Taming Master - ตอนที่ 179
“เฮ้อ พวกเขาสร้างกำแพงสูงจริงๆ”
ขณะที่มองไปยังสมรภูมิจากที่ไกลๆ ซีลรอนขมวดคิ้วขณะที่เขาบ่น
“ฉันตลกกับกิลด์ดาร์ครูน่าเพราะพวกเขาล้มเหลวในการโจมตี แต่ไม่คิดว่าแนวป้องกันของพวกเขาจะแข็งแกร่งเช่นนี้”
เอมิลี่ซึ่งอยู่ข้างๆเขาเห็นด้วยกับคำพูดนั้น
“ไม่ตลกเลยที่มีทหารจำนวนมากต้องเสียสละ แต่พวกเขาก็ยังไม่สามารถผ่านกำแพงแรกได้เลย”
เมื่อเอมิลี่พูด ดวงตาทั้งสองของซีลรอนโตขึ้นเล็กน้อย
“ไรนะ? กำแพงชั้นแรก? ถ้างั้นเธอจะบอกว่ามีกำแพงชั้นที่ 2 ด้วยงั้นหรอ?”
“นายทำอะไรอยู่ระหว่างการประชุมพันธมิตรกัน? ดูเหมือนว่านายจะหลับสินะ?”
“ห้ะ?”
“ฉันกำลังพูดถึงเมื่อกิลด์ดาร์ครูน่ากำลังบรรยายสรุปเกี่ยวกับข้อมูลของสงครามปิดล้อม”
“โอ้! นั่นแหละ… เนื่องจากเธอจะตั้งใจฟังอย่างจริงจัง ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันจะต้องตั้งใจฟังไม่ใช่หรือไง? ฮ่าฮ่า”
ทั้งสองคนซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของทีมผู้บริหารของกิลด์ไททั่นนั้นเป็นผู้ที่อยู่ในอันดับต้นๆและด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงถูกระบุว่าเป็นส่วนหนึ่งของพลังการต่อสู้หลัก
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงเข้าร่วมการต่อสู้เมื่อกำแพงป้องกันที่ 1 พังลงอย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามทันใดนั้น ชยาครานซึ่งจมอยู่ในความคิดของเขาในขณะที่มองไปที่สมรภูมิโดยไม่มีคำพูดใดต่อหน้าพวกเขาก็หันหัวของเขาเล็กน้อยขณะที่เขาพูด
“ซีลรอน เอมิลี่ เริ่มเตรียมพร้อมไปกันเถอะ”
“ค่ะ หัวหน้า”
“เราจะไปกันแล้วหรอ?”
ชยาครานพยักหน้าขณะที่เขาตอบกลับ
“ดูเหมือนว่ากำแพงตะวันตกจะเริ่มพังลง ดังนั้นเราต้องเตรียมเข้าไปทันที”
ทั้งสามคนจับจ้องไปที่สมรภูมิ
เพียงแค่มอง ดูเหมือนว่าพวกเขาจะถูกตรึงไว้เมื่อมาถึงสถานการณ์ดำเนินต่อไปในแนวหน้า
อย่างไรก็ตาม ชยาครานคิดว่าช่วงเวลาที่กำแพงป้องกันพังลง เรื่องราวก็จะเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
‘เราเพิ่งจะถูกตรึงไว้เพราะกำแพงป้องกันที่สูงและแข็งแกร่งของพวกเขา แต่ในขณะที่สถานที่แห่งหนึ่งเปิดขึ้นความสมดุลของพวกเขาจะพังทลายในทันที’
หากความสมดุลของพวกเขาพังทลายลง การสังหารหมู่ด้านเดียวจะเริ่มต้นจากจุดนั้นเป็นจุดเริ่มต้นและในช่วงเวลานั้น พวกเขาจำเป็นต้องเข้าสู่สนามรบเร็วกว่า 1 วินาทีและกำจัดศัตรู
นี่เป็นเพราะผู้เล่นและ NPC ของประเทศศัตรูในสมรภูมิจะให้ค่าประสบการณ์และรางวัลอย่างมหาศาล
“ฉันหวังว่ามันจะไม่น่าเบื่อ…”
เมื่อซีลรอนพูด ชยาครานแสยะยิ้มในขณะที่เขาดุเขา
“มันเป็นป้อมปราการที่เอาชนะดาร์ครูน่าและแน่นอนพวกเขาจะต้องเตรียมการมากกว่านั้น”
“นั่นอาจจะจริงใช่ไหม?”
เอมิลี่ยังเสริมต่อ
“พวกเขาก็มีกองกำลังเลขสี่หลัก อย่างน้อยวันนี้อาจจะไม่น่าเบื่อเลยทีเดียว”
ชยาครานยิ้มขณะที่เขาเริ่มเดิน
“ฮ่าฮ่า ถ้างั้นไปกันเลยมั้ย?”
“ค่ะ หัวหน้า”
ด้วยการนำของชยาคราน กองกำลังประมาณหนึ่งพันคนที่รวมตัวกันภายใต้ธงของกิลด์ไททั่นเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
เป้าหมายของพวกเขาคือกำแพงตะวันตกที่พังทลายลงมา
‘ฉันจะสามารถต่อสู้กับเจ้าซัมมอนเนอร์คนนั้นได้หรือไม่?’
สองสามเดือนที่ผ่านมาเขาไปที่คุกของเกาะปาสคาลเพราะเควสต์ของอาณาจักร
และเมื่อไม่นานมานี้ชยาครานพบว่าผู้เล่นซัมมอนเนอร์ที่เขาได้ต่อสู้และเอียนนั้นเป็นคนๆเดียวกัน
‘ฮ่าฮ่า ฉันรอคอยแล้วว่าเขาจะแปลกใจขนาดไหน’
ในขณะที่เอียนเป็นคู่ต่อสู้ที่ถึงแม้จะเป็นโคลนของเขาซึ่งมีเพียงครึ่งหนึ่งของความสามารถของเขา เขาไม่คิดว่าเอียนเป็นคู่ต่อสู้ที่เหมาะสมกับเขาตั้งแต่แรก
อย่างไรก็ตาม เอียนก็ให้ความสนใจของเขาอย่างประหลาดใจ
‘ฉันจะฆ่าเขาด้วยมือของฉันเอง…’
ด้วยความคิดที่จะแสดงให้เอียนเห็นถึงความแตกต่างของแข็งแกร่ง เขาก็ตื่นเต้น
อย่างไรก็ตามเพื่อค้นหาว่ามันจะเป็นอย่างไร มันเป็นสิ่งที่ต้องดูกันต่อไป
* * *
เมื่อมันอยู่ในช่วงพักของฤดูหนาว มหาวิทยาลัยเกาหลีจึงเงียบอย่างไม่น่าเชื่อ
อย่างไรก็ตาม ห้องแผนกของแผนก VR นั้นเสียงดังอย่างมาก
“เฮ้ ซุชอล นายสั่งไก่เมื่อไม่นานมานี้ใช่ไหม?”
“ใช่ครับพี่! มันก็ 20 นาทีแล้วตั้งแต่ผมสั่งมันมา ดังนั้นมันน่าจะมาถึงแล้ว”
“โอเค”
“มินอา เธอกำลังทำอะไร ทำไมไม่เปิดโปรเจคเตอร์เร็วๆล่ะ?”
“นายเปิดมันเองสิ ทำไมนายต้องให้ฉันทำ?”
วันนี้เป็นวันที่นักเรียนของแผนก VR ตัดสินใจที่จะพบกันเป็นครั้งแรกในช่วงเวลาระหว่างพักและออกไปเที่ยว
มันเป็นเรื่องน่าขำขันเล็กๆน้อยๆที่สถานที่ที่พวกเขาออกไปเที่ยวคือโรงเรียน แต่ไม่มีที่ไหนที่อบอุ่นเหมือนห้องแผนก
และมีเหตุผลที่ชัดเจนว่าทำไมพวกเขาเลือกที่จะพบกันที่โรงเรียน
Tiiing-!
เมื่อมินอาเปิดโปรเจคเตอร์ จอสีขาวขนาดใหญ่ก็โผล่ขึ้นตรงกำแพงของห้องแผนก
“ช่องไหนที่ฉันควรเปลี่ยนไปดู?”
เมื่อมินอาถาม เซวอนรีบตอบกลับ
“เธอหมายถึงอะไรว่าช่องไหน แน่นอนว่าเธอต้องเปลี่ยนเป็น YTBC ฉันบอกเธอแล้วว่าคุณภาพวิดีโอของพวกเขานั้นสุดยอด”
“ถูกต้องและนักบรรยายก็นำเสนอกิลด์ของพวกเราได้สุดยอด ดังนั้นฉันถึงชอบพวกเขามาก”
“เข้าใจแล้ว!”
นักเรียนที่รวมตัวกันที่ห้องแผนกนั้นเป็นสมาชิกกิลด์โลตัสทั้งหมด
มันเป็นเพียงแค่เลเวลของพวกเขาต่ำเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นสมาชิกที่ไม่สามารถมีส่วนร่วมในสงครามปิดล้อมในทวีปกลางได้
ในหมู่พวกเขา เซวอนอยู่ในสถานะที่เขาอยู่ใกล้กับเลเวล 130 แต่เมื่อยูฮยอนพูดให้เขาคิดว่าเขาช่วยอะไรไม่ได้มาก เขาจึงตัดสินใจดูอย่างสบายใจแทน
หลังจากนั้นไม่นานช่องก็เปิดขึ้นและเมื่อวิดีโอเริ่มออกอากาศ มินอาก็แสดงอาการงุนงง
“อะไรกันเนี่ย? ดูเหมือนว่าสักพักแล้วตั้งแต่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น”
ซุชอลถามกลับด้วยท่าทางงุนงง
“อะไรนะ? เธอพูดถูก ไม่สิ ตารางเริ่มออกอากาศตอนบ่ายหนึ่ง ดังนั้นทำไมมันถึงเริ่มแล้วล่ะ?”
“มันต้องเพราะว่ากองทัพอาณาจักรเคลื่อนไหวเร็วกว่าที่คาดไว้ ฉันเดานะ”
ซุชอลซึ่งเทน้ำสไปรซ์ลงในแก้วขณะที่อยู่มุมห้องแผนกและดื่มมันได้พูดต่อ
“ถึงอย่างนั้น จากมุมมองของกำแพงป้องกันที่ 1 ยังคงไม่ถูกพังลง เนื่องจากพวกเขาจะเริ่มการต่อสู้เต็มรูปแบบในตอนนี้ ดังนั้นก็ไม่เป็นไรเราแค่ต้องดูต่อจากนี้”
เมื่อวิดีโอเริ่มขึ้นนักเรียนทั้งหกก็รวมกลุ่มอยู่บนโซฟาก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวและเริ่มมองที่บนหน้าจอ
เมื่อแสงทั้งหมดดับลงและพวกเขาดูวิดีโอผ่านการฉายภาพขนาดใหญ่ที่ถูกยิงบนผนังทั้งหมด มันให้ความรู้สึกราวกับว่าพวกเขามาที่โรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก
Bang- Ba-bang-!
- อ๊ะ กำแพงชั้นแรกในที่สุดก็พังลงแล้วหรอ?
พร้อมกับเสียงของนักบรรยายที่ตื่นเต้น ก้อนหินขนาดยักษ์ถูกเทลงไปยังกำแพงที่พังทลาย
Babang!
- ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้น? ตอนนี้มีช่องว่างขนาดใหญ่ ดูเหมือนว่ากองกำลังจะสามารถเข้าไปได้แล้ว
- ถูกต้อง ถ้าคุณมองไปตรงนั้น คุณสามารถเห็นหน่วยต่อสู้กำลังพุ่งราวกับว่าพวกเขากำลังรออยู่ใช่ไหม?
- ธงนั่น ฉันคิดว่ามันเป็นธงของกิลด์ไททั่น เป็นไปตามที่คาด ชยาครานหัวหน้าของกิลด์ไททั่นได้นำขบวนอยู่ตรงนั้น
มินอาซึ่งกำลังมองอยู่บนหน้าจอได้ถามกับเซวอน
“แต่ว่าพี่เซวอน”
“มีอะไรหรอ?”
“แต่เดิมแล้วพวกเขาทำลายกำแพงอย่างนี้เสมอในสงครามปิดล้อมงั้นหรอ? ฉันไม่คิดว่าเราทำอย่างนั้นเมื่อเรามีเมืองป้องกันสงครามในทวีปทางตอนเหนือนะ?”
ซุชอลซึ่งอยู่ข้างๆเธอก็เสริมต่อ
“เธอพูดถูก ครั้งนั้นเราเทดินหรือใช้สิ่งที่คล้ายบันไดเพื่อปีนขึ้นมา”
เมื่อทั้งสองคนพูด เซวอนก็แสดงอาการงุนงงขณะที่เขาเอียงหัว
“นายพูดถูก เมื่อพลังชีวิตของป้อมเยอะมาก มันจะไร้ประสิทธิภาพอย่างมากที่จะทำลายมันอย่างนั้น”
และราวกับว่ากำลังรอพวกเขาพูดคุยกัน นักบรรยายแก้ไขคำถามของพวกเขา
- กำแพงป้องกันแนวที่ 1 ในที่สุดได้พังทลายลง แต่ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงแล้วใช่ไหม?
- ถูกต้อง พลังป้องกันของการต่อต้านของเมืองไพโรนั้นเป็นระดับที่บ้าคลั่งอย่างแท้จริง พวกเขากำลังแสดงให้เราเห็นถึงสงครามการป้องกันจนถึงจุดที่ชื่อเล่นเมืองอันซิของทวีปกลางเทียบไม่ติด
- ทำไมพวกเขาถึงยอมแพ้ในการปีนกำแพงและเลือกที่จะทำลายมันล่ะ? เป็นความผิดที่ป้อมปราการสูงมาก แต่กลยุทธ์การป้องกันของพวกเขานั้นมีระเบียบอย่างแท้จริง ขณะที่หินกลิ้งตกลงมาโดยไม่หยุดพักและวางกับดักไว้ทั่วกลางกำแพง พวกเขาจึงตัดสินใจที่จะทำลายมันแทน
เซวอนซึ่งได้ยินคำอธิบายนั้น พึมพัมด้วยเสียงเบาๆ
“อ่อ เข้าใจแล้ว พวกโง่…”
มินอาก็พูดขณะที่เธอเสริม
“นั่นหยาบคายจริงๆ”
“แต่พี่เซวอน ถ้าพวกเขาเลือกที่จะทำลายกำแพงที่ 2 แม้แต่กำแพงป้องกันอันดับที่ 3 เช่นนั้น หคอยป้องกันที่เราใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างทั้งหมดก็ไร้ประโยชน์งั้นหรอ?”
เมื่อซุชอลพูด เซวอนส่ายหน้าขณะที่เขาตอบกลับ
“ไม่หรอก อาจจะไม่เป็นในกรณีนั้น อย่างน้อยสำหรับกำแพงป้องกันที่ 1 การยิงจะสามารถโจมตีได้จากระยะไกล แต่เริ่มจากกำแพงป้องกันที่ 2 เพื่อให้อยู่ในระยะการยิงพวกเขาจะต้องยิงผ่านกำแพงป้องกันที่ 1”
“เข้าใจแล้ว”
“เครื่องยิงหินอาจจะพังลงจากเพียงแค่เวทย์ประเภทไฟเพียงครั้งเดียว ดังนั้นสมาชิกกิลด์ของพวกเราอาจจะไม่เพียงแค่ยืนดูพวกมันให้เข้ามาใกล้เฉยๆใช่ไหม?”
มินอาพยักหน้าขณะที่เธอตอบกลับ
“ถูกต้องเลย”
ในขณะที่พวกเขาพูด มุมกล้องที่พุ่งไปที่ป้อมปราการที่ถูกทำลายก็เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเริ่มแสดงด้านในของป้อมปราการ
และจุดนั้น การต่อสู้เต็มรูปแบบได้เริ่มขึ้น
จากนั้น เสียงของมินอาซึ่งค้นพบบางอย่างก็ดังขึ้นเล็กน้อย
“พี่ นั่นจินซุงใช่ไหม? นั่นน่ะ!”
เมื่อมินอาพูด ทุกคนจ้องมองไปที่ทิศทางที่เธอชี้ไปและในจุดนั้นเอียนซึ่งอยู่บนหลังของฮัลลิกำลังต่อสู้กับสมาชิกกิลด์ของไททั่น
“ถูกต้อง นั่นคือจินซุง”
ขณะที่ทั้งสองคนดีในที่ค้นพบเอียน ซุชอลเอียงคอ
“แต่ว่าเขาเปลี่ยนอาวุธอีกแล้วหรอ? เขากำลังถือหอกอยู่น่ะ”
Clang- Cla-clang-!
ณ พื้นที่ด้านตะวันตกของกำแพงป้องกันที่ 1 ของเมืองไพโรพังลง
เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกำแพงได้พังลง กองทหารสองพันหน่วยไม่สามารถเข้ามาในคราวเดียว แต่ก็ยังมีทหารจำนวนมากเข้ามาในป้อมปราการ
‘แม้ว่ามันจะถูกทำลาย แต่ถ้าเป็นพื้นที่แคบๆนี้เราต้องต้านพวกมันให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้’
ทันทีที่เอียนได้รับรายงานว่าพื้นที่ด้านตะวันตกของกำแพงถูกทำลาย เอียนก็เคลื่อนไหวไปอย่างรวดเร็วและไปที่สมรภูมิทางตะวันตก
และเขาก็อัญเชิญสัตว์เลี้ยงทั้งหมดที่เขาไม่สามารถอัญเชิญได้เพราะเขาได้เป็นคนสั่งการเพียงคนเดียวอยู่ด้านบนของกำแพงจนถึงปัจจุบัน
“พอลลีน ซีเรีย พวกเธอต้องมาช่วยฉัน”
“รับทราบครับ ท่านลอร์ด”
“ค่ะ ท่านลอร์ด!”
เอียนซึ่งได้นำผู้ติดตามทั้งหมดของเขายกเว้นไคซาร์เริ่มต่อสู้กับกองทัพอาณาจักรไคม่อนที่เข้ามาในกำแพงที่พังลง
“ไลเหมือนที่นายทำมาตลอด มุ่งเน้นไปที่การกำจัดนักเวทย์ นักธนูและนักบวช”
- รับทราบครับนายท่าน
ไลนั้นเป็นสัตว์เลี้ยงที่พิเศษในการสร้างความเสียหายอย่างมากแก่เป้าหมายเดียว
เพราะอย่างนั้น เขาจึงเลือกสัตว์เลี้ยงที่มีความสามารถโดดเด่นที่สุดในการต่อสู้แบบนี้
ในทางกลับกัน ไม่ว่าจะเป็นเรคหรือพินก็ไม่สามารถแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของพวกเขาได้ในการต่อสู้เช่นนี้
นี่เป็นเพราะพวกมันไม่สามารถใช้สกิล AoE ของพวกมันได้ซึ่งเป็นสกิลการโจมตีหลักของพวกมัน
“พิน เรค พวกนายแค่ต่อสู้และเมื่อเวลาคูลดาวน์พลังแฝงของพวกนายหมดลงให้ไปข้างนอกและใช้สกิล AoE ของพวกนายซะ”
Kku-ruk- Kku-ru-ruk-!
เอียนซึ่งท้ายที่สุดให้บักค์และซีเรียร่วมทีมกัน ได้ขึ้นไปบนหลังของฮัลลิ
“เอาล่ะ เราลองต้านพวกมันเท่าที่สามารถทำได้กันเถอะ?”
เอียนใช้สกิลบัฟของเขาทั้งหมด แต่เขาไม่ได้สามารถใช้สกิล ‘ความประสงค์ของนักรบเซลามัส’ ได้
‘จนกว่าคู่ต่อสู้ที่ยากที่จะเผชิญหน้าปรากฏขึ้น ฉันควรเก็บความประสงค์ของนักรบเซลามัสไว้ก่อน’
เทียบกับเวลาสกิลความประสงค์ของนักรบเซลามัส เวลาคูลดาวน์นั่นไม่ได้นานเท่าไหร่
มันเป็นระยะเวลาที่สั้น ดังนั้นความจริงที่ว่าเขาจะเก็บมันไว้นั้นไม่ได้เหมาะสมซะทีเดียว
มันเป็นเพราะบทลงโทษที่เอียนไม่สามารถใช้สกิลอื่นๆขณะที่ใช้สกิลไปแล้ว เขาจึงต้องใช้มันอย่างระมัดระวัง
และขณะที่เอียนวิ่งเข้าไปในการต่อสู้ ผู้เล่นหลายคนพุ่งเข้าหาเอียน
“นั่นเอียน!”
“เอียนจริงด้วย! ถ้าเราฆ่าเจ้าหมอนั่น อาจจะได้รางวัลมหาศาลเลยใช่ไหม?”
รางวัลที่ได้รับเมื่อสังหารผู้เล่นจากประเทศศัตรูเป็นสัดส่วนกับเลเวลและชื่อเสียงของคู่ต่อสู้รวมถึงคะแนนพิเศษที่พวกเขาครอบครอง
เมื่อเป็นกรณีนั้น ถ้ามีใครประสบความสำเร็จในการสังหารเอียน พวกเขาจะได้รับรางวัลมหาศาลอย่างแท้จริง
เนื่องจากตอนนี้เอียนอยู่ในสถานการณ์ที่เขาอยู่ในเลเวลสูงสุดของกลุ่มผู้จัดอันดับ 10 เลเวลและในกรณีของคะแนนพิเศษและชื่อเสียงของเขาเขาสูงกว่าอิลาฮันหรือชยาครานมาก
ขณะที่มองไปยังผู้เล่นของอาณาจักรไคม่อนที่พุ่งเข้าหาเขา เอียนก็เบะปาก
‘เหอะ เสียดายเลเวลของพวกแกจริงๆ พวกโง่’
เอียนซี่งเผชิญหน้ากับผู้เล่นภายในโลกเสมือนจริงมามาก ตอนนี้สามารถประเมินความแข็งแกร่งของคู่ต่อสู้ของเขาได้เพียงแค่ดูรูปแบบการเคลื่อนไหวของพวกเขา
และอย่างน้อยที่สุดในบรรดาผู้เล่นที่เป็นผู้ตามหลังเอียนก็ไม่มีสักคนที่ดูเหมือนรุ่นที่เหมาะสมกับเขา
เอียนเริ่มหมุน ‘การพิพากษาของจิตวิญญาณแห่งราชา’ ไปรอบๆ
“มันก็นานมาแล้วตั้งแต่ฉันได้ใช้หอก แต่ฉันไม่คิดว่าฉันจะแพ้ให้กับพวกแกหรอก”
มันเป็นการยั่วยุอย่างชัดเจน
และในการยั่วยุนั้น ใบหน้าของผู้เล่นอาณาจักรไคม่อนเปลี่ยนเป็นสีแดงพร้อมกัน
“แกมีชื่อเสียงขึ้นมานิดหน่อยจนเสียสติไปแล้วงั้นหรอ?”
“บ้าไปแล้ว แม้ในสถานการณ์เช่นนี้ประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญงั้นหรอ? ดูเหมือนว่าเขาจะต้องต่อสู้กับพวกเราด้วยหอกจริงๆ”
ตามเนื้อผ้า การยั่วยุที่ดีที่สุดสำหรับผู้ชายคือคำที่พวกเขาเล่นเกมไม่เก่ง
อาจพิจารณาได้ว่ามันมีประสิทธิภาพมากกว่าคำพูดที่น่าเกลียดอย่างน้อยสิบเท่า
นอกเหนือจากนั้นการยั่วยุที่เติมเชื้อเพลิงให้กับเปลวไฟของฝ่ายตรงข้ามอาจถือได้ว่าเป็น CC ที่ดีกว่า (ควบคุมฝูงชน สกิลที่ใช้ในการจำกัดการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้) สกิลสภาพสถานะ
CC นั้นสร้างบาดแผลบนตัวละคร แต่เนื่องจากการยั่วยุที่ทำให้เกิดความเย่อหยิ่งนั้นทำให้สมองของผู้เล่นกลายเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยกเลิกได้ด้วยสกิลการล้าง
เอียนยิ้มขณะที่เขาพูดอีกคำ
“เข้ามาในครั้งเดียวนั่นแหละ เนื่องจากเราไม่มีเวลามากนัก”