กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 986.2 ลูกศิษย์ปิดส ำนัก
หลวี่เหยียนประกบสองนิ้วผลักไปเบำๆ ด้วยท่ำทำงผ่อนคลำย
ก็มีปณิธำนกระบี่ที่บริสุทธิ์กลุ่มหนึ่งผสำนรวมเข้ำกับฟ้ ำดิน ได้มำเฝ้ ำตอรอกระต่ำยอยู่ตรงนี้นำนแล้ว ผลกลับถูกนักพรตผลัก กลับไปที่เส้นทำงเดินขึ้นเขำ
แต่ขณะเดียวกันตรงเส้นทำงภูเขำก็มีปรำณกระบี่ที่ปิดบังตัวตน อย่ำงมิดชิดกลุ่มหนึ่งถูกเซี่ยโก่วผลักมำที่ยอดเขำเช่นกัน
หลวี่เหยียนเอ่ยสัพยอก “พวกเจ้ำสองคนถือว่ำสนองตอบต่อกัน ด้วยมำรยำทหรือไม่?”
เฉินผิงอันกระอักกระอ่วนอยู่บ้ำง
หลวี่เหยียนพูดด้วยสีหน้ำจริงใจ “เจ้ำอยู่ที่ใบถงทวีปได้พยำยำม เลื่อนเป็ นขอบเขตหยกดิบสองครั้งแต่ก็ไม่ได้ผลใช่หรือไม่?”
เฉินผิงอันพยักหน้ำ “จิตมำรเกิดขึ้นอย่ำงไม่คำดฝัน ไม่ว่ำ อย่ำงไรข้ำก็คิดไม่ถึงว่ำจะปรำกฏออกมำในรูปแบบนี้ ครั้งแรกไม่ทัน ตั้งตัว ครั้งที่สองคิดว่ำจะสำมำรถอำศัยวิธีแก้ไขปัญหำหกชนิดในบท ขอฝนมำคลี่คลำยได้ ผลก็คือยังไม่สำเร็จ”
หลวี่เหยียนยิ้มกล่ำว “ซิ่วหูออกคำถำมยำกที่ไม่เล็กให้เจ้ำจริงๆ”
เฉินผิงอันยิ้มจืดเขื่อน “ใต้หล้ำไพศำล เป็ นเพรำะกำรหวน กลับคืนสู่บ้ำนเกิดของข้ำและเมื่อพูดถึงกำแพงเมืองปรำณกระบี่ ก็ ต้องกำรอิ่นกวำนคนสุดท้ำยที่เป็ นห้ำขอบเขตบนคนหนึ่ง”
ดังนั้นปีนั้นที่ตื่นขึ้นมำในถ้ำแห่งโชควำสนำ เฉินผิงอันที่ตอนอยู่ ก ำแพงเมืองปรำณกระบี่ยังเป็ นขอบเขตก่อกำเนิด อยู่ดีๆ ก็ได้ กลำยเป็ นขอบเขตหยกดิบอย่ำงไม่คำดฝัน
อันที่จริงนี่คือขอบเขตหยกดิบที่อยู่ระหว่ำงของจริงและของ ปลอมที่ชุยฉำนมอบให้กับเฉินผิงอัน บอกว่ำจริงก็เพรำะว่ำเฉินผิงอัน อำศัยตัวเองในกำรฝ่ ำทะลุคอขวด เลื่อนเป็ นหยกดิบจริงๆ เพียงแต่ว่ำ ตัวเฉินผิงอันเองลืมขั้นตอนที่เป็ นรูปธรรมนั้นไปก็เท่ำนั้น บอกว่ำเป็ น ของปลอม ก็เพรำะเส้นทำงหัวใจของเฉินผิงอันได้ถูกชุยฉำนลบ ควำมทรงจำทิ้งไป จึงมีช่วงหนึ่งที่ว่ำงเปล่ำ หำกมองในระยะยำวคือภัย แฝงที่ใหญ่มำกอย่ำงหนึ่ง แต่วิธีกำรแก้ปัญหำของชุยฉำนก็ง่ำยดำย อย่ำงยิ่ง รอให้ในอนำคตศิษย์น้องขอบเขตถดถอยด้วยตัวเองแล้ว ค่อยหวนคืนสู่หยกดิบอีกครั้งก็ได้แล้ว
ส่วนกำรที่เฉินผิงอันขอบเขตถดถอยครั้งแล้วครั้งเล่ำ ระหว่ำงนั้น จะมีปัญหำแทรกซ ้อนเกิดขึ้น ชักนำให้ธรรมะสูงหนึ่งฉื่ออธรรมสูง หนึ่งจั้งหรือไม่ ชุยฉำนคงไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
คงเป็ นเพรำะในสำยตำของซิ่วหูแล้ว หำกเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ก็ยัง จัดกำรได้ไม่ดี ก็ไม่ต้องไปหำควำมอัปยศใส่ตัวที่ใต้หล้ำมืดสลัวแล้ว
หลวี่เหยียนเองก็ไม่ถำมอย่ำงละเอียดว่ำจิตมำรคืออะไร แค่เตือน เฉินผิงอันว่ำให้ระมัดระวังมำกกว่ำนี้ อย่ำได้รีบร ้อนกลับคืนสู่ขอบเขต หยกดิบ จำกนั้นเขำก็พูดไปเรื่องอื่นทันที “ถึงอย่ำงไรค ำพูดของคนก็ น่ำกลัว หลำยปำกย่อมละลำยทองได้ วิธีของชุยฉำนไม่อำจจะปฏิเสธ ได้ว่ำไม่ดีทั้งหมด อิ่นกวำนคนสุดท้ำยของกำแพงเมืองปรำณกระบี่จะ ใช่ผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตหยกดิบหรือไม่ คือเส้นแบ่งเขตอย่ำงหนึ่ง ใช่ พูดถึงเฉินผิงอันก็จะมีแต่ค ำสรรเสริญชมเชย เลวร ้ำยสุดก็แค่ค ำ สัพยอกไม่กี่คำ ฝืนใจพูดว่ำเจ้ำอำยุน้อยมีควำมสำมำรถ เซียนกระบี่ ใหญ่ผู้อำวุโสกล้ำเลือกใช ้คน แต่หำกเป็ นแค่ก่อกำเนิด ควำมรู ้สึกที่ ใต้หล้ำไพศำลมีต่อเจ้ำ หรือแม้กระทั่งมีต่อกำแพงเมืองปรำณกระบี่ก็ จะเปลี่ยนไปแล้ว”
เรื่องรำวในโลกวุ่นวำยซับซ ้อน ใช ้ชีวิตไม่ใช่เรื่องง่ำย ส่วนใหญ่ ผู้คนก็แค่เห็นเป็ นเรื่องครึกครื้นหนึ่งแล้วก็รอเรื่องครึกครื้นถัดไป เท่ำนั้น ไหนเลยจะมีเวลำมำสืบเสำะหำคำตอบ ใจคนไม่เก่ำแก่ ใจ ของคนโบรำณนั้นอยู่ที่ว่ำกำรศึกษำหำควำมรู ้ไม่ใช่เรื่องง่ำย ได้ หลักกำรเหตุผลมำหนึ่งถึงสองข้อก็ยินดีที่จะขุดค้นให้ลึก แน่นอนว่ำ คนในยุคปัจจุบันก็มีข้อดีของคนในยุคปัจจุบันเช่นกัน นี่ก็คือเส้นทำง สองสำยแล้ว คนโบรำณนับตั้งแต่หนึ่งถึงหมื่น หำหลักฐำนหักล้ำง หนึ่งในนั้น ก็เหมือนคนเจริญรอยตำมดิน ดินเจริญรอยตำมฟ้ ำ ฟ้ ำ เจริญรอยตำมเต๋ำ เต๋ำเจริญรอยตำมธรรมชำติที่ลัทธิเต๋ำกล่ำวถึง คนในยุคปัจจุบันนับจำกหมื่นถึงหนึ่ง ก็เหมือนที่ลัทธิพุทธกล่ำวว่ำข้ำ
ขอตั้งปณิธำนที่จะศึกษำธรรมมะอันมำกไม่มีประมำณให้จบ สุดท้ำย จึงได้เห็นวิถีแห่งธรรมะที่ไม่มีที่สอง (หมำยถึงดีที่สุด วิธีกำรที่ดีที่สุด) ยกตัวอย่ำงเช่นตอนที่อำจำรย์อยู่ในหอเหรินอวิ๋นอื้อวิ๋นของเมือง หลวงก็เคยพูดอย่ำงปลงอนิจจังว่ำ หำกจะพูดถึงหลักกำรเหตุผลและ ควำมรู ้ในต ำรำ ถ้ำพูดถึงแค่ระดับควำมกว้ำงไม่พูดถึงระดับควำมลึก พวกปรำชญ์ผู้ล่วงลับจะสำมำรถทัดเทียมได้หรือ? ถ้ำอย่ำงนั้นตอนนี้ เลือกบัณฑิตในสำนักศึกษำมำสักคน เอำไปโยนไว้เมื่อหมื่นปีก่อน คำดว่ำก็คงสำมำรถทำให้ “บัณฑิต” กลุ่มนั้นพำกันวิ่งมำขอควำมรู ้ อย่ำงถ่อมตัวเลยกระมัง?
เฉินผิงอันพยักหน้ำ แน่นอนว่ำสำมำรถเข้ำใจควำมแตกต่ำง ประเภทนี้ได้ เพียงแต่ควำมยำกลำบำกในเรื่องนี้ คงมีเพียงตัวเอง เท่ำนั้นที่รู ้
เป็ นเหตุให้เฉินผิงอันถึงขั้นเดำว่ำ “จิตมำร” ผู้นั้นที่ได้เจอตอนที่ พยำยำมจะฝ่ ำทะลุคอขวดขอบเขตก่อก ำเนิด มีควำมเป็ นไปได้อย่ำง ยิ่งว่ำ เดิมทีควรเป็ นด่ำนทำงใจบำงอย่ำงที่ตนจะเจอก็ต่อเมื่อไปถึง ขอบเขตบินทะยำนแล้วพยำยำมจะเลื่อนเป็ นขอบเขตสิบสี่เท่ำนั้น
หลวี่เหยียนยิ้มเอ่ย “เจ้ำขุนเขำเฉินมีศิษย์พี่ที่ดีนะ” เฉินผิงอันไร ้ค ำพูดตอบโต้
หลวี่เหยียนเหน็บกระบวยน้ำเต้ำให้ดีอีกครั้ง หันหน้ำไปมองทำง ทิศเหนือ เอ่ยด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยกำรเหน็บแนม “ชำยชรำ
สูญเสียม้ำ แต่กลับเป็ นโชคอันยิ่งใหญ่ ป๋ ำยฉำงกับเถียนหว่ำนผู้นั้น แอบสมคบคิดกันอย่ำงลับๆ พยำยำมที่จะควบคุมกำรไหลรินของ โชคชะตำวิถีกระบี่ในหนึ่งทวีป แล้วก็เพรำะว่ำสุดท้ำยทั้งสองฝ่ ำยมิ อำจทำได้สำเร็จ ไม่อย่ำงนั้นทุกวันนี้เมื่อผินเต้ำหวนกลับมำยังแจกัน สมบัติทวีปก็ไม่คิดจะสนใจสถำนะของผู้ฝึกกระบี่ขอบเขตบินทะยำน หรือศิษย์น้องหญิงของโจวจื่ออะไรหรอกนะ”
ผินเต้ำไม่ได้กินหญ้ำเสียหน่อย
คนกลุ่มที่ก่อนหน้ำนี้นั่งร่วมโต๊ะดื่มชำกับฉุนหยำงเจินเหริน รวมถึงเซี่ยโก่วด้วย อันที่จริงหลังจำกที่พวกเฉินผิงอันเดินขึ้นเขำไป ก่อนแล้ว พวกเขำที่รู ้สึกว่ำดื่มชำอิ่มแล้วก็จะเริ่มเดินขึ้นเขำไปชม ทัศนียภำพบ้ำงเหมือนกัน มีเพียงเฉินยวนจีที่ฝึกท่ำหมัดเดินนิ่งต่อ กลับกลำยเป็ นว่ำเดินไปได้เร็วยิ่งกว่ำพวกเซียนเว่ย โจวหมี่ลี่
ผ่ำนไปนำนหลำยปีขนำดนี้แล้ว กำรฝึกท่ำเดินอย่ำงจำเจ นำง กลับไม่รู ้สึกว่ำจืดชืดน่ำเบื่อหน่ำย วันนี้ถูกนักพรตฉุนหยำงเปิดเผย ควำมลับ เฉินยวนจีก็ยิ่งมีปณิธำนฮึกเหิมมำกกว่ำเดิม
เด็กชำยชุดสีชำดขี่อยู่บนหลังของงูป๋ ำยฮวำ เป็ นครั้งแรกที่ขึ้น เขำลงเนินได้อย่ำงไม่เหนื่อย ไม่ถือว่ำเป็ นกำรกระทำที่ละเมิดกฎ เพรำะก่อนที่เจ้ำขุนเขำเฉินจะเดินขึ้นเขำไปพร ้อมกับนักพรตต่ำงถิ่น คงเป็ นเพรำะเห็นแก่คุณควำมเหนื่อยยำกที่สูงของตน จึงคุยกับตนอยู่ นำน แล้วยังออกโองกำรเจ้ำขุนเขำมำฉบับหนึ่งโดยเฉพำะ อนุญำต ให้คนจิ๋วควันธูปที่ตั้งฉำยำให้ตัวเองว่ำ “ชื่อเฉิง” ผู้นี้กับงูป๋ ำยฮวำที่
ถูกเจ้ำตัวน้อยตั้งชื่อให้ว่ำ “ป๋ ำยหง” ขึ้นภูเขำมำเที่ยวเล่นพร ้อมกันได้ วันหน้ำหำกมำขำนชื่อที่ภูเขำลั่วพั่วอีก นักพรตเซียนเว่ยก็จะไม่ขัด ขวำงหำกพวกเขำจะขึ้นมำบนภูเขำ
ถึงอย่ำงไรเด็กชำยชุดสีชำดก็มีคุณธรรมน้ำใจในยุทธภพ จึง บำกหน้ำช่วยแนะน ำงูป๋ ำยฮวำแห่งภูเขำฉีตุนให้ใต้เท้ำเจ้ำขุนเขำได้ รู ้จัก ครำวก่อนเดินทำงกลับมำที่ภูเขำลั่วพั่วพร ้อมกับเจ้ำขุนเขำเฉิน ยังไม่ทันได้แนะน ำให้รู ้จัก “ป๋ ำยหง” อย่ำงเป็ นทำงกำร ผลคือพอวันนี้ รู ้ว่ำงูป๋ ำยฮวำมีชื่อชั่วครำวว่ำ “ป๋ ำยหง” (รุ ้งขำว) เจ้ำขุนเขำเฉินยัง ชื่นชมคนจิ๋วควันธูปว่ำมีควำมสำมำรถในกำรตั้งชื่อไม่น้อย เพรำะ หำกอิงตำมบันทึกบทเยว่ลิ่ง (ดินฟ้ ำอำกำศของเดือนบำงเดือนตำม ปฏิทินจันทรคติ) ในตำรำ “หลี่จี้” (คัมภีร ์ว่ำด้วยเรื่องพิธีกรรม) ของ ลัทธิขงจื๊อ พระจันทร ์ในฤดูใบไม้ผลิ หรือก็คือช่วงปลำยฤดูใบไม้ผลิ ช่วงท้ำยของฤดูใบไม้ผลิในแต่ละปี นับแต่โบรำณมำก็มีค ำกล่ำวว่ำ “เห็นรุ ้ง (หง) ครั้งแรก จอกแหนก่อกำเนิด” สำยรุ ้งนั้นเกิดขึ้นมำได้ จำกกลิ่นอำยของฟ้ ำและดินสอดผสำน หยินหยำงกระตุ้นให้เกิดเป็ น สีสัน เมื่ออำกำศรอบดวงตะวันเกิดเป็ นสีขำวทั้งยังบริสุทธิ์ เรียกว่ำ สำยรุ ้ง หำกไม่เป็ นเพรำะคนนอกอย่ำงพวกตนรู ้ชื่อป๋ ำยหงนี่แล้ว ไม่อย่ำงนั้นในอนำคตเมื่อหลอมเรือนกำยได้สำเร็จ ตั้ง “ป๋ ำยหง” เป็ น ชื่อจริงก็ดีมำกเลย
งูป๋ ำยฮวำมีสติปัญญำมำนำนแล้ว พอได้ยินก็ปิติยินดีอย่ำงหนัก เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่อำจส่งเสียงพูดคุยได้ จึงรีบโยกศีรษะ เด็กชำย
ชุดสีชำดรู ้ใจ จึงถำมใต้เท้ำเจ้ำขุนเขำว่ำป๋ ำยหงอยำกใช ้ชื่อนี้เป็ นชื่อ จริง นำงชอบมำกเป็ นพิเศษ เพียงแต่ว่ำตอนนี้คนนอกล้วนรู ้ชื่อนี้ หมดแล้ว ไม่ใช่ชื่อที่นำงตั้งขึ้นด้วยตัวเอง หำกเอำมำใช ้เป็ นชื่อจริง จะมีข้อห้ำมบนภูเขำหรือไม่จะไม่ได้รับกำรยอมรับอย่ำงเป็ นทำงกำร จำกฟ้ ำดินหรือไม่ อำจกลับกลำยเป็ นว่ำจะต้องถูกฟ้ ำผ่ำบ่อยๆ ใช่ ไหม…
ตอนนั้นเฉินผิงอันมองฉุนหยำงเจินเหรินที่นั่งยิ้มอยู่ข้ำงกำย หลวี่ เหยียนลูบหนวดพยักหน้ำรับ ยิ้มเอ่ยประโยคหนึ่งว่ำ ภูตในภูเขำตั้ง ชื่อได้ไม่ง่ำย ทั้งมิอำจตั้งชื่อจริงให้ยิ่งใหญ่เกินไป แบกรับไม่ไหวกลับ จะถูกแว้งกลับมำท ำร ้ำย ทำงเดินกว้ำงเกินไป กลับจะท ำให้หมกมุ่น อยู่กับจิตใจตัวเอง ไม่รู ้ว่ำควรจะทำอย่ำงไรดี แต่ก็ไม่ควรตั้งให้เล็ก เกินไป ทำงที่ดีที่สุดยังต้องสอดคล้องกับภูเขำสำยน้ำของพื้นที่หนึ่ง ด้วย หำกเจ้ำไม่กังวลว่ำที่ภูเขำลั่วพั่วจะมีคนแพร่งพรำยควำมลับ สุดท้ำยกลำยเป็ นว่ำทุกคนล้วนรู ้ชื่อจริงของเจ้ำ ถ้ำอย่ำงนั้นจะชื่อป๋ ำ ยหงก็ไม่เป็ นไร
เฉินผิงอันจึงกุมหมัดยิ้มเอ่ย “เฉินผิงอันแห่งภูเขำลั่วพั่วขออวย พรให้สหำยป๋ ำยหงหลอมเรือนกำยส ำเร็จล่วงหน้ำเลยแล้วกัน
หลวี่เหยียนทำมุทรำกระบี่ด้วยมือข้ำงเดียว ยิ้มบำงๆ เอ่ยว่ำ “สำยรุ ้งเชื่อมโยงนภำกำศหยินหยำงส่องประกำยแสง ผู้กล้ำชูกระบี่ ปรำณกระตุ้นรุ ้งขำว หลวี่เหยียนฉุนหยำงขออวยพรให้สหำยป๋ ำยหง หลอมเรือนกำยส ำเร็จ ฝึกตนรำบรื่น
เซี่ยโก่วที่มองเฉยอยู่ข้ำงๆ มำโดยตลอดจุ๊ปำกด้วยควำม ประหลำดใจ งูป๋ ำยฮวำตัวหนึ่งที่เทียบไม่ได้แม้แต่มดสักตัว พูดแค่ค ำ สองคำก็ได้โชควำสนำยิ่งใหญ่ขนำดนี้มำแล้ว
ชื่อว่ำ “ป๋ ำยหง” นี้ เป็ นชื่อที่เด็กชำยชุดสีชำดตั้งขึ้นส่งเดช จำกนั้นก็เป็ นเฉินผิงอันที่ช่วยสำนสะพำนควำมสัมพันธ ์ จงใจให้ นักพรตฉุนหยำงผลักเรือตำมน้ำให้คำตอบ สุดท้ำยหลวี่เหยียนเป็ น คนยอมรับกับปำกตัวเองว่ำชื่อ “ป๋ ำยหง สำมำรถนำมำใช ้เป็ นชื่อจริง ได้
นี่ก็เหมือนควำมแตกต่ำงระหว่ำงแผ่นยันต์กับตรำประทับยันต์ ของลัทธิเต๋ำแห่งใต้หล้ำมืดสลัว บนยันต์แผ่นหนึ่งได้ประทับตรำอำคม ของเจินเหรินลงไป พลำนุภำพก็จะเพิ่มพูนขึ้น
ผู้ที่ถือยันต์นี้ไว้ในมือก็จะเหมือนเสมียนผู้น้อยในที่ว่ำกำรแห่ง หนึ่ง เจินเหรินเซียนจวินเหมือนขุนนำงหลักที่ดูแลที่ว่ำกำรแห่งหนึ่ง ซึ่งมีผู้คนอยู่มำกมำย เมื่อเพิ่มตรำประทับคำสั่งขุนนำงลงไปถึงจะเอำ ไปป่ำวประกำศได้อย่ำงถูกหลักท ำนองคลองธรรม
ท่ำมกลำงควำมมืดมิดที่มองไม่เห็น เรื่องชื่อจริงของงูป๋ ำยฮวำ แห่งภูเขำฉีตุนตัวนี้ก็เหมือนว่ำได้ฉุนหยำงเจินเหรินมำ “ประทับตรำ” ลงไปด้วยตัวเอง เฉินผิงอันแห่งภูเขำลั่วพั่วคือพยำน ร่วมลงนำมไป พร ้อมกัน เป็ นบุคคลอันดับรอง
ในนี้ได้ซุกซ่อนควำมรู ้หลำยอย่ำงที่วกไปวนมำ เพียงแค่เรื่อง เล็กน้อยเรื่องนี้ เซี่ยโก่วก็มองออกแล้วว่ำเจ้ำเฉินผิงอันผู้นี้มีควำมคิด มำกมำยถึงเพียงไหน กลอุบำยลึกล้ำถึงเพียงใดเหอะ
ก็ไม่แปลกที่ใต้หล้ำเปลี่ยวร ้ำงในทุกวันนี้ พวกขอบเขตบิน ทะยำนที่รอเสริมบัลลังก ์รำชำพวกนั้นต่ำงก็คิดถึงอิ่นกวำนหนุ่มไม่ เคยลืมเลือน พำกันคิดว่ำขนำดหย่ำเพิ่งแห่งศำลบุ๋นยังสำมำรถหลอก เอำหยวนพำงไปจำกใต้หล้ำมืดสลัวได้ ไยป๋ ำยเจ๋อถึงไม่เอำถุง กระสอบครอบหัวเฉินผิงอันมำจำกใต้หล้ำไพศำล แล้วจับเขำโยนไป ในถ้ำที่มีแต่สตรี วีรบุรุษยำกจะผ่ำนด่ำนสำวงำม เมื่อข้ำวสำร กลำยเป็ นข้ำวสุกแล้วก็ไม่ใช่ว่ำกลำยเป็ นคนครอบครัวเดียวกันแล้ว หรอกหรือ
ในขณะที่เซี่ยโก๋วเก็บปรำณกระบี่กลุ่มนั้นมำอย่ำงเงียบเชียบ เวลำนี้เจ้ำตัวน้อยที่มีฉำยำว่ำ “ชื่อเฉิง” กำลังนั่งขัดสมำธิอยู่บนหลัง ของงูป๋ ำยฮวำ ขี่ม้ำตัวสูงใหญ่” มีบำรมีอ ำนำจดุจดั่งคนที่หลุบตำมอง ใต้หล้ำอย่ำงเย่อหยิ่ง อดทอดถอนใจอย่ำงปลงอนิจจังไม่ได้ว่ำ “นักพรตเซียนเว่ย ต ำแหน่ งขุนนำงของเจ้ำไม่ใหญ่ แต่ดันมี กฎระเบียบมำกที่สุด เจ้ำลองดูเจ้ำขุนเขำเฉินของพวกเรำสิ เขำ อ่อนโยนมีอัธยำศัยไมตรีดีถึงเพียงใด ไม่ว่ำเรื่องไหนก็ล้วนพูดคุยกัน ได้ เจ้ำที่เป็ นคนเฝ้ ำประตูไม่รู ้สึกละอำยบ้ำงเลยหรือ?”
ภูเขำลั่วพั่ว ขุนนำงที่ใหญ่ที่สุดก็คือเจ้ำขุนเขำเฉินแล้ว
ถ้ำอย่ำงนั้นหมวกขุนนำงที่เล็กที่สุดก็น่ำจะเป็ นคนเฝ้ ำประตูอย่ำง เซียนเว่ยแล้วกระมัง
เซียนเว่ยเอ่ยอย่ำงไม่สบอำรมณ์ “ข้ำจะต้องละอำยใจอะไร คน เฝ้ ำประตูบ้ำนเสนำบดีเทียบเท่ำขุนนำงขั้นสำม เพรำะมีภำระหน้ำที่ ติดตัว หำกเวลำปกติไม่รับมือได้ยำกสักหน่อยหรือจะให้ข้ำปล่อยอำ หมำอำแมวที่ไหนเดินขึ้นเขำไปได้ส่งเดชอย่ำงนั้นหรือ?”
เซียนเว่ยก้มลงมองเด็กชำยชุดสีชำด ยิ้มตำหยีเอ่ยว่ำ “คนที่เป็ น ขุนนำงใหญ่ ภำยนอกล้วนดูเหมือนใกล้ชิดสนิทสนมกับคนอื่นได้ง่ำย มีอัธยำศัยไมตรี แต่นั่นก็เป็ นเพรำะไม่มีควำมจำเป็ นที่จะต้องทิ้งตึง ดุดันใส่เจ้ำ รอให้เจ้ำได้เลื่อนขั้นขุนนำงสูงกว่ำนี้ มีโอกำสได้สัมผัส กับเจ้ำขุนเขำเฉินมำกเข้ำก็จะเข้ำใจหลักกำรข้อหนึ่งเอง”
เด็กชำยชุดสีชำดร ้ำยกำจมำก ได้เตรียมสมุดบัญชีเล่มเล็ก เอำไว้แล้ว แต่กลับแสร ้งท ำหน้ำตกตะลึง เอ่ยเร่งรัดว่ำ “อ้อ? หลักกำร อะไร หมำยถึงอะไร รอให้ข้ำเป็ นขุนนำงใหญ่แล้วจะเป็ นอย่ำงไร?”
เซียนเว่ยกล่ำว “ก็จะค้นพบเองว่ำ เจ้ำขุนเขำของพวกเรำใกล้ชิด กับคนง่ำยจริงๆ”
เด็กชำยชุดสีชำดที่ไม่สมดั่งใจหวัง ได้แต่ยกนิ้วโป้ งให้กับ นักพรตเซียนเว่ย
เซี่ยโก่วกลอกตำมองบน ให้ตำยเถอะ ขนบธรรมเนียมของภูเขำ ลั่วพั่วนี่ใช ้ได้จริงๆ
ผู้พิทักษ์ซ ้ำยตรอกฉีหลงที่สำมำรถกลำยร่ำงเป็ นคนได้นำนแล้ว แต่กลับไม่ยอมจ ำแลงร่ำงเสียที่วิ่งตุปัดตุเป๋ อยู่ข้ำงกำยเด็กสำวสวม หมวกขนเตียว
มันกลัวเผยเฉียนเพรำะมีเหตุผลนับร ้อยข้อ เรื่องรำวในอดีตไม่ อยำกย้อนกลับไปมอง
แต่กำรที่มันรู ้สึกใกล้ชิดสนิทสนมกับเด็กสำวสวมหมวกขนเตียว อย่ำงเป็ นธรรมชำติกลับเหมือนว่ำจะเป็ นเรื่องที่ไร ้เหตุผล
เพรำะอย่ำงไรก็คงไม่ใช่เพรำะว่ำในชื่อของอีกฝ่ ำยมีคำว่ำ “โก่ว” (หมำ) หรอกกระมัง
มำถึงบนยอดเขำ เด็กสำวสวมหมวกขนเตียวก็เห็นเงำร่ำงของ คนสองคนที่ยืนอยู่ข้ำงรำวรั้ว จึงขยับเข้ำไปพูดคุยด้วยสองสำม ประโยค หลักๆ แล้วยังเป็ นเพรำะนักพรตที่มีฉำยำว่ำฉุนหยำงนั่นที่ทำ ให้เซี่ยโก่วรู ้สึกว่ำไม่ธรรมดำ ไม่ธรรมดำอย่ำงมำก ต้องถำมเรื่องหนึ่ง ว่ำอีกฝ่ ำยเคยไปเยือน “ต ำหนักฮว่อหยำง” มำก่อนหรือไม่ ไม่เหมือน ดวงจันทร ์ต่ำงๆ ที่อยู่ในใต้หล้ำและพื้นที่มงคลแต่ละแห่งที่ผู้ฝึ กตน ใหญ่ในรุ่นหลังสำมำรถสร ้ำงพื้นที่ประกอบพิธีกรรมอำศัยอยู่อย่ำง ยำวนำนได้ ต่อให้เป็ นเมื่อหมื่นปีก่อนก็มี “เยว่ฮู่” (ผู้ที่ฝึกตนอยู่ใน ดวงจันทร ์ในต ำนำนของจีน) จำนวนนับไม่ถ้วนที่ได้เลื่อนขั้นอยู่ ภำยใน มีเพียงดวงตะวันใหญ่แต่ละดวงเท่ำนั้นที่หมื่นปีที่ผ่ำนมำไม่ เคยมีผู้ฝึกตนคนใดกล้ำพูดว่ำตัวเองคือเจ้ำของ ขอบเขตสูงเหมือน
ป๋ ำยจิ่ง อยู่ในดวงตะวันของใต้หล้ำเปลี่ยวร ้ำงดวงนั้น นำงก็ยังได้แค่ ถือว่ำไป “พักอำศัยอยู่ชั่วครำว” เท่ำนั้น