กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 974.2 ปีแห่งความสงบสุข
หลิ่วโหรวร ้องอ้อรับคา ตามบันทึกและการระบายสีในนิยายเรื่อง เล่าประหลาดของเมืองยมบาลและโลกมนุษย์ บอกไว้ว่า “ตงไห่ฟู” ที่มี บ้านแต่มิอาจกลับคืนไปได้ผู้นี้ อันที่จริงมีชาติก าเนิดมาจากมังกร หญิงแห่งมหาสมุทรบูรพา (ตงไห่) หลิ่วโหรวคือเทพวารี วันนี้ได้พบ เจอกับโค่วเซวี่ยนฉวี มองปราดแรกก็มองออกถึงความน่าขันของคา กล่าวนี้ แบบนี้จึงจะถูกต้อง คิดว่าศึกพิฆาตมังกรครั้งนั้นเป็ นเรื่อง ปัญญาอ่อนอย่างนั้นหรือ? หลิ่วโหรวแอบหยิบตาราเล่มหนึ่งออกมา กระแอมหนึ่งที แสร ้งทาเป็ นวางลงบนโต๊ะ เหนียงเนียงเทพวารีล า คลองม่ายเหอผู้นี้ครุ่นคิดอย่างลึกซึ้งอยู่พักหนึ่ง สุดท้ายก็ใช ้ข้ออ้างที่ ฟังไม่ขึ้นเลยสักนิด เอ่ยว่า “เซวี่ยนฉวีอ่า ในหนังสือมักจะพูดถึงเรื่อง เล่าอย่างส่งเดช แพร่เรื่องราวกันไปอย่างมั่วซั่ว ใช่ไหม?”
โค่วเซวี่ยนฉวีมองชื่อหนังสือแล้วก็เข้าใจได้ทันที ยิ้มบางๆ เอ่ยว่า “ครึ่งหนึ่งเป็ นเรื่องจริง อีกครึ่งเป็ นเรื่องแต่ง หนังสือเล่มนี้ข้าก็เคยอ่าน มาก่อน ในต าราบอกว่าข้าคือธิดามังกรจากวังมังกรแห่งหนึ่งของ น่านน้ามหาสมุทรบูรพา ชอบบทกวีเรื่องประพันธ์ ชอบปลอมตัวเป็ น คุณหนูตระกูลคนรวย มักจะมีสาวใช้ติดตามไปด้วยเป็ นประจ า โดยสารเรือล่องผ่านแม่น้าเพ่ยเจียงขึ้นไปเที่ยวเล่นบนบก ให้พวก บัณฑิตช่วยเขียนคัมภีร ์และบทกวีให้ อันที่จริงก็ไม่ถือว่าเป็ นการแต่ง
เรื่องส่งเดช เพราะมีเรื่องพวกนี้อยู่จริง เพียงแต่ว่าตอนนั้นคุณหนูจง
ใจให้ข้าปลอมตัวเป็ นนาง ส่วนนางก็แต่งกายเป็ นสาวใช ้แทนข้า”
ดวงตาสองข้างของหลิ่วโหรวเป็ นประกายวาบ สีหน้าสดชื่นมี
ชีวิตชีวา “จากนั้นก็ทาให้ซานจวินของห้ามหาบรรพตคนหนึ่ง
หลงใหลในความงามได้จริงๆ จึงสั่งให้ชิงหงจวินแม่ทัพที่รักพลิกเรือ
หอเรือนให้คว่า ขัดขวางทางไป สร ้างจวนวารีเรือนพักส่วนตัวให้เจ้า
ที่ต้นกาเนิดของแม่น้าเพ่ยเจียง ทาให้ทุกครั้งที่เจ้าคิดถึงบ้านเกิด
น้าตาจะต้องหลั่งไหลดุจสายฝน แม่น้าเพ่ยเจียงก็จะเกิดน้าท่วม?
หากเป็ นเช่นนี้จริงซานจวินท่านนี้ก็ทาเรื่องไร ้คุณธรรมแล้ว เป็ นดั่ง
เรื่องเล่าลือจริงเสียด้วย เจ้าวางใจได้เลย วันหน้าข้าจะต้องช่วยพูดกับ
อาจารย์น้อยเพื่อทวงความเป็ นธรรมให้เจ้าให้จงได้ อาจารย์น้อยท่าน
นี้ร ้ายกาจมากเลยล่ะ มีเขาช่วยลงมือทวงความเป็ นธรรมแทนให้
จะต้องช่วยคืนอิสระให้กับเจ้าได้แน่…อ่า? ไม่ได้มีอะไรวกวนอ้อมค้อม
เช่นนี้หรือ? หรือว่าเป็ นเหมือนอีกเรื่องเล่าหนึ่งที่เซียนซือบนภูเขาใน
ใบถงทวีปพูดกัน? เป็ นคุณหนูของเจ้าที่ต้องการหนีงานแต่งจึงแอบ
ติดต่อกับชิงหงจวินที่หมายตาไว้อย่างลับๆ นานแล้ว ส่วนซานจวินผู้
นั้นก็จงใจอยากทาให้คนรักกันได้สมปรารถนา จึงท าตัวเป็ นผู้เฒ่า
จันทรา ดังนั้นเจ้าจึงเป็ นแค่เวทอาพรางตาเท่านั้น ถือว่าช่วยปิดบังหู
ตาให้คนอื่นเพื่อที่คุณหนูของเจ้าจะได้หนีตามบุรุษไปได้? หากเป็ น
เช่นนี้ก็ช่างเป็ นเรื่องน่าเศร ้า น่าชื่นชมน่าสรรเสริญจริงๆ!”
ใบหน้าของโค่วเซวี่ยนฉวีเต็มไปด้วยความอ่อนใจ นางสองจิต สองใจเพราะไม่ยินดีจะหลอกลวงเทพวารีลาคลองม่ายเหอท่านนี้จริงๆ จึงได้แต่เลือกเนื้อหาบางอย่างที่สามารถเล่าได้ “ในเรื่องเล่านี้ ไม่ว่าจะ เป็ นกับชิงหงจวินหรือกับซานจวินที่มีคุณธรรมเมตตาธรรมท่านนั้นก็ ไม่เคยเกี่ยวพันกันในเรื่องความรักชายหญิงมาก่อน”
หลิ่วโหรวผิดหวังอย่างหนัก เก็บตาราที่อยู่บนโต๊ะเล่มนั้นมาอย่าง ขุ่นเคือง บ่นเสียงเบาว่า “บัณฑิตช่างไร ้คุณธรรม โดยเฉพาะคนที่ แต่งต ารา หลอกคนได้เป็ นวรรคเป็ นเวรจริงๆ”
โค่วเซวี่ยนฉวียิ้มกว้าง
หลิ่วโหรวหัวเราะฮ่าๆ “คุยกันมิถูกคอครึ่งคาก็มากเกิน พบเจอ สหายรู ้ใจดื่มพันจอกก็ยังว่าน้อย เซวียนฉวี พวกเรามาดื่มกันเถอะ ข้าดื่มหมดจอก แต่เจ้าจะดื่มหรือไม่ก็ตามใจ….ฮ่า นี่คือน้าชานะ แต่ก็ เหมือนกันนั่นแหละ”
ตรงจุดตัดระหว่างมหาสมุทรและผืนดินที่อยู่ใกล้กับลาคลองม่าย เหอ
มีคนกลุ่มหนึ่งแหวกน้าขึ้นฝั่งแล้วเผยกาย คนที่เป็ นผู้นาก็คือสุ่ย จวินแห่งมหาสมุทรบูรพา หวังจูมังกรที่แท้จริง
นางนาพาผู้ติดตามมาด้วยสี่คน พวกเขาคือองค์รักษ์ของจวน วารี ได้แก่หลี่ป่า หวงม่าน กงเยี่ยน ซีหมาน
พวกเขาติดตามสุ่ยจวินหวังจูไปคุ้มกันทางน้ามารอบหนึ่ง กว่าจะ ได้ปลีกตัวจากงานที่วุ่นวายมาได้ก็ไม่ง่ายเลย ขึ้นฝั่งครั้งนี้คือจะ ติดตามหวังจูไปเดินเที่ยวที่ราชวงศ์ล่างภูเขาซึ่งตั้งปี รัชศกใหม่ว่า “เสินหลง” (เทพมังกร)
พวกเขาทุกคนต่างก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดา สามารถมารวมตัวอยู่ ด้วยกัน กลายมาเป็ นผู้ร่วมงานกันได้ก็ถือว่าไม่ง่ายเลย
หวงม่านนักพรตหยกคือผู้ฝึ กตนผีขอบเขตเ ซียนเหริน เชี่ยวชาญการเรียกลมเรียกฝนตามความหมายหน้าตัวอักษร เพียงแต่ว่าในอดีตเคยมีบุญคุณความแค้นกับจางเถียวเสียบุคคล อันดับหนึ่งด้านวิถีวรยุทธของไพศาลในอดีต
หลี่ป๋ ามีฉายาว่าชุ่ยจ่าง ผู้ฝึกตนเฒ่ามาจากเกราะทองทวีป คือ สหายรักต่างวัยที่สนิทสนมกันมากกับหวานเหยียนเหล่าจิ่ง คือ ราชครูของแคว้นหนึ่งที่ล่มสลายไปแล้ว เคยทาหน้าที่เป็ นผู้ดูแลเต้าย่ วนชิงจาง สถานะและต าแหน่งค่อนข้างคล้ายคลึงกับหยางชิงข่ง ราชครูของหน่วยฉงเสวียนราชวงศ์ต้าหยวน
ซีหมาน ผู้ฝึกยุทธขอบเขตเก้ามีชาติก าเนิดมาจากหลิวเสียทวีป คือเผ่าพันธุ์มังกรดินบนพื้นพสุธา มีหวังจะเลื่อนเป็ นขอบเขต ปลายทาง
สตรีผู้งดงามมีชื่อจริงว่ากงเยี่ยน ชื่อเล่นคืออาอู่ เป็ นผู้ฝึกตนใน ท้องถิ่นของฝูเหยาทวีป ส านักมีผู้บาดเจ็บล้มตายเสียหายอย่างหนัก
ในสงครามครั้งนั้น ทั้งศาลบรรพจารย์และภูเขาต่างก็ถูกโจมตีจนไม่ เหลือซาก
กงเยี่ยนไม่ได้มีแรงใจและความสามารถมากพอจะเป็ นบรรพบุรุษ ผู้กอบกู้ความรุ่งโรจน์ นางยังถือว่ามีความเชี่ยวชาญด้านการหาเงิน นอกจากนี้แล้ว รับหน้าที่เป็ นเจ้าสานักของสานักแห่งหนึ่ง นางไม่มี ความสามารถนั้น ดังนั้นตลอดหลายปีมานี้จึงแค่ให้การช่วยเหลือ ผู้เยาว์ในสานักที่มีปณิธานยิ่งใหญ่ยาวไกลกลุ่มนั้นอย่างลับๆ อยู่ หลายครั้ง อย่างมากสุดเมื่อเจอปัญหาก็แค่บอกกล่าวกับสุ่ยจวินหวังจู ดูว่าจะสามารถยกเอาป้ ายชื่อของจวนวารีมหาสมุทรบูรพามาช่วยให้ ผ่านด่านยากล าบากไปได้หรือไม่
กงเยี่ยนยังติดต่อกับผู้ฝึ กกระบี่หญิงที่มีแซ่ว่าน่าหลันมาโดย ตลอด อีกฝ่ ายเคยบอกว่าตัวเองมาจากต าหนักสุ่ยจิงของภูเขาห้อย หัว ว่ากันว่าทุกวันนี้ได้เลื่อนเป็ นเจ้าสานักคนใหม่ของสานักอวี่หลง แล้ว เบียดอวิ๋นเชียนตกไปได้ ให้ผู้ฝึกตนหญิงขอบเขตหยกดิบที่นิสัย อ่อนโยนผู้นี้ไปรับหน้าที่เป็ นบรรพจารย์ผู้คุมกฏแทน
เจ้าสานักคนใหม่ของสานักอวี่หลงที่เป็ นผู้ฝึ กกระบี่คนนี้เคย ร่วมมือกับกงเยี่ยนเพื่อหาเงินเทพเซียนก้อนใหญ่ที่ถ้าซานสุ่ย จึงเห็น แก่ความสัมพันธ ์ในวันวาน ก่อนหน้านี้ไม่นานได้เชิญให้กงเยี่ยนไป เป็ นผู้ถวายงานอันดับหนึ่ง หรือไม่ก็ไปเป็ นเค่อชิงอันดับหนึ่งที่รับแต่ เงินโดยไม่ต้องทาอะไรก็ยังได้ กงเยี่ยนไม่ได้ปฏิเสธความหวังดีของ อีกฝ่ายโดยตรง เพียงใช ้คาถาถ่วงเวลารับหน้าไปก่อนชั่วคราว
หวังจูเปิ ดปากพูด “ครั้งนี้นอกจากจะไปที่ราชวงศ์สกุลอวี๋ซึ่ง เปลี่ยนชื่อรัชศกใหม่แล้วยังต้องไปเจอคนผู้หนึ่ง ไม่ต้องรอแล้วก็ไม่ ต้องตามหา อีกฝ่ายย่อมพาตัวมาหาพวกเราเอง”
กงเยี่ยนคลี่ยิ้มหวาน “จะไปพบใครก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ไม่ใช่อิ่นก วานหนุ่มที่มีชื่อเสียงเลื่องลือผู้นั้นก็พอ”
นอกจากเฉินผิงอันแล้ว พวกเขากลุ่มนี้ไม่ว่าจะไปพบเจอใครก็ ล้วนไม่กลัดกลุ้มขอบเขตบินทะยานทั่วไปแล้วอย่างไร สุ่ยจวินแห่ง มหาสมุทรบูรพาข้างกายผู้นี้ก็ไม่ใช่ขอบเขตบินทะยานหรอกหรือ? ใครจะกล้าพูดจารุนแรงด้วย?
พูดมาถึงตรงนี้ กงเยี่ยนก็มองสีหน้าของหวังจูอย่างระมัดระวัง ได้ ยินคาเรียกขานว่าอิ่นกวาน หวังจูไม่มีสีหน้าประหลาดใดๆ ทั้งยังแสร ้ง ท าเป็ นไม่ได้ยินอีกด้วย
กงเยี่ยนหันไปมองเจ้าตัวน้อยที่น่าสงสารคนหนึ่ง
รั้งท้ายกลุ่มของพวกเขายังมีเด็กหนุ่มที่นางตั้งชื่อให้ว่าหวังฉงจวี รับหน้าที่คอยแบ และถือสัมภาระน้อยใหญ่โดยเฉพาะ
ตรงหน้าผากของเด็กหนุ่มนูนขึ้นมาน้อยๆ เพิ่งหลอมเรือนกาย ได้สาเร็จแค่ไม่กี่ปีหลักๆ แล้วเป็ นเพราะหิวโหย ไม่เคยได้กินอิ่มมา ก่อน
หลายปี มานี้ติดตามอยู่ข้างกายหวังจู หลังจากฝึ กตนจนได้ ผลส าเร็จเล็กน้อยแล้วจึงแปลงร่างเป็ นมนุษย์ได้อย่างถูไถ ได้รับแซ่ หวัง ชื่อฉงจวี นามว่าอวี้ซา แล้วยังได้ฉายาว่าหันซู
ก็คืองูสี่ขาของตรอกหนีผิงที่มักจะถูกซ่งจี๋ซินโยนไปบ้านข้างๆ แต่ชอบวิ่งกลับมาที่บ้านตัวเองแล้วยังถูกจื้อกุยใช ้ปลายเท้าขยี้เป็ น ประจ า
เวลานี้ด้านหลังของหวังฉงจวีสะพายน้าเต้าเปลือกม่วงมันวาวลูก หนึ่ง คือของตกทอดยุคบรรพกาลที่ถูกนายท่านงมมาได้จากในทะเล แกะสลักอักษรโบราณสองค าว่า “จัวฟ่าง
สัมผัสได้ถึงสายตาของกงเยี่ยน เด็กหนุ่มก็ยิ้มอย่างเขินอาย
กงเยี่ยนยิ่งสงสัยใคร่รู ้ในตัวเมืองเล็กที่มีขนาดเท่าฝ่ ามือมากขึ้น ไปอีก วันหน้าหากมีโอกาสจะต้องไปเยือนด้วยตัวเองสักครั้งจริงๆ
ตามข้อตกลงที่มีกับหวังจู รอให้การคุ้มกันทางน้าของเทพวารี สิ้นสุดลง พวกเขาก็สามารถยกเลิกสัญญากับจวนวารีได้แล้ว พวก เขาจะอยู่หรือไป หวังจูก็ตามใจพวกเขา
หลี่ป๋ าและซีหมาน ทั้งสองคิดว่าจะไปที่เมืองหลวงสารองของต้า หลีแจกันสมบัติทวีปสวามิภักดิ์กับอ๋องเจ้าเมืองซ่งมู่ คนหนึ่งเคยเป็ น ราชครูมาก่อน คนหนึ่งมีชาติกาเนิดมาจากมังกรดินบนฝั่ง ต่างก็ อยากจะลองไปเสี่ยงดวงดู พยายามประคับประคองมังกร เป็ นขุนนาง ผู้ติดตามมังกร
ส่วนนักพรตหยกหวงม่านและกงเยี่ยน คนหนึ่งมีสถานะพิเศษ เป็ นผีเซียน ไม่สะดวกจะเปิดเผยหน้าตา กงเยี่ยนก็ยิ่งเป็ นคนเกียจ คร ้าน นอกจากหาเงินแล้วก็ไม่มีเรื่องอะไรที่นางใส่ใจอีก
ดังนั้นหวงม่านจึงคิดจะอยู่ข้างกายหวังจูต่อ อาศัยวิธีโง่ๆ ค่อยๆ สะสมคุณความชอบไป จากนั้นหาโอกาสดูว่าจะเจอสถานที่ที่สงบ มั่นคงมาเปิดภูเขาก่อตั้งพรรคได้หรือไม่ ส่วนเรื่องที่ว่าจะได้กลายเป็ น ส านักหรือไม่ หวงม่านไม่เห็นเป็ นส าคัญนัก
กงเยี่ยนอดไม่ไหวถามว่า “หวังจู เมืองเล็กในอาเภอแห่งนั้นลึก ล้าจนมองไม่เห็นกันบึงจริงๆ หรือ?”
หวังจูเป็ นคนบอกกับพวกเขาเองว่าไม่ต้องการค าเรียกขานอย่าง ให้ความเคารพใดๆแค่เรียกชื่อนางก็พอแล้ว
หวังจูพยักหน้า เอ่ยอย่างเฉยเมยว่า “ยิ่งขอบเขตของผู้ฝึกตนสูง เท่าไรก็ยิ่งไม่ควรไปเดินเตร่ส่งเดชมากเท่านั้น”
กงเยี่ยนยิ้มเอ่ย “กลุ่มของพวกเราก็ถือว่าเคยเห็นโลกกว้างมา ก่อน….”
หวังจูหัวเราะหยันเอ่ยว่า “โลกกว้าง? โลกกว้างมากแค่ไหน? พวกเจ้าเคยเห็นบินทะยานและขอบเขตสิบสี่มากี่คน แล้วพวกเขาเคย มายืนอยู่ตรงหน้าพวกเจ้ากี่คน?”
ข้างทางพลันมีแสงสีขาวเส้นหนึ่งปรากฏออกมาจากความว่าง เปล่า
เห็นเพียงว่าคนผู้นั้นถือของสิ่งหนึ่งอยู่ในมือ แล้วยังยืนท่าไก่ทอง ขาเดียว ยกมือชูกระจกส่องมารขึ้นสูง หันมาทางหญิงงามพลางโบก สะบัด “เฮ้! ภูตผีปีศาจจะหนีไปไหน ยังไม่รีบเผยร่างจริงอีกหรือ!”
เอาอีกแล้ว!
เด็กหนุ่มชุดขาวที่น้าเข้าสมองคนเดียวกัน ที่เกินกว่าเหตุที่สุดก็ คือแม้แต่ท่าทางและเนื้อหาคาพูดในวันนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มี ผิดเพี้ยน
…….
เรือข้ามฟากเฟิงยวน วันนี้เฉินผิงอันมาดื่มเหล้าคุยเล่นกับซ่งอวี่ เซาอีกครั้ง หมื่อวี้เดินมาเคาะประตู ยิ้มเอ่ยว่า “หวังไจ่กาลังอยู่ระหว่าง เดินทางมา ข้างกายยังมีบัณฑิตที่พกแผ่นหยกห้อยเอวแบบเดียวกัน ติดตามมาด้วย น่าจะเป็ นวิญญูชนคนหนึ่ง”
ซ่งอวี่เซาโบกมือ “เจ้าไปท าธุระก่อนเถอะ ข้าคงไม่ไปร่วมวง ความครึกครื้นแล้ว”
เฉินผิงอันลุกขึ้นยืน เดินไปที่หัวเรือพร ้อมกับหมี่อวี้ ต้อนรับแขก ผู้สูงศักดิ์จากสานัก ศึกษาสองคนที่เป็ นฝ่ ายมาเยือนบนเรือเฟิงยวน ด้วยตัวเอง
เฉินผิงอันประสานมือโค้งกายคารวะก่อนเอ่ยว่า “พี่หมิงฉี ไม่ได้ เจอกันนานหลายปีเลยนะ”
หวังไจ่มีนามว่าหมิงฉี จากแต่เดิมที่คิดว่าแค่กุมหมัดพอเป็ นพิธีก็ พอ ตอนนี้ก็ได้แต่ประสานมือคารวะอย่างจริงจังกลับคืน “คารวะอิ่นก วาน”
ทั้งสองฝ่ ายคือคนรู ้จักเก่ากันจริงๆ พบเจอกันที่กาแพงเมือง ปราณกระบี่ หวังไจยังกลายเป็ นลูกศิษย์ลัทธิขงจื๊อเพียงคนเดียวที่มี ป้ ายสงบสุขปลอดภัยทิ้งไว้ที่ร ้านเหล้าด้วย
เวินอวี้สหายรักที่อยู่ข้างกายก็เป็ นฝ่ ายคารวะก่อนเช่นกัน “เวินอวี้แห่งสานักศึกษาเทียนมู่คารวะอาจารย์เฉิน”
โจวมี่เจ้าขุนเขาสานักศึกษาอู่ซี หรือก็คือท่านผู้นั้นที่มีชื่อ เดียวกับมหาสมุทรความรู ้โจวมี่จึงถูกผู้ฝึกตนเอามาเยาะเย้ยไม่น้อย ก่อนหน้านี้ได้รับหน้าที่เป็ นเจ้าขุนเขาของส านักศึกษาอวี๋ฝูแห่งอุตรกุ รุทวีป หากไม่เป็ นเพราะนิสัยเจ้าอารมณ์เกินไป ป่ าวประกาศอย่าง เปิดเผยว่าหากเจอผู้ฝึกตนเผ่าปีศาจของเปลี่ยวร ้างที่ซุกซ่อนตัวอยู่ก็ จะฆ่าทิ้งทันที ถึงขั้นที่ว่ายังเคยออกจากส านักศึกษาเข้าร่วมการ ค้นหาภูเขา ลงมือสังหารผู้ฝึกตนเผ่าปีศาจไปหลายตนเป็ นเหตุให้มี จุดจบด้วยการถูกจับขังอยู่ในสวนกงเต๋อ หาไม่แล้วเดิมทีเขาก็ควรได้ เลื่อนขั้นเป็ นรองผู้อ านวยการของสถานศึกษาบางแห่งแล้ว
เจ็ดสิบสองสานักศึกษาของลัทธิขงจื้อ เจ้าขุนเขาสามท่านที่เป็ น หนึ่งหลักสองรอง รองเจ้าขุนเขาก็มีการแบ่งงานกัน หนึ่งทางทฤษฎี หนึ่งทางปฏิบัติ เวินอวี้ก็คือรองเจ้าขุนเขาที่รับผิดชอบดูแล ‘กิจธุระ ทั่วไป ทั้งหมด ต้องรู ้ว่าทุกวันนี้หากอิงตามแผนยุทธการที่กำหนดไว้
จากการประชุมศาลบุ๋น ยี่สิบปีให้หลัง เจ้ากรมพิธีการของแต่ละแคว้น ในราชส านักล่างภูเขาล้วนจ าเป็ นต้องมีชาติก าเนิดมาจากส านัก ศึกษาของลัทธิขงจื๊อ นี่หมายความว่ารองเจ้าขุนเขาอย่างเวินอวี้แทบ จะกลายเป็ นไท่ซ่างหวงของแต่ละแคว้นล่างภูเขาไปแล้ว
เฉินผิงอันยิ้มกุมหมัด “ได้ยินชื่อเสียงของเจ้าขุนเขาเวินมานาน เป็ นเกียรติที่ได้พบเป็ นเกียรติที่ได้พบ”
หวังไจ่เอ่ยอย่างอ่อนใจ “เฉินผิงอัน พวกเราสองคนเป็ นสหายกัน ใช่ไหม”
เฉินผิงอันกล่าว “ปี นั้นพวกเราสองต้องจากลากันอย่างน่า เสียดาย ต่างคนต่างรักและให้ความส าคัญกันและกัน ผลคือได้พบกับ พี่หมิงฉีที่ไพศาลอีกครั้งก็ยังไม่อาจวางแผนอย่างรอบคอบรัดกุม ก าจัดผู้ฝึกตนเผ่าปีศาจขอบเขตเซียนเหรินได้สักตน”
หวังไจ่สะอึกอึ้ง ผลคือถูกเฉินผิงอันคว้าข้อมือเอาไว้ ยิ้มเอ่ย “จะ ซักไซ ้เอาโทษแทนส านักศึกษาก็ดี หรืออเพียงแค่สหายเก่าสหายใหม่ ร าลึกความหลังรู ้ถึงความล าบากของกันและกันก็ช่าง ไปดื่มเหล้ากัน ก่อนเถอะ”
คนทั้งกลุ่มมาที่ห้องของหมื่อวี้ หมื่อวี้เตรียมจะปิดประตูแล้วจาก ไป
คิดไม่ถึงว่าเวินอวี้จะกุมหมัดยิ้มเอ่ย “เซียนกระบี่หมี่อยู่ดื่มเหล้า ด้วยกันก่อนเถิด”
หมื่อวี้มึนงง เจ้าไม่ใช่สตรีที่เคยไปเยือนกาแพงเมืองปราณกระบี่ เสียหน่อย มีเหตุผลอะไรให้รั้งข้าไว้
เฉินผิงอันยิ้มเอ่ย “ถ้าอย่างนั้นก็ดื่มเหล้าด้วยกัน”
หมี่อวี้รู ้ได้ทันใดว่าท่าไม่ดีแล้ว ตนก าลังจะถูกเปิดโปงความลับ หากเวินอวี้มีสายสัมพันธ ์เป็ นญาติพี่น้องกับเทพธิดาบนภูเขาบางคน จะไม่ใช่ว่าทาลายเรื่องใหญ่ของใต้เท้าอิ่นกวานหรอกหรือ สถานที่ แห่งนี้ไม่เหมาะจะรั้งรออยู่นาน หมื่อวี้จึงฝืนใจเอ่ยว่า “ยังต้องปิดด่าน ฝึกกระบี่ ข้าคงไม่อยู่ด้วยแล้ว”
เวินอวี้กล่าว “ทางฝั่งของสนามรบ ข้าเคยไต่สวนผู้ฝึ กตนเผ่า ปีศาจกับตัวเองมาหลายตน มีคนหนึ่งในนั้นตอนที่พูดถึงเซียนกระบี่ หมี่มันเช่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ท่าทางเกลียดแค้นสุดขีด”
หมื่อวี้ถอนหายใจโล่งอก ก็บอกแต่แรกสิ ทาเอาข้าตกใจแทบแย่ ถูกสตรีของไพศาลค านึงหากับถูกสัตว์เดรัจฉานเผ่าปีศาจของเปลี่ยว ร ้างอาฆาตแค้น เดิมทีก็เป็ นเรื่องสะใจใหญ่สองเรื่องในชีวิตอยู่แล้ว
เมื่อเป็ นเช่นนี้ เอวของหมี่อวี้ก็แข็งขึ้นมาได้แล้ว เขาโบกมือเอ่ย “พวกเจ้าคุยกันไปเถอะ วันหน้าข้ากับเจ้าขุนเขาเวินไม่ขาดโอกาสที่ จะได้ดื่มเหล้าด้วยกันหรอก”
เวินอวี้ยิ้มพลางพยักหน้ารับ “ถ้าอย่างนั้นก็ตกลงตามนี้ ครั้ง หน้าที่เรือเฟิงยวนผ่าน ส านักศึกษาเทียนมู่ ข้าจะเตรียมจะสุราดีๆ ไว้ รอต้อนรับเซียนกระบี่หมี่แต่เนิ่นๆ”