Taming Master - ตอนที่ 390

[อรุณสวัสดิ์ค่ะไฮนซ์ YTBC กำลังนำเสนอไคลันสำหรับข่าวภาคค่ำ]

[ดิฉันคือลูเซียค่ะ]

[คุณลูเซีย วันนี้มีข่าวอะไรเข้ามาบ้างครับ?]

[เรามีหัวข้อที่น่าตื่นเต้นมากมายสำหรับวันนี้ แต่สิ่งแรกที่ฉันอยากจะพูดถึงคือเนื้อเรื่องลับค่ะ]

[ถ้าเป็นเรื่องของเนื้อเรื่องลับ คุณกำลังพูดถึง ‘เนื้อเรื่องแห่งความมืด’ ที่เปิดขึ้นสำหรับผู้เล่นทุกคนที่มีเลเวล 200 ในโลกมนุษย์ใช่ไหมครับ?]

[ใช่ค่ะ เกือบทุกคนจะรู้จัก ‘โหมดสังเกตการณ์’ ของ LB ซึ่ง LB ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรก แต่ตอนนี้กองทัพแห่งความมืดกำลังเริ่มปรากฏขึ้นจากทั่วทั้งทวีป และผู้เล่นเลเวลสูงจำนวนมากกำลังตั้งปาร์ตี้เพื่อต่อต้านกองทัพแห่งความมืดอยู่ค่ะ]

[นั่นคือเรื่องจริง กองทัพแห่งความมืดเหล่านี้เลเวลโดยประมาณอยู่ที่เท่าไหร่ครับ?]

[เลเวลของอันเดธดูเหมือนจะเริ่มต้นจาก 200 และเลื่อนไปสู่เลเวลสูงสุดที่ 300 ค่ะ แต่มีการกล่าวกันว่าขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่พวกมันปรากฏด้วยค่ะ]

[เป็นไปได้ไหมที่จะให้คุณอธิบายเพิ่มเติมอีกสักหน่อย?]

[แน่นอนค่ะ โดยทั่วไปแล้วเลเวลของอันเดธที่ปรากฏในพื้นที่โล่งนั้นอยู่ประมาณ 200 และเลเวลของอันเดธในดันเจี้ยนบางแห่งหรือในพื้นที่ฉับพลันจะสูงค่ะ]

ในชั้นเรียนปีที่ 2 ของห้องเรียนเสมือนจริงที่มหาวิทยาลัยเกาหลี…

หน้าจอทีวีที่อยู่มุมห้องเรียนกำลังฉายช่อง YTBC ไคลันซึ่งมีคนจำนวนหนึ่งมารวมตัวกัน

ในกลุ่มนั้นมีเซมิ ยองฮุนและมินซูซึ่งรวมอยู่ในชั้นเรียนของภาคเรียน

“นี่เซมิ ไปดูอาจารย์ให้หน่อยสิ…?”

จากคำถามของยองฮุน เซมิก็ตอบอย่างรวดเร็วว่า

“ให้ฉันไปดูหรอ! นายจะไม่ให้ฉันดูข่าวเลยรึไง!”

“ฉันดูมันให้เอง เธอแค่ไปดูอาจารย์ก็พอ!”

“งั้นก็ปล่อยให้อาจารย์เข้ามาเลย นายจะได้ดูมันพร้อมกับศาสตราจารย์ไปเลย”

“…”

เซมิและยองฮุนกำลังทะเลาะกัน

แต่มินซูที่จ้องหน้าจออยู่บอกให้พวกเขาเงียบไป

“พวกนายเสียงดังจังเลย มันสำคัญมากที่พวกนายต้องพูดถึงตอนนี้เลยหรอ?”

ยองฮุนเพียงแค่กลอกตา

“คุณดูข่าวนี้และวิดีโอมากๆอยู่เสมอ ถ้าคุณใช้เวลานี้บางทีคุณอาจจะได้ขึ้นเลเวลอาจจะประมาณ 300 ด้วยซ้ำ”

“หุบปาก…!”

ในช่วงเวลาแห่งการเดือดดาลนั้น

เมื่อข่าวเริ่มออกอากาศอีกครั้ง ทันใดนั้นผู้คนที่มีเสียงดังก็เงียบลง

นักเรียนคนอื่นๆที่กำลังยุ่งอยู่กับการทำสิ่งต่างๆของตัวเองในห้องเรียนต่างพากันมาดู

[และไฮนซ์คะ มีสกู๊ปพิเศษรออยู่ในวันนี้]

[โอ้ โอ้! คุณชอบซ่อนบางอย่างไว้เสมอเลย…!]

[ใช่แล้วล่ะ ฉันทำงานหนักอย่างมากและได้สัมภาษณ์กับปาร์ตี้ที่พบสุสานที่ห้า!]

[ว้าว เยี่ยมมาก! ปาร์ตี้ที่พบสุสานที่ห้างั้นหรอ?]

[ตามที่ผู้ชมหลายคนอาจเดาได้ สุสานที่ห้าถูกค้นพบโดยการสำรวจของกิลด์ไททั่นในสถานที่นั้นมีอัศวินแห่งความตายสิบตัวคอยคุ้มกันอยู่]

[โอ้ โอ้! ที่น่าทึ่งจริงๆ เป็นข่าวสดที่ยังไม่มีการเปิดเผยในชุมชนอย่างเป็นทางการ!]

[แต่ว่านะไฮนซ์ ฉันยังไม่หายจากอาการตกใจเลย]

[ทำไมล่ะ? อย่าบอกนะว่าคุณมีสกู๊ปที่ใหญ่กว่านี้อีกด้วยหรอ?]

[ใช่ค่ะ! พบชิ้นส่วนวิญญาณของริชชี่คิงชาเลี่ยน แต่ไม่ได้พบในสุสาน แต่มันอยู่ในพื้นที่โล่งทั่วไป!]

มินซูที่ดูทีวีกำลังหายใจเข้าลึกๆเมื่อเขาพูดอะไรบางอย่าง

“โอ้…? เศษวิญญาณของชาเลี่ยนออกมาที่พื้นที่ด้านนอก?”

ยองฮุนที่อยู่ข้างๆเขาพูดกับเขา

“โอ้ ถ้ามันเป็นเรื่องจริง… ถ้างั้นเราไม่ลองไปดูล่ะ?”

“ทำไมอ่ะ?”

“สุสานเต็มไปด้วยผู้คนอย่างแน่นอน อย่างน้อยปาร์ตี้ของเราก็สามารถลงพื้นที่ได้แม้ว่าเราจะหาชิ้นส่วนวิญญาณของชาเลี่ยนได้เพียงชิ้นเดียว เราก็สามารถได้รับคะแนนความมีส่วนร่วม 100 ล้านหน่วย…!”

เมื่อสถานการณ์ของ ‘เนื้อเรื่องแห่งความมืด’ ถูกเปิดใช้งาน ผู้เล่นที่เป็นมนุษย์ทุกคนที่มีเลเวล 200 ขึ้นไปจะสามารถรับเควสน์ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ได้

และทุกครั้งที่มีการทำเควสต์ที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ ความมีส่วนร่วมของผู้เล่นในสถานการณ์จะเพิ่มขึ้น และด้วยการสะสมผลงานสามารถแลกเปลี่ยนเป็นของเบ็ดเตล็ด ฉายาหรือไอเทมในร้านค้าได้

ตัวอย่างเช่นกล่องอุปกรณ์ระดับ Legendary ที่จะให้อุปกรณ์แบบสุ่มสามารถซื้อได้โดยจ่าย 200,000 คะแนน

อย่างไรก็ตาม เควสต์ ‘ทำลายชิ้นส่วนวิญญาณของชาเลี่ยน’ ให้คะแนนเป็นล้าน ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้เล่นจะหันไปด้านนั้น

“ถ้าอย่างนั้นสิ่งที่ยองฮุนพูดก็เป็นความจริงเล็กน้อย คะแนนที่พวกเราได้รับจนถึงตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 70,000 หน่วย หลังจากงานเมื่อวาน… ถ้าเราพบชิ้นส่วนเพียงชิ้นเดียว มันจะต้องใช้เวลามากกว่าสิบห้าวันใช่ไหม?”

“ใช่ มันก็ยังคุ้มค่าที่จะลอง”

ขณะที่ทุกคนในห้องเรียนกำลังคุยกับคนอื่นๆ หน้าจอในห้องก็เปลี่ยนไป

วิดีโอของไคลันกำลังออกอากาศ

และวิดีโอตามมาด้วยเสียงของลูเซียจากทีวี

[ไฮแลนด์ฮายาซิสมีอัศวินแห่งความตายและกองกำลังแห่งความมืดอื่นๆอีก! ลองดูวิดีโอที่ลูเซียพยายามอย่างมากที่จะนำเสนอสิ]

ความสนใจของนักเรียนจดจ่ออยู่กับทีวีที่กำลังแพร่ภาพวิดีโอ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาต่อมามีเสียงออกมาจากปากของเซมิ

“นั่นคือเอียน…!”

ทั้งยองฮุนและมินซูอดไม่ได้ที่จะรู้สึกรำคาญชื่อนั้น

“เฮ้อ เทพเอียนอีกแล้วหรอ”

“เฮ้อ ใช่สิ นายคิดว่าผู้เล่นอย่างเอียนมีคะแนนมากแค่ไหนกัน?”

“ฉันไม่แน่ใจ แต่นายไม่คิดว่าเขาจะรวบรวมได้ 5 ล้านแล้วหรอ?”

“เฮ้ นั่นเป็นไปไม่ได้ แม้ว่าจะพบชิ้นส่วนวิญญาณทั้งหมด แต่เอียนก็คงไม่ได้มีน้อยกว่า 10 ล้านหรอก…”

เซมิพยักหน้าและเสริมว่า

“ถูกต้อง 5 ล้านอะไรกันเล่า? มันอาจจะเป็นหมื่นล้าน”

“ฟิ้ว… รู้สึกอิจฉาจัง”

มีนักเรียนสองคนกำลังคุยกันอยู่

แต่ถูกต้องแล้ว

“อย่างไรก็ตาม ยองฮุนเห็นไหม เอียน…”

“ฮะ?”

“นายไม่คิดหรอว่าเขาคล้ายรุ่นพี่จินซุง? ฉันไม่รู้เพราะทรงผม แต่เมื่อนายเปรียบเทียบกับภาพของเอียนที่โลดแล่นบนอินเทอร์เน็ตด้วยแล้ว รุ่นพี่จินซุงจะดูเหมือนเขาไม่ใช่หรอ?”

อย่างไรก็ตาม คำตอบของมินซูมาจากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่ยองฮุน

“เอ๊ะ…?! มินซูอย่ามาพูดมั่วๆนะ”

“ทำไมล่ะ! ดีเลยต่างหาก ข้อมูลบ้าๆที่รุ่นพี่จินซุงให้เราเมื่อเทอมที่แล้วยังอธิบายว่าเขาอาจจะเป็นเอียนก็ได้ นอกจากนี้ยังมีการพูดกันหลายครั้งว่าเอียนเป็นนักเรียนของสถาบันของเรา”

อย่างไรก็ตาม เซมิส่ายหัวและปฏิเสธทุกคำ

“อ๊าา อะไรก็ตาม! มันไม่มีทางเกิดขึ้น! ไม่มีทาง!”

และเมื่อเห็นเซมิเดือดร้อนด้วยความโกรธ ยองฮุนก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ

“ใช่ เซมิเป็นแฟนตัวยงของเอียนเลยนะ”

“ทำไม? มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้”

“มันเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้?!”

ริมฝีปากของยองฮุนขยับขึ้น

“นายเพิ่งทำลายจินตนาการที่เซมิมีจนถึงตอนนี้”

“…”

* * *

“พี่รีเมียร์! โล่หน่อย!”

“โอเค!”

Hwoong-!

โล่สีแดงถูกสร้างขึ้นรอบๆเอียนซึ่งอยู่ด้านบนของฮัลลิ

ดูเหมือนลาวากำลังไหล

เอียนซึ่งมีโล่เปลวไฟอยู่รอบตัวเขาเพราะรีเมียร์วิ่งไปหาบอสในสนาม

มอนสเตอร์อันเดธที่ดูเหมือนเดธไนท์มาก

อย่างไรก็ตาม บอสที่มีระดับพลังที่แตกต่างไปจากอัศวินแห่งความตายทั่วไปกำลังกวัดแกว่งดาบด้วยพลังมากมายต่อหน้าเอียน

[เจ้ามนุษย์หยิ่งผยอง…!]

Kakang-!

การพิพากษาของราชาวิญญาณและดาบใหญ่ของพวกเขาได้ชนกันทำให้เกิดเสียงแปลกๆบนพื้น

Kku-kkkukkk-!

ทุกครั้งที่อาวุธทั้งสองสัมผัสกัน เปลวไฟจะพวยพุ่งขึ้นจากพวกมันเนื่องจากผลของกำแพงเปลวไฟ

ผลกระทบของกำแพงเปลวไฟคือการดูดซับ 10% ของความเสียหายเช่นเดียวกับในช่วงเวลาของระยะเวลา

ดังนั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของโล่เพลิงจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องป้องกันการโจมตีจากศัตรู

หากหลบสำเร็จ ความเสียหายที่ดูดซับจะอยู่ที่ประมาณ 30-90% และด้วยโล่เพลิงจะดูดซับความเสียหายเพิ่มเติมอย่างน้อย 10%

ดังนั้นในความเป็นจริงโล่เพลิงเป็นเทคนิคการสนับสนุนที่ดีมากที่สุดสำหรับธาตุไฟใช้โดยอาชีพอัศวิน

ในกรณีของอาชีพอัศวิน ถ้าพวกเขาใช้โล่เพื่อป้องกันการโจมตีมันจะดูดซับความเสียหาย 80-90%

ดังนั้นหากสามารถใช้โล่ได้อย่างมีประสิทธิภาพก็สามารถป้องกันความเสียหายได้ 100% จากผลของโล่เพลิง

แน่นอนว่าไม่ต้องใช้โล่มันก็เป็นไปได้ที่จะหลบประมาณ 80% ของความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Kkang-!

ตอนนี้ขึ้นอยู่กับผลงานของเอียนถ้าเขาสามารถลดผลกระทบได้เอียนจะสามารถเอาชนะเดธไนท์ได้โดยไม่ได้รับความเสียหาย

จากนั้น…

[ด้วยอำนาจของท่านลอร์ด…!]

อัศวินแห่งความตายเริ่มร่ายมนตร์ด้วยเสียงต่ำและยกดาบขึ้นกลางอากาศ

ในตอนนั้นมีบางอย่างเริ่มออกมาจากดาบที่มันถืออยู่ – จากดาบใหญ่พลังงานแห่งความมืดถูกปลดปล่อยออกมา!

เอียนที่สังเกตเห็นมันก็เคลื่อนที่กลับด้วยความเร็วแสงและเปลี่ยนอุปกรณ์ของเขา

พูดให้ชัดขึ้นก็คือแทนที่จะบอกว่าเปลี่ยนมันเป็น ‘อาวุธเสริม’

เขาหยิบการพิพากษาแห่งราชาวิญญาณไว้ในมือขวาและทางซ้ายคือโล่ที่ทำจากกระดองของบุ๊กค์

เอียนส่งสัญญาณให้หยูชินซึ่งกำลังต่อสู้กับอันเดธทางด้านขวาของเขาด้วยท่าป้องกัน

“หยูชิน ตอนนี้แหละ!”

“ตกลง!”

ทันใดนั้นแสงสีทองก็ออกมาจากมือของหยูชินและโอบรอบสมาชิกในปาร์ตี้

เนื่องจากจำนวน 15% ของพลังชีวิตของผู้ร่ายถูกฟื้นฟูขึ้นมาจึงเป็นสกิลที่หยูชินชื่นชอบมากที่สุด

“ดี…!”

ดวงตาอันเฉียบคมของเอียนมุ่งหน้าไปที่ดาบของอัศวินที่กำลังรวบรวมพลังงาน

มันเป็นการเคลื่อนไหวขั้นสูงสุดของอัศวินซึ่งเป็นดาบหลายระดับที่ให้ปัจจัยการโจมตีที่แข็งแกร่ง

การร่ายคือการเป็นอัมพาต 15 วินาที

อย่างไรก็ตามมันเป็นสกิลที่ยุ่งยากที่ไม่สามารถถูกยกเลิกได้ในขณะที่ร่ายแม้ว่าจะถูกศัตรูโจมตี แต่ผู้ร่ายก็จะคงกระพันตลอดเวลาในการร่าย

แต่วิธีจัดการกับมันนั้นง่ายมาก

หลบหรือถูกโจมตี

หลังจากใช้สกิลแล้วมันจะไร้การป้องกันใน 10 วินาทีต่อจากนี้

แต่ถ้าไม่สามารถฆ่าเป้าหมายได้ภายใน 10 วินาที พลังชีวิตของเป้าหมายก็จะเพิ่มขึ้น แต่ฝ่ายของเอียนก็ไม่ต้องกังวลไป

กิลด์โลตัสซึ่งไม่ใช่แค่รีเมียร์และเอียน ยังมีคนทำความเสียหายชั้นนำมากมายอยู่ในนั้น

หากพวกเขาสามารถสร้างความเสียหายได้เป็นเวลา 10 วินาทีก็สามารถพูดได้อย่างปลอดภัยว่าเป้าหมายมีโอกาสรอดน้อยมาก

‘ครั้งนี้ถึงจุดจบของแกแล้ว…!’

เอียนหยิบโล่มังกรและเพิ่มพลังป้องกันของเขาให้สูงสุด

เป็นช่วงเวลาที่ดี

Kukung- Kukung-!

บริเวณที่เงียบสงัดเริ่มสั่นสะเทือนด้วยเสียงที่ยิ่งใหญ่

“นี่คือจุดเริ่มต้น!”

จากดาบที่อัศวินถืออยู่ พลังงานทั้งหมดก็เคลื่อนไปที่ปลายดาบและปล่อยออกมา