กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 986.3 ลูกศิษย์ปิดส ำนัก
นี่เกี่ยวพันไปถึงเรื่องวงในเรื่องหนึ่ง เพรำะต่อให้ตะวันจันทรำล้วน เป็ นกำร “คัดลอกป๋ ำยจิ่งศิลำ” ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงบำงท่ำน แต่ ฝ่ำยหลังจะมีแนวโน้มเป็ นควำมจริงมำกกว่ำฝ่ำยแรกกลับมีควำมลี้ลับ ยิ่งกว่ำ จำนวนที่อยู่นอกฟ้ ำมีมำกเกินกว่ำจะนับได้หมด แต่ควำมลี้ลับ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็อยู่ที่ว่ำ “ดวงตะวัน” ทั้งหมดที่ลอยอยู่กลำงจักรวำล ล้วนสำมำรถเชื่อมโยงไปถึง “ตำหนักฮว่อหยำง” ที่มีเพียงหนึ่งเดียว นั้นได้ ต่อให้สรวงสวรรค์เก่ำจะกลำยเป็ นซำกปรัก ตำหนักแห่งนี้ก็ ยังคงอยู่ ไม่ได้รับควำมเสียหำยใดๆ เพียงแต่ว่ำผู้ฝึกตนคนละประเภท ที่มุ่งหน้ำไปเยือนตำหนักฮว่อหยำงล้วนจะต้องถูกแบ่งแยกโดย อัตโนมัติ จะได้ไปอยู่ในช่วงตอนของแม่น้ำใน “ตำแหน่ง” ที่ไม่ เหมือนกันในแม่น้ำแห่งกำลเวลำ สิ่งเดียวที่พอจะเรียกได้ว่ำเหมือนกัน ก็คือผู้ฝึกตนยุคหลังเหยียบย่ำงเข้ำไปในต ำหนักฮว่อหยำงล้วนไม่เคย มีใครได้เจอกับเจ้ำของที่แท้จริงผู้นั้น และเชื่อว่ำไม่มีใครยินดีจะพบ อีกฝ่ำยด้วย
สถำนที่หลบร ้อนของโลกมนุษย์ ตำหนักก่วงหัน (อีกชื่อเรียก ของพระจันทร ์ ค ำว่ำหันคำเดียวจะแปลว่ำหนำว) ของบนฟ้ ำ ถ้ำหยวน ซี่ที่ถูกเจำะขึ้นท่ำมกลำงหุนตุ้น (ตำมควำมเชื่อของคนจีนคือสภำพ อำกำศก่อนโลกก่อก ำเนิด จักรวำลมีสภำพเป็ นฝุ่ นขุ่นมัว เรียกว่ำ หุนตุ้น) มังกรเฒ่ำได้ครอบครองตำหนักแก่นน้ำเพียงลำพัง
ตำหนักวำรีและวังมังกรล้วนชอบสร ้ำงตำหนักแก่นน้ำ ช่วง ฤดูกำลชำนฝู (หนึ่งในช่วงฤดูกำลของจีนแบ่งออกเป็ นสำมช่วงคือ ต้นกลำงและท้ำย จะหมำยถึงช่วงที่อำกำศร ้อนที่สุด) ของโลกมนุษย์ สถำนที่แห่งนี้มีบรรยำกำศของฤดูใบไม้ร่วงอย่ำงเต็มที่ จึงเป็ นเหตุให้ ตระกูลเซียนเรียกขำนว่ำเป็ นแคว้นชิงเหลียง (เย็นสบำย)
และกำรที่ตำหนักฮว่อหยำงที่งำมวิจิตรแห่งนั้นได้ถูกลัทธิเต๋ำใน ทุกวันนี้เรียกขำนว่ำเป็ นหนึ่งในเชื้อพระวงศ์ ตำมควำมเห็นของเซี่ย โก่วแล้วก็ไม่ถือว่ำเป็ นกำรพูดเหลวไหล ทั้งหมด
และหนึ่งในธรณีประตูที่จะบอกว่ำเผ่ำมังกรบรรพกำลจะสำมำรถ พิสูจน์มรรคำได้หรือไม่นั้น ก็คือจะได้รับกำรถ่ำยทอดวิชำควำมรู ้จำก เจินเหรินที่ตำหนักฮว่อหยำงหรือไม่
เซี่ยโก่วมองออกว่ำหลวี่เหยียนผู้นี้ต้องมีควำมสัมพันธ ์ที่ไม่ตื้น เขินกับเจียวหลงบรรพกำลอย่ำงแน่นอน
โจวหมี่ลี่เห็นเซี่ยโก่วขยับเท้ำคล้ำยจะเดินไปทำงเจ้ำขุนเขำคนดี ก็รีบมำขวำงทำงเอำไว้ แต่ก็รู ้สึกได้ทันใดว่ำไม่เหมำะสม จึงรีบเบี่ยง ตัวหันข้ำงกระตุกชำยแขนเสื้อของเซี่ยโก่วเบำๆ กดเสียงลงต่ำเอ่ย ด้วยสีหน้ำร ้อนรน “แม่นำงเซี่ย เจ้ำขุนเขำคนดีจะคุยธุระกับเทพเซียน ผู้เฒ่ำหลวี่ แม่นำงเชี่ยรออีกเดี๋ยวค่อยเข้ำไปเถอะ ไม่รีบร ้อน ไม่รีบ ร ้อน รอสักครู่ รอสักครู่”
เซี่ยโก่วสะบัดมือ จำกนั้นยกสองแขนกอดอก หันหน้ำมำมองภูต น้ำน้อยที่ตัวสูงพอๆ กับเด็กชำยผมขำว “ผู้พิทักษ์ขวำช่ำงมีบำรมี มี อ ำนำจเสียจริงนะ”
หมี่ลี่น้อยเกำแก้ม
เฉินผิงอันก็อยู่ในท่ำยกสองแขนกอดอกเหมือนกัน เอนกำยพิง รำวรั้ว มองเด็กสำวสวมหมวกขนเตียวที่ดูเหมือนว่ำควำมจำจะไม่ ค่อยดีผู้นั้น
เสี่ยวโม่ที่สวมหมวกเหลืองรองเท้ำเขียวมำโผล่อยู่ข้ำงกำยเซี่ย โก่ว ผงกศีรษะทักทำยฉุนหยำงเจินเหรินก่อน แล้วจึงยื่นมือไปกดบ่ำ ของเซี่ยโก่ว เรี่ยวแรงนั้นไม่เบำ ออกเสียงเตือนว่ำ “เซี่ยโก่ว!”
เซี่ยโก่วยกมือขึ้นหมำยจะลูบหลังมือของเสี่ยวโม่ ผลคือถูกเสี่ยว โม่ยกมือถองศอกมำที่ข้ำงใบหน้ำพอดี เด็กสำวสวมหมวกขนเตียว ไม่โกรธกลับยังยินดี หัวเรำะหึหึปำกกว้ำง เอียงศีรษะเต็มที่ พูดด้วย เสียงอู้อี้ว่ำ “เจ้ำมำแล้วหรือ ข้ำเล่นสนุกกับผู้พิทักษ์ขวำอยู่นะ”
หมี่ลี่น้อยยิ้มกว้ำง พยักหน้ำรับอย่ำงแรง ใช่แล้ว ใช่แล้ว พวกเรำ สองคนเล่นสนุกกันเท่ำนั้น ฮ่ำๆ อำจำรย์เสี่ยวโม่ แม่นำงเซี่ยคนรัก ของท่ำน สองแก้มแดงปลั่งน่ำรักน่ำชัง ตัวก็สูงด้วยนะ
เสี่ยวโม่ดึงมือกลับมำนวดคลึงหว่ำงคิ้ว
ไม่รู ้แล้วว่ำควรจะอธิบำยควำมสัมพันธ ์ของตัวเองกับป๋ ำยจิ่งให้ หมี่ลี่น้อยฟังอย่ำงไรดี
เฉินผิงอันกวักมือเรียกหมี่ลี่น้อย
หมี่ลี่น้อยวิ่งไปหำเร็วจี๋ หยุดยืนนิ่งแล้ว เฉินผิงอันก็หยิบยันต์วำรี ที่ยังไม่รู ้ชื่อแผ่นนั้นออกมำ ยิ้มเอ่ยว่ำ “ผู้อำวุโสหลวี่มอบให้เจ้ำ ไม่ ต้องเกรงใจ เก็บไว้เถอะ”
หมี่ลี่น้อยทำสีหน้ำลำบำกใจ โค้งกำยขอบคุณเทพเซียนผู้เฒ่ำ หลวี่ รีบเปิดกระเป๋ ำผ้ำฝ้ ำยออก เชิญยันต์แผ่นนั้นเข้ำไปใน “ศำล บรรพจำรย์” บ้ำนตัวเองอย่ำงระมัดระวัง
ร ้ำยกำจ ร ้ำยกำจ มีแม่ทัพใหญ่เพิ่มมำเป็ นลูกน้องอีกคนหนึ่ง แล้ว!
หลวี่เหยียนลูบหนวดยิ้ม “ยันต์นี้มีชื่อว่ำ “ประตูมังกร” เป็ นยันต์ที่ ผินเต้ำคิดค้นขึ้นเองไม่ถือว่ำเป็ นยันต์ใหญ่ที่มหัศจรรย์อะไร ก็แค่ว่ำ ในอนำคตเมื่อไปเยือนนครจักรพรรดิขำวอำศัยยันต์แผ่นนี้ก็สำมำรถ ถือยันต์เดินเข้ำไปในถ้ำสวรรค์เล็กหวงเหอได้โดยตรง”
เสี่ยวโม่หัวเรำะ หำกนี่ยังไม่ถือเป็ นยันต์ใหญ่ ยันต์ใหญ่ในใต้ หล้ำนี้ก็มีเหลือน้อยเต็มทีแล้ว
ไม่เสียแรงที่เป็ นยอดฝีมือผู้บรรลุมรรคำที่คุณชำยเรียกอย่ำงให้ ควำมเคำรพว่ำ “หลวี่จู่ (บรรพบุรุษหลวี่) ยังสำมำรถมำถปรำกฏตัวที่ หอสยบปีศำจพร ้อมกับปรมำจำรย์มหำปรำชญ์ได้ด้วย
เซี่ยโก่วถอนหำยใจเบำๆ หนึ่งที หำกจะบอกว่ำอิจฉำก็ไม่ถึงขั้น นั้น ก็แค่ยันต์แผ่นหนึ่งที่สำมำรถทำให้เผ่ำพันธุ์น้ำในใต้หล้ำข้ำม
ประตูมังกรไปได้โดยตรงเท่ำนั้น แต่ปัญหำนั้นอยู่ที่ว่ำในยันต์แผ่นนี้มี ปณิธำนที่แท้จริงของสองคำว่ำ “ฉุนหยำง” ดำรงอยู่เหมือน….เทพ ทวำรบำลสององค์ ภูตน้ำน้อยถือยันต์แผ่นนี้ไว้ในมือ เมื่อเจอกับด่ำน ยำกที่สำคัญ ยิ่งเป็ นผู้ฝึกตนบนยอดเขำก็ยิ่งรู ้ถึงควำมหนักเบำและ ควำมดีร ้ำยของมัน นี่แทบไม่ต่ำงจำกกำรถำมมรรคำหรือไม่ก็ถำม กระบี่กับนักพรตฉุนหยำงผู้นี้อยู่ไกลๆ ต้องแบกรับผลลัพธ ์ที่ตำมมำ เอำเอง
หมี่ลี่น้อยยิ้มกว้ำงจนปิดปำกไม่ลง พี่หญิงหน่วนซู่ จิ่งชิงจิ่งชิง ผู้ ถวำยงำนหงเซี่ย อวิ๋นจื่อ…ยันต์ที่ล้ำค่ำมีเพียงแผ่นเดียว ดูเหมือนว่ำ จะไม่พอแบ่ง
เฉินผิงอันยื่นมือมำกดศีรษะเล็ก ยิ้มเอ่ยว่ำ “อย่ำคิดเอำไปมอบ ให้คนอื่น เก็บไว้ใช ้เอง”
หมี่ลี่น้อยตบถุงผ้ำฝ้ ำยสะพำยไหล่ เอ่ยอย่ำงอำรมณ์ดีว่ำ “หำก ไม่มอบให้คนอื่นก็ตัดใจใช ้ไม่ลง ต้องเก็บรักษำไว้ให้ดี!”
ก่อนหน้ำนี้อยู่ที่ท่ำเรือชิงซำน หนึ่งคนโตหนึ่งเด็กเล็กแทะเมล็ด แตงอยู่ด้วยกัน แม่นำงน้อยชุดดำนั่งอยู่บนก้อนหิน แกว่งเท้ำเล็กๆ อย่ำงสบำยอำรมณ์ คุยเล่นกับแขกที่มำเยือนเรื่องของภูเขำลั่วพั่วและ เรื่องของสำนักกระบี่ชิงผิงไม่มีทำงพูดถึงแม้แต่ครึ่งคำ ประสบกำรณ์ ในยุทธภพของนำงโชกโชนมำกนักล่ะ เพียงแต่กังวลว่ำผู้อำวุโสท่ำน นั้นจะรู ้สึกเบื่อหน่ำย ดังนั้นนำงจึงได้แต่เล่ำเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของ ตัวเอง ก็หนีไม่พ้นว่ำเห็นเมฆข้ำวอ้วนๆ ผอมๆ หลำยก้อนบินผ่ำน
นอกหน้ำผำประตูหน้ำบ้ำนของตน ก็เลยช่วยตั้งชื่อให้พวกมัน นักพรตฉุนหยำงจึงยิ้มเอ่ยว่ำ เกียรติยศและอัปยศเรียงแถวผ่ำนกันมำ อยู่นอกประตู ตำมหลังควำมลำบำกยำกจนก็คือควำมโชคดี กำรที่ ขนบธรรมคำสั่งสอนประจำตระกูลสำคัญมำกก็เพรำะสำมำรถท ำให้ คนอดทนกับควำมยำกล ำบำกได้ แล้วก็รับควำมสุขเอำไว้ได้ แม่นำง น้อยรู ้สึกว่ำมีเหตุผลมำกจึงปรบมือเบำๆ จำกนั้นก็ถำมอย่ำงหยั่งเชิง ว่ำ นักพรตฉุนหยำงข้ำมีสหำยอยู่คนหนึ่ง เป็ นแค่เพื่อนบนภูเขำนะ ขอบเขตของนำงต่ำเกินไป แต่ภูเขำของนำงใหญ่มำก ดังนั้นเวลำที่ เพื่อนของข้ำคนนี้ออกไปข้ำงนอกจึงมักจะมีควำมกล้ำหำญน้อยนิด พอๆ กับควำมสำมำรถ จะท ำอย่ำงไรดี…
เวลำนี้เซี่ยโก่วยืนอยู่ข้ำงกำยของเสี่ยวโม่ พูดด้วยสีหน้ำจริงจัง ว่ำ “เสี่ยวโม่ ข้ำบังเอิญเจอกับใต้เท้ำเจ้ำขุนเขำที่ศำลำริมทำง คุยกัน ได้ดีมำก คุณชำยของเจ้ำพูดคุยกับข้ำอย่ำงถูกคอจริงๆ เขำยังชวน ให้ข้ำดื่มเหล้ำด้วยนะ นี่ไม่ใช่เรื่องที่ข้ำแต่งขึ้นเอง หำกเจ้ำไม่เชื่อ อีก เดี๋ยวก็ไปถำมคุณชำยของเจ้ำเอำเอง เจ้ำขุนเขำของพวกเรำยังเชื้อ เชิญให้ข้ำกลับมำที่ภูเขำลั่วพั่วด้วย ไม่อย่ำงนั้นด้วยควำมหยิ่งใน ศักดิ์ศรีของข้ำ จะวิ่งกลับมำหำเรื่องให้ตัวเองต้องอับอำยที่นี่หรือ? อยู่ ในศำลำ…ใช่แล้ว เสี่ยวโม่เจ้ำอย่ำเข้ำใจผิดนะ อย่ำคิดมำกเด็ดขำด เลยแม้ว่ำชำยหญิงจะอยู่ด้วยกันเพียงลำพัง แต่เจ้ำไม่เชื่อใจข้ำก็ต้อง เชื่อใจคุณชำยของเจ้ำ สรุปก็คือตอนนั้นพวกเรำที่อยู่ในศำลำแค่ ประลองวิชำควำมรู ้กันอย่ำงจริงจังเท่ำนั้น ดื่มเหล้ำร่วมกัน พูดคุยกัน
อย่ำงเบิกบำน ข้ำรู ้สึกว่ำเจ้ำขุนเขำคนนี้ไม่เลวเลยจริงๆ คู่ควรแก่กำร เลื่อมใสแม้ว่ำชำติก ำเนิดจะแย่ไปสักหน่อย แต่ในต ำรำก็ไม่ได้บอก หรือว่ำ ตระกูลคนรวยมีคนอดยำกหิวโหยได้ ตระกูลคนจนก็มีโอกำส สร ้ำงขุนนำงผู้สูงศักดิ์ได้เหมือนกัน? เจ้ำลองดูพวกลูกหลำนจำก ตระกูลประตูสูงที่ถนนฝูลู่และตรอกเถำเย่สิ ก็แค่ว่ำร่ำรวยมีเกียรติอยู่ บ้ำง กลับไม่เคยมองคนอื่นเต็มตำ คิดดูแล้วอนำคตก็คงมีจำกัด แต่ เจ้ำขุนเขำของพวกเรำไม่เหมือนกันล้วนอำศัยควำมสำมำรถในกำร สร ้ำงกิจกำรบ้ำนเรือนใหญ่โตนี้ขึ้นมำ แล้วยังหนักแน่นดุจขุนเขำ อำยุน้อยๆ ก็เป็ นคนมั่นคง ต้องมีโชควำสนำอย่ำงหำที่สิ้นสุดไม่ได้ แน่นอน! ข้ำใคร่ครวญจนเข้ำใจเหตุผลข้อหนึ่งแล้ว คนที่ฉลำดอย่ำง แท้จริงในใต้หล้ำนี้ พูดไม่เก่งแต่ใจกว้ำง วำงแผนกำรได้ลึกล้ำยำว ไกล จึงไม่มีทำงยำกจน! เสี่ยวโม่ สำยตำในกำรเลือกคนของเจ้ำยอด เยี่ยม นี่จึงพิสูจน์ให้เห็นว่ำสำยตำในกำรเลือกคนของข้ำดียิ่งกว่ำ ใช่ แล้วเสี่ยวโม่ช่วงนี้ข้ำขยันอ่ำนหนังสือมำก ควำมรู ้เพิ่มพูนพรวด พรำด ควำมปรำดเปรื่องดุจน้ำพูผุดพุ่งจะขวำงก็ขวำงไม่อยู่ เจ้ำลอง ฟังดูแล้วให้คำวิจำรณ์เอำนะ แต่บอกไว้ก่อนว่ำ ทั้งกลอนและถ้อยค ำ เหมือนวลีที่ซูจื่อเขียน เป็ นกำรบุกเบิกโฉมหน้ำใหม่ กรอบที่วำงไว้ ต้องไม่มีทำงกักตัวคนได้อยู่แน่นอน เอำอย่ำงคุณชำยของเจ้ำ วำง แบบและกฎเกณฑ์ไว้ด้ำนข้ำงก่อน กำลเวลำที่แขกผู้ผ่ำนทำงมำอยู่ ต่ำงถิ่นข้ำมผ่ำนไปในบทกวี พู่กันสีตวัดวำดใบถง บทกวีถำมไถ่ว่ำ สุขสบำยดีไหม ดอกซึ่งผลิบำนท่ำมกลำงสำยฝน เจอวสันต์ฤดูของ
อีกปี ยิ่งมีกิ่งดอกงำมงด! หำกว่ำเจ้ำชอบก็เอำไปใช ้ได้เลย ในบทกวีนี้ มีค ำว่ำ ‘ผิงอัน” คุณชำยของเจ้ำได้ยินแล้วต้องชอบแน่…”
แรกเริ่มเสี่ยวโม่คิดว่ำจะแกล้งทำเป็ นคนหูหนวก แต่ยิ่งฟังไปถึง ช่วงท้ำยก็ยิ่งรู ้สึกแปลกๆ อดไม่ไหวจริงๆ จึงพูดด้วยสีหน้ำด ำทะมึน “เจ้ำไปขโมยลอกวิชำควำมรู ้มำจำกอำจำรย์จูกี่มำกน้อยกันแน่?!”
เซี่ยโก่วเกำแก้มเลียนแบบผู้พิทักษ์ขวำ หัวเรำะแห้งๆ เอ่ยว่ำ “ตัวอักษรมีมำกมำยขนำดนั้น บัณฑิตอย่ำงพวกเรำคัดลอกมำจำก ตรงโน้นที่ตรงนี้ที ล้วนเป็ นควำมรู ้ที่ให้กันยืมโดยไม่ต้องใช้คืน จะ เรียกว่ำขโมยลอกได้อย่ำงไร”
ผู้เฒ่ำหลังค่อมคนหนึ่งที่เอำสองมือไพล่หลังยิ้มตำหยีเดินขึ้น บันไดมำ หยุดเท้ำยืนอยู่พักหนึ่ง พอได้ยินประโยคสุดท้ำยของเซี่ย โก่ว พ่อครัวเฒ่ำก็รีบถอยกลับไปทำงเดิมทันที เผ่นก่อนเพื่อควำม ปลอดภัย
เสี่ยวโม่ แม่นำงเซี่ย พวกเจ้ำสองคนเชิญคลอเคลียแนบชิดกัน ตำมสบำย ข้ำไปท ำกับข้ำวของข้ำก่อนล่ะ
หมี่ลี่น้อยตำดี เห็นเงำร่ำงของพ่อครัวเฒ่ำก็รีบขอตัวลำกับเจ้ำ ขุนเขำคนดีและนักพรตฉุนหยำง ระหว่ำงทำงยังทักทำยกับอำจำรย์ เสี่ยวโม่แล้ววิ่งตะบึงไปถึงข้ำงกำยของจูเหลี่ยนเดินลงบันไดไป ด้วยกัน นำงตบกระเป๋ ำผ้ำฝ้ ำย แล้วยื่นมือมำป้ องปำก เอ่ยเสียงเบำว่ำ “พ่อครัวเฒ่ำ มีของดี”
จูเหลี่ยนกลั้นขำถำมว่ำ “ของดีอะไร กินได้ไหม?”
หมี่ลี่น้อยยกสองนิ้วประกบกัน กระโดดลงจำกขั้นบันได หัวเรำะ ร่ำเอ่ยว่ำ “ทำยค ำปริศนำสิ ก้ำวเดินก ำเริบเสิบสำน ปีศำจและมำร หวำดผวำ!”
จูเหลี่ยนทำท่ำกระจ่ำงแจ้งในฉับพลัน “ที่แท้ก็ยันต์เจดีย์สยบ ปีศำจเองหรือ”
หมี่ลี่น้อยหัวเรำะคิก “ไม่เหมือนกัน ยันต์แผ่นนี้ของข้ำเรียกว่ำ ยันต์ประตูมังกร ยันต์เจดีย์สยบปี ศำจของดีของเผยเฉียนแผ่นนั้น เมื่อก่อนข้ำอยำกจะเห็นหน้ำก็ยังยำกเลยนะ”
ตอนที่เผยเฉียนยังเด็กดูเหมือนว่ำเวลำอำรมณ์ไม่ดีก็มักจะหยิบ ยันต์แผ่นนั้นออกมำแปะบนหน้ำผำกเป่ ำเล่น
จูเหลี่ยนพยักหน้ำรับด้วยรอยยิ้ม ปีนั้นถ่ำนดำน้อย พอเจอเรื่องที่ หวำดกลัวก็ชอบแปะยันต์บนหน้ำผำกเพิ่มควำมกล้ำให้ตัวเอง หรือไม่ หำกเดินแล้วเหนื่อยก็จะหยิบยันต์แผ่นนั้นออกมำ พูดอย่ำงไพเรำะว่ำ มอบพลังภำยในหกสิบปีให้กับตัวเอง หำกใช้ค ำกล่ำวของเผยเฉียน ในเวลำนั้นก็คือบนหน้ำผำกข้ำแบกบ้ำนไว้หลังหนึ่ง เดินอำดๆ ท่อง อยู่ในยุทธภพ เวลำเดินจะเหนื่อยได้อย่ำงไร? ติดตำมอยู่ข้ำงกำย อำจำรย์พ่อ ขึ้นเขำลงห้วย ทะยำนเมฆขี่หมอก!
ใช่แล้ว ท ำไมถึงเติบใหญ่แล้วนะ
จูเหลี่ยนพำหมี่ลี่น้อยมำถึงนอกประตูบ้ำนหลังหนึ่ง เคำะประตู แล้วเดินเข้ำไป ในลำนบ้ำนมีคนกำลังฝึกท่ำยืนหนึ่งเจี้ยนหลอยู่ คนผู้ นั้นลืมตำขึ้นยิ้มเอ่ย “อำจำรย์จู ผู้พิทักษ์ขวำ”
จูเหลี่ยนพยักหน้ำ พูดด้วยสีหน้ำมีเลศนัย “จ้ำวซู่เซี่ย นับแต่ พรุ่งนี้เป็ นต้นไป ในที่สุดเจ้ำก็ต้องกรำบไหว้พระโพธิสัตว์จริงๆ แล้ว”
จ้ำวซูเซี่ยฟังด้วยควำมมึนงง
หมี่ลี่น้อยขยับริมฝีปำกมุบมิบ เตือนให้จ้ำวซู่เซี่ยรู ้ถึงคำตอบ
เพรำะระหว่ำงที่เดินกันมำ พ่อครัวเฒ่ำก็พูดกับนำงแล้วว่ำเจ้ำ ขุนเขำคนดีจะใช ้สถำนะของอำจำรย์ป้ อนหมัดให้กับลูกศิษย์ตำม ควำมหมำยที่แท้จริงอย่ำงเป็ นทำงกำรเป็ นครั้งแรกในชีวิตแล้ว
จ้ำวซู่เซี่ยตึงเครียดทันใด
จูเหลี่ยนยิ้มเอ่ย “จ้ำวซู่เซี่ย เครียดน่ะถูกต้องแล้ว เพรำะถึง อย่ำงไรคนที่อำยุต่ำกว่ำสำมสิบปีแล้วมีคุณสมบัติที่จะได้เรียนหมัด บนชั้นสองของเรือนไม้ไผ่ก็มีแค่สำมคนเท่ำนั้นข้ำเชื่อว่ำวันหน้ำก็คง ไม่มีทำงมำกไปกว่ำนี้ ถึงขั้นที่ว่ำไม่แน่ว่ำคนที่สำมก็คือคนสุดท้ำย แล้วดังนั้นจะต้องทะนุถนอมเห็นค่ำให้ดี”
สำมคนที่เรียนหมัดจำกชั้นสองของเรือนไม้ไผ่ เฉินผิงอัน เผย เฉียน จ้ำวซูเซี่ย
เฉินผิงอันและเผยเฉียนได้ทยอยกันเรียนหมัดมำจำกชุยเฉิง นับ แต่วันพรุ่งนี้เป็ นต้นไปจ้ำวซู่เซี่ยจะได้เรียนหมัดกับเฉินผิงอัน
ชั้นสองของเรือนไม้ไผ่ สอนหมัดกับเรียนหมัด ผู้ฝึกยุทธเต็มตัว ทั้งสิ้นสี่คน ผลคือมีถึงสำมคนที่เป็ นปรมำจำรย์ขอบเขตปลำยทำง!
เพรำะจูเหลี่ยนมีลำงสังหรณ์อย่ำงหนึ่งว่ำ จ้ำวซู่เซี่ยที่อยู่ตรงหน้ำ ผู้นี้จะกลำยมำเป็ นลูกศิษย์ปิดส ำนักในสำยวิชำหมัดของเจ้ำขุนเขำ เฉินผิงอัน