กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 961.1 ถ่านไฟ
รายงานข่าวแห่งขุนเขาสายน้ำของสำ นักกระบี่ชิงผิงจัด
ไว้ที่ภูเขาอวิ๋นเจิง ให้จ้งชิวเป็นคนรับผิดชอบชั่วคราว
บุปผาในคันฉ่องจันทราในสายน้ำในอนาคตถูกชุยตง
ซานจัดไว้ที่ภูเขาโฉวโหมว ไม่ใช่ภูเขาบรรพบุรุษที่ทัศนียภาพ
งดงามที่สุดหรือภูเขาอวิ๋นเจิงที่อยู่ใกล้กับท่าเรือที่สุด
อยู่นอกเหนือการคาดการณ์ แต่สมเหตุสมผล ภูเขา
เซียนตูคือสถานที่ที่ผู้ฝึกกระบี่ใช้ฝึกกระบี่ ภูเขาอวิ๋นเจิงคือ
สถานที่ที่ผู้ฝึกยุทธฝึกหมัด ทั้งสองแห่งนี้ต่างก็เป็นสถานที่
สำ หรับผู้ฝึกกระบี่บริสุทธิ์กับผู้ฝึกยุทธเต็มตัวโดยเฉพาะ
ชุยตงซานยิ้มเอ่ย “อาจารย์จ้ง ท่านคืออาจารย์ของห้อง
บัญชี ไม่สู้ลองเปิดสมุดบัญชีดู จะได้ทำให้พวกบรรพจารย์
สำ นักเบื้องบนทั้งหลายที่มีอาจารย์ของข้ารวมอยู่ด้วยสบายใจ
เสียหน่อย”
พูดออกมาให้ทุกคนได้อารมณ์ดีกันสักหน่อยงานพิธีเฉลิมฉลองของสำ นักไม่ได้เหมือนกับพิธีเปิด
ยอดเขาของผู้ฝึกตนโอสถทองทั่วไป ผู้ที่มาร่วมอวยพร
ส่วนใหญ่มักจะเป็นสำ นักอักษรจงที่ร่ำรวยเงินทอง ส่วนใหญ่
ลงมือทีก็มักจะมือเติบใจป้ำ น้ำหนักของของขวัญที่นำมาร่วม
แสดงความยินดีไม่เบา
แคว้นและราชวงศ์ล่างภูเขาที่อยู่ใกล้กับสำ นักบวกกับ
จวนเซียนที่อยู่ใต้อาณัติ สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งภูเขาสายน้ำของ
แต่ละฝ่าย เพื่อไม่ให้เป็นที่อับอายขายหน้าก็แทบจะกัดฟัน
มอบของขวัญที่ไม่ลดเกียรติของตัวเองออกไป และนี่ก็
เป็นความลำบากใจของพรรคหวงเหลียงภูเขาโหลวซานใน
แจกันสมบัติทวีปซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกับภูเขาเมฆาเรือง เพราะ
จำ นวนครั้งที่เข้าร่วมพิธีมีมากเกินไป มีแต่ออกไม่มีเข้า เท่ากับ
ว่ามักจะเป็นฝ่ายนำเงินไปมอบให้กับภูเขาเมฆาเรือง
เป็นประจำ มองดูเหมือนเป็นภูเขาใต้อาณัติของอีกฝ่าย ทั้ง
อัดอั้น ทั้งไม่เหลือศักดิ์ศรีหน้าตา ทั้งยังทำร้ายทรัพย์สินใน
คลังสมบัติของตัวเองพรรคตระกูลเซียนบางแห่งที่ไร้คุณธรรมยังจะจัดหาคน
มา ‘ร้องขานชื่อ’ โดยเฉพาะ บรรยายถึงของขวัญที่แขกนำมา
ร่วมแสดงความยินดี เงินเทพเซียนกี่เหรียญ ให้วัตถุดิบวิเศษ
แห่งฟ้าดินหรือสมบัติหายากอะไร ต่างก็พูดกันอย่าง
ตรงไปตรงมา ป่าวประกาศในงานพิธีเฉลิมฉลองโดยตรง พูด
ออกมาย่างโจ่งแจ้ง ยกตัวอย่างเช่น…ยอดเขาพาตี้แห่งธวัล
ทวีป เนื่องจากฮว่อหลงเจินเหรินมีความสามารถในการรับ
ลูกศิษย์สูงมากจึงมักจะจัดงานพิธีเฉลิมฉลองเป็นประจำ
เล่าลือกันว่าทุกครั้งที่พิธีการสิ้นสุดลง ฮว่อหลงเจินเหรินผู้มี
ชื่อเสียงมีคุณธรรมจะต้องไปส่งแขกลงจากภูเขาด้วยตัวเอง
เสมอ เจินเหรินผู้เฒ่ามีสีหน้าเป็นมิตร จะต้องถามอีกฝ่าย
ประโยคหนึ่งว่า ช่วงนี้ที่บ้านเจอกับความยากลำบากอะไร
ใช่หรือไม่
จ้งชิวพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม หยิบสมุดบัญชีเล่มหนึ่ง
ออกมาจากชายแขนเสื้อ “ครั้งนี้สำ นักกระบี่ชิงผิงจัดงานพิธี
เฉลิมฉลองของสำ นัก นับตั้งแต่เทียบเชิญฉบับแรกที่ถูกส่งออก
ไปจนถึงวันนี้ ในช่วงเวลาที่ผ่านมานี้แขกผู้สูงศักดิ์ที่มาเยือนยอดเขามี่เซวี่ยมีมากมายดุจก้อนเมฆ ไม่นับพ่อลูกสกุลหลิว
และอาจารย์อวี้แห่งราชวงศ์เสวียนมี่ของธวัลทวีปเพราะ
พวกเขาสามคนเพิ่งจะขึ้นเขามาร่วมงานพิธีวันนี้ ยอดเขามี่
เซวี่ยจึงไม่ได้จัดหาที่พักให้ แขกผู้มีเกียรติที่เหลืออีกสาม
สิบสองท่าน ค่าใช้จ่ายในการต้อนรับดูแล บวกกับค่าน้ำชา ค่า
เมล็ดแตงในศาลบรรพจารย์วันนี้ รวมเป็นเงินทั้งสิ้นเจ็ดร้อย
ยี่สิบตำลึงกับอีกหกเฉียน”
หวงถิงยังดี ปีนั้นงานพิธีทั้งหลายของภูเขาไท่ผิง นางเป็น
แค่คนดู ก็เหมือนอย่างที่เซียนกระบี่เถาหรานพูดไว้ก่อนหน้านี้
แค่ต้องให้นางนั่งงีบหลับเท่านั้น
แต่หวงถิงที่วาสนาลึกล้ำ บนเส้นทางของการฝึกตน
ต่อให้นางจะไม่สนใจเงินเทพเซียนมากแค่ไหนแต่ก็ยังรู้ว่า ‘เงิน
เจ็ดร้อยยี่สิบตำลึง’ นี้สรุปแล้วมีความหมายว่าอย่างไรกันแน่
เย่อวิ๋นอวิ๋นเป็นบุคคลอันดับหนึ่งของเรือนอวิ๋นฉ่าวผูซาน
ต่อให้หวงอีอวิ๋นท่านนี้จะชอบโยนกิจธุระให้พวกถานหรง เซวีย
ไหวไปจัดการอย่างเต็มอำนาจ ไม่เคยรับงานมาดูแลเองมาก
แค่ไหน แต่ก็ยังมีส่วนที่นางต้องดูผ่านตา ต้องพยักหน้าอนุญาต นี่จึงเป็นเหตุให้เย่อวิ๋นอวิ๋นรู้ค่าใช้จ่ายในการจัด
งานพิธีของจวนเซียนแห่งหนึ่งเป็นอย่างดี จัดหาที่พักให้กับ
แขก ลำพังแค่เหล้าหมักตระกูลเซียน น้ำชา ผลไม้ที่ผู้ฝึกตน
สำ นักกสิกรรมตั้งใจเพาะปลูกซึ่งใช้รับรองแขกประจำ แต่ละวัน
ทุกวันล้วนเป็นเงินก้อนใหญ่ นอกจากนี้การเปิดบุปผาใน
คันฉ่องจันทราในสายน้ำแต่ละครั้ง ปราณวิญญาณของสำ นัก
ที่เผาผลาญไปล้วนจำ เป็นต้องใช้เงินทุ่มออกมาเป็นภาพฉาก
แห่งขุนเขาสายน้ำ บวกกับผู้ฝึกตนที่มาเข้าร่วมงานพิธีอีก
บางส่วน ไม่ใช่ว่าพอมาถึงผูซานแล้วจะโยนพวกเขาไปยัง
‘สถานที่ไร้อาคม’ ที่ปราณวิญญาณบางเบาได้ นั่นจะไม่ถ่วง
การฝึกตนของพวกเขาหรือ นี่จึงต้องให้เรือนอวิ๋นฉ่าวเบิกเงิน
เกล็ดหิมะกองใหญ่มาใช้จ่ายก่อนล่วงหน้า ในจวนเซียนและ
พื้นที่ประกอบพิธีกรรมเปลือกหอยแต่ละแห่งจะต้องทำการ
‘กรอกเท’ ปราณวิญญาณไปไว้ก่อน สร้างสถานที่ที่งดงาม
เหมาะแก่การฝึกตนขึ้นมา ตามคำกล่าวของบนภูเขา ทุก
ลมหายใจของผู้ฝึกตนเซียนดินล้วนเป็นเงินเทพเซียน นี่
ไม่ใช่คำพูดล้อเล่นเลยสักนิด ล้วนเป็นเงินของจริง นอกจากนี้ยังต้องเตรียมของขวัญมอบกลับคืนให้พวกแขกนำกลับไปหลัง
งานพิธีสิ้นสุดด้วย ล้วนจำ เป็นต้องให้ทางฝั่งห้องบัญชีคลัง
ทรัพย์สินบนภูเขาไปตามหาของขวัญที่งดงามและประณีตซึ่ง
มีเอกลักษณ์ความพิเศษมาจากราชวงศ์ในท้องถิ่นหรือไม่ก็
จวนเซียนแห่งอื่นมาแต่เนิ่นๆ …งานพิธีครั้งหนึ่ง ทั้งก่อนและ
หลัง ค่าใช้จ่ายทุกอย่างเมื่อรวมกันแล้วก็เป็นเงินเทพเซียน
จำ นวนมหาศาล หากพิถีพิถันในเรื่องหน้าตาของสำ นักจริงๆ
หักรายรับส่วนของขวัญที่ผู้คนนำมามอบให้แล้ว ถึงขั้นที่ว่า
อาจเป็นบัญชีที่รายรับไม่พอกับรายจ่ายด้วยซ้ำ
ผลคือสำ นักกระบี่ชิงผิงกลับดียิ่งนัก จ่ายเงินไปเจ็ดร้อย
กว่าตำลึงเงิน ไม่ถึงเงินเกล็ดหิมะแม้แต่เหรียญเดียว!
เฉินผิงอันตีหน้าเคร่ง ยังมีเงินอีกหกเฉียนนั่น อาจารย์
จ้งท่านคำนวณออกมาทำไมกัน แบบนี้เกินไปหน่อยแล้วนะ
เหวยเหวินหลงปลงอนิจจังยิ่งนัก เป็นอาจารย์ห้องบัญชี
เหมือนกัน ได้เรียนรู้แล้ว ได้เรียนรู้แล้ว อาจารย์จ้งไม่ลงมือก็
ยังไม่เท่าไร แต่พอลงมือขึ้นมากลับสร้างความตื่นตะลึงให้กับ
ผู้คนไม่เสียแรงที่มีชาติกำเนิดมาจากราชครูแคว้น
หนันเยวี่ยนแห่งพื้นที่มงคลดอกบัวเก่า คิดคำนวณบัญชีอย่าง
ละเอียดพิถีพิถัน เหวยเหวินหลงยอมรับว่าตัวเองสู้ไม่ได้
ครั้งหน้าหากภูเขาลั่วพั่วมีงานพิธีเปิดยอดเขาอีก จะต้อง
พยายามให้มากขึ้นแล้ว
จ้งชิวพลิกบัญชีหน้าแรกไปแล้ว ต่อจากนั้นก็เป็นรายรับ
จากของขวัญของผู้ที่มาแสดงความยินดีแล้ว
ทางฝั่งของราชวงศ์ต้าเฉวียน หลี่ซีหลิงเจ้ากรมพิธีการ
มาถึงยอดเขามี่เซวี่ยช้ากว่าแม่ทัพผู้เฒ่าเหยาเจิ้นและเจ้าเมือง
เหยาเซียนจือ นอกจากพกเงินฝนธัญพืชมาด้วยแปดสิบ
เหรียญ เหยาจิ้นจือฮ่องเต้ต้าเฉวียนยังเป็นฝ่ายรับปากกับ
สำ นักกระบี่ชิงผิงเรื่องหนึ่งว่า ในอนาคตในอาณาเขตของ
ราชวงศ์ต้าเฉวียนและแคว้นใต้อาณัติ ทุกครั้งที่มีการค้นพบ
ตัวอ่อนผู้ฝึกกระบี่จะต้องรีบส่งมาให้ฝึกกระบี่บนภูเขาเซียนตู
ทันที ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในเรื่องของการหลอมกระบี่ กรมคลัง
ของต้าเฉวียนจะรับผิดชอบจ่ายเงินให้เอง หากทางฝั่งของ
ภูเขาเซียนตูยินดีรับผู้ฝึกกระบี่เป็นลูกศิษย์ผู้สืบทอดของยอดเขาทั้งหลาย แน่นอนว่าย่อมดีที่สุด หากรู้สึกว่าไม่เหมาะสมก็
ส่งพวกเขากลับคืนไปที่ต้าเฉวียน แต่ฮ่องเต้ต้าเฉวียนก็ได้
เสนอเงื่อนไขอย่างหนึ่ง และยังเป็นข้อเรียกร้องเพียงหนึ่งเดียว
ผู้ฝึกกระบี่ที่มาจากยอดเขาเซียนตูกลุ่มนี้ ในอนาคตหากฝึก
ตนประสบความสำ เร็จจำ เป็นต้องลงจากภูเขาไปรับหน้าที่เป็น
ผู้ถวายงานเชื้อพระวงศ์ของราชวงศ์ต้าเฉวียน หรือไม่ก็เป็น
ผู้ฝึกตนติดตามกองทัพชายแดน ระยะเวลาที่กำหนดอย่าง
น้อยคือหกสิบปี
ในฐานะน้องชายแท้ๆ ของฮ่องเต้ต้าเฉวียน เหยาเซียน
จือที่ทุกวันนี้ยังเป็นเจ้าเมืองของนครเซิ่นจิ่งด้วย อันที่จริงเขา
เองก็เพิ่งรู้เรื่องนี้เป็นครั้งแรก
ในที่สุดเขาก็เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมตนถึงได้มีเก้าอี้อยู่ใน
ศาลบรรพจารย์ยอดเขาชิงผิง นอกจากจะมีมิตรภาพส่วนตัว
กับอาจารย์เฉินแล้ว ในอนาคตพวกผู้ฝึกกระบี่ที่มาจาก
ราชวงศ์ต้าเฉวียนเหล่านี้จะทยอยกันได้เข้ามาอยู่ในสำ นัก
กระบี่ชิงผิง ถ้าอย่างนั้นตนก็คือที่พึ่งของพวกเขาแล้วสินะ?เฉินผิงอันใช้เสียงในใจยิ้มเอ่ยสัพยอก “ตอนนี้เจ้าเสียใจ
ภายหลังยังทันนะ สำ นักกระบี่ชิงผิงเป็นพันธมิตรกับราชวงศ์
ต้าเฉวียน ไม่ว่าอย่างไรในศาลบรรพจารย์ก็ต้องเก็บเก้าอี้ตัวนี้
ไว้ให้พวกเจ้า เปลี่ยนคนนั่งก็คือได้นั่งเหมือนกัน ดังนั้นหาก
เจ้ารู้สึกว่ายุ่งยาก หน้าบาง กังวลว่าตัวเองมิอาจรับตำแหน่งนี้
ได้ ข้าสามารถช่วยปรึกษากับชุยตงซานแทนเจ้า รอให้ผ่านไป
อีกสักสองสามปีก็ค่อยให้ฮ่องเต้ของพวกเจ้าแนะนำคนอื่น
หากไม่รังเกียจว่าจะยุ่งยาก เจ้าก็นั่งไปอย่างผึ่งผายเถอะ
เพราะถึงอย่างไรข้าก็เป็นแค่เจ้าขุนเขาของภูเขาลั่วพั่ว ไม่ใช่
เจ้าสำ นักของสำ นักกระบี่ชิงผิง วันหน้าหากมีเรื่องให้ต้อง
ถกเถียงกัน เจ้าควรจะทะเลาะอย่างไรก็ทะเลาะไปอย่างนั้น
ไม่ต้องหวาดเกรงเจ้าสำ นักชุย อย่างน้อยข้าก็สามารถรับรอง
เรื่องหนึ่งได้ว่า วันหน้าเจ้าอยู่ที่นี่ ไม่ว่าจะกับใคร ต่อให้จะ
เถียงกันดุเดือดแค่ไหนก็ไม่ต้องกังวลว่าจะแตกหักกัน
ในอนาคตเรื่องหยุมหยิมต้องมีไม่น้อย แต่เรื่องที่ต้องเป็นกังวล
ในอนาคตกลับไม่มี”เหยาเซียนจือรวมเสียงให้เป็นเส้น เอ่ยหยอกเย้าว่า
“อาจารย์เฉิน หากเปลี่ยนคนให้มานั่งตรงตำแหน่งของข้า เขา
หรือจะกล้าก่อกวน มานั่งอยู่ที่นี่ต้องไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ
แรงแน่นอน นั่นก็ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเถียงกับใครโดยพยายาม
ใช้เหตุผลเข้าสู้เลย คาดว่าบางครั้งที่มาเข้าร่วมการประชุม
แทนราชวงศ์ต้าเฉวียนเราก็คงถูกกำหนดมาแล้วว่าจะนั่งบื้อ
เป็นท่อนไม้อยู่ที่นี่ เจ้าสำ นักชุยว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้น แบบนี้
ไม่ได้หรอกนะ ไม่ได้เด็ดขาดเลย อีกอย่างข้ากับแม่นางเผยก็
สนิทสนมกันดี ก็เหมือนอย่างที่อาจารย์เฉินพูด ปิดประตูแล้ว
จะทะเลาะกันรุนแรงแค่ไหน พอเปิดประตูก็ยังเป็นคน
ครอบครัวเดียวกันเหมือนเดิม”
เหยาเซียนจือเหลือบมองไปยังภาพแขวนเพียงหนึ่งเดียว
ในศาลบรรพจารย์
ใครจะกล้าก่อเรื่องที่นี่?
เจ้าสำ นักชุยตงซานคือเซียนเหรินท่านหนึ่ง ต้องรู้ว่าก่อน
สงครามใหญ่ครั้งนั้น สวินยวนอดีตเจ้าสำ นักของสำ นักกุย
หยกก็เป็นขอบเขตเซียนเหรินเหมือนกันแล้วนับประสาอะไรกับที่หมี่อวี้ผู้ถวายงานอันดับหนึ่งใน
ทุกวันนี้ก็เป็นผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตเซียนเหรินคนหนึ่ง ยิ่งเป็นหมี่
ผ่าเอวแห่งกำแพงเมืองปราณกระบี่
นอกจากนี้อาจารย์เฉินเองก็พูดออกมาอย่างชัดเจนแล้ว
ว่า เขาคือบรรพจารย์ของสำ นักเบื้องบน แล้วยังเป็นอาจารย์
ของเจ้าสำ นักชุย บวกกับความสัมพันธ์ควันธูประหว่าง
อาจารย์เฉินกับต้าเฉวียน หลายๆ ครั้งไม่ต้องให้อาจารย์เฉิน
เปิดปากก็คือการลำเอียงเข้าข้างราชวงศ์ต้าเฉวียนอย่างที่มอง
ไม่เห็นแล้ว
จ้งชิวเอ่ยต่ออีกว่า “ผู้คุมกฎถานแห่งผูซาน ขึ้นเขา
มาแสดงความยินดีครั้งนี้นำโฉนดที่ดินสองแผ่นมามอบให้ คือ
แดนบินสองแห่งที่อยู่ห่างจากผูซานค่อนข้างใกล้ อยู่ใกล้กับ
ภูเขาเซียนตูมากที่สุด ตามราคาการประเมินที่เป็นราคา
รับประกัน อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีราคาห้าหกร้อยเหรียญเงิน
ฝนธัญพืช สามารถนำไปทำเป็นพื้นที่ประกอบพิธีกรรมเปิด
ยอดเขาของผู้ฝึกตนโอสถทองได้เลย ส่วนจะสามารถบุกเบิกท่าเรือตระกูลเซียนสองแห่งที่ค่อนข้างเล็กได้หรือไม่ ตอนนี้ยัง
ต้องพิจารณากันอย่างรอบคอบ”
เย่อวิ๋นอวิ๋นยิ้มกล่าว “ถานหรงมาปรึกษาเรื่องนี้กับข้า
ก่อนแล้ว ตามความต้องการของตัวข้าเอง อันที่จริงเอา
โฉนดที่ดินออกมาแค่แผ่นเดียวก็พอแล้ว แต่ถานหรงกับเซวีย
ไหวต่างก็รู้สึกว่าไม่เหมาะสม ใช้เหตุผลที่ว่าเรื่องดีต้องมาเป็น
คู่ ตอนนั้นข้ายังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ถานหรงก็เริ่มยก
มาด ‘เจ้าขุนเขาหากท่านยังพูดจาไร้สาระอีกสักครึ่งประโยค
ข้าผู้อาวุโสก็จะลาออกจากการเป็นผู้คุมกฎ’ ออกมาข่มขู่ข้า
แล้ว ช่วยไม่ได้ จึงได้แต่ปล่อยตามใจเขา ถึงอย่างไรเรื่องการ
หาเงินของผูซานก็พึ่งพวกเขามาโดยตลอดอยู่แล้ว พวกเขาไม่
เสียดาย ก็ไม่ใช่หน้าที่ข้าที่จะต้องไปเจ้ากี้เจ้าการ”
เจี่ยเฉิงทอดถอนใจอย่างปลงอนิจจัง “ก่อนหน้านี้ผินเต้า
ยังไม่กล้าพูดอะไรส่งเดช กลัวว่าตัวเองจะเป็นกบใต้บ่อ
ความรู้ไม่กว้างขวางพอ พอได้ยินคำพูดจากใจจริงของ
เจ้าขุนเขาเย่ประโยคนี้ ในที่สุดก็สามารถมั่นใจได้เต็มหมื่นส่วน
แล้วว่าขนบธรรมเนียมของภูเขาผูซานมีความใกล้ชิดอย่างเป็นธรรมชาติกับภูเขาลั่วพั่วและสำ นักกระบี่ชิงผิงของพวกเรา
นี่จึงเป็นเหตุให้พวกเราสองฝ่ายเป็นพันธมิตรกันก็ช่างเป็นดั่ง
คำที่ว่าน้ำมาคูคลองก่อเกิด คือคู่สร้างคู่สมอย่างจริงแท้”
หาก ‘คำพูดดีๆ’ หยุดลงเพียงเท่านี้ ก็คงไม่ใช่เทพเซียนผู้
เฒ่าเจี่ยที่อีกเดี๋ยวก็จะต้องไปเปิดสอนที่สำ นักศึกษาส่วนตัว
แล้ว
“ผินเต้าพูดไม่เก่ง แต่หากว่าเปิดปากพูดแล้วก็มักจะพูด
อย่างตรงไปตรงมาเสมอ ทั้งยังไม่รู้จักสังเกตคำพูดและสีหน้า
การกระทำของคนอื่น ก่อนหน้านี้ไม่รู้จักเรือนอวิ๋นฉ่าวผูซาน
มากนัก แค่รู้สึกว่าเจ้าขุนเขาเย่คนเดียวก็คือเสาคานค้ำยัน
สามารถแบกภาระหนักอึ้งได้เพียงลำพัง ตอนนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าที่แท้
ทางฝั่งของผูซานก็มีคนที่รับผิดชอบภาระมากมาย ไม่ขาด
วีรบุรุษ พูดประโยคจากใจจริงไปสองสามคำ ล่วงเกินแล้ว หวัง
ว่าเจ้าขุนเขาเย่จะให้อภัย”
ในศาลบรรพจารย์เงียบกริบ
ราวกับว่าเทพเซียนผู้เฒ่าเจี่ยเปิดปากเมื่อไหร่ก็จะต้อง
มีบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะเสมอเย่อวิ๋นอวิ๋นได้แต่กุมหมัดยิ้มเอ่ย “ชมเกินไปแล้ว”
จ้งชิวเปิดหน้าถัดไป ยิ้มกล่าว “ทางฝั่งของสำ นักกุยหยก
ของขวัญร่วมงานพิธีคือเงินฝนธัญพืชแปดร้อยเหรียญ”
เฉินผิงอันอดไม่ไหวถามว่า “เท่าไรนะ?”
“เงินฝนธัญพืช แปดร้อยเหรียญ”
จ้งชิวกล่าว “นอกจากนี้ทางฝั่งของพื้นที่มงคลถ้ำ เมฆา
นายน้อยเจียงเหิงก็รับปากเรื่องหนึ่งแล้ว แต่แค่ว่า
ไม่มีการลงนามบนหน้ากระดาษ ภายในเวลาห้าร้อยปี พื้นที่
มงคลของพวกเขาจะนำรายรับของหาดหินหวงเฮ้อและภูเขา
เยี่ยนซานมามอบให้สำ นักกระบี่ชิงผิงของพวกเราทั้งหมด เพื่อ
เป็นของขวัญร่วมแสดงความยินดีจากสกุลเจียงของพื้นที่
มงคลถ้ำ เมฆา ไม่เกี่ยวข้องกับสำ นักกุยหยก ตามคำกล่าวของ
นายน้อยเจียง นี่คือมติที่ผ่านการประชุมจากศาลบรรพชน
สกุลเจียงก่อนที่บิดาของเขาจะลงภูเขาออกเดินทางแล้ว ไม่
มีใครคัดค้าน”
เสี่ยวโม่รู้สึกละอายใจที่สู้ไม่ได้อยู่บ้าง โจวอันดับหนึ่ง
แห่งภูเขาลั่วพั่วที่ได้ยินชื่อเสียงมานานแต่ไม่เคยได้พบหน้าผู้นี้ใจกว้างจริงๆ
เจินเหรินผู้เฒ่าเหลียงส่วง หยวนหลิงเตี้ยนแห่งยอดเขา
จื่อเสวียน หลิวจิ่งหลงแห่งสำ นักกระบี่ไท่ฮุย สวีเซี่ยเซียนกระบี่
ใหญ่แห่งเกราะทองทวีป ต่างก็นำเงินฝนธัญพืชมามอบให้ใน
จำ นวนที่ไม่เท่ากัน อันที่จริงนี่ต่างหากจึงจะเป็นเรื่องปกติของ
ของขวัญร่วมพิธีบนภูเขา
เซียนเหรินกั่วหรานของภูเขาต้นไม้เหล็กเกรงใจกันมาก
เอาสมบัติอาคมที่เป็นของสะสมส่วนตัวสองชิ้นมาเป็น
ของขวัญ ชิ้นหนึ่งมอบให้แทนภูเขาต้นไม้เหล็ก อีกชิ้นหนึ่งเป็น
ของขวัญร่วมแสดงความยินดีของเขาเอง
ชุยตงซานหัวเราะหึหึ “น่าเสียดายที่เว่ยคอแข็งของ
พวกเราไม่ได้อยู่บนภูเขา ไม่อย่างนั้นเจ้าสำ นักหลิวก็ยากที่จะ
เรียกตัวเองว่าดื่มเก่งไร้ศัตรูเทียมทานแล้ว”
เผยเฉียนไม่พูดไม่จา
ฉายาเว่ยคอแข็งนี้ได้มาอย่างไร นางรู้ดีที่สุด
คนในภาพวาดสี่คนของพื้นที่มงคลดอกบัว คนที่เผย
เฉียนสนิทสนมด้วยมากที่สุด นอกจากจูเหลี่ยนก็คือเว่ยเซียนที่‘บอกว่าตัวเองดื่มเก่งที่สุด ทว่าแค่จอกเดียวก็เมาพับแล้ว’ ผู้
นั้น
นี่ยังเป็นเพราะภายหลังมาอยู่ภูเขาลั่วพั่ว เผยเฉียน
มีเวลาได้ใกล้ชิดกับพ่อครัวเฒ่ามากกว่า แต่หากจะพูดถึง
ความสัมพันธ์ในช่วงแรกเริ่มกันจริงๆ ปีนั้นแม่นางน้อยถ่านดำ
สนิทกับเว่ยเซี่ยนมากที่สุด
อีกทั้งปีนั้นออกมาจากพื้นที่มงคลดอกบัว เดินทาง
ไปเที่ยวเยือนใบถงทวีปร่วมกัน ก็เป็นเว่ยเซียนที่พาเผยเฉียน
ออกไปเดินเล่นข้างนอกบ่อยครั้งมากที่สุด ไม่กล้าพูดว่า
ทุกครั้งล้วนกลับมาพร้อมของเต็มไม้เต็มมือ เพราะถึงอย่างไร
เว่ยเซี่ยนในเวลานั้นก็จนเหมือนกัน ในกระเป๋ามีเงินแค่ไม่กี่
แดง แต่ก็รับประกันว่าแม่นางน้อยจะได้กินจนพุงน้อยกลม
ป่อง เดินเรอไปตลอดทาง
ดังนั้นทุกวันนี้พออยู่กับแม่นางน้อยไฉอู๋ ลูกศิษย์
ผู้สืบทอดที่เว่ยเซี่ยนรับมา เผยเฉียนจึงมีความรู้สึกแบบ
เดียวกัน อันที่จริงเหล้าตระกูลเซียนที่ไฉอู๋ดื่มในทุกวันนี้ก็ล้วน
เป็นเผยเฉียนที่ควักเงินของตัวเองจากนั้นก็คือฉิวตู๋ เนื่องจากหญิงชราเป็นแขกผู้ร่วมงาน
ก่อนแล้วค่อยกลายมาเป็นผู้ถวายงานของศาลบรรพจารย์
ดังนั้นก่อนหน้านี้นางจึงแอบไปที่ซากปรักวังมังกรเก่ามารอบ
หนึ่ง ผลคือได้แบ่งเอาสมบัติเก่าแก่ส่วนหนึ่งมาจากวังมังกร
อย่างกล้าๆ กลัวๆ เหมือนเดินอยู่บนเปลือกน้ำแข็งบางๆ
เพราะมีสายตาจับจ้องจากหวังจูสุ่ยจวินแห่งมหาสมุทรบูรพา
คนใหม่ นอกจากของที่ถูกใจสามชิ้นซึ่งเป็นสมบัติก้นกรุซึ่งจะ
ถูกหมัวมัวผู้อบรมมารยาทของวังมังกรเก่าผู้นี้เก็บไว้เป็น
สินเดิมของชู่ชู่ในอนาคตแล้ว ส่วนที่เหลือล้วนเอาออกมา
ทั้ง
หมด ฉิวตู๋ถึงขั้นไม่เก็บไว้ให้ตัวเองสักชิ้นเดียว
ชุยตงซานช่วยดูให้แล้ว ราคาประเมินอยู่ที่หกร้อย
เหรียญเงินฝนธัญพืช
ขณะเดียวกันนี่ก็แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของ
ทรัพย์สิน ทุนทรัพย์ของวังมังกรลำน้ำใหญ่แห่งหนึ่งว่ามีมาก
น่าดูชมเพียงใด
ก่อนหน้านี้ชิงถงเองก็ได้มาหาชุยตงซาน มอบตำราหา
ยากและสมบัติลับบางส่วนมาให้พร้อมกับวัตถุจื่อชื่อชิ้นหนึ่งหากไม่นับรวมสมบัติหนักบนภูเขาหลายชิ้นนั้น นี่ก็น่าจะ
เท่ากับทรัพย์สินส่วนหนึ่งที่เก็บสะสมไว้ในหอสยบปีศาจแล้ว
ดังนั้นตามคำกล่าวของชุยตงซาน เวลานี้เมื่อจ้งชิวบอก
จำ นวนตัวเลขออกมาโดยตรง ของขวัญร่วมแสดงความยินดี
ของสหายชิงถงจึงเป็นเงินหนึ่งพันสองร้อยเหรียญฝนธัญพืช
——