กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 973.2 ยืมลมตะวันออก
ฟังมาถึงตรงนี้ ชุยตงซานก็พยักหน้ารับ “นี่ต่างหากถึงจะถือว่า เป็ นคนเข้าใจง่ายที่พูดจากันอย่างเปิดเผย”
จางจื๋อกล่าว “ปีนั้นขับไล่ร ้านผ้าห่อบุญออกไป ราชครูชุยก็ชัก น าอาจารย์ฟ่ านและสานักการค้าให้เข้ามาที่แจกันสมบัติทวีปทันที เหมือนกับต้องการปัดกวาดท าความสะอาดไว้ให้กับฝ่ ายหลัง พอต้อง เสียเปรียบครั้งนี้ ร ้านผ้าห่อบุญของพวกเราก็ยอมรับชะตากรรมแล้ว ไม่มีความไม่พอใจใดๆ”
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาตามที่อาจารย์เฉินบอก เกี่ยวกับเรื่องที่จะทา การค้าใหม่ที่แจกันสมบัติทวีปอีกครั้ง เมื่อไหร่ที่ใต้หล้าสงบลงแล้ว ร ้านผ้าห่อบุญและภูเขาลั่วพั่วค่อยมา ปรึกษากันดีๆอีกครั้ง”
“ส่วนทางฝั่งของใบถงทวีปนี้ ความจริงใจของร ้านผ้าห่อบุญเป็ น อย่างไร พื้นฐานเป็ นอย่างไร ข้ารู ้สึกว่าสามารถใช ้เรื่องของการ ร่วมมือกันขุดเจาะลาน้าใหญ่มาเป็ นตัวเปิดฉากได้ เจ้าส านักชุยคิด ว่าอย่างไร?”
อู๋โซ่วรู ้ว่าบรรพจารย์บ้านตนใช ้เสียงในใจพูดคุยกับเด็กหนุ่มชุด ขาว เจ้าอ้วนเสียใจจนไส้เขียวแล้วจริงๆ หากรู ้แต่แรกคงจะขอชา ร ้อนๆ จากแม่นางน้อยมาดื่มสักถ้วย ถึงอย่างไรก็คงดีกว่านั่งเฉยๆ อยู่ อย่างนี้
ไม่รู ้ว่าเหตุใด อิ่นกวานหนุ่มผู้นั้นถึงได้เดินออกมาจากห้องอีก ครั้ง ข้างกายยังมีแม่นางน้อยชุดด าที่เดินหิ้วกาน้าตามมาด้วย
พออู๋โซ่วเห็นภูตน้าน้อยขอบเขตถ้าสถิตตนนี้อีกครั้ง ขอแค่ทุก ท่านที่นั่งอยู่ไม่รู ้สึกว่าน่ารังเกียจ อู๋โซ่วผู้มีขอบเขตก่อก าเนิดผู้ ยิ่งใหญ่ก็นึกอยากจะไปนั่งคุกเข่าโขกหัวตะโกนเรียกนางเสียงดังว่ากู ไหน่ไนแล้ว
โจวหมี่ลี่เติมน้าชาให้ทุกคนอีกรอบ คราวนี้เป็ นอู๋โซ่วที่ต้องรีบก้ม หน้าเอ่ยขอบคุณแม่นางน้อยติดๆ กันหลายครั้ง น้าตาร ้อนๆ เกือบจะ มาเอ่อคลอเบ้าตาของเขา
ชุยตงซานยิ้มเอ่ย “เจ้าอ้วนคนก่อนที่มาเยือนภูเขาเซียนตูก็ยังไม่ โชคดีอย่างเจ้าเลยนะ”
เฉินผิงอันนั่งอยู่บนม้านั่งยาว โจวหมี่ลี่นั่งลงด้านข้าง
หยิบเอาพัดพับหยกที่หุบเข้าหากันเล่มหนึ่งออกมาจากชายแขน เสื้อ เฉินผิงอันวางพัดไม้ไผ่ลงบนโต๊ะเบาๆ ยิ้มเอ่ยว่า “เมื่อครู่ตอนอยู่ ในห้องเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าตอนที่อยู่เกาะยวนยาง อาจารย์จางเป็ นผู้ เปิดร ้านผ้าห่อบุญด้วยตัวเอง ชื่อว่าร ้าน “ปรองดอง” เปิดประตูทาการ ค้าควรจะหาเงินด้วยความปรองดองจริงเสียด้วย ข้ากับเพื่อนๆ หลาย คนบังเอิญเคยได้แวะไปเดินดูร ้านปรองดองโดยละเอียดมาก่อน ได้ เปิดโลกทัศน์แล้ว ดูเหมือนว่ายังติดค้างน้าใจจากอาจารย์จางอยู่ครั้ง
หนึ่ง หลักฐานที่เป็ นลายลักษณ์อักษรสองแผ่น เรื่องราวในใต้หล้า เรื่องไหนก็ส่วนเรื่องนั้น การค้าไม่สาเร็จแต่สัจจะยังคงอยู่”
ที่แท้ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในหอปรองดอง เฉินผิงอันถูกใจพัดพับ ที่ล้าค่าเล่มนี้เพียงแค่ ปราดแรกที่มองเห็น เพียงแต่ว่าตอนนั้นบนร่าง พกเงินเทพเซียนไปไม่มาก กระเป๋ าฟีบแบน ไม่คิดว่าเพียงไม่นานจะมี ยันต์สาวงามคนหนึ่งเดินนวยนาดออกมาจากในร ้าน เป็ นฝ่ ายเสนอ กับเขาว่าสามารถเอาพัดไปได้ วันหน้าแค่จ่ายเงินชดเชยไว้ที่ร ้านผ้า ห่อบุญในท่าเรือแห่งใดก็ได้ หลังจากนั้นทางร ้านผ้าห่อบุญจะต้อง ทาลายใบยืมหนี้ด้วยตัวเองแน่นอน ภายหลังหลี่ไหวถูกใจ “เซียน ภูเขา” ที่มีลักษณะคล้ายสวนกระถาง ด้านในมีภูตต้นหลิ่วเฒ่าคน หนึ่งพักพิงอยู่ ร ้านผ้าห่อบุญเปิดราคาไว้ที่สิบเหรียญเงินฝนธัญพืช เฉินผิงอันก็ช่วยลงนามในใบยืมหนี้แทนหลี่ไหวอีกหนึ่งแผ่น
ชุยตงซานยื่นมือมารับพัดพับไปคลี่กางออกเสียงดังพรึ่บ บน หน้าพัดบันทึกบทขอฝนของซูจื่อเอาไว้ อีกด้านหนึ่งก็เขียน ‘กลอน มังกรจาศีล” ด้วยอักษรแบบหวัดของหลิ่วโจวแห่งภูเขาเจ๋อเซียน ตัว พัดเองสามารมองเป็ นสมบัติหนักวิชาน้าชิ้นหนึ่งได้เลย ระดับชั้นของ สมบัติอาคมนั้นหนีไม่พ้นแน่ ผู้ฝึกกระบี่ที่คุณสมบัติดีหน่อย ดวงดี หน่ อย หากเลือกช่วงเวลาที่ฝนตกฟ้ าร ้อง หลังจากอาบน้า ผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วคลี่พัดออก ด้านหนึ่งอ่านอักษรแบบหวัด ทาง หนึ่งมองดูสภาพอากาศ ภายใต้โชควาสนาที่อานวย ไม่แน่ว่าอาจเอา
อย่างเซียนกระบี่หลิ่วโจวในอดีตจนได้กลิ่นอายเซียนและปณิธาน กระบี่บางอย่างมาก็เป็ นได้ ชุยตงซานถามอย่างกังขา “อาจารย์ ตอนนั้นร ้านผ้าห่อบุญเปิด ที่เกาะนกแก้วไม่ใช่หรือ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้อยู่ที่เกาะยวนยางนะ” เฉินผิงอันเอ่ยอย่างกระจ่างแจ้ง “อย่างนั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นข้า คงจ าผิดไป”
อู๋โซ่วใกล้บ้าเต็มทีแล้ว ใต้เท้าอิ่นกวานท่านพูดจามีความจริงใจ แบบนี้เองหรือ?
จางจื๋อหยิบใบยืมหนี้สองแผ่นออกมาจากชายแขนเสื้อ คนที่ลง นามคือเฉินผิงอันแห่งภูเขาลั่วพั่ว ใบยืมหนี้ใบหนึ่งคือเงินฝนธัญพืช ห้าสิบเหรียญซึ่งเป็ นราคาของพัดพับ ส่วนอีกใบหนึ่งคือเงินสิบ เหรียญฝนธัญพืชของสวนกระถางเซียนภูเขา
ชุยตงซานกวาดตามองแล้วก็ใช ้ความเร็วที่ฟ้ าผ่าไม่ทันป้ องหูเอา เงินหกสิบเหรียญฝนธัญพืชออกมา หมายจะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับ อาจารย์ ใช ้หนี้ให้หมดสิ้น เอาใบยืมหนี้กลับคืนมา ส่วนค่าใช ้จ่ายอีก ก้อนหนึ่งนั้นต้องเก็บเอาไว้ก่อน วันหน้าชุยตงซานสามารถเอาไปให้ นักพรตเนิ่นดูได้ สิบเหรียญเงินฝนธัญพืช? โง่หรือไร ภูตต้นหลิ่วเฒ่า ตนนั้นเคยถูกมรรคากับหลวี่เหยียนฉุนหยางเจินเหรินมาก่อน สองคา ว่า “ภูเขาเซียน” บนภูเขาหินที่มีขนาดเท่ากาปั้นนั้นแกะสลักจาก
ปราณกระบี่ของหลวี่เหยียน การแกะสลักหน้าผาประเภทนี้คือผลงาน จริงเชียวนะ!
แต่จางจื๋อกลับใช ้นิ้วมือกดใบยืมหนี้สองแผ่นเอาไว้ ยิ้มเอ่ย “หาก วันนี้อาจารย์เฉินจ่ายเงินหกสิบเหรียญฝนธัญพืชก็ถือว่าใช ้หนี้หมด สิ้นแล้ว ตามกฎ ใบยืมหนี้สองแผ่นนี้จะต้องท าลายตัวเอง แต่ข้า อยากจะปรึกษากับอาจารย์เฉินสักหน่อย ร ้านผ้าห่อบุญของพวกเรา สามารถจ่ายเงินเจ็ดสิบเหรียญฝนธัญพืช เท่ากับว่าซื้อใบยืมหนี้สอง แผ่นนี้มาจากอาจารย์เฉิน ได้หรือไม่?”
โจวหมี่ลี่อึ้งตะลึง ตัวอักษรของเจ้าขุนเขาคนดี คาว่า “เฉินผิงอัน แห่งภูเขาลั่วพั่ว สองประโยค อักษรแค่สิบกว่าค าก็เท่ากับได้ก าไรมา เป็ นเงินฝนธัญพืชสิบเหรียญ มีค่ามากขนาดนี้เชียวหรือ?!
เฉินผิงอันยิ้มพลางส่ายหน้า “ไม่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์เกินไป แล้ว จ่ายเงินมอบของยังคงสบายใจมากกว่า”
จางจื๋อยิ้มเอ่ย “ไม่ใช่ว่าตั้งใจยกเว้นกฎเพื่ออาจารย์เฉินเป็ น พิเศษ ในประวัติศาสตร ์ของร ้านผ้าห่อบุญ เรื่องทานองนี้ก็เคยเกิด ขึ้นมาก่อน”
ชุยตงซานหัวเราะหยัน “เงินฝนธัญพืชเจ็ดสิบเหรียญ คิดจะขับ ไล่ขอทานหรือไร ต้องเจ็ดร ้อยเหรียญ!”
หมี่ลี่น้อยอึ้งตะลึงไปอีกครั้ง ห่านขาวใหญ่ ไม่ถูกสิ ศิษย์พี่ใหญ่ที่ ทั้งน่ารักและน่าเคารพทาการค้ากับผู้อื่น แต่ไหนแต่ไรก็ชอบเป็ น สิงโตอ้าปากกว้างเช่นนี้หรือ? ไม่กลัวว่าจะถูกคนตีหรือไร?
คิดไม่ถึงว่าอาจารย์จางผู้นั้นจะหยิบถุงใหญ่ใบหนึ่งออกมาจาก ชายแขนเสื้อทันใด วางลงบนโต๊ะแล้วเก็บใบยืมหนี้สองแผ่นกลับเข้า ชายแขนเสื้อไปทันที “ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงกันตามนี้ ถือว่าเงินแลก ของกันเรียบร ้อยแล้วนะ!”
ผลงานจริงที่มีคาลงท้ายว่า “เฉินผิงอันแห่งภูเขาลั่วพั่ว” ใน อนาคตมีแต่จะยิ่งมีค่ามากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่ายากมากที่จะมีค่าจน สามารถขายสิบตัวอักษรเป็ นเงินเจ็ดร ้อยเหรียญฝนธัญพืชได้ นั่นมัน เกินกว่าเหตุไปแล้ว หลายสิบเหรียญฝนธัญพืช นับว่ายังพอจะ เหมาะสมเป็ นราคาที่กาลังดี เจอกับเศรษฐีบ้านนอกบนภูเขาที่ยอม ทุ่มทองพันชั่งเพื่อซื้อของที่ถูกใจ ก็ไม่ต้องกลัดกลุ้มว่าจะขายไม่ออก แต่ใบยืมหนี้สองแผ่นนี้มีความหมายไม่ธรรมดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งยัง เป็ นลายลักษณ์อักษรที่เฉินผิงอันลงนามไว้ก่อนจะเข้าร่วมการประชุม ศาลบุ๋น นี่เท่ากับว่าเป็ น “เรื่องเล่าในประวัติศาสตร ์” ที่มีความหมาย ลึกล้ายาวไกล มีนัยชวนให้ขบคิดอย่างมากแล้ว เมื่อเป็ นเช่นนี้ เจ็ด ร ้อยเหรียญก็ไม่แพงเลยจริงๆ
อู๋โซ่วเห็นภาพนี้แล้ว ในใจก็รู ้สึกเลื่อมใสยิ่งนัก ไม่เสียแรงที่เป็ น บรรพจารย์ร ้านผ้าห่อบุญของบ้านตน ท าการค้าได้อย่างเฉียบขาด ลงมือรวดเร็วเด็ดเดี่ยวมากพอ
ชุยตงซานดึงเงินฝนธัญพืชถุงใหญ่นั้นมาอย่างระมัดระวัง ดีที่ ไม่ได้อยู่ในวงการขุนนางไม่อย่างนั้นนี่จะถือว่าเป็ นการติดสินบน อย่างเปิดเผยหรือไม่?
เฮ้อ เมื่อโชคดีมาเยือนจะขวางก็ขวางไม่อยู่ มีเงินเจ็ดร ้อยเหรียญ ฝนธัญพืชหล่นลงมาจากบนฟ้ า จ้งชิวนักบัญชีของบ้านตนจะไม่ดีใจ แย่หรอกหรือ
ใบหน้าเฉินผิงอันประดับยิ้มน้อยๆ มองชุยตงซานที่ทาท่าเหมือน โจร
ชุยตงซานจึงได้แต่เปลี่ยนเส้นทางระหว่างทาง ผลักถุงเงินไปให้ที่ หมี่ลี่น้อย พูดด้วยน้าเสียงที่เต็มไปด้วยความหวังดีว่า “ผู้พิทักษ์ขวา เงินนี้เป็ นของส่วนรวม จาไว้ว่าต้องเก็บรักษาไว้ให้ดีๆ นะ คราวหน้า นาไปมอบให้นักบัญชีเหวยที่อยู่บนเรือข้ามฟากเฟิงยวน ห้ามงุบงิบ ล่ะ”
หมี่ลี่น้อยใช ้สองมือกอดถุงเงินดึงกลับมาข้างกายตัวเอง หึ หนัก จริงๆ! หมี่ลี่น้อยยืดเอวตรง “รับคาสั่ง!”
นางพลันขมวดคิ้ว แอบเหลือบมองอาจารย์จางที่ใช ้เงินมือเติบ แม่นางน้อยเกาแก้มยังคงไม่ได้เอ่ยอะไร
ทุกวันนี้นางยากจนมากนะ เงินเก็บส่วนตัวที่เก็บเล็กผสมน้อย เอาไว้ก็ยังนับรวมได้ไม่ครบเงินฝนธัญพืชเหรียญหนึ่งเลย หากว่าเกิด
ข้อผิดพลาดอะไร ในถุงเงินมีเงินฝนธัญพืชเหรียญน้อยลงหนึ่ง เหรียญ จะไม่ใช่ว่าเอาตัวเองไปขายก็ยังใช ้หนี้ได้ไม่หมดหรอกหรือ จางจื๋อยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “เจ็ดร ้อยเหรียญพอดี ไม่มากไม่น้อย เซียนซือน้อยวางใจได้เลย” หมี่ลี่น้อยที่ถูกคนมองทะลุความคิดในใจยิ้มเหนียมอาย เซียนซือ ใหญ่จางช่างเป็ นคนดีที่เข้าอกเข้าใจผู้อื่นจริงๆ
เฉินผิงอันลูบศีรษะของหมี่ลี่น้อย จางจื๋อหัวเราะ
จางจื๋อยิ้มถาม “อาจารย์เฉิน เจ้าสานักชุย ขอละลาบละล้วงถาม สักคาได้ไหม ลาน้าใหญ่ที่ใบถงทวีปขุดเจาะเส้นนี้ เงินเทพเซียนก้อน แรกมีจ านวนคร่าวๆ ประมาณเท่าไร?”
ชุยตงซานจุปาก “ไม่ใช่การละลาบละล้วงธรรมดาเลยจริงๆ”
มีแต่พวกจิ้งจอกเฒ่าทั้งนั้น
หากว่าจางจื๋อรู ้จานวนเงินฝนธัญพืชก้อนนี้ ขนาดของลาน้า ใหญ่ในอนาคตก็จะถูกประมาณการณ์ออกมาได้คร่าวๆ แล้ว หากไม่ ทันระวัง ด้วยการวางแผนอย่างละเอียดของร ้านผ้าห่อบุญ ถึงขั้นที่ว่า ยังสามารถอ้อมผ่านกองกาลังอย่างพวกสานักกระบี่ชิงผิง ทาการ วางแผนแต่เนิ่นๆ ศึกษาแผนที่และภูมิประเทศของแต่ละแคว้นในภาค กลางของใบถงทวีปอย่างละเอียด จากนั้นก็อนุมานโดยมีจุดเริ่มต้น จากลาคลองม่ายเหอต้าเฉวียนและแม่น้าเพ่ยเจียงที่ไหลลงสู่ มหาสมุทร ร ้านผ้าห่อบุญก็จะมีความมั่นใจพอในการอนุมานทิศ
ทางการดาเนินไปของเส้นทางน้าในลาน้าใหญ่สายหนึ่งได้ จากนั้นก็ จะแอบซื้อภูเขาและเขตอิทธิพลที่มองดูเหมือนไม่มีค่าใดๆ มาจาก ฮ่องเต้และกษัตริย์แคว้นใต้อาณัติของราชวงศ์ต่างๆ ที่ยากจนจน เกือบจะเป็ นบ้ากันมานานแล้วด้วยราคาต่า ส่งมอบโฉนดที่ดินกัน อย่างรวดเร็วเพียงเท่านี้ก็สามารถรอให้ลาน้าใหญ่ “ไปหาถึงหน้า ประตูบ้าน” ได้แล้ว เงินทองไหลมาเทมารับรองว่าจะได้ผลเก็บเกี่ยวที่ ดีในทุกช่วงเวลา
ดังนั้นเฉินผิงอันจึงส่ายหน้าโดยตรง “โปรดอภัยที่บอกไม่ได้”
จางจื๋อกล่าว “ร ้านผ้าห่อบุญหวังจริงๆ ว่าเรื่องของการขุดเจาะลา น้าใหญ่จะได้ทั้งผลประโยชน์แล้วก็ได้ทั้งชื่อเสียง อีกทั้งยังหวังว่าจะได้ ชื่อเสียงมากยิ่งกว่า ดังนั้นสามารถหากาไรน้อย หรืออาจถึงขั้นไม่หา กาไรเลยก็ยังได้ พวกเราไม่มีทาง แล้วก็ไม่สะดวกที่จะอ้อมผ่านส านัก กระบี่ชิงผิงไปเปิดเตาของตัวเอง ความผิดแบบเดิมถ้ายังทาซ้าอีกครั้ง ก็มีแต่จะได้ไม่คุ้มเสีย”
ชุยตงซานยกสองแขนกอดอก “ชื่อเสียงของร ้านผ้าห่อบุญพวก เจ้าในใต้หล้าไพศาลธรรมดามากจริงๆ ธรรมดามากๆ เทียบกับสกุล หลิวของธวัลทวีปแล้วห่างชั้นกันไม่ใช่แค่หนึ่งแสนแปดพันลี้เท่านั้น เมื่อเทียบกับสานักการค้าของอาจารย์ฟ่ านก็ห่างกันอยู่หลายสิบช่วง ถนน ลองคิดดูสิ ร ้อยปีพันปีให้หลัง ลูกหลานร ้านผ้าห่อบุญ ทุกครั้งที่ เดินทางผ่านใบถงทวีปไม่ต้องสนว่าเหน็ดเหนื่อยหาเงินหรือแค่มาเดิน เที่ยวเล่นตามขุนเขาสายน้า แค่ต้องดูน้าในลาน้าใหญ่ที่ไหลตรงไป
ยังมหาสมุทรไม่ย้อนกลับมาสายนั้นก็พอ ไม่ว่าจะนั่งเรือล่องน้าหรือ ยืนอยู่บนฝั่ง หรือนั่งเรือข้ามฟากตระกูลเซียนอยู่เหนือฟ้ า หลุบตาล งมองมังกรวารีไหลคดเคี้ยวจากตะวันออกไปตะวันตกที่ลอดผ่าน ใบถงทวีปเส้นนั้น ก็สามารถยิ้มพูดกับสหายอย่างไม่ต้องละอายใจ คุย โวเอาอย่างบรรพบุรุษอู่ได้ว่า ลาน้าใหญ่สายนี้เป็ นคุณความชอบ ส่วนหนึ่งของร ้านผ้าห่อบุญพวกเรา!”
เฉินผิงอันยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “คนผ่านทิ้งชื่อ ห่านป่าผ่านทิ้งเสียง”
หากไม่พูดถึงความคิดจิตใจที่หวังเพียงว่าอยากพิสูจน์มรรคา เป็ นอมตะแล้ว ถ้าอย่างนั้นไม่ว่าจะเวทกระบี่สูง หมัดแข็ง มีอานาจ หรือมีเงินในกระเป๋ า ถึงอย่างไรก็ควรทิ้งอะไรไว้ให้วิถีทางโลกบ้าง
อู๋โซ่วถอนหายใจ พวกเจ้าสองคนนี่กาลังร ้องเพลงคู่กันอยู่หรือไร
ผลคืออู๋โซ่วกลับเห็นว่าเด็กหนุ่มชุดขาวที่มีไฝกลางหว่างคิ้ว กาลังจ้องเป๋ งมาที่ตน
ร่างของอู๋โช่วขึงเกร็งขึ้นมาทันที ในใจร ้องโอดครวญไม่หยุด
โชคดีที่มีจางจื๋อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ให้ เขาพยักหน้าพูด ถึงหัวข้อก่อนหน้านี้ต่ออีกครั้ง “กิจการที่สร ้างบุญกุศลให้กับอาณา ประชาราษฎร ทิ้งคุณูปการไว้นานนับพันปีเช่นนี้ไม่สามารถแสวงหา เพียงแค่ผลประโยชน์บนหน้าสมุดบัญชีได้เท่านั้นจริงๆ”
จางจื๋อยิ้มเอ่ยอีกว่า “บอกตามตรง การที่ครั้งนี้แค่พาอู๋โช่วมาชน ก าแพง ก็เพราะว่าคู่รักที่มีสิทธิ์ตัดสินใจเรื่องร ้านผ้าห่อบุญที่ใบถง
ทวีป บวกกับนักบัญชีที่รับหน้าที่ดูแลบัญชีซึ่งมาจากศาลบรรพจารย์ ของร ้านผ้าห่อบุญ ทั้งสามคนนี้ต่างก็เลื่อมใสนับถือใต้เท้าอิ่นกวาน อย่างมาก พวกเขาไม่เหมือนกับอู๋โซ่วที่ในสายตาเห็นแต่เงิน เป็ นเหตุ ให้ข้ากังวลว่าถ้าปล่อยพวกเขามาที่นี่จะไม่มีการต่อรองราคาใดๆ เจอ ใต้เท้าอิ่นกวานแล้วจะท าอะไรไปตามอารมณ์ แล้วจะไม่เห็นการค้า เป็ นการค้าอีกต่อไป”
เฉินผิงอันยิ้มรับ คาพูดเกรงใจในวงการการค้าเช่นนี้ แค่ฟังผ่าน ไปก็พอ อย่าได้เก็บมาใส่ใจมากเกินไปนัก
จางจื๋อยกเรื่องเก่ามาพูดอีกครั้ง “ถ้าอย่างนั้นนับส่วนของพวก เราไปด้วยได้ไหม? เงินฝนธัญพืชหกพันเหรียญ ร ้านผ้าห่อบุญใบถง ทวีปออกครึ่งหนึ่ง แล้วข้าค่อยควักเงินของตัวเองมาเสริมส่วนที่ขาด อีกครึ่งหนึ่ง”
ชุยตงซานถาม “ใครขอร ้องใครน่ะ?”
จางจื๋อยิ้มเอ่ย “แน่นอนว่าข้าขอร ้องพวกเจ้า”
ชุยตงซานหันไปมองอาจารย์ ทิศทางโดยรวม แน่นอนว่ายังต้อง ให้อาจารย์เป็ นคนตัดสินใจ
เฉินผิงอันพยักหน้าเอ่ย “อาจารย์จางสามารถเสนอเงื่อนไขได้ ตงชาน ก่อนจะเป็ นเช่นนี้ เจ้าลองบอกสถานการณ์คร่าวๆ ให้อาจารย์ จางฟังก่อน”
ชุยตงซานถึงได้เริ่มเอาความจริงใจออกมาบ้าง เขาบอกถึง สถานการณ์การมอบเงินเทพเซียนก้อนแรกให้ร ้านผ้าห่อบุญฟังอย่าง ชัดเจน ทางฝั่งของสานักกระบี่ชิงผิงนี้จะออกเงินสามพันเหรียญฝน ธัญพืช ส านักกุยหยกห้าพันเหรียญ สกุลเหยาต้าเฉวียนจะยืมเงิน จากสานักกระบี่ชิงผิงและสานักกุยหยกฝ่ ายละหนึ่งพันเหรียญ สกุล หลิวธวัลทวีปและสกุลอวี๋ราชวงศ์เสวียนมี่ ฝ่ ายหนึ่งออกเงินหนึ่งหมื่น เหรียญ กับอีกฝ่ายออกสองพันเหรียญเงินฝนธัญพืช อีกไม่นานเงินก็ จะทยอยกันมาเข้าบัญชี และนี่ยังเป็ นการลงทุนในช่วงขั้นตอนแรก เท่านั้น คิดจะเจาะลาน้าใหญ่ใหม่เอี่ยมเส้นหนึ่งขึ้นมาต้องมีการ ก่อสร ้างในระดับที่ใหญ่อย่างมาก เกี่ยวพันไปทุกด้านทุกมุม พูดถึง แค่ชะตาแคว้นของแต่ละแห่งที่จะถูกกอบกู้คืนมาหรือไม่ก็การก่อตั้ง ราชสานักใหม่เก่าที่ระบบการสืบทอดถูกต้องตามริมลาน้าใหญ่ อาศัยโอกาสนี้จะมีการลงทุนจ่ายเงินให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัยที่ พลัดที่นาคาที่อยู่ ให้พวกเขามาช่วยท างานแลกเงิน ต้องใช ้แรงงาน จานวนมากถึงสิบล้านคน แต่ละแคว้นทั้งสามารถอาศัยโอกาสนี้มา รวบรวมขุนเขาสายน้าเก่า แล้วก็สามารถรวมชาวบ้านที่ประสบภัยใน แต่ละพื้นที่ให้มารวมตัวอยู่ด้วยกัน มีราชสานักและที่ว่าการในท้องถิ่น แต่ละแห่งให้การดูแล อย่างน้อยที่สุดก็รับประกันได้ว่าในแคว้นจะไม่ เจอภาพที่คนอดอยากหิวโหยเดินทางไกลพันลี้ โครงกระดูกเกลื่อน รายทางให้เห็น นอกจากนี้สกุลหลิวธวัลทวีปยังรับปากว่าจะเป็ นฝ่ าย มอบเรือยันต์จานวนสามร ้อยลาที่มีขนาดไม่เท่ากันมาช่วยขนย้าย ชาวบ้านไปยังจุดที่เป็ นท้องน้าของลาน้าใหญ่เส้นใหม่ เพียงแต่ว่าการ รับผิดชอบด้านการเผาผลาญปราณวิญญาณของเรือข้ามฟาก ส่วนตัวของสกุลหลิว การควบคุมโยกย้ายก าลังคนบนเรือของเขียน ชื่อที่ควบคุมเรือยันต์ ค่าใช ้จ่ายเงินเทพเซียนในการที่เรือข้ามฟาก ต้องเดินทางไปกลับสถานที่ต่างๆ ต้องให้แต่ละแคว้นที่ตั้งอยู่รายทาง เป็ นผู้รับผิดชอบกันเอาเอง
Comments for chapter "บทที่ 973.2 ยืมลมตะวันออก"
MANGA DISCUSSION
Leave a Reply Cancel reply
This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.
noon
973.1 กัล 973.2 ตอนซ้ำครับ