The Alchemist God ทะลุมิติเทพศาสตรา - EP.215 หลอมมีดเสียงปีศาจใหม่
เมื่อกลับมาถึงรังอินทรีในยามบ่าย หลินมู่อวี่ก็รีบตรงไปหลอมอาวุธทันที
ด้วยเศษนิลพิศวงอายุหนึ่งหมื่นปีที่ซื้อจากร้านค้าแห่งจักรวรรดิและศิลามังกรนภาอายุหนึ่งหมื่นปี หลินมู่อวี่เชื่อว่าอาวุธที่สร้างไม่ด้อยไปกว่าของอวี่จื้อหยานแน่
ขณะเดียวกันก็รู้สึกคันเล็กน้อยที่หัวไหล่เนื่องจากบาดแผลเริ่มแห้ง ผลของยาสมานแผลขั้นหนึ่งค่อนข้างน่าตกใจ
‘วิ้ง!’
หลินมู่อวี่เรียกติ่งหลอมยักษ์และเริ่มหลอมนิลพิศวงอายุหนึ่งหมื่นปี อาจเป็นเพราะพลังที่แข็งแกร่งขึ้น หรือเพราะปราณยุทธ์ที่บริสุทธิ์มากขึ้น ทำให้ภายในครึ่งชั่วโมงก็หลอมนิลพิศวงหนักสามสิบชั่งจนเสร็จ แสงดาวสาดส่องลงบนเหล็กนิลขณะที่ไฟหลอมชั้นที่หกเพลิงสวรรค์อันทรงพลังหลอมเหล็กอย่างรวดเร็วจนนิลพิศวงเหลือเพียงยี่สิบชั่ง ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่หลินมู่อวี่ต้องการ แม้ว่าพลังยุทธ์ของฉินอินจะไม่ธรรมดา ทว่านางก็ยังเป็นเพียงเด็กสาวซึ่งมิได้ต้องการกระบี่ที่หนักมาก อย่างน้อยก็ไม่หนักเท่ากระบี่วิญญาณมังกรของเขา
จากนั้นจึงหยิบศิลาวิญญาณมังกรนภาออกมาหย่อนลงในติ่งหลอม หลังจากผ่านไปสองชั่วโมงมังกรนภาก็ทะยานออกจากศิลาพร้อมคำรามเสียงกึกก้อง ก่อนจะพุ่งเข้ามาหาหลินมู่อวี่ทันที!
‘เปรี้ยง!’
กำแพงเปลวไฟของติ่งหลอมยักษ์พลันปิดกั้นการโจมตีของมังกรนภาอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันหลินมู่อวี่ก็ชักกระบี่วิญญาณมังกร ทันใดนั้น! ก็ตวัดกระบี่พร้อมเสียงคำรามและปลดปล่อยพลังมหาศาล ประกายดาบทำให้จิตวิญญาณมังกรนภาแตกสลายทันที! ก่อนจะค่อยๆ ไหลรวมกับน้ำเหล็กสีเข้มซึ่งเป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการ
“ลู่ลู่”
หลินมู่อวี่เรียกภูติระบบออกมา “ข้ากำลังทำกระบี่ให้เสี่ยวอิน ช่วยเลือกแม่พิมพ์ที่เหมาะสมกับผู้หญิงและมีความสง่างามที”
ลู่ลู่เผยยิ้มอ่อนโยน “เจ้าค่ะ โชคดีที่ฐานข้อมูลอาวุธมาพร้อมกับข้า และมีแม่พิมพ์ดาบอยู่หลายรูปแบบ ลู่ลู่จะคัดเลือกสักสองถึงสามแบบให้พี่ชายเลือกนะเจ้าคะ”
“อืม ได้สิ”
ไม่นานก็มีหน้าต่างโปร่งแสงปรากฎขึ้นต่อหน้าหลินมู่อวี่ ลู่ลู่เลือกแม่พิมพ์ดาบที่ดูสง่างามมาให้หลายชิ้น จากนั้นหลินมู่อวี่ก็เลือกแม่พิมพ์หนึ่งในนั้น ใบดาบมีความกว้างปกติทว่าค่อนข้างบาง และมีดอกไม้แกะสลักอยู่บนใบดาบซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นดอกจื่อยินประจำจักรวรรดิได้
จากนั้นหลินมู่อวี่ก็หยิบกระดาษที่ฉินอินเขียนขึ้นมา “ลู่ลู่ เจ้าสามารถคัดลอกตัวหนังสือนี้และสลักมันลงบนด้ามได้หรือไม่?”
“เรื่องเล็กเจ้าค่ะ!”
ลูกบอลแสงของลู่ลู่พลันบินรอบกระดาษ ไม่นานแม่พิมพ์กระบี่ก็ปรากฏคำว่า ‘ฉินอิน’ บนด้าม
กระบี่ขึ้นรูปอย่างเชื่องช้า หลินมู่อวี่พลันหลับตาและปล่อยฌานสัมผัสลงไปที่ใบดาบและเริ่มขัดเกลาให้คมขึ้น ใบดาบสร้างขึ้นด้วยทักษะการตีดาบสมัยใหม่ ทว่าก็ทำงานร่วมกับทักษะการตีเหล็กโบราณ ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาวุธของหลินมู่อวี่มีความคมและแข็งแกร่งมาก
กระบี่วิญญาณมังกรสร้างขึ้นจากแม่พิมพ์สิบแบบรวมกัน ทว่าเนื่องจากคุณภาพของเหล็กและความบริสุทธิ์ของจิตวิญญาณไม่สูงพอ หลินมู่อวี่จึงไม่สามารถหลอมเพิ่มได้มากกว่าแปดแบบ กระนั้นก็ถือว่าไม่เลว อย่างน้อยกระบี่วิญญาณมังกรก็มีระดับที่สูงกว่ากระบี่เหลียวหยวน
หลังจากใช้เวลาทั้งช่วงบ่ายไปกับการหลอม ในที่สุดก็สำเร็จก่อนถึงเวลาอาหารค่ำ
‘ฟู่!’
ไอน้ำพวยพุ่งทันทีที่จุ่มใบดาบลงในอ่างน้ำ จากนั้นหลินมู่อวี่ก็เอื้อมไปหยิบกระบี่ขึ้นและพูดพลางหัวเราะแผ่วเบา “กระบี่เล่มนี้ไม่มีชื่อ…ในเมื่อมีชื่อของเสี่ยวอินบนด้าม ก็จะเรียกว่ากระบี่จื่อยินแล้วกัน”
ลู่ลู่พูดทั้งรอยยิ้ม “เป็นชื่อที่ดีเจ้าค่ะ!”
หลินมู่อวี่ปลดปล่อยพลังและปราณยุทธ์เข้าสู่กระบี่จื่อยิน ทันใดนั้นแสงสีทองของมังกรนภาก็ปรากฏขึ้นรอบใบดาบซึ่งหมายถึงกระบี่เล่มนี้อยู่ระดับปราชญ์!
“ยินดีด้วยพี่ชาย นี่คือกระบี่ระดับปราชญ์ขั้นเจ็ด!” ลู่ลู่พูดด้วยรอยยิ้ม
หลินมู่อวี่พยักหน้ารับทั้งรอยยิ้ม จากนั้นก็พบฝักดาบสำรองที่พอดีกับกระบี่ ‘ชิ้ง’ เกิดเสียงดังกังวานชั่วขณะ นี่เป็นกระบี่ที่ดีจริงๆ ไม่ด้อยไปกว่ากระบี่ไร้วิญญาณของฉินจิ้นเลย
…
ต่อไปก็ถึงเวลาสำคัญ! หลินมู่อวี่ต้องการหลอมมีดเสียงปีศาจใหม่!
มีดเสียงปีศาจเล่มเล็กถูกชักออกจากเอว ก่อนที่หลินมู่อวี่จะผายฝ่ามือและปลดปล่อยปราณยุทธ์ควบคุมมีดเสียงปีศาจ ‘ชิ้ง!’ ทันใดนั้นก็กลายเป็นกริชสี่เล่มซึ่งเป็นรูปแบบที่แท้จริงและอันตรายที่สุดของมีดเสียงปีศาจ เนื่องจากมีพลังทะลุทะลวงมหาศาล ทว่าหากต้องเผชิญหน้ากับจอมยุทธ์ทรงพลัง มีดเสียงปีศาจก็แทบไม่มีประโยชน์เลย
หลินมู่อวี่สูดหายใจก่อนจะขว้างมีดเสียงปีศาจลงไปในติ่งหลอม “กระบี่ดวงดาราชื่อก้องของเฟิงจี้สิงจะกลายเป็นสิ่งใดเมื่ออยู่ในมือข้า?”
ขณะเดียวกันเสียงของเว่ยโฉวก็ดังมาจากด้านนอก “ท่านแม่ทัพ ได้เวลามื้อค่ำแล้วขอรับ จะออกมารับประทานหรือไม่?”
“ไม่ วางอาหารของข้าไว้ด้านนอกซะ”
“ขอรับ”
…
จากนั้นหลินมู่อวี่หลับตาลงพร้อมปลดปล่อยฌานสัมผัส เขาไม่ได้เร่งรีบในการหลอมมีดเสียงปีศาจ ก่อนจะส่งฌานสัมผัสลงไปเพื่อวิเคราะห์มีดเสียงปีศาจทีละชั้น ในที่สุดก็พบว่าโครงสร้างภายในนั้นลึกลับมากโดยวางเรียงเป็นชั้นๆ และมีความคล้ายคลึงกับโครงสร้างระดับโมเลกุลของเพชร ซึ่งไม่แปลกใจที่จะมีความแข็งถึงเพียงนี้!
“ลู่ลู่ บันทึกโครงสร้างดั้งเดิมของมีดเสียงปีศาจไว้ แล้วเราจะหลอมมันโดยอาศัยโครงสร้างเดิม”
“ได้เลยพี่ชาย”
หลินมู่อวี่แอบยิ้ม การโอนย้ายข้อมูลด้วยลู่ลู่ก็เหมือนกับการมีซูเปอร์คอมพิวเตอร์ติดตัว ซึ่งทำให้เดินทางได้สะดวกและมีประโยชน์มาก
เปลวเพลิงสวรรค์ล้อมรอบมีดเสียงปีศาจอย่างเชื่องช้าพร้อมหลอมทีละชั้น มันไม่ได้หลอมละลายอย่างสมบูรณ์ ช่างตีเหล็กผู้สร้างมีดคงไม่ได้มีทักษะการหลอมเช่นนี้ เนื่องจากเหล็กมีความบริสุทธิ์ต่ำมาก หลินมู่อวี่พบว่าเหล็กของมีดเสียงปีศาจค่อนข้างลึกลับ ซึ่งต่างจากนิลพิศวง เหล็กเยือกแข็ง เหล็กชั้นยอด หรือเหล็กอื่นๆ เหล็กของมีดมีความคล้ายกับกระบี่วิญญาณมังกร ซึ่งเป็นเหล็กที่ไม่เคยถูกจารึกในแผ่นดินนี้ และแทบไม่ต้องสงสัยถึงความแน่นหนาและความแข็งแกร่งของมันเลย!
หลังจากผ่านไปสามชั่วโมงก็หลอมเอาสิ่งที่ปนเปื้อนในมีดเสียงปีศาจออกจนหมด ใบมีดมีขนาดเล็กลง และมีแสงเรืองรองอยู่บนใบมีด ขณะเดียวกันก็มีความคมและบริสุทธิ์มากขึ้น จากนั้นช่วงเวลาที่ยากที่สุดก็มาถึง…การหลอมศิลาวิญญาณอสูรเทวาอายุหนึ่งหมื่นสามพันสี่ร้อยปี!
หลินมู่อวี่สูดลมหายใจลึกและตั้งสมาธิ หากโยนศิลาวิญญาณอสูรเทวาที่ยากต่อการต่อกรลงไปในติ่งหลอม แทบไม่ต้องคิดเลยว่าวิญญาณสัตว์ร้ายจะมีปฏิกิริยารุนแรงเพียงใด แม้ว่าหลินมู่อวี่จะเตรียมตัวรับมือแล้ว ทว่า…เขาได้ฟันไปที่หัวอสูรเทวาถึงสามครั้ง ดังนั้นอสูรร้ายจะต้องพยาบาทเขาเป็นอย่างมาก! การต่อกรกับวิญญาณสัตว์ร้ายเป็นเรื่องยาก แต่หากทำไม่ได้…แผนการหลอมมีดเสียงปีศาจก็เป็นอันล้มเหลว
…
‘โฮก โฮก…’
เสียงคำรามแผ่วเบาของอสูรเทวาดังออกมาจากศิลาทำให้หัวใจหลินมู่อวี่สงบลง เพลิงสวรรค์ในติ่งหลอมพลันลุกโชนล้อมรอบศิลาวิญญาณ ก่อนจะเริ่มหลอมอย่างเชื่องช้า
ศิลาวิญญาณอสูรเทวาค่อนข้างจัดการได้ยาก โชคดีที่ปราณยุทธ์ของหลินมู่อวี่บริสุทธิ์มากจากการฝึกตำราหลอมกระดูกมังกร ซึ่งทำให้หลินมู่อวี่มีระดับสูงกว่าจอมยุทธ์ระดับเดียวกัน กระนั้นก็ต้องใช้เวลาถึงห้าชั่วโมงก่อนจะหลอมสำเร็จในเวลาพลบค่ำ ‘ฟู่’ เปลวไฟรอบศิลาวิญญาณค่อยๆ ดับลง เผยให้เห็นพลังวิญญาณสีทองภายใน
“มันกำลังออกมา…”
หัวใจหลินมู่อวี่เต้นรัว ตามดังคาด! ภายในแสงสีทองมีวิญญาณสัตว์ร้ายไร้ลักษณ์พุ่งออกมา ในที่สุดอสูรเทวาก็ตอบโต้โดยการทำลายกำแพงเปลวไฟของติ่งหลอม หลินมู่อวี่ได้เตรียมรับมือไว้แล้ว ทันใดนั้น! ก็ขว้างกระบี่วิญญาณมังกรตรงไปที่ท้องอสูรเทวา!
‘เปรี้ยง!’
พลังงานปะทะกันอย่างรุนแรง ขณะที่กระบี่วิญญาณมังกรแทงทะลุท้องสัตว์ร้ายและติดอยู่ในนั้น ราวกับว่าไม่สามารถปราบสัตว์ร้ายตนนี้ได้อย่างง่ายดาย
หลินมู่อวี่ถอยหลังไปหลายก้าวขณะที่มือทั้งสองสั่นเทิ้ม เขารวบรวมพลังพิศวงอย่างไม่มีสิ้นสุดล้อมรอบฝ่ามือ ทันใดนั้น! ก็ปล่อยหมัดคู่ออกไปพร้อมเสียงคำรามลั่น “สี่ประทีปเทพมารโศกา!”
‘ตูม!’
พลังเจ็ดประทีปอันทรงพลังปะทะหัวอสูรเทวาจนแหว่งครึ่ง! ทว่ามันยังไม่ยอมถอยหนีพร้อมตะปบกรงเล็บแหลมลงบนไหล่หลินมู่อวี่ทันที! ก่อนจะคำรามก้องและอ้าปากกว้างหวังกลืนกินศีรษะหลินมู่อวี่!
“มันจบแล้ว…ข้ากำลังจะตายหรือนี่?!”
หลินมู่อวี่หวาดกลัวราวกับหัวใจจะหยุดเต้น ขณะเดียวกันก็รู้สึกเวลาหยุดนิ่ง ทว่าตามเส้นเลือดของหลินมู่อวี่กลับแสบร้อนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พลังงานลุกไหม้ออกจากเส้นเลือดพร้อมเสียงมังกรคำราม ทันใดนั้น! กรงเล็บมังกรสีทองปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงก็ปรากฏขึ้นล้อมรอบตัวหลินมู่อวี่! หัวมังกรทองสีแดงสดพลันอ้าปากคำรามดังกึกก้องเยี่ยงราชันและพุ่งไปที่อสูรเทวาอย่างรวดเร็ว!
‘โฮก โฮก…’
เสียงคำรามมังกรราวกับเขตแดนไร้ลักษณ์ซึ่งทำให้อสูรเทวาไม่สามารถกัดผ่านได้ เมื่อสัตว์ร้ายเห็นภาพมายาของมังกรก็เผยความหวาดกลัวออกมาทันใด! ‘ฮ..โฮก…’ สัตว์ร้ายส่งเสียงออกมาอย่างน่าสมเพชและถอยกลับเข้าไปในติ่งหลอม มันคุกเข่าทั้งสองพร้อมก้มหัวอย่างยอมจำนน
หลินมู่อวี่พึงพอใจมาก แม้แต่สัตว์ร้ายระดับศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นเพียงสัตว์ตัวจ้อยเมื่ออยู่ต่อหน้าราชามังกรที่แท้จริง นี่คงเป็นกฏของโลกสินะ? ผู้แข็งแกร่งย่อมได้รับการเคารพ ส่วนผู้อ่อนแอก็ต้องยอมจำนน!
ขณะที่รู้สึกภาคภูมิใจอยู่นั้น ก็ไม่ลืมที่จะแสร้งพูดข่ม “เจ้าสัตว์ร้าย ไม่รู้เสียแล้วว่าราชาองค์นี้ทรงพลังมากเพียงใดหากไม่สำแดงฤทธิ์เดชให้เห็น!”
ลู่ลู่หัวเราะคิกคัก “พี่ชายพอได้แล้ว ได้เวลาหลอมต่อแล้วเจ้าค่ะ!”
……………………