The Black Technology Chat Group of the Ten Thousand Realms - ตอนที่ 211
บทที่211
ผู้แปล : N.
จางเกียงพยายามควบคุมทิศทางรถเพื่อไม่ให้ชนกับอะไรอีก โดยที่เขาได้ขี่มันไปยังตัวเมือง ลูชินที่ตามมาด้านหลังได้นำโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนที่เขาจะโทรไปหาเบอร์หนึ่งอย่างเร่งรีบว่า“คุณชอง พอดีผมมีปัญหานิดหน่อยนะ!”
ในเวลานี้ชองบินยังคงหลับอยู่และเมือเขาได้ยินปัญหาของลูชินก็ได้ตื่นขึ้นมาทันที ก่อนที่จะถามอย่างรวดเร็วว่า: “คุณพูดอะไรนะ? กลุ่มกวางจางเปลี่ยนใจหรือไง? ”
“ไม่ใช้เรื่องนั้น พอดีผมมีอุบัติเหตุทางจราจรนิดหน่อย ดังนั้นผมจึงต้องการความช่วยเหลือของคุณ” ลูชินได้อธิบายว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างไม่ว่าจะเป็นร้านของฟานฟานที่ถูกทำลายหรืออุบัติเหตุบนท้องถนนตอนนี้ เขาคิดว่าเหตุการณ์นี้จะต้องมีตำรวจมาเกี่ยวข้องอย่าแน่นอน
“อุบัติเหตุทางจราจร? แล้วมีใครได้รับบาดเจ็บบ้างไหม?” ชองบินได้ถาม
“ ไม่มี แต่ฉันคงต้องเสียค่าเสียหายให้พวกเขา” ลูชินตอบกลับมา
“ นั่นถือว่าเป็นเรื่องที่ดี” ชองบินถอนหายใจด้วยความโล่งอกออกมา ถ้าไม่มีอุบัติเหตุที่ถึงขั้นเสียชีวิตเรื่องอื่นก็แก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น เขาพูดว่า: “คุณช่วยบอกด้วยว่าตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน?”
ลูชินได้บอกที่ที่เขาอยู่ตอนนี้ไป ชองบินที่ได้ยินแบบนั้นก็ลุกขึ้นพร้อมที่จะไปแก้ไขสถานการณ์นี้ให้กับลูชินแล้ว
ในทางกลับกันจางเกวียงก็ยังคงบังคับให้รถมอเตอร์ไซค์ไปตามถนนต่อไป สถานการณ์ของการอัพเกรดนั้นมีความเสถียรมากขึ้น แต่การวิวัฒนาการของ “กลไกชีวิต” ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
ลูชินยังคงไล่ตามต่อไปก่อนที่เขาจะเห็นเงาของรถมอเตอร์ไซค์ของเขา โชคดีที่ตอนนี้ยังเป็นช่วงเช้ามืดจึงมีคนบนท้องถนนไม่มากนัก
ตัวเครื่องยนต์ยังมีความผันผวนของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากระจายออกมาบ้างแต่ก็ไม่ได้สงผลกระทบอะไรมากนัก ก่อนที่จางเกวียงจะบังคับให้มันไปจอดยังหน้าร้านค้าแห่งหนึ่ง นั่นคือร้านขายวิดีโอเทปของแท้รวมถึงขายพวกหูฟังและอุปกรณ์อื่นๆอีกด้วย
เมื่อใกล้จะถึงจุดหมายที่นั้น รถมอเตอร์ไซค์กับเร่งความเร็วขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ ก่อนที่มันจะชนเข้าไปยังปะตูของร้านอย่างจัง
โชคดีที่รถมอเตอร์ไซค์ได้หยุดในที่สุด ลูชินรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อยอย่างน้อยมันก็จะไม่ไปทำให้คนอื่นเดือดร้อนอีกแล้ว
ลูชินเข้ามาในร้านจางเกวียงก็พูดว่า: “นายท่าน! ตอนนี้สถานการณ์ของมันคงที่แล้วครับ”
“นั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ฉันคิดว่าเราคงต้องไปเสียค่าเสียหายกันก่อน” ลูชินพูดพร้อมกับมองดูสภาพปะตูของร้านตรงหน้า
ก่อนที่เขาจะหันมาสนใจกับสภาพรถตรงหน้าของเขา ตอนนี้มันได้มีลักษณะเหมือนกับหุ่นยนต์รานฟอร์เมอร์ที่เขาเคยเห็นในหนังแล้ว!
เขาคิดว่ามันคงจะสูงกว่าสองเมตรพร้อมกับมีล้อสองล้อตั้งอยู่บนพื้นทำหน้าที่แทนขาและหัวที่ทำมาจากเหล็ก!
สำหรับลักษณะอื่นๆนั้นมันเหมือนกับหุ่นยนต์รานฟอร์เมอร์ตัวเล็กๆจากภาคสอง และนั้นทำให้มันน่าสนใจมากขึ้น
อย่างไรก็ตามชีวิตเชิงกลนั้นแตกต่างจากชีวิตอินทรีย์ เพราะรูปแบบทางกายภาพของชีวิตอินทรีย์มีจำกัด แต่ชีวิตเชิงกลสามารถสร้างขึ้นใหม่ได้อยากไม่มีที่สิ้นสุด มันยังสามารถปรับปรุงโครงสร้างร่างกายของตัวเองตามสถานการณ์เฉพาะได้อีกด้วย และตราบใดที่แกนหลักของมันไม่ถูกทำลายมันก็ยังคงมีชีวิตตลอดไป
ระหว่างที่ลูชินกำลังจมอยู่กับความคิดนั้น รถมอเตอร์ไซค์ตรงหน้าของเขาก็พูดขึ้นว่า “พวกนายคือใคร? แล้วทำไมฉันถึงปวดหัวแบบนี้” มันรู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่บนหัวของมัน
มันได้หาสาเหตุเจออย่างรวดเร็ว มันจึงพูดด้วยมันประหลาดใจ: “สิ่งที่อยู่บนหัวของฉันนั้นคืออะไร มันเป็นฝีใช้ไหม? ทำไมมันถึงขึ้นมาบนตัวฉันได้?… “
มันก้มหน้าลงและพูดด้วยน้ำเสียงที่ทนไม่ได้ว่า: “ใครมันช่างกล้าทำให้หน้าตาหล่อๆของฉันต้องเป็นแบบนี้? แล้วทำไมรูปร่างของฉันถึงผอมแบบนี้! “
ลูชินที่เห็นแบบนั้นก็ถามด้วยความสงสัยว่า:” นายหายจากการเป็นคนปัญญาอ่อนแล้วเหรอ? “
” นายสิที่ปัญญาอ่อน ครอบครัวของนายที่ปัญญาอ่อน! “รถมอเตอร์ไซค์พูดต่อว่า” ฉันถือว่าเป็นคนฉลาดที่สุดแล้ว ใครมันจะไปเป็นคนปัญญาอ่อนได้”
จางเกวียงที่ได้ฟังแบบนั้นก็พูดออกมาอย่างไม่พอใจว่า:” แกควรเคารพผู้สร้างของแก! “
“นายพูดว่าอะไรนะ? คนนี้คือผู้สร้างฉัน? “มันได้มองไปทางลูชินอย่างดูหมิ่นและพูดดูถูกเขาว่า “นายพูดจริงอะ! เขานี้นะเป็นคนสร้างฉันขึ้นมา?”
“เฮ้อ! ราศีพิจิก! ทำไมฉันถึงโชคร้ายแบบนี้นะ! ทำไมผู้สร้างของฉันถึงไม่รวย ทำไมเขาถึงไม่ใช้โลหะที่ดีๆมาสร้างฉันขึ้นมา เฮ้อ..เซ็งจริงๆ! ”
ลูชินที่ได้ฟังแบบนี้ก็แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา เขาไม่สามารถเชื่อมโยงนิสัยแบบนี้เข้ากับใครที่อยู่ในกลุ่มออโต้บอทได้เลย หรือว่ามันอาจจะเป็นพวกดิเซปติคอนกัน?
จางเกวียงที่ได้ฟังแบบนั้นก็นำกำปั้นเหล็กของเขาไปแขกหัวของมันอย่างรวดเร็ว: “นายควรใช้คำพูดที่สุภาพกว่านี้ ไม่อย่างนั้นครั้งต่อไปมันจะไม่ใช้แค่กำปั้นของฉันอย่างแน่นอนที่จะลงที่หัวของนาย”
” โอ้ย!ฉันเข้าใจแล้ว งั้นชื่อของฉันคืออะไรละ?”มันได้ถามกลับมา
“เอาล่ะ ฉันคิดว่าเรามาเข้าเรื่องกันดีไหม?” ลูชินไม่คาดหวังว่าหลังจากที่รถมอเตอร์ไซค์ของเขาอัพเกรดอีกครั้งมันจะมีนิสัยพูดมากอย่างนี้ แล้วใครมันจะมาตั้งชื่อให้รถของตัวเองกัน?
“ฉันเห็นท่าทางของผู้สร้างแล้วก็รู้ว่ายังไม่ได้ตั้งชื่อฉันอย่างแน่นอน งั้นฉันขอคิดชื่อของฉันเองก็แล้วกัน” มันได้นำมือสัมผัสหัวของตัวเองและพูดว่า: “ถึงแม้ว่าฉันจะถือว่าเป็นรุ่นไม่ได้มาตรฐานเท่าไหร่ แต่ก็ยังถือว่าใช้ได้ งั้นผู้สร้างเรียกชื่อของฉันว่า ไฟท์ติ้ง! “
“เฮ้!” ลูชินเกือบพ่นเลือดออกมา เขาคิดไม่ออกจริงๆว่าถ้าเขาต้องเรียกชื่อนี้ต่อหน้าคนอื่น พวกนั้นจะมองเขายังไง?
“ ไม่! นายหาชื่ออื่น” ลูชินพูดออกมา
“อะไรนะ! ทำไมถึงไม่สามารถใช้ชื่อไฟท์ติ้งได้ละ ชื่อนี้ดูมีพลังจะตายไป!” มันพูดออกแบบไม่พอใจ
จางเกวียงที่อยู่ถัดจากมันได้ยกฝ่ามือของเขาขึ้นอีกครั้ง มันที่เห็นแบบนั้นก็กระซิบออกมาว่า: “คนชั่วนั้นต้องการข่มขู่ฉันอีกแล้ว ฉันเป็นถึงออโต้บอทเลยนะ! “
ทางจางเกวียงนั้นไม่ได้สนใจเลยว่ารถนั้นจะพูดอะไร เพราะสำหรับเขาแล้วรถก็คือรถถึงมันจะมีชีวิตมันก็ยังคือรถอยู่ดี
มันได้คิดอีกครั้งและพูดว่า: “เนื่องจากผู้สร้างไม่ชอบชื่อแรกที่ฉันเสนอ งั้นฉันคิดว่าจะใช้ชื่อว่า เซียวไบ ดีไหม!”
“ใช้ได้ มันดีกว่าชื่อไฟท์ติ้ง!” ลูชินพูดต่อว่า “ดี ต่อไปฉันจะเรียกนายว่าเซียวไบ”
เซียวไบที่ได้ยินแบบนั้นก็เผลอทำน้ำมันเบนซินทะลักลงพื้นและพูดว่า: “ผู้สร้าง คุณยังมีคนที่เหมือนฉันอีกไหม? ”
” มี เธอชื่อว่าเสี่ยวเหม่ย เป็นเอไออยู่ในรถยนต์ของฉัน “ลูชินตอบกลับมาอย่างภูมิใจ
“เสี่ยวเหม่ย เธอต้องเป็นผู้หญิงที่สวยอย่างแน่นอน ” เซียวไบได้พูดออกมาอย่างสนใจต่อว่า “เธอมีแฟนหรือยัง? เธอชอบคนแบบไหน? เธอมีเพลงที่ชอบไหม!….”