The Black Technology Chat Group of the Ten Thousand Realms - ตอนที่ 213
บทที่213
ผู้แปล ; N.
“นายยังไม่เข้าใจ!” ฟานฟานพูดอย่างรีบเร่ง “เราได้เตรียมตัวกับการแข่งนี้มานาน แต่ตอนนี้นายกับทำมันพังหมด!”
“นี่ … ” ลูชินรู้สึกสับสนเล็กน้อยก่อนที่เขาจะพูดว่า: “เธอหารถคันอื่นไม่ได้เหรอ? ”
“นายจะไปหารถที่สามารถลงแข่งได้จากที่ไหน?” ฟานฟานตอบกับมาด้วยความโกรธ
“เออ…เธอก็ประกอบขึ้นมาใหม่หรือไม่ก็ไปซื้อก็ได้นิ”
“นายคิดก่อนพูดบ้างไหม!” ฟานฟานได้มองไปที่เวลาแล้วพูดว่า: “การแข่งนี้จะเริ่มในช่วงบ่าย แล้วตอนนี้มันก็จะเก้าโมง มันไม่มีเวลาสร้างขึ้นใหม่หรือไปหาซื้อได้แล้ว!”
ในเวลานี้สมาชิกคนอื่นๆก็มากันเกือบครบแล้ว พวกเขาที่ได้เห็นสภาพของร้านรวมรถของพวกเขาก็แสดงความประหลาดใจออกมาก่อนที่จะแสดงความโกรธออกมาอย่างไม่ปิดปัง
จิงกวงเองก็ได้ไปตรวจสอบความเสียหายที่เกิดกับรถของเขาก่อนที่จะพูดขึ้นว่า: “รถของฉันมีปัญหาเล็กน้อย เราอาจจะสามารถใช้มันแข่งช่วงบ่ายนี้ได้”
เขาพูดจบก็เริ่มลงมือซ่อมแซมรถของเขาทันที
“รถของฉัน … มันเละไม่มีชิ้นดี!” ฟานฟานพูดพร้อมกับมองลูชินด้วยท่าทางโกรธ
“ถ้าเธอไม่ว่าอะไร ฉันก็ขอแนะนำให้เธอใช้รถของฉันลงแข่ง” ลูชินได้ชี้ไปที่รถของเขาที่จอดอยู่ด้านนอก
ทางด้านเซียวไบนั้นเมื่อได้ยินพ่อพูดถึงตัวเองก็เตรียมที่จะแสดงตัวขึ้นมา แต่เมื่อมันได้เห็นว่าด้านข้างของมันมีเจ้าหุ่นยนต์บ้าพลังอยู่ก็ต้องเก็บความคิดนั้นไปอย่างไม่ยินยอม
“รถของนาย?” ฟานฟานทำท่าอึดอัดเล็กน้อย เธอได้มองไปยังรถของลูชินก่อนที่จะคิด ‘นั้นมันรถเมื่อสิบปีที่แล้วเลยนะ มันจะไปมีความสามารถมาแข่งกับรถสมัยนี้ได้ไง?’
“รถของฉันได้ผ่านการดัดแปลงมาแล้วนะ” ลูชินพูดต่อว่า “เธอเองก็อย่าถูกรูปลักษณ์ภายนอกของมันหลอกเอาสิ!”
ฟานฟานที่ได้ยินแบบนั้นก็ได้หันกลับไปพิจารณารถของลูชินอย่างจริงจังอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะรู้สึกว่ามันก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างจากรถเดิมๆที่เธอมอบให้ลูชินอยู่เหมือนกัน
เมื่อรถมอเตอร์ไซค์ของลูชินได้กลายเป็นทรานฟอร์เมอร์ ที่ถือว่าเป็นสิ่งมีชีวิตเชิงกลที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงถึงระดับของโลหะ,อะตอมและร่วมถึงโครงสร้างโดยรวมทั้งหมด นั้นจึงให้คนอื่นรู้สึกแปลกๆเมื่อมองไปยังรถของเขา
“รถคันนี้เหรอ?” ฟานฟานแสดงอาการสงสัยออกมาก่อนที่จะถามว่า”นายได้ดัดแปลงมันแล้วจริงอะ?”
“ใช้! นายทำจริงเหรอ?” จิงกวงเองก็สงสัยเหมือนกัน เขาคิดว่าเรื่องที่ลูชินพูดมานั้นเป็นเรื่องโกหก
” ฟานฟาน ฉันคิดว่าเราควรเอารถของฉันกับลูชินมาทดสอบดูก่อนที่จะตัดสินใจเลือกว่าจะเอารถของใครไปลงแข่ง? ”
” เออ…ฉันว่ามันจะดีกว่าที่นายจะไม่เอารถของตัวเองมาแข่งกับรถของฉัน “ลูชินได้พูดออกมาอย่างไม่คิดอะไรมากนัก เพราะรถทั่วไปนั้นไม่สามารถสู้กับรถที่ผ่านการอัพเกรดของเขาได้!
“นายพูดว่าอะไรนะ! ” จิงกวงที่ได้ยินแบบนั้นก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
ฟานฟานก็ขมวดคิ้วเช่นกันที่ได้ยินคำพูดของลูชิน เธอไม่คิดว่าเขาจะมีความมั่นใจแบบนี้!
เธอได้ถอนหายใจออกมา : “เราลืมเรื่องนี้ไปก่อนเถอะ! ฉันจะเอารถของจิงกวงลงแข่งในครั้งนี้!”
“แล้วตอนนี้รถของนายซ่อมไปถึงไหนแล้ว”
จิงกวงได้ส่ายหัวก่อนที่จะพูดว่า: “ไม่ดี ตอนนี้มีอะไหล่บางส่วนที่เสียหายนักเกินไป”
“งั้นเราคงต้องถอนตัวจากการแข่งครั้งนี้แล้ว? ” ฟานฟานได้พูดออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจ เพราะการแข่งครั้งนี้จะเป็นตัวพิสูจน์ว่าความฝันของเธอนั้นก็สามารถประสบความสำเร็จได้ การต้องมาถอนตัวในนาทีสุดท้ายนี้ก็ทำให้เธอและทุกคนที่ร่วมทางมากับเธอต่างก็แสดงสีหน้าเสียใจออกมา
“เฮ้ทุกคน! รถคันนี้มีอะไรแปลกๆอยู่ด้วย!”
ระหว่างที่ทุกคนกำลังตกอยู่ในอารมณ์เสียใจนั้น อยู่ๆก็มีสมาชิกคนหนึ่งของร้านได้อุทานขึ้นมาหลังจากที่เขาได้มาสำรวจรถของลูชินใกล้ๆ เขาพบว่าไม่ว่าจะเป็นตัวถัง เครื่องยนต์หรือระบบต่างๆต่างก็เป็นผลิตภัณฑ์ขั้นสูงทั้งหมด!
“หยุดอยู่ตรงนั้น!” ก่อนที่ชายคนนั้นจะเข้าไปดูให้ใกล้ขึ้น ก็ได้ยินเสียงเตือนจากรถมอเตอร์ไซค์ตรงหน้าของเขา คำเตือนนี่ส่งมายังเขานั้นยังทำให้เขารู้สึกว่ามันไม่พอใจที่เขาจะเข้าไปใกล้มันอีกด้วย!
“ พระเจ้า! รถพูดได้แล้วดูตัวเครื่องยนต์ของมันสิ ฉันไม่เคยเห็นเครื่องยนต์แบบนี้มาก่อนเลย” หลังจากที่เขาพูดจบก็ไม่ใช้แค่เขาเท่านั้นที่มาดูรถคันนี้ แต่เป็นทุกคนต่างเขามาดูรถคันนี้อย่างประหลาดใจ
พวกเขาต้องยอมรับว่าพวกเขาไม่เคยเห็นการออกแบบตัวเครื่องยนต์แบบนี้มาก่อน มันต้องเป็นการออกแบบมาจากมืออาชีพของบริษัทใหญ่อย่างแน่นอน และตัวโครงสร้างเองก็เป็นสิ่งที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนเช่นกัน
ลูชินไม่ต้องการอธิบายอะไรเพิ่มเติม เขาจึงพูดออกมาว่า: “นี่เป็นการออกแบบโดยบริษัทของฉันเอง เรื่องประสิทธิภาพนั้นไม่ต้องพูดถึง มันแรงกว่ารถแข่งทั่วไปอย่างแน่นอน!”
“นี่เป็นเทคโนโลยีของบริษัทนาย?” ทุกคนที่ได้ยินคำอธิบายของลูชินต่างก็แสดงสีหน้าแปลกใจ เพราะพวกเขาคิดมาตลอดว่าลูชินเป็นเพียงลูกคนรวยรุ่นที่สองเท่านั้น ไม่คิดว่าเขาจะมีบริษัทแบบนี้
“ ฉันสามารถลองสัมผัสมันได้ไหม?” มีคนที่ทนความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองไม่ได้ถามขึ้นมา
“หยุดอยู่ตรงนั้น!” เซียงไบได้พูดเตือนขึ้นมาอีกครั้ง
ชายคนนั้นไม่ได้สนใจในคำเตือนนั้นเลย เขาคิดว่ามันเป็นระบบเตือนภัยตามปกติเท่านั้น แต่เมื่อเขาได้ไปสัมผัสถูกตัวถังโดยตรงก็ได้มีเสียงดังขึ้นมาอีกครั้ง แต่ที่แตกต่างคือครั้งนี้เสียงที่พูดออกมานั้นเป็นเสียงไม่พอใจออกมา “เฮ้ย เฮ้ย ฉันได้เตือนนายไปแล้วนะ ทำไมไม่ฟังกันบ้าง!”
ชายคนนั้นรีบหดมือกลับมาอย่างรวดเร็ว เกิดอะไรขึ้นทำไมรถถึงพูดได้? ผีหลอกใช้ไหม!
ลูชินได้ขมวดคิ้วออกมา เขาไม่คิดว่าไอ้เซียงไบมันจะขัดคำสั่งของเขาเร็วแบบนี้! ดูเหมือนว่าเขาต้องหาเวลาไปอบรมมันเป็นพิเศษซะแล้ว!
“มัน … มันกำลังพูดอยู่เหรอ?” ชายคนนั้นตกตะลึงและอุทานออกมา
“มันไม่เห็นแปลกตรงไหน? ก็ฉันเป็นปัญญาประดิษฐ์นี่คือระบบเสียงอัจฉริยะ!” เซียงไบได้อธิบาย
“ระบบเสียงอัจฉริยะ?” ผู้คนต่างสับสนกับคำอธิบายนี้
ฟานฟานพูดอย่างสงสัยว่า: “ฉันเองก็เคยได้ยินเรื่องระบบนี้มาเหมือนกัน แต่ฉันคิดว่ามันจะมีเฉพาะในรถรถยนต์เท่านั้น ไม่คิดว่าจะมีบนรถมอเตอร์ไซค์ด้วย?”
“งั้นก็รู้ไว้ซะ!” เซียงไบยังพูดยอตัวเองอีกว่า “และฉันก็ฉลาดกว่าระบบพวกนั้นเป็นไหนๆ!”
“แล้วคนสวย คุณต้องการขึ้นมาขี่ผมไหม? ”
” ฉัน! ฉันเองก็อยากขึ้นไปขี่นาย? ” ผู้ชายที่อยู่ด้านข้างได้พูดขึ้นมา
“ไม่! นายเป็นผู้ชาย ฉันไม่ยอมให้ผู้ชายมานั่งบนตัวฉันอย่างแน่นอน!” เซียงไบได้ตอบกลับมาทันทีที่มันได้ยินคำพูดของชายคนนั้น
หลังจากที่ชายคนนั้นได้ฟังคำตอบจากเซียงไบ เขาก็รู้สึกอายขึ้นมาอย่างมาก
“ฉันถามได้ไหมว่านายใช่โปรแกรมหรือเปล่า? ทำไมนายถึงได้ตอบเหมือนมนุษย์อย่างพวกฉันมากขนาดนี้?” หงเจิ้นอดถามออกมาไม่ได้
ลูชินที่ได้ฟังแบบนั้นก็ไม่รู้ว่าจะหาคำพูดอะไรมาอธิบายดี แต่กลับเป็นชองบินที่ตอบแทนเขาว่า: “ตอนที่ผมได้สัมผัสกับระบบเรทคลาวด์ครั้งแรกก็รู้สึกทึ่งมาทีหนึ่งแล้ว และนี้!…คุณยังสร้างระบบเสียงอัจฉริยะรุ่นใหม่ขึ้นมาอีก ผมไม่รู้จะหาคำพูดอะไรมาอธิบายความรู้สึกตอนนี้ของผมได้เลย!”
ที่เขาต้องการเป็นตัวแทนของบริษัทลู่เทคโนโลยีเป็นเพราะระบบเรทคลาวด์เป็นส่วนใหญ่ และตอนนี้เขากับมารู้อีกว่าบริษัทของลูชินนั้นมีผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ มันยิ่งตอกย้ำความคิดของเขาว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง
ชองบินยังได้อธิบายแทนลูชินต่อว่า: “อาจกล่าวได้ว่าระบบเสียงอัจฉริยะของบริษัทลู่เทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในโลก!”
” บริษัทลู่เทคโนโลยีใช้บริษัทที่เป็นเจ้าของแบรนด์โทรศัพท์มือถือHX ไหม?” จิงกวงได้ถามขึ้นมาอย่าแปลกใจ จะมีใครอีกบ้างที่ไม่เคยสัมผัสกับเทคโนโลยีชั้นสูงแบบนั้น
“ใช่” ชองบินได้ตอบกลับมา
“มันสุดยอดมาก!” ฟานฟานเองก็เผลอพูดออกมา เธอเองก็ถือว่าเป็นแฟนพันธ์แท้ของแบรนโทรศัพท์นี้เช่นกัน ดังนั้นเธอจึงรู้ว่ามันสุดยอดขนาดไหน
อย่างไรก็ตามมันก็มีข้อเปรียบเทียบอย่างเห็นได้ชัดระหว่างระบบสองตัวนี้ ระบบเรทคาวด์นั้นจะมีคำพูดที่ดูสุภาพอย่างมาก ไม่ว่าใครจะด่าเธอยังไงเธอก็จะตอบกลับมาสุภาพเสมอ แต่ระบบเสียงที่เธอได้ยินตอนนี้มันไม่ได้สุภาพแบบนั้น และมันยังมีคำสบถต่างๆอีกด้วย
“รถคันนี้ดูเหมือนจะแตกต่างกันจริงๆ” ฟานฟานได้ถามต่อว่า “ฉันสามารถขี่นายได้จริงเหรอ?”
“แน่นอน!” เซียงไบยังได้ร้องออกมาอีกสามครั้งว่า ขี่ฉัน! ขี่ฉัน! ขี่ฉัน!