กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 963.2 ดดอกไม้บานอีกครั้งบนทางเล็กริมคันนา
ชุยตงชานครุ่นคิด ก่อนเอ่ยว่า “โชคชะตาวิถีกระบี่ของใบถงทวีป ท าให้คน…ยากจะอธิบายได้หมดในคาเดียวจริงๆ ตามหลักทั่วไปแล้ว ภายในหกสิบปี ต่อให้ในอาณาเขตของหนึ่งแคว้นถูกขุดดินลึกสาม ชื่อ คาดว่าคงหาเจอแค่สองหรือสามคนเท่านั้น? แต่ถึงอย่างไรวันนี้ก็ ไม่เหมือนวันวานอีกแล้ว มีอาจารย์นั่งบัญชาการณ์อยู่ที่นี่ บวกกับ สาเหตุที่สกุลเหยาต้าเฉวียนเองสามารถดึงดูดโชคชะตาของหนึ่ง แคว้นมาได้ด้วยตัวเอง จานวนก็น่าจะเพิ่มไปได้อีกเป็ นเท่าตัว กระมัง?”
เฉินผิงอันกล่าว “ทางฝั่งของต้าเฉวียนก็ไม่ง่ายเลย ซากปรัก หลายแห่งรอการฟื้นฟู ทุกหนทุกแห่งมีแต่เรื่องที่ต้องใช ้เงิน แล้วยัง ต้องให้การสนับสนุ นกองกาลังทหารของกองทัพชายแดนที่ สอดคล้องกับการเป็ นราชวงศ์อันดับหนึ่งของใบถงทวีปด้วย พวกเรา ลองสมมตว่ามีผู้ฝึ กกระบี่ห้าคนมาฝึ กตนที่ภูเขาเขียนตูก็แล้วกัน กฎระเบียบก็ยังคงเป็ นกฎระเบียบนั้น สมบัติวิเศษแห่งฟ้ าดินทั้งหลาย ที่พวกเขาต้องใช ้ไปกับการหลอมกระบี่ เจ้าไปลดจานวนให้ทางฝั่ง ของกรมคลังต้าเฉวียนสักครึ่งหนึ่งก่อนแล้วค่อยบอกจานวนไป รอให้ หกสิบปี ผ่านพ้น หากราชวงศ์ต้าเฉวียนสามารถฟื้นตัวได้อย่าง สมบูรณ์แล้วก็ไม่ต้องมีการลดราคากันอีกแล้ว ควรต้องเป็ นเงินเทพ เขียนเท่าไรก็เท่านั้น”
ขุยตงชานอิ่มรับหนึ่งที “เอาตามที่อาจารย์บอก”
ทางฝั่งของภูเขาผูชานได้มอบโฉนดที่ดินมาให้สองแผ่น อย่าง น้อยที่สุดก็มีมูลค่าห้าหกร ้อยเงินฝนธัญพืช ภูเขาลูกหนึ่งในนั้นถูกทิ้ง ร ้างมานานหลายปี แต่อาณาบริเวณกว้างขวาง อีกทั้งนับแต่โบราณ มาก็มีแร่เงินอยู่ ในประวัติศาสตร ์ก็มีการทยอยขุดหาหรือไม่ก็สั่งห้าม การขุดอยู่ตลอด หากไม่เป็ นเพราะมันถือว่าเป็ นพื้นที่ส่วนตัวของเรือ นอวิ่นฉ่าวผูชาน พวกราชวงศ์ใหม่เอี่ยมที่เพิ่งได้ฟื้นฟูชะตาแคว้น ป่านนี้ก็คงพากันไปเปิดภูเขาอย่างฮึกเหิม เอามาท าเป็ นแดนบินนาน แล้ว เพราะไม่ถือว่าเป็ นพื้นที่ลมน้าดีเยี่ยมอะไร จึงกลับกลายเป็ นว่า หลบพันหายนะในสงครามครั้งนั้นมาได้ ทุกวันนี้พรรคจวนเซียน ขนาดเล็กที่เคยส่งรายงาน ไปให้กับทางสานักศึกษาเทียนมู่ก็มีผู้ฝึก ตนของทาเนียบที่พลัดหลงหายไปหลายสิบคน ต่างก็กลายไป เป็ นผู้ ฝึกตนอิสระกันหมด พวกเขาจึงจับกลุ่มกันเพื่อความอยู่รอด ถือเป็ น การเปิดภูเขาก่อตั้งพรรคกันขึ้นมาตามความหมายที่แท้จริงแล้ว เจ้า ประมุขพรรคคือผู้ฝึกตนเฒ่าขอบเขตประตูมังกรคนหนึ่ง เนื่องจาก เขา พอจะมีความสัมพันธ ์ควันธูปกับผูชานอยู่บ้าง อีกทั้งผูซานก็เป็ น คนใจกว้างมาโดยตลอด ดังนั้นจึงรับเงินร ้อนน้อยไม่กี่เหรียญที่อีก ฝ่ ายทุบหม้อขายเหล็กเก็บหอมรอมริบมาพอเป็ นพิธี แล้วยกภูเขาลูก นั้นให้ไปก่อนหน้านี้จังชิวบอกว่าสถานที่แห่งนี้สามารถเอาไป ทาเป็ น พื้นที่ประกอบพิธีกรรมของเซียนดินโอสถทองคนหนึ่งได้ ก็ไม่ใช่ ถ้อยคาที่เอ่ยให้ไพเราะเท่านั้น
ขุยตงชานยิ้มกล่าว “ผู้ถวายงานฉิวสายตาดีบังเอิญเก็บของเก่า ของวังมังกรที่มีมูลค่ามากที่สุดเอาไว้สามอย่าง หาไม่แล้วราคา ประเมินก็คงไม่ใช่หกร ้อยเหรียญฝนธัญพืชแล้ว ไม่ว่าอย่างไร ของขวัญร่วมแสดงความยินดีก็สามารถราคาสูงขึ้นไปได้อีกเป็ นเท่า ตัว”
เฉินผิงอันด่าขาๆ อย่างอดไม่อยู่ “นั่นเป็ นของที่ฉิวหมัวมัวเก็บไว้ ให้หูอู่หลิง แล้วหูอู่หลิงก็เป็ นลูกศิษย์ผู้สืบทอดของเจ้า เจ้ายังมีหน้าจะ มาพูดเรื่องนี้อีกหรือ?”
เฉินผิงอันหันไปมองหมี่ลี่น้อย “ถูกไหม หมี่ลี่น้อย?”
หมี่ลี่น้อยเกาแก้ม “ไม่ค่อยเหมาะเท่าไรจริงๆนะ”
การที่ชุยตงชานดีดลูกคิดคิดบัญชี หลักๆ แล้วคือต้องการจด บันทึกของล้าค่าที่เก็บรักษาไว้ในหอสยบปีศาจของสหายชิงถงอย่าง ละเอียด เพราะจ านวนนั้นมีมากเกินไปจริงๆ ลาพังเพียงแค่รายชื่อ ของต าราหายากทั้งหลายก็สามารถเรียงเป็ นตาราเดี่ยวๆ เล่มหนึ่งได้ เลย สมบัติสารพัดรูปแบบที่สะสมน้อยจนกลายเป็ นมากเช่นนี้ จานวน รวมก็ย่อมมากน่าดูชม
ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ในศาลบรรพจารย์ยอดเขาชิงผิง อาจารย์จัง บอกว่าเป็ นจานวนหนึ่งพันสองร ้อยเหรียญเงินฝนธัญพืช ไม่สามารถ บอกได้ว่าเป็ นราคาที่ “แถลงผิด” เพราะราคานี้ก็ถือเป็ นราคาตลาด ในอดีต หากเป็ นใบถงทวีปที่ทุกวันนี้ยิ่งมีของวิเศษมีสมบัติอาคมมาก
เท่าไรก็ยิ่งมีประโยชน์มากเท่านั้น เป็ นเหตุให้ราคาของทั้งหลายเพิ่ม ขึ้นสูงไปมาก ไม่จาเป็ นต้องกลัดกลุ้มเรื่องช่องทางการขายเลยสักนิด มีแต่จะแย่งชิงกันหัวร ้างข้างแตก จะมีผู้ฝึ กตน รู ้สึกว่าเป็ นหมูที่ถูก เชือดหรือไม่? มาๆๆ เชิญมาฟันกระเป๋ าเงินของข้าผู้อาวุโสได้ตาม สบายเลย ดังนั้นนักบัญชีของ สานักกระบี่ชิงผิงอย่างจังชิว แรกเริ่ม จึงค่อนข้างลังเลเอยู่บ้าง สุดท้ายถูกเจ้าส านักขุยโน้มน้าวถึงได้ฝืนใจ บอกราคา นั้นไป โชคดีที่สหายชิงถึงผู้นั้น ทุกวันนี้ได้กลายเป็ นผู้ ถวายงานบันทึกชื่อที่มีเก้าอี้อยู่ในศาลบรรพจารย์แล้ว นอกจากนี้ก็ คือทรัพย์สมบัติหลายส่วนของเจ้าอ้วนกูชูผู้นั้น
บางทีนี่ต่างหากถึงจะเป็ นของขวัญชิ้นใหญ่อย่างแท้จริง
เพราะถึงอย่างไรก็เป็ นผีขอบเขตบินทะยานตนหนึ่งที่มีชาติ ก าเนิดจากกษัตริย์ของผู้เหยาทวีป
เฉินผิงอันเอ่ย “สมบัติทั้งหลายของอวี่จีน นอกจากส่วนที่คืน กลับไปแล้ว อีกสี่ส่วนที่เหลือ เก็บไว้ แตะต้องมันก่อน”
เรื่องของการขุดเจาะลาน้าใหญ่หลังจากนี้ บางทีอาจต้อง ขอให้อวี่จินช่วยเหลือ ถึงเวลานั้นทรัพย์สมบัติติ เดิมทีก็เป็ นของผี เขียนตนนี้อยู่แล้วก็ค่อยหาโอกาสค่อยๆ คืนกลับไปก็แล้วกัน
ใบหน้าของขุยตงซานเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ร ้องหาหนึ่ง ที “อาจารย์ ทางฝั่งของภูเขา เขียนดูเก็บไว้ แค่สามส่วนเท่านั้นนะ”
เฉินผิงอันผุดลุกขึ้นทันใด เตรียมจะไปตรวจสอบบัญชีให้ชัดเจน ชุยตงชานรีบปิดสมุดบัญชีลง หัวเราะฮ่าๆ เอ่ยว่า “จ าผิดแล้ว จ าผิด แล้ว คือสี่ส่วน”
เฉินผิงอันนั่งกลับลงไปบนเก้าอี้ไม้ไผ่ ทาหีบหนังสือต่ออีกครั้ง “ลาพังแค่เงินฝนธัญพืชส่วนที่จับต้องได้จริง มี กี่เหรียญแล้ว? ส านัก กระบี่ชิงผิงของพวกเจ้ายังจะร่าร ้องว่าตัวเองยากจนกับข้าอีกหรือ?”
ชุยตงชานเหมือนถูกฟ้ าผ่า เอ่ยอย่างเจ็บปวดรวดร้าวปานจะขาด ใจ “หมี่ลี่น้อย เจ้าฟังดูนะ อาจารย์พูดว่า สานักกระบี่ชิงผิงของ ‘พวก เจ้า’ สมควรแล้วหรือ? เจ้าว่าน่าเสียใจหรือไม่เล่า?”
หมี่ลี่น้อยโคลงศีรษะทาหน้าทะเล้น “พวกเจ้า พวกเจ้า ภูเขาถั่ว พัวของพวกเรา ภูเขาลัวพัวของพวกเรา” ขุยตงชานทิ้งตัวเอนหลังพิง เก้าอี้ สองเท้าดิ้นสะบัดปัดๆ โบกตวัดชายแขนเสื้ออย่างแรง “ไม่รู ้จะ ใช้ชีวิตต่อไป
หมีลีน้อยโคลงศีรษะท าหน้าทะเล้น “พวกเจ้า พวกเจ้า ภูเขาลัว พัวของพวกเรา ภูเขาลัวหัวของพวกเรา
ขุยตงชานทิ้งตัวเอนหลังพิงเก้าอี้ สองเท้าดิ้นสะบัดปัดๆ โบกตวัด ชายแขนเสื้ออย่างแรง “ไม่รู ้จะใช้ชีวิตต่อไป อย่างไรแล้ว แม้แต่ผู้ พิทักษ์ฝ่ายขวาก็ยังเริ่มรังแกคนแล้ว”
หมี่ลี่น้อยรีบวิ่งเข้าไปในห้อง เขย่งปลายเท้าเอามือป้ องข้างปาก พูดชุบซิบกับห่านขาวใหญ่ที่นอนตะแคงหัน ข้างไปทางที่วางแขน เก้าอี้
แม้ว่างานพิธีจะสิ้นสุดลงแล้ว แต่อันที่จริงในเรือนต่างๆ บนยอด เขามี่เชวี่ยกลับยังมีแขกที่แวะเวียนมา เยี่ยมเยียนกันอยู่
ยกตัวอย่างเช่นจางชานเพิ่งไปหาเจ้าสานักหนุ่มของสานักกระบี่ ไท่ฮุย แล้วพูดแลกหน้าไปประโยคหนึ่งว่า “เจ้าสานักหลิว ข้าดื่มเหล้า ไม่เก่ง”
ป้ ายโส่วหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง
หลิวจึงหลงยิ้มกล่าว “ไม่เป็ นไร ข้าไม่ยุให้ใครดื่มเหล้า”
ช่วยรินเหล้าให้กับจางชานเพิ่งและป่ ายโส่วไปสองชาม หลิวจึง หลงก็ยกถ้วยเหล้าในมือขึ้นชนกับของจางชาน เพิ่งเบาๆ ถามคาถาม ที่สงสัยใคร่รู ้มานาน
หลิวจึงหลงยิ้มอธิบายด้วยรอยยิ้มว่า “แน่นอนว่าข้าไม่ชอบดื่ม เหล้า แต่พวกคนที่มาหาข้าเพื่อดื่มเหล้าเพราะ ถูกใครบางคนยุแยง มา ในเมื่อเป็ นสหายของเขา ข้าก็รู ้สึกว่าย่อมต้องควรค่าแก่การทา ความรู ้จักด้วย”
นักพรตหนุ่มดื่มเหล้าไปอีกใหญ่ ยิ้มเอ่ยว่า “บอกตามตรง ได้ดื่ม เหล้าร่วมโต๊ะกับเจ้าสานักหลิว หากเป็ นเมื่อ ยี่สิบปีก่อน นี่คงเป็ นเรื่อง ที่แม้แต่คิดข้าก็ยังไม่กล้าคิดเลย”
หลิวจึงหลงยิ้มเอ่ย “คาพูดทานองนี้ คนที่เชื่อต้องมีไม่มากแน่ ข้า ล่ะที่เป็ นคนหนึ่งในนั้น”
ป้ ายโส่วพลันทอดถอนใจเอ่ยว่า “ผู้ที่เป็ นความภาคภูมิใจที่สุดใน โลกมนุษย์ และยังมีท่านผู้นั้นของใต้หล้า เปลี่ยวร ้าง รวมไปถึงป้ าย ฉางแห่งทางเหนือของอุตรกุรุทวีปพวกเรา บวกกับข้าป่ ายโส่ว พวก เราที่เป็ นคนแช่ป้ าย อยู่บนภูเขาก็ช่างเป็ นแช่ที่ยิ่งใหญ่จริงๆ!”
จางชานเพิ่งเริ่มใคร่ครวญอย่างจริงจังแล้วว่าผู้ฝึกตนบนยอดเขา ที่แช่จางมีใครบ้าง
หลิวจึงหลงรู ้สึกอ่อนใจเป็ นทบทวี
ป้ ายโส่วจิบเหล้าหนึ่งอีกแล้วพยักหน้าเอ่ยกับตัวเอง “ได้ยินมาว่า คนพิฆาตมังกรแช่เฉิน บวกกับผู้รอบรู ้ทึบน ป่าแบกตะวันจันทราของ ทักษินาตยทวีป แล้วยังมีเฉินผิงอันพี่น้องคนดีของช ้า แซ่เฉิน ให้อยู่ อันดับที่สองก็แล้วกัน”
ฉิวตู้พาชูชูไปเยี่ยมเยือนผู้ฝึกตนสามท่านของหอชูจื่อวี้จือก่าง เก่า
ขางมิ่งผู้คุมกฏของภูเขาถั่วทั่วพาน่าหลันอวี่เตี้ยลูกศิษย์ผู้สืบ ทอดและยังมีเทพเขียนผู้เฒ่าเจี่ยผู้ดูแลอันดับ รองของเรือข้ามฟาก ไปหาคู่รักอย่างอูโกวและเชียวม่านยิ่ง
เทพเขียนผู้เฒ่าเจี่ยถึงกับเสนอตัวเป็ นพ่อครัว ผูกผ้ากันเปื้อนไว้ ที่เอว ทากับแกล้มด้วยตัวเองสองสามอย่าง นี่ย่อมทาให้คู่รักคู่นั้น
ตกใจที่ได้รับความเมตตาอย่างไม่คาดฝัน หลักๆ แล้วก็เพราะยัง ปรับตัวเข้ากับ ขนบธรรมเนียมของสานักกระบี่ชิงผิงไม่ได้ เชื่อว่าอีก ไม่นานพวกเขาก็คงจะไม่รู ้สึกตกตะลึงประหลาดใจเพราะเรื่อง ทานอง นี้อีกแล้ว
หลิวจอี้เป่าและอวี่พ่านสุ่ยไปหาสานักกุยหยก ที่พักของฝ่ ายหลัง อยู่ในเรือนหลังใหญ่ที่มีน้อยจนนับนิ้วได้ของ ยอดเขามีเชวีย
นี่ก็คือหนึ่งในเหตุผลที่ว่าทาไมงานฉลองของสานักใหญ่หลาย แห่ง ผู้ฝึกตนท าเนียบบางคนถึงได้ยอมกัดฟันจ่ายเงินส่วนตัวออกไป ส่วนหนึ่งก็ต้องขบคิดหาวิธีเพื่อให้เข้าร่วมงานให้จงได้
ไม่เพียงแต่สามารถไปปรากฏตัวให้ผู้คนได้คุ้นหน้าคุ้นตา การค้าขายอย่างแท้จริง กิจการใหญ่ทั้งหลายก็ ล้วนได้มาจากการ รวมกลุ่มแล้วพูดคุยกันเช่นนี้
แน่นอนว่าส าหรับเทพเจ้าแห่งโชคลาภหลิวแล้ว ย่อมไม่อยู่ใน กรณีนี้
ระหว่างทางที่เดินกันไป อวี่พ่านสุยยิ้มเอ่ย “ต่อให้เป็ นของขวัญ เข้าร่วมงานพิธีของสานักอักษรจง แต่สานักที่ ได้เงินฝนธัญพืชไป ทีเดียวมากขนาดนี้ก็คงมีไม่เยอะกระมัง?”
หลิวจจี้เป้ าพยักหน้ารับ “คราวก่อน บางทีอาจเป็ นครั้งที่เหวยเซ่อ เลื่อนเป็ นห้าขอบเขตบน หรือครั้งก่อนหน้า นั้นก็น่าจะเป็ นตอนที่ อวี่เสวียนก่อตั้งสานักเบื้องล่างอีกครั้ง”
หากว่าสานักเบื้องล่างของสานักแห่งหนึ่งมีสานักเบื้องล่างอีกที ถ้าอย่างนั้นสานักแห่งนั้นก็จะได้เลื่อนเป็ น สานักตั้งเดิม หรือถูกเรียก ขานอย่างให้ความเคารพว่า “ศาลบรรพชน แล้ว
ในประวัติศาสตร ์ของใต้หล้าไพศาล เรียกได้ว่ามีน้อยจนนับนิ้ว ได้
จงขุยพาเจ้าอ้วนไปคุยเล่นกับแม่ทัพผู้เฒ่าเหยาเจิ้น พอดีกับที่ คนสามคนของยูชานก็อยู่ด้วย
อวิจินค้นพบเรื่องประหลาดเรื่องหนึ่ง ตอนที่จงขุยเห็นหวงคือวิ่น ผู้นั้นกลับมีสีหน้าเขินอายอยู่หลายส่วน เสียง เวลาพูดจาก็ต่างไป จากเดิม ใคร่ครวญทุกค าก่อนจะพูด แสร ้งท าตัวเป็ นปัญญาชน สุภาพเรียบร ้อยโดยแท้
คิดถึงว่าข้ากูชูคือบุรุษผู้มีจิตใจเข้มแข้งตรงไปตรงมา ทนเห็น จงขุยที่เป็ นสภาพเช่นนี้ไม่ได้จริงๆ เลี่ยนแย่แล้ว!
ดื่มเหล้ากันไปแล้ว หลังออกมาจากเรือนที่พัก จงขุยก็สังเกตเห็น ว่าเจ้าอ้วนเยี่ยนหน้าตาบูดเบี้ยวคล้ายไม่ พอใจ จึงพูดถึงเรื่องที่ชุยตง ชานยินดีมอบสมบัติกลับคืนมาให้หกส่วน
เจ้าอ้วนรีบงอสองเข่าลงทันใด สองมือคว้าจับแขนของจงขุย น้าตาร ้อนๆ เอ่อคลอดวงตา พูดเสียงละชิ้นให้ “พี่จงขุย พระคุณ ยิ่งใหญ่ครั้งนี้มีอาจตอบแทนได้ จะให้น้องชายทาอย่างไรดี!”
จงขุยสะบัดชายแขนเสื้อ หัวเราะพรืด “ครั้งหน้าหากมีงานเลี้ยง สุราอีก นิสัยยามเหล้าเข้าปากเช่นนี้ของเจ้าก็ ไปดื่มกับสุนัขเสีย เถอะ”
เจ้าอ้วนพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ก็ข้ากลัวว่าจะแย่งความมีหน้ามี ตาของพี่จงบนโต๊ะเหล้าไม่ใช่หรือ”
จงขุยผลักหัวของเจ้าอ้วนออกไป
อวีจีนกดเสียงลงต่าถามว่า “พี่น้องจง เจ้าชอบหวงอือวิ่นหรือ? บังเอิญนัก พวกเราสองพี่น้องสายตาดีพอๆ กันเลย ช่างเถอะ เพื่อพี่ น้องแล้ว ข่มกลั้นความเจ็บปวดมอบของรักออกไปให้จะเป็ นไรไป ต้องการให้ข้าช่วยสาน สะพานความสัมพันธ ์ให้หรือไม่? รับมือกับ สตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตรีที่โดดเด่นเช่นนี้ น้องชายพอจะมี พรสวรรค์ อยู่บ้าง?”
จงขุยยิ้มกล่าว “คิดอะไรของเจ้าน่ะ เป็ นเพราะข้าชื่นชมเลื่อมใส เจ้าขุนเขาเย่มาตั้งแต่ตอนอายุยังน้อยแล้ว ชอบย่อมต้องขอบ แต่ ไม่ใช่ความชอบระหว่างชายหญิงสักหน่อย”
อวีจินเอ่ยอย่างปลงอนิ จจัง ข้าล่ะนับถือในการพูดจา ตรงไปตรงมา เป็ นวิญญูชนผู้ชื่อตรงฝั่งผายของพี่จงขุย จริงๆ
พอพูดถึงสตรี อวีจีนก็โมโหจนกระทืบเท้า เฉินผิงอันผู้นี้คิดว่า ตัวเองเป็ นไท่ช่างเค่อชิงของพื้นที่มงคลร ้อย บุปผาไปแล้วหรือไร??
เพียงแต่พอคิดอีกที พูดอย่างไม่ผิดต่อมโนธรรมในใจ เจ้าเด็กนี่ อายุน้อยมากความสามารถเช่นนี้ ทั้งยังมี ความรับผิดชอบ ข้าหาก เป็ นเขา ถ้าเดินกร่างก็ไม่ถือว่าข้าอวี่จีนพิถีพิถันเรื่องมาดอันองอาจ แล้ว
จงขุยสอดสองมือไว้ในชายแขนเสื้อ ก้าวเดินเนิบช ้า เงยหน้ามอง ท้องฟ้ า
มีคนกี่มากน้อยที่มามองแสงจันทร ์ใครบ้างที่รู ้ว่าแท้จริงแล้วกลับ ถูกแสงจันทร ์มอง
จังชิวมาหาเล้าพอเขียน เหมิงหลงและสือชิว
เขามาที่นี่หลักๆ แล้วก็เพื่อบอกกล่าวเรื่องสองเรื่อง เรื่องหนึ่งก็ คืออู่อี้แห่งจวนจื่อหยางที่ตั้งอยู่ในอาณาเขต แคว้นหวงถึง มีความ เป็ นไปได้อย่างยิ่งว่าช่วงเวลาอันใกล้นี้นางจะมายังใบถงทวีป ไม่ได้มา ท่องเที่ยว แต่มาเพื่อตั้ง รกรากอยู่ในใบถงทวีปอย่างเป็ นทางการ อู่อี้ ยินดีมารับหน้าที่เป็ นเงินเหรินผู้พิทักษ์แคว้นให้พวกเขาหลังจาก ก่อตั้ง แคว้นไว้ที่ริมลาคลองหลินเหอ เส้าพอเชียนยิ้มมองสาวใช ้ที่อยู่ ข้างกาย ชื่อของเหมิงหลงที่อยู่บนทาเนียบขุนเขา สายน้าในทุกวันนี้ คือคู่กูเหมิงหลง นางพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม ในเมื่อคุณชายของตน ไม่มีความเห็นต่าง นางก็ย่อม ยินดีที่จะได้เห็นเรื่องนี้สาเร็จ
หลังจากนั้นจังชิวก็เอาม้วนภาพออกมาสองภาพ หนึ่งคือภาพ ชัยภูมิของภาคกลางใบถงทวีป อีกภาพหนึ่งคือ ช่วงกระแสน้าไหล
ของลาคลองบางช่วงตอน บอกกับคนทั้งสามว่าในอนาคตลาคลอง หลินเหอจะกลายเป็ นหนึ่งใน เส้นทางสายน้าหลักของลาน้าใหญ่ใหม่ เอี่ยม เส้าพอเชียนจ้องภาพทั้งสอง ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ก็เอ่ยว่า “การ เลือก ห้ามหาบรรพตของพวกเราในอนาคต บางทีอาจต้องมาการ เปลี่ยนแปลงแล้ว”
หากก่อตั้งแคว้นเมื่อไหร่ นอกจากเลือกที่ตั้งเมืองหลวงแล้วก็ยัง ต้องแต่งตั้งชานจวินห้ามหาบรรพต รวมไปถึงเชื้อเชิญเทพวารีมา บุกเบิกจวน รวบรวมชาวบ้านที่พลัดที่นาคาที่อยู่ และเรื่องราวน้อย ใหญ่พวกนี้ล้วนจาเป็ นต้อง อาศัยการสนับสนุนมากมายจากส านัก กระบี่ชิงผิง ไม่ว่าจะเป็ นเงินเทพเขียน เส้นสายของผู้คนบนภูเขา ขุน นางผู้ประคับประคองมังกร
กั่วหรานที่มีฉายาว่า “หลงเหมิน รับปากกับหวงถึงแล้วว่าจะเป็ น ผู้ถวายงานที่ได้รับการบันทึกชื่อของภูเขาไฟ
ผิง
ดังนั้นผ่านไปอีกสองวัน หลังลงจากภูเขาไปแล้ว กั่วหรานจะพา ลูกศิษย์ถานยิ่งโจวติดตามหวงถึงและผู้ถวาย งานพิทักษ์ภูเขาอวี่ฟู ชานไปยังที่ตั้งเก่าของภูเขาไท่ผิงด้วยกัน
เขียนเหรินท่านนี้ได้ส่งกระบี่บินแจ้งข่าวกลับไปที่ภูเขาต้นไม้ เหล็ก บอกกับศิษย์พี่หญิงที่ดูแลกิจธุระของสานัก ในทุกวันนี้แล้วว่า ตนคิดจะอยู่ในใบถงทวีปอีกปีครึ่ง
ส าหรับผู้ฝึ กตนห้าขอบเขตบนแล้ว การออกจากส านักเดิน ทางไกลครั้งหนึ่ง ใช ้เวลาหลายปีหรือแม้กระทั่งหลายสิบปีก็ถือเป็ น เรื่องที่ปกติอย่างมาก
นอกจากนี้แล้วกั่วหรานยังใช ้ความสัมพันธ ์ส่วนตัว ส่งจดหมาย ลับหลายฉบับไปให้กับทวีปแดนเทพแผ่นดิน กลาง เชื้อเชิญอาจารย์ กลไกที่มีชาติกาเนิดมาจากเผ่าปีศาจเหมือนกันและผู้เชี่ยวชาญด้าน การก่อสร ้างบนภูเขา
หลายคนให้มา “เที่ยวเยือน ที่ใบถงทวีปของพวกเขาด้วย
หมื่อกี้ ชุยเหวย เสี่ยวโม่ ผู้ฝึกกระบี่สามคนมารวมตัวกันอย่างที่ หาได้ยาก
บวกกับชิงถงที่อยู่บนภูเขาเซียนตูก็ดูเหมือนว่าจะไม่สนิทกับใคร ทั้งนั้น และคนเดียวที่ค่อนข้างสนิมสนมด้วย ก็ไม่ค่อยจะยินดีอยาก สนิทด้วยสักเท่าไร