The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - Ep.172 ความยุติธรรมอันบิดเบี้ยว
ในคืนที่เสียงม้าร้องครวญครางดังก้องท่ามกลางสายลมผัดผ่านที่มืดมิด หลินมู่อวี่ได้เกราะทหารเหรียญเงินที่สร้างจากเหล็กสีทมิฬ…ถึงมันจะไม่ได้มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับชุดเกราะเทวะ ทว่ามันก็สามารถช่วยป้องกันคมเหล็กจากศัตรูได้ดี แน่นอนว่ามันจะช่วยไม่ให้เขาถูกตัดขาดสองท่อน
สองราชทูตหลัวอวี่และหลี่เฉียนซุนควบม้าและชูอาวุธขึ้น ยืนถืออาวุธพร้อมกับส่งเสียงคำราม “ถ้าพร้อมแล้วก็รีบไปเดี๋ยวนี้! เราไม่ได้มีเวลาทั้งคืน!”
ทุกคนขึ้นม้าประจำตัวของตนเอง นอกจากหลินมู่อวี่ก็มีทหารเหรียญทองสามนาย เหรียญเงินสิบสี่นาย รวมไปถึงทหารทั่วไปและทหารฝึกหัดที่เกณฑ์มาอีกกว่าห้าร้อยนาย ซึ่งดูไม่เหมือนการลอบโจมตี แต่เป็นการเปิดศึกใหญ่เสียมากกว่า
หลินมู่อวี่สะพายกระบี่เหลียวหยวนไว้และใช้เชือกรัดให้แน่น เงยหน้ามองท้องฟ้ายามราตรี สายลมเย็นที่พัดผ่านทำให้รู้สึกถึงลางร้ายบางอย่าง…
“ออกเดินทางได้!” หลี่เฉียนซุนสั่งเคลื่อนทัพลงเขา
ทหารเหรียญทองที่ตามหลังราชทูตไม่ชายตามองหลินมู่อวี่ผู้เป็นทหารเหรียญเงินคนใหม่ บางทีพวกเขาอาจเห็นหลินมู่อวี่เป็นเพียงคนไร้ตัวตนเท่านั้น
ในบรรดาทหารเหรียญทองทั้งสาม มีเพียงหลงหยานเท่านั้นที่ทำดีต่อหลินมู่อวี่ หลงหยานจูงม้ามาข้างเขาก่อนจะหัวเราะและเอ่ยขึ้น “หลินหยานข้าไม่คิดว่าเจ้าจะได้เลื่อนขั้นเป็นเหรียญเงินได้ไวถึงเพียงนี้ ทว่าภารกิจในครานี้เจ้าจงระวังตัวให้มาก หัตถ์พิฆาตมังกรของเนียหยานั้นเป็นที่เล่าลือว่าทรงพลังหนักหนา เจ้าอย่าได้ประมาทพลาดท่าเป็นอันขาด”
หลินมู่อวี่ยิ้มมุมปาก “ขอบพระคุณที่เป็นห่วงขอรับท่านหลงหยาน…ข้าจะระวังตัว”
หลงหยานทำหน้าดูแคลนหลินมู่อวี่ก่อนจะหัวเราะและกล่าว “เช่นนั้นข้าขอให้เจ้าจะอายุยืนพันปีหมื่นปี”
ทหารม้าใช้เวลาราวสี่ชั่วโมงกว่าจะถึงที่หมาย…เมืองทะเลครามฝั่งตะวันออก เมืองเล็กๆ ที่ล้อมรอบด้วยทะเลสาบและมีหมู่บ้านอยู่ตรงกลาง เท่าที่ดูคงมีประชากรกว่าสองร้อยครัวเรือนหรือราวหนึ่งพันสองร้อยคน
“ท่านหลงหยาน เหตุใด…ทหารรับจ้างเทียนจิงจึงเลือกโจมตีเมืองเล็กๆ แห่งนี้ด้วย? เมืองยาจกเช่นนี้หาได้มีสิ่งใดให้ปล้นไม่” หลินมู่อวี่ถาม
หลงหยานหรี่ตาลง “เจ้าไม่เข้าใจ…แม้ชาวเมืองทะเลครามจะหาปลาล่าสัตว์ประทังชีวิต ทว่าบนภูเขานั้นเต็มไปด้วยขุมทรัพย์…ของมีค่าเช่นเหล็กนิลพันปีคงมีกองเป็นภูเขา พวกช่างตีเหล็กแห่งเมืองทะเลครามจึงร่ำรวยด้วยสมบัติที่เก็บได้ และยิ่งไปกว่านั้น…”
หลงหยานลูบปาก ดวงตาฉายแววหื่นกาม “พวกผู้หญิงเมืองทะเลครามที่โตมากับแม่น้ำ แม้จะสู้แม่หญิงจากเมืองหลันเยี่ยนไม่ได้ทว่าก็งดงามยิ่ง แล้วพวกทหารกลัดมันที่วนเวียนอยู่รอบๆ เจ้าคิดว่าพวกมันจะมองข้ามงั้นรึ? ข้าคิดว่าสาเหตุที่เนียหยาเลือกปล้นหมู่บ้านทะเลครามเพราะอยากได้หญิงงามพวกนี้ โดยเฉพาะสาววัยรุ่นอายุสิบห้าถึงสามสิบถือว่าเป็นสมบัติล้ำค่าสำหรับพวกมันเชียวล่ะ”
หลินมู่อวี่สูดหายใจลึกอย่างทำใจ โลกนี้โหดร้ายยิ่งนัก!
ก่อนเข้าสู่หมู่บ้าน หลัวอวี่นำกองทัพเข้าป่าทึบและออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “เตรียมพร้อมซุ่มโจมตี! อย่าได้ส่งเสียงใดๆ ออกมา เราจะทำการสังหารพวกทหารรับจ้างเทียนจิงก่อนพวกมันเข้าหมู่บ้าน และเปิดทางให้ท่านหลินหยานปลิดชีพเนียหยา!”
“ช้าก่อน!”
หลี่เฉียนซุนยกมือขึ้นและกล่าว “แผนของท่านทูตหลัวอวี่ไม่ถูกต้อง…ข้าคิดว่าเราควรจู่โจมทหารรับจ้างเทียนจิงหลังจากพวกนั้นเริ่มบุกหมู่บ้านแล้ว”
“เพราะเหตุใด?” หลัวอวี่ถามกลับ
หลี่เฉียนซุนหัวเราะ “ง่ายมาก…ทหารเทียนจิงจะประมาทหลังเข้าบุกหมู่บ้านแล้วแน่นอน จึงเป็นเวลาเหมาะที่จะเข้าจัดการพวกทหารละโมบ ด้วยแผนการนี้จะทำให้เราเอาผิดพวกมันและทำให้คนอื่นเห็นถึงความยุติธรรมของสำนักอัศวินได้ ท่านหลัวอวี่เห็นด้วยกับข้าหรือไม่?”
“แผนของท่านราชทูตหลี่ช่าง…”
หลัวอวี่พยักหน้าเห็นชอบด้วยความตกตะลึง อย่างไรก็ตามเสี้ยวแห่งความเกลียดชังที่ปรากฏขึ้นในแววตาเขาภายใต้แสงจันทร์นั้นมิอาจหลุดรอดจากสายตาของหลินมู่อวี่ไปได้ ดูเหมือนว่าราชทูตทั้งสองจะไม่ลงรอยกันสินะ
หลินมู่อวี่นั่งย่อเข่าและแอบหัวเราะเยาะ ปล่อยให้ชาวบ้านถูกโจมตีแล้วค่อยเข้าไปช่วย…พวกเสแสร้ง! คนพวกนี้ไม่ได้ดีไปกว่าทหารรับจ้างที่ถูกกล่าวหาเลย
ไม่นานพระอาทิตย์ก็จะขึ้นแล้ว ทว่ากลุ่มสำนักอัศวินยังไม่เห็นวี่แววของทหารรับจ้างเทียนจิงเลยแม้แต่คนเดียว
ทหารฝึกหัดและทหารชำนาญการบางคนอดทนรอไม่ไหวหยิบเนื้อตากแห้งออกมากิน
หลินมู่อวี่ทำได้เพียงนั่งรอท่ามกลางหิมะอย่างเงียบๆ ปิดซ่อนพลัง และมองไปข้างหน้าอย่างมุงมั่นคล้ายจ้าวสงครามผู้ยิ่งใหญ่
หลัวอวี่มองมาที่หลินมู่อวี่อย่างยกย่อง
เป็นเวลาเที่ยงวันพอดีกว่าจะได้ยินเสียงฝีเท้าของกองทัพม้า…พวกมันมาแล้ว!
ธงแถบสีแดงเลือดโผล่ออกมาจากแนวป่าหิมะซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารรับจ้างเทียนจิง เสียงกระทบพื้นของเกือกม้ายังคงดังอย่างต่อเนื่องกระทั่งบรรดาทหารม้าจากกองทหารเทียนจิงปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า และเพิ่มมาเรื่อยๆ จนบดบังทัศนียภาพเบื้องหน้าจนสิ้น
“นี่มัน…”
หลัวอวี่ขมวดคิ้ว “ทหารเทียนจิงอย่างน้อยหนึ่งพันนาย…มากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้เสียอีก กำลังคนฝั่งเรามีเพียงหกร้อยนาย จากที่เห็นข้าคิดว่าเราควรยกเลิกภารกิจดีหรือไม่?”
หลี่เฉียนซุนยกมือขึ้นปราม “ไม่…เมื่อเริ่มแล้วจะถอยไม่ได้ หากพวกมันเข้าจู่โจมหมู่บ้านเมื่อไหร่ เราจะซ้อนทัพและสังหารพวกมันให้สิ้น!”
หลัวอวี่กัดฟันตอบ “ขอรับ!”
หลินมู่อวี่รู้สึกสงสัย ในเมื่อทั้งคู่เป็นถึงราชทูตเหมือนกัน แล้วเหตุใดหลัวอวี่ถึงฟังคำสั่งจากหลี่เฉียนซุน? หากรู้คำตอบคงเป็นประโยชน์มากทีเดียว
สัญญาณจู่โจมดังขึ้น กองทหารรับจ้างเทียนจิงบุกเข้าหมู่บ้านในทันที เสียงแห่งการเข่นฆ่าและกรีดร้องระงมไปทั่วบริเวณ พวกมันไม่เพียงแต่ปล้นสะดมทว่าทั้งเผาทำลายอาคารจนวอดวาย หมู่บ้านทะเลครามที่ถูกไฟครอกลุกลามจนกลายเป็นทะเลเพลิงในพริบตา
หลินมู่อวี่จับกระบี่แน่น จิตสังหารพวยพุ่ง ไม่สำคัญแล้วว่าภารกิจคืออะไร เมื่อดูการกระทำของพวกทหารรับจ้างสิ่งเดียวที่พวกมันสมควรได้รับคือความตาย!
“บุกได้!” หลี่เฉียนซุนตะโกนลั่น “เตรียมพร้อมรบ! ใครก็ตามที่หลบหนีจะต้องถูกสังหารในฐานะคนขลาด!”
ทุกคนกระโดดขึ้นม้าแล้วบุกจู่โจมตามคำสั่ง “เฮ!” ธงของสำนักอัศวินถูกชักขึ้นโบก หากหลินมู่อวี่ไม่รู้ถึงเบื้องหลังอันดำมืดของสำนักอัศวินแห่งนี้ เขาคงคิดว่านี่เป็นการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม
หลี่เฉียนซุนชูหอกขึ้นและกล่าว “ท่านหลินหยาน ท่านเป็นตัวหลักของภารกิจลอบสังหารนี้ ข้าจะให้ท่านนำทัพ บุกได้!”
หลินมู่อวี่ขมวดคิ้วก่อนจะควบม้าบุกเข้าไป ภารกิจที่แท้จริงคือให้เขาเป็นเพียงเบี้ยทหารเช่นนั้นหรือ?
“หลินหยานระวัง!”
หลัวอวี่ตะโกนมาจากด้านหลัง หลินมู่อวี่รู้สึกว่าตนจะติดหนี้บุญคุณเสียแล้ว
หลินมู่อวี่นำกองทัพม้าวิ่งฝ่าหิมะพุ่งตรงเข้าหมู่บ้านทันที เมื่อเข้าไปในหมู่บ้านแล้วภาพที่เห็นชวนตกตะลึงยิ่งนัก ศพของทหารอาสาสมัครป้องกันหมู่บ้านตายเกลื่อนกลาดไปทั่ว ในมือมีเพียงฉมวกกับอาวุธคุณภาพต่ำเช่นนี้จะไปสู้กับพวกทหารรับจ้างได้อย่างไร?
ทันใดนั้นก็มีเสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังมาจากอีกฝั่ง
หลินมู่อวี่ไม่รีรอชักกระบี่เหลียวหยวนแล้วตรงไปยังจุดหมายทันที เขาควบคุมแก่นเพลิงมังกรด้วยปราณยุทธ์แล้วโจมตีใส่ทหารรับจ้างสามคนในทันใด เลือดสาดกระเซ็นทั่วพื้น หลินมู่อวี่บุกสังหารเปิดทางเข้าหมู่บ้านขณะกองทัพที่เหลือตามหลังมา
“ใครก็ได้จัดการไอ้สารเลวจากสำนักอัศวินนั่นที พลธนูยิงมันให้ตาย!” ทหารรับจ้างจะโกนลั่น
หลินมู่อวี่เมื่อเห็นว่ามีกองกำลังมาสมทบจึงบุกทะลวงเข้าไปต่อ เขายกมือขึ้นใช้วิญญาณยุทธ์น้ำเต้าของตน เรียกกระดองเต่าทมิฬและปราการเกล็ดมังกรออกมาเพื่อปกป้องกองทัพม้าที่กำลังบุก จากตรงนี้หลินมู่อวี่มองเห็นทหารรับจ้างคนหนึ่งถือดาบยาวและมีเหรียญตราสีทองยืนอยู่ใต้ธงแดง แม่ทัพที่สามเนียหยา!
“ไอ้เศษสวะ!!”
เนียหยาที่เห็นหลินมู่อวี่ฆ่าคนของตนอย่างไร้เหตุผล จึงเข้าปะทะทันที ดาบยาวเคลือบปราณยุทธ์ของเขาส่งเสียงหวีดหวิวพุ่งโจมตีจากบนฟ้า
หลินมู่อวี่ที่ไม่คิดจะปราณีเรียกสายฟ้าออกมาห่อหุ้มกระบี่เหลียวหยวนของตนขณะมันพุ่งทะยานไป “เคร้ง!” อาวุธของทั้งคู่ปะทะกัน! หลินมู่อวี่รวบรวมปราณยุทธ์ใช้พลังฌานเจ็ดประทีปและระเบิดมันออก!
‘หนึ่งประทีปพิฆาตชีวัน!’
เนียหยาตกตะลึง “ปราณยุทธ์…ข…ขอบเขตนภา?!”
ดาบของเนียหยาแตกเป็นเสี่ยงๆ เขาจึงรีบรวมพลังและตะโกนออกมา “มังกรสลายพิภพ!”
เกิดเสียงมังกรคำรามขึ้น! หัตถ์พิฆาตมังกรนี้ช่างรุนแรงสมคำร่ำลือ
ทว่าความต่างของพลังนั้นมากเกินไป ทักษะหัตถ์พิฆาตมังกรระดับสามจะเทียบกับหนึ่งประทีปพิฆาตชีวันได้อย่างไร? “เปรี้ยง!” หัตถ์พิฆาตมังกรถูกพลังฌานเจ็ดประทีปกลืนกินจนหมดสิ้น มือของเนียหยาแหลกละเอียด ม้าศึกรอบๆ ถูกซัดปลิวไปตามแรงกระแทก
ไม่รอให้อีกฝ่ายขยับตัว หลินมู่อวี่เรียกสายฟ้าออกมาอีกครั้ง พายุอัสนีพิโรธ!
“ตู้ม!”
เลือดกระเซ็นไปทั่ว กระบี่เหลียวหยวนเสียบหน้าอกเนียหยาทะลุปักบนกำแพง
“เฮือก…”
เนียหยากระอักเลือด แววตาพร่าแทบมองไม่เห็น ไม่อยากเชื่อว่าตนจะจบชีวิตอย่างง่ายดายเพียงนี้ด้วยน้ำมือของเด็กไม่รู้หัวนอนปลายเท้า
“ตาย!”
หลินมู่อวี่เรียกกระบี่เหลียวหยวนกลับมาแล้วฟันฉับเข้าที่คอของเนียหยา ก่อนจะจับศีรษะที่หลุดจากบ่าชูขึ้นฟ้า เขารวบรวมปราณยุทธ์และตะโกนลั่น “เนียหยาตายแล้ว! พวกเจ้ายังคิดจะต่อสู้อยู่อีกหรือไม่? หากไม่อยากจบชีวิตเช่นนี้จงวางอาวุธและยอมจำนนเสีย!”
ทหารรับจ้างตะลึงงันพากันทิ้งอาวุธในมือ ศัตรูระดับขอบเขตนภาช่างแข็งแกร่งราวกับฝันร้าย
ขณะเดียวกันฝั่งหลีเฉียนซุน หลัวอวี่และทหารคนอื่นๆ ก็จัดการข้าศึกส่วนของตนเรียบร้อยแล้ว ไม่ปล่อยให้รอนานหลีเฉียนซุนก็ออกคำสั่ง “ฆ่ามัน! ฆ่าพวกมันให้หมด!”
ป่าเถื่อน!
หลินมู่อวี่ถือหัวของเนียหยา เฝ้าดูการสังหารหมู่ดำเนินต่อไป จากกองทัพทหารรับจ้างเทียนจิงกว่าพันคนบัดนี้ได้ถูกสังหารลงจนสิ้น เหลือเพียงสามในสิบเท่านั้นที่หนีจากเมืองทะเลครามไปได้
ไอ้เวร!