ำงนี้ รำวกับว่ำได้คลี่กำงม้วนภำพภูเขำสำยน้ำอีกครั้ง พวก เขำมำถึงบ้ำนหลังหนึ่งในชนบท นอกบ้ำนมีหิมะใหญ่ตกโปรยปรำย คนหลำยคนที่จับกลุ่มกันมำท่องเที่ยวมำพักค้ำงแรมอยู่ที่นี่ ล้อมกอง ไฟพูดคุยกัน ล้วนเป็ นสหำยที่สนิมสนมกัน อุ่นเหล้ำสนทนำ ดื่มเหล้ำ ต้มที่ไม่มีรำคำ แต่กลับปรึกษำกันว่ำควรจะโน้มน้ำวให้ฮ่องเต้ “ถอน ค ำพูด กลับคืนไปอย่ำงไรดี ด้ำนนอกมีผู้ติดตำมที่ลักษณะเหมือนข้ำ รับใช ้และเหมือนเด็กที่ดูแลตำรำยืนเฝ้ ำอยู่ เด็กหนุ่มที่เกิดมำก็พูดติด อ่ำง เวลำคุยกับคนอื่น คำพูดของเขำก็เหมือนไข่ของแพะภูเขำที่โผล่ ออกมำทีละลูกข้ำงกำยมีชำยเนื้อตัวสกปรกมอมแมมยืนหันข้ำงกอด ไม้กวำด ตรงเอวห้อยหลิงจือไว้หลำยชิ้น กำลังงีบหลับ
ตรงเอวของข้ำรับใช ้กลับผูกหลิงจือเอำไว้ นี่แสดงให้เห็นว่ำไม่ สมเหตุสมผลอย่ำงชัดเจน
เฉินผิงอันพำอวี๋สืออู้ “มำถึง” นอกห้อง ชี้ไปที่เด็กหนุ่มติดอ่ำง กับชำยเนื้อตัวมอมแมม “ลองเลือกคุยกับใครสักคน ดูสิว่ำจะซักไซ้ จนได้ผลลัพธ์อะไรหรือไม่?”
อวี๋สืออู้คิดแล้วก็ส่ำยหน้ำ
เฉินผิงอันกล่ำว “เว้นเสียแต่ว่ำมีคนยืนยันตั้งแต่แรกว่ำนี่คือฟ้ ำ ดินมำยำ หำไม่แล้วคนที่อยู่ในสถำนกำรณ์ก็จะไม่มีทำงไปซักไซ ้หำ ค ำตอบว่ำเป็ นของจริงหรือภำพลวงตำ แล้วนับประสำอะไรกับที่คุยกัน ไม่ถูกคอ ครึ่งประโยคก็ยังมำกเกิน”
“ยืนมองโลกด้วยสำยตำแห่งธรรม”
อวี๋สือตู้เอ่ยเสียงเบำ “ดั่งฝัน ดั่งมำยำ ดั่งฟองอำกำศ ดั่งเงำ ดั่ง น้ำค้ำง ดั่งสำยฟ้ ำ”
เฉินผิงอันพยักหน้ำเบำๆ
เด็กหนุ่มหน้ำตำหมดจดที่พูดติดอ่ำงคล้ำยจะได้ยินคำพูดขอ งอวี๋สืออู้ ดวงตำพลันเป็ นประกำย แล้วก็เริ่มท่องกวีโหยวซือที่ลักษณะ คล้ำยโองกำรค ำเขียว เป็ นภำษำของลัทธิเต๋ำตำมแบบฉบับ เด็กหนุ่ม ไม่พูดติดๆ ขัดๆ อีกแม้แต่น้อย น้ำเสียงดังกังวำนเหมือนเสียงชิ่งหยก “มนุษย์ธรรมดำไม่เชื่อว่ำมีเทพเซียน ไม่รู ้ว่ำเหนือหัวมีต้ำหลัวเทียน เล่ำลือกันว่ำเซียนดินสำมำรถบินทะยำน ทั้งยังเป็ นอมตะอยู่ได้นำน นับหมื่นปี ตอนอำยุน้อยได้ยินประโยคนี้ฟังเป็ นเพียงถ้อยค ำข ำขัน เรือนกำยไร ้ปีกร่วงหล่นลงพื้น ร ้อยปีอำศัยอยู่ในโลกยังยำกที่จะ…ได้ เจอคนมหัศจรรย์ จับมือมองโลกมนุษย์ ดวงตำเห็นเพียงควำมเป็ น ตำย ควำมเป็ นควำมตำยดุจเงำตำมติด ตำยเป็ น เป็ นตำย หมุนเวียน เป็ นวัฏจักร พอได้เห็นจิตใจก็เกิดหวำดกลัว ทั้งตกใจทั้งหวำดหวั่นทั้ง ชูหมัด…ปฏิบัติตำมหลักที่ถูกต้องชอบธรรมสำมร ้อยห้ำร ้อยปี ตะวัน จันทรำในฟ้ ำดินอ่อนนุ่มดุจผ้ำไหม วันหนึ่งเมื่อเข้ำใจกระจ่ำงควำม ว่ำงเปล่ำก็ยังแตกสลำยตระหนักได้ถึงควำมลึกซึ้งลี้ลับ นับแต่นั้นมำ ในใจก็ไร ้ข้อกังขำ ไปตลำดหำเด็กหนุ่มถ่ำยทอดวิชำ เริ่มร ้องเพลง พูดคุยกับเขำอีกครั้ง ขอท่ำนโปรดเงี่ยหูฟัง ที่แท้โลกมนุษย์ก็มีเทพ
เขียนอยู่จริงๆ! ที่แท้บนมรรคำในโลกมนุษย์ก็มีเทพเซียนที่อิสระเสรี อยู่จริงๆ….
อวี๋สืออู้หลุดหัวเรำะพรีด
เฉินผิงอันพลันเอ่ยว่ำ “ผีพนันผู้นั้น แน่นอนว่ำต้องพ่ำยแพ้หมด รูป รอกระทั่งเขำออกไปจำกบ่อน เดินอยู่บนถนนอย่ำงหมดอำลัย ตำยอยำก เขำได้เห็นภำพภำพหนึ่งก็ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้น อำศัยเพียง สัญชำตญำณช่วยเหลือเด็กน้อยคนหนึ่งที่เกือบจะถูกรถม้ำพุ่งชน เอำไว้ ช่วยเด็กน้อยไว้ได้ แต่ตัวเขำเองกลับต้องตำย”
“ลูกหลำนตระกูลขุนนำงที่รู ้สึกว่ำผักดองกินแกล้มหมั่นโถวคือ อำหำรเลิศรสในโลกมนุษย์ ภำยหลังก็กระโจนเข้ำหำควำมตำย พลี ชีพอยู่บนสนำมรบทั้งที่อำยุยังน้อย”
“อนุภรรยำที่ถูกเรียกขำนว่ำหัวขโมยน้อยของตระกูลพ่อค้ำเกลือ นำงทนกลับควำมเปล่ำเปลี่ยวไม่ไหวจึงแอบมีสัมพันธ ์ลับกับสำรถี หนุ่มในตระกูล จำกนั้นก็ยังมีสัมพันธ ์ลับกับนักแสดงงิ้วที่ถูกจ้ำงมำ เล่นที่บ้ำน คิดอยำกจะหอบสมบัติหนีตำมอีกฝ่ ำยไป ไม่รู ้ว่ำควรเลือก หรือทิ้งใครดี”
“พ่อแม่ที่เพรำะตัวเองเล่ำเรียนหนังสือมำไม่มำกจึงทนเห็นลูก ของตัวเองโดนตีไม่ไหวรอกระทั่งลูกของพวกเขำเติบใหญ่ แล้วมีลูก ของตัวเองที่ไปเรียนในโรงเรียน เกรงว่ำก็คงไม่รู ้เลยว่ำอะไรที่เรียกว่ำ ไม้บรรทัด”
อวี๋สืออู้รับฟังเรื่องรำวในภำยหลังของเรื่องรำวและบุคคลสิบกว่ำ ประเภทอย่ำงอดทนบ้ำงก็รู ้สึกไม่คำดฝัน บ้ำงก็รู ้สึกว่ำสมเหตุสมผล อยู่ดีๆ อวี๋สืออู้ก็เอ่ยอย่ำงปลงอนิจจังว่ำ “ดูดซับ ถอดแยก เติมเต็ม สร ้ำงใหม่ น ำไปใช ้ ก่อเกิด”
สำยตำของเฉินผิงอันเผยแววชื่นชม “ในที่สุดสหำยอวี๋พูดได้ตรง
จุดเสียที”
เดินเล่นไปด้วยกันกระทั่งออกมำจำกกระท่อมในชุมชน เดินไป คุยกันไป เดินไปถึงริมลำคลองแล้วก็เดินเลียบชำยฝั่งไป อวี๋สืออู้ ถึงกับรู ้สึกว่ำกำรท่องเที่ยวแบบนี้ก็ไม่เลวเหมือนกัน
ผู้สร ้ำงฟ้ ำดินนั้นเรียกได้ว่ำใช ้ควำมคิดสร ้ำงสรรค์แปลกใหม่ ส่วนผู้ที่ชมอยู่ข้ำงนอกก็มีรสชำติแปลกใหม่อยู่ในหัวใจ
ได้เห็นผู้คนและเรื่องรำวแปลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นมำก่อน ทุกอย่ำง เหมือนเพิ่งผ่ำนตำไปได้ยินได้ฟังเรื่องรำวที่ไม่เคยได้ยินได้ฟังมำก่อน เสียงทุกเสียงคล้ำยยังลอยอยู่ข้ำงหู
อวี๋สืออ้อดไม่ไหวทอดถอนใจอีกครั้งว่ำ “กำรเดินทำงครั้งนี้ได้ผล เก็บเกี่ยวมหำศำลซำบซึ้งใจอย่ำงถึงที่สุด”
“ผู้ฝึกบ ำเพ็ญตนลงจำกภูเขำไปฝึกตนก็เหมือนมังกรเดินลงล ำ น้ำ”
เฉินผิงอันสอดสองมือไว้ในชำยแขนเสื้อ ควำมคิดล่องลอยไป ไกล รอกระทั่งคืนสติกลับมำก็กระทืบเท้ำเบำๆ “ศิษย์พี่ชุยฉำนของข้ำ
น้อยครั้งนักที่จะพูดจำ…ภำษำคนกับข้ำแต่ปีนั้นที่คุยเล่นกันบนหัว กำแพงเมือง มีหลักกำรหุลข้อหนึ่งที่เขำพูดได้เรียบง่ำยอย่ำงมำก เขำ บอกว่ำแคว้นที่แม้กระทั่งอันธพำล พอพบเจออำจำรย์ที่เคยสอน ตัวเองบนถนนก็ยังรู ้สึกหวำดกลัวตำมจิตใต้สำนึกจึงจะเป็ นแคว้นที่มี ควำมหวังอย่ำงแท้จริง มีควำมหวังจะเปลี่ยนจำกอ่อนแอเป็ นแข็งแกร่ง มีหวังที่จะเปลี่ยนจำกแข็งแกร่งเป็ นแข็งแกร่งมำกกว่ำเดิม”
หิมะใหญ่ขำวโพลน เซียนเหรินชุดขำวขี่กวำงลุยน้ำ ทั้งคนทั้ง ทัศนียภำพล้วนมีกลิ่นอำยของควำมโบรำณ
พอเพ่งมองอย่ำงละเอียดอีกที อวี๋สืออู้ก็มีสีหน้ำประหลำด เซียน เหรินผู้นั้นถึงกับเป็ นตัวเขำเอง
สรรพสิ่งเงียบงัน ฟ้ ำดินมีแต่สีขำวหิมะ กลั้นหำยใจเพ่งสมำธิ หำกถำมใจตัวเองดูก็เหมือนว่ำจะได้ยินเสียงหัวใจดังอย่ำงเสียง สำยฟ้ ำ
อวี๋สืออู้หยุดเดิน อยู่ดีๆ ก็ถำมว่ำ “หำกทุกคนต่ำงก็ยินดีสร ้ำง สะพำนซ่อมถนนแล้วจะทำให้วิถีทำงโลกสงบสุขหมื่นปีได้จริงหรือ?”
เฉินผิงอันตอบ “ข้ำรู ้สึกว่ำอิสระที่บริสุทธิ์อย่ำงแท้จริงคือทุกคน ล้วนสำมำรถส่งต่อควำมอิสระให้แก่ผู้อื่นได้อย่ำงเต็มใจ