Taming Master - ตอนที่ 402
สรุปสั้นๆคือได้มีการมอบเควสต์ฉุกเฉินที่มีเนื้อหาของ ‘การเชื่องลูการิกซ์’
ช่วยไม่ได้ที่เขาจะรู้สึกตกใจเมื่อเห็นเควสต์
‘ฉันไม่เข้าใจทำไมฉันถึงได้รับเควสต์ที่ไม่จบไม่สิ้นพวกนี้?’
เอียนมองดูมังกรที่อยู่ตรงหน้าเขา
มังกรแห่งความมืด การปรากฏตัวของลูการิกซ์เพียงพอที่จะกดดันทุกคนด้วยความหวาดกลัว
เอียนรู้สึกหงุดหงิดเพราะเขาไม่เข้าใจว่าเขาควรจะเชื่องมังกรได้อย่างไร เขาจะไม่มีทางเอาชนะได้ด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขา
เขาไม่ได้อ่านผิดหรอก เขาอ่านหน้าต่างเควสต์ตั้งแต่ต้นแล้ว
และเนื้อหาของเควสต์ไม่ได้ผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว
‘ความยากระดับ SSSSS … หึ ฉันเดาว่ามันดีที่มันไม่มีการจำกัดเวลาสินะ?’
หากมีการจำกัดเวลาก็จะไม่สามารถเคลียร์เควสต์ได้
เขามองไปที่รางวัลอันน่าทึ่งที่เขาจะได้รับจากเควสต์ลับ
เนื่องจากไม่มีการจำกัดเวลาจึงมีความเป็นไปได้
เมื่อเควสต์ของริชชี่คิงชาเลี่ยนดำเนินไป เขาจะเฝ้าดูบัฟของลูการิกซ์อย่างใกล้ชิด
เอียนไม่แน่ใจว่าบัฟของคาเดสจะอยู่ได้นานแค่ไหน แต่แน่นอนว่ามันจะหายไป
เอียนที่พยายามนึกถึงสถานการณ์ก็กำหมัดแน่น
‘โอเค! นั่นเป็นความคิดที่ถูกต้อง ถ้าฉันฝึกมังกรแห่งเทพได้สำเร็จ ฉันก็จะได้รับรางวัลชั้นเยี่ยม!’
เอียนมีสัตว์เลี้ยงระดับ Myth อยู่แล้ว 2 ตัว
มังกรแห่งเทพคาร์เซอุสและมังกรอเวจีบุ๊กค์
อย่างไรก็ตาม หน้าต่างเควสต์ระบุว่าไม่มีสัตว์เลี้ยงระดับ ‘Myth’ ที่ถูกเชื่องจนถึงตอนนี้
นี่เป็นความผิดพลาดของ LB งั้นหรอ?
ไม่ใช่เลย…
เอียนมีสัตว์เลี้ยงระดับ Myth และทั้งสองก็ติดต่อโดยตรงกับเอียนตั้งแต่แรกพบ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บุ๊กค์มันได้วิวัฒนาการจากระดับ Unique ไปจนถึงระดับ Myth
การเชื่องอสูรเวทย์มนตร์ระดับ Myth มันเป็นงานที่ยากแม้จะเป็นเอียนก็ตาม
‘เฮ้อ นี่เป็นเควสต์ลับเหมือนชื่อจริงๆ’
เอียนหัวเราะขณะที่เขานึกถึงอาชีพลับ ‘เทมมิ่งมาสเตอร์’
และความตกใจที่เกิดขึ้นเมื่อเขาเห็นเควสต์ครั้งแรกได้ลดลงและตอนนี้เขาเริ่มมีแรงจูงใจ
เนื่องจากเขาได้รับเควสต์นี้เขาจะสามารถรู้วิธีทำให้เชื่องลูการิกซ์ได้ในขณะที่เขายังคงทำเควสต์ของริชชี่คิงต่อไป
จากนั้น…
เสียงของฮูนี่ย์ทำให้เอียนจากโลกแห่งจินตนาการไปสู่ความเป็นจริง
“พี่ฮะ เราจะทำอะไรก่อนดี? เราต้องกลับไปที่ที่ราบไฮนซ์กันอีกครั้งหรอ?”
“เอ่อ… รอก่อนนะ”
เอียนที่อยู่ในความคิดอื่นรู้สึกสับสนและสะดุดกับคำพูดนี้เมื่อเลฟย่าที่อยู่ข้างๆเขาพูดขึ้นมา
“เราต้องทำอย่างอื่นก่อนหน้านี้”
เอียนจำได้ว่ามันคืออะไรและพยักหน้าขณะตอบกลับ
“อ่อใช่แล้ว มังกรแห่งแสงไงล่ะ ลูการิกซ์… เราต้องหาเขาให้พบก่อน”
เมื่อเอียนพูด กำหนดการต่อไปของปาร์ตี้ของเอียนก็เริ่มก่อตัวขึ้น
มังกรแห่งความมืดลูการิกซ์ก็แปรเปลี่ยนเป็นร่างมนุษย์
แต่การปรากฏตัวของลูการิกซ์ในร่างมนุษย์นั้นแตกต่างกันเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้เขาเป็นคนแข็งแรงที่ให้ความรู้สึกกระวนกระวายใจ แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปเป็นเด็กน้อยและเขาดูเด็กกว่าฮูนี่ย์มาก
ลูการิกซ์มีหน้าตาที่น่ารักมากเกือบจะเหมือนนักแสดงเด็ก!
เอียนที่เห็นอย่างนั้นจึงถามลูการิกซ์ว่า
“เอ่อ… ว่าแต่ลูการิกซ์ ทำไมนายถึงเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปไม่เหมือนก่อนหน้านี้ล่ะ?”
เวทย์มนตร์แปลงร่างตามที่ธรรมชาติกล่าวกันว่าแทบไม่มีข้อจำกัดในการเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์
ไม่น่าแปลกใจเลยที่ลูการิกซ์ได้เปลี่ยนรูปแบบไปอีกทางหนึ่ง
แต่มังกรทั้งหมดที่เอียนมีรูปร่างเหมือนเดิม
นั่นเป็นสาเหตุที่เอียนตั้งคำถามว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติหรือไม่
แม้ว่าจะเป็นคำถาม แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ตอบได้ทันที
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าสนใจคือเอียนที่ถามคำถามนี้ทำให้ลูการิกซ์รู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย
“อ๊ะ นั่นมัน…”
ลูการิกซ์ไม่รู้ว่าจะตอบกลับอย่างไรและอ้าปากพยายามหาคำพูดที่เหมาะสม
และคำตอบของคำถามนั้นมาจากคาร์เซอุสซึ่งยืนอยู่ข้างหลังเอียน
“นั่นคือสิ่งที่ลูการิกซ์เป็นครับ เจ้านาย”
“ฮะ…? สิ่งที่เขาเป็น? ถ้าอย่างนั้นเขาไม่ใช่มังกรหรอ?”
“ข้าไม่ได้พูดถึงการปรากฏตัวของเขาในโลกแห่งความเป็นจริง นี่คือการปรากฏตัวของจิตวิญญาณของเขา”
มันเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดทั้งฮูนี่ย์และเลฟย่าก็รับฟังเรื่องนี้เช่นกัน
คาร์เซอุสที่เงียบอยู่ครู่หนึ่งก็พูดอีกครั้ง
“สำหรับพวกเราการแปลงร่างเปรียบเสมือนกระจกเงาของจิตวิญญาณของเรา”
“กระจกเงาของจิตวิญญาณ?”
“ใช่ ถ้าเราคิดเป็นรูปร่าง เราก็จะสามารถเปลี่ยนเป็นรูปแบบนั้นได้ แต่เมื่อเราใช้เวทย์มนตร์แปลงร่างโดยไม่รู้ตัวเราจะกลายเป็นรูปร่างที่แสดงถึงจิตวิญญาณของเรา”
“อ่ออออ”
เอียนที่เข้าใจสถานการณ์แล้วมองไปที่ลูการิกซ์อีกครั้ง
และตอนนี้เอียนก็ทิ้งคำจำกัดความที่สั้นลงสำหรับมัน
“แล้วปกตินายเป็นนักเรียนประถมใช่ไหมและนายก็เคยแกล้งใครบางคนมาก่อนด้วยน่ะสิ”
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านั้นจากเอียน ลูการิกซ์ก็ขยี้จมูกของเขาและตอบว่า
“ไม่ ข้าไม่ได้เป็นนักเรียนประถม… ข้าไม่ใช่!”
“ห๊าา นายรู้ไหมว่านักเรียนประถมคืออะไร?”
“ข้าไม่รู้…! ถึงอย่างนั้นข้าก็ไม่ใช่เด็กประถมนะ!”
“…”
เมื่อเห็นลูการิกซ์ที่ลุกลี้ลุกลนและเอียนที่ไม่สามารถเข้าใจได้ เลฟย่าพูดเล็กน้อยหลังจากหัวเราะ
“ทีนี้เราจะไปกันได้หรือยัง? อยู่ที่นี่มีแต่จะเสียเวลาเปล่า”
เมื่อเห็นเช่นนั้นเอียนก็พยักหน้าและเริ่มเคลื่อนไหว
“ฉันรู้ว่าเราต้องรีบไปเพราะเรามีสิ่งที่ต้องทำมากกว่านี้”
เอียนมองกลับไปที่ลูการิกซ์
“เด็กประถม นายก็ควรเดินเร็วๆด้วยนะ”
ฮูนี่ย์ที่ต้องการมีส่วนร่วมในการแซวได้พูดเพิ่มอีกว่า
“นายจะทำได้ดีถ้าทำตามพี่คนนี้เข้าใจไหม?”
ตอนนี้ดวงตาของลูการิกซ์บวมแดง
* * *
“อ่า นี่เป็นภัยพิบัติหรือพรกันแน่นะ?”
“นั่นคือสิ่งที่ฉันกำลังจะพูดทุกคน! ดูอันเดธที่ไม่สามารถนับได้นี่สิ! เราจะกำจัดอันเดธเยอะขนาดนี้ได้ยังไงกัน?”
“มันจะเป็นพรอย่างมากถ้าเราสามารถป้องกันพวกมันได้ ตอนนี้ฉันเริ่มเห็นอันเดธพร้อมอุปกรณ์ระดับ Legendary แล้ว!”
“เอ่อ นายพูดว่าระดับ Legendary หรอ? ฉันคิดว่าการรวบรวมผลงานทั้งหมดจากอันเดธจะสามารถเลือกอาวุธระดับ Myth ได้ใช่มั้ย?”
“ชะ ใช่แล้ว ฉันยังไม่ได้กล่องอุปกรณ์ระดับ Myth สักกล่องเลย ฮ่าๆ”
Chrip- chrip-
เสียงร่าเริงดังมาจากห้องที่มืดและเงียบ
นาจีจังที่นั่งอยู่หน้าจอมอนิเตอร์กำลังดูผู้ออกอากาศทางอินเทอร์เน็ตในขณะที่กินมันฝรั่งทอดตามปกติ
มันเป็นเวลาสิบเอ็ดนาฬิกาของคืนวันศุกร์
ถ้าเขาเป็นคนธรรมดาเขาคงจะกินไก่และเบียร์กับเพื่อนไม่กี่คนและคุยกันอย่างจริงใจ
และนาจีจังทำงานให้กับไคลันตลอดทั้งสัปดาห์ แต่ในขณะที่เขากลับบ้านเขาก็ดูการออกอากาศของไคลันบนจอมอนิเตอร์ของเขา
“คุคุ คิดได้แค่นั้นหรอ การมีส่วนร่วม?”
นาจีจังกำลังดูวิดีโอเรียลไทม์ของ BJ ที่มีชื่อเสียง
เขาไม่ใช่ BJ ระดับสูง แต่เป็นที่รู้กันดีว่าเคลื่อนที่เร็วกว่านักข่าวและผู้ชมจำนวนมากติดตามเขา
“มันจะดีกว่าถ้าหนีออกจากอาณาจักรหรือดินแดนที่เป็นของกิลด์ติดอันดับ…”
นาจีจังพึมพำขณะกินมันฝรั่งทอด
เป็นเรื่องที่น่าสนใจเสมอสำหรับเขาที่จะเฝ้าติดตามผู้เล่นที่เคลื่อนไหวอยู่ในสถานการณ์ที่เขาออกแบบไว้ได้หลายวิธี
“โอ้ เดี๋ยวก่อน คุณ BJ!”
“ทำไม?”
“นี่แนวป้องกันถูกเจาะแล้ว!”
“โอ้โอ้! คุณผู้ชม! คุณเห็นหรือไม่! ความยิ่งใหญ่ของเดรคที่ยิ่งใหญ่! มันคือโกสต์เดรค! ฉันคิดว่านี่เป็นครั้งแรกที่มอนสเตอร์แบบนี้ปรากฏตัวในไคลัน!”
นาจีจังพึมพำกับตัวเอง
“ฉันไม่คิดว่าตอนนี้เป็นเวลาชื่นชมโกสต์เดรคหรอกนะ…?”
“ไม่สิ เจ้านี่! ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา! อีกสักพักหากการป้องกันถูกทำลายต่อไปเราก็ตาย!”
“ตอนนี้ รอก่อน แค่รอ การป้องกันถูกทำลายงั้นหรอ?!”
“โอ้ ฉันจะออกไปก่อน! ฉันกำลังออนแอร์และฉันวางแผนที่จะมีชีวิตอยู่!”
“เดี๋ยวก่อน! รอก่อน!”
สถานที่ที่ BJ แสดงคือคฤหาสน์เล็กฟของกิลด์ซึ่งอยู่ในอันดับ 1,000 ต้นๆ
เหตุผลที่เขาเลือกที่จะถ่ายทอดสดมันดูเรียบง่าย
เขาเลือกสถานที่ที่สามารถต่อต้านกองทัพอันเดธได้
อย่างไรก็ตาม เขาไม่คิดว่ากองทหารของกิลด์จะล้มเหลวในการจัดการอันเดธและการตัดสินใจที่ผิดดังกล่าวนำไปสู่ผลร้ายแรง
ผู้พิทักษ์ของกิลด์ด้วยเลเวล 200 ปลายๆได้ล้มลงราวกับใบไม้เปลี่ยนสี
“อ๊ะ! ช่วยฉันด้วย…!”
“เสร็จแล้ว…!”
พวกอันเดธจำนวนมากกำลังบุกเข้าไปในคฤหาสน์และนาจีจังที่เห็นหน้าจอมืดลงก็กดปุ่ม ESC เพื่อปิดหน้าจอ
“หุหุ นี่…ฉันคิดว่าฉันควรจะเปลี่ยน BJ นะ”
เมื่อ BJ ถูกสังหารโดยเดธไนท์ที่เข้ามาในพื้นที่ การออกอากาศจึงถูกยุติทันที
“มาดูกันดีกว่าว่ามี BJ คนไหนบ้างที่จะถ่ายทอดเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นในโลตัสหรืออาณาจักรไททัน”
นาจีจังที่มีหน้าตาบูดบึ้งเริ่มกวาดช่องบนจอภาพ
มันไม่ใช่ฉากที่นาจีจังต้องการจริงๆ
การต่อสู้ระหว่างกองทัพอันเดธและผู้เล่นที่ติดอันดับถูกสร้างขึ้นโดยเขา
มันเป็นฉากที่เขาอยากเห็นมาก
* * *
เอียนและพรรคพวกทำการซ่อมบำรุงไอเทมในถ้ำลูการิกซ์เสร็จสิ้นและย้ายไปยังจุดหมายต่อไป
ไม่สิ พวกเขาพยายามที่จะย้าย
“เดี๋ยวก่อน พวกเราควรจะไปที่ไหนกัน?”
ด้วยคำถามของเอียน ฮูนี่ย์และเลฟย่าหยุดชั่วขณะ
ฮูนี่ย์ตอบว่า
“จะไปไหนงั้นหรอ? พวกเราควรจะไปหามังกรแห่งแสงไม่ใช่หรอ?”
“ก็นั่นแหละ แต่มันที่ไหนล่ะ?”
“…?”
ฮูนี่ย์พูดไม่ออก
เลฟย่าที่ครุ่นคิดก็พูดออกมา
“เนื่องจากเป็นมังกรแห่งแสง เราควรค้นหาดินแดนแห่งแสงหรือเปล่า?”
เอียนก้มหน้าขณะตอบ
“ดินแดนแห่งแสง… สถานที่ที่มีเพียงอาชีพนักบวชเท่านั้นที่สามารถไปได้หรอ? ฉันไม่คิดว่าเลฟย่าจะมีเควสต์นั้นนะ…?”
จากคำถามของเอียนทั้งสามคนก็ดูตึงเครียด
หลังจากคิด เอียนก็พูดอีกครั้ง
“บางทีบุ๊กค์คงจะรู้ละมั้ง…?”
แต่ก่อนที่เอียนจะถาม บุ๊กค์ก็ส่ายหัว
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน บุ๊กค์!”
“นายไม่เจอมังกรแห่งเทพตัวอื่นๆเลยหรอ?”
“ฉันรู้สึกได้ถึงพลังของมังกรในระดับหนึ่งเมื่อพวกมันอยู่ใกล้ๆ บุ๊กค์! ฉันไม่รู้สึกถึงพลังของเอลคาริกซ์ที่นี่เลย บุ๊กค์”
“อืม…”
จากนั้น…
ฮูนี่ย์ที่ฟังอยู่ก็ส่ายหัวและพูด
“เอ่อ… เดี๋ยวก่อนนะ!”
“ห๊ะ? อะไรกัน?”
“ตอนนี้ผมคิดออกแล้ว ชื่อของภูเขานี้… ภูเขาลูการิกซ์ใช่ไหม?”
“ใช่”
“ถ้าอย่างนั้น ที่ที่เอลคาริกซ์อยู่… อาจจะอยู่ที่ภูเขาเอลคาริกซ์หรือเปล่า?”
“ฮะ…?”
เรียบง่ายและดูเหมือนจะมีเหตุผลจากฮูนี่ย์!
แม้แต่ภูเขาเอลคาริกซ์ก็เป็นสถานที่ที่มีอยู่ทางด้านเหนือของทวีปมะละกา
ในอดีตเมื่อเอียนพบกับโอ๊คเลย์ เขาอยู่บนภูเขาที่อยู่ไกลออกไปทางเหนือ
เลฟย่าพยักหน้าด้วยท่าทางแข็งกระด้างและตอบว่า
“ฉันไม่ไดัยินผิดใช่ไหม?”
“ฉันก็เช่นกัน ดูเหมือนว่าจะพอดีเลย…”
ฮูนี่ย์ชื่นชมทักษะการใช้เหตุผลของตัวเองด้วยการโบกคทาอย่างหยิ่งผยอง
“ฮ่าาาาา! มันยังไม่ตาย! ความสามารถในการใช้เหตุผลของคันจิฮูนี่ย์!”
“…”
ในเวลาเดียวกัน เลฟย่าและเอียนก็มองไปที่ฮูนี่ย์
ลูการิกซ์ที่อยู่ข้างๆฮูนี่ย์เพิ่มคำชมว่า
“แน่นอนเลย ราชาแห่งความมืด…!”
เอียนผู้ซึ่งสูญเสียคำพูดของเขาในการแสดงของฮูนี่ย์และลูการิกซ์ เพียงแค่ก้าวไปข้างหน้า
และในไม่ช้าเลฟย่าก็ตามเอียนไป
จุดหมายปลายทางของพวกเขาคือเทือกเขาเอลคาริกซ์ทางตอนเหนือของมะละกา